xs
xsm
sm
md
lg

พธม.ยันจิตวิญญาณสู้คงเดิม “สนธิ”ซัดอัยการเร่งคดีตน-พวกป่วนอืด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน- 5 แกนนำ เปิดใจครบรอบ 4 ปี พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย “สนธิ” ยันจิตวิญญาณพันธมิตรฯ เหมือนเดิม แกนนำไม่แตกแยก ยันถวายฎีกาคดีดา ตอร์ปิโด เพื่อขอความเป็นธรรม ซัดอัยการเร่งคดีตน แต่คดี 3 เกลอป่วนเมืองเงียบ ถาม “มาร์ค” คดีลอบยิงไปถึงไหนแล้ว "สมเกียรติ" หวังศาลไม่ทำให้ประชาชนผิดหวัง "จำลอง" บอกถ้าไม่สู้บ้านเมืองจะแย่กว่านี้ "สมศักดิ์" ชี้หน้าที่ต้องตีงูก่อน "พิภพ" คาดล่าชื่อถอด 102 ส.ส.ชำเรารัฐธรรมนูญ ครบ 20,000 ชื่อในสัปดาห์หน้า "ยะใส" เชื่อ พลังเงียบไม่เพิกเฉย หาก "ทักษิณ" กลับมา

วานนี้ (9 ก.พ.) ที่สถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี 5 แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นำโดยนายสนธิ ลิ้มทองกุล พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายพิภพ ธงไชย นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ และนายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ ได้เดินทางมาให้สัมภาษณ์ผ่านรายการสภาท่าพระอาทิตย์ เนื่องในโอกาสครบรอบ 4 ปี ของการก่อตั้งพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

นายสนธิกล่าวว่า จิตวิญญาณของพันธมิตรตลอด 4 ปียังเหมือนเดิม ในส่วนของ 5 แกนนำพันธมิตรฯ ยังคงได้พบกันตลอด ส่วนการจะจัดชุมนุมใหญ่เมื่อไรนั้น ถ้าเป็นพันธมิตรจริงจิตวิญญาณของพันธมิตรจะบอกเอง เพราะตลอด 4 ปีที่ผ่านมา พวกเราหล่อหลอมความอดทนสูง พันธมิตรเป็นแค่นามธรรมไม่มีสมาชิกและใครก็เป็นได้ แต่ต้องมีจิตวิญญาณ แม้กระทั่งคนในกลุ่มเสื้อแดงบางคน ถ้าเห็นด้วยกับการต่อต้านฉ้อราษฎร์บังหลวง พวกล้มสถาบัน ทวงดินแดนอันเป็นสมบัติชาติคืนมา และต้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยอมรับคำพิพากษา ถ้าเห็นด้วยดังนี้ถึงจะใส่เสื้อแดงก็คือพันธมิตรฯ ได้

“สิ่งที่พันธมิตรฯ ลุกขึ้นต่อสู้เป็นอันตรายต่อสังคมเก่าที่มีแต่การหลับตาข้างเดียวปล่อยให้หยวนๆ กันไป เราคือศัตรูที่ร้ายกาจที่สุดในการหยิบยืมอำนาจมาใช้ในมือ ทั้งนี้สิ่งที่เราสู้คือสิ่งที่คนในสมัยโบราณทำมานานแล้ว”

ทั้งนี้ ในส่วนของ 5 แกนนำนั้น เราหล่อหลอมกันเป็นหนึ่งและแตกแยกไม่ได้ แต่อาจมีขัดแย้งกันบ้างเพราะบุคคลิกของแต่ละคนที่ต่างกัน ซึ่งตนยอมรับว่าแรกๆ ที่ก่อตั้งพันธมิตรฯ ก็เริ่มมีความระวังตัวต่อกันและกัน แต่พอผ่าน 193 วัน ทุกคนรู้ว่าแต่ละคนมีจิตใจที่บริสุทธิ์ บางทีก็มีหงุดหงิดกันบ้างแต่ก็เหมือนเพื่อนกัน สุดท้ายพอเอาส่วนรวมเป็นตัวตั้งก็จบ และตนยืนยันว่า จากการต่อสู้ไม่มีใครได้อะไรแม้แต่นิดเดียว มีแต่คำสรรเสริญกับคำด่า และคดีที่ติดตัว

ขณะที่กรณีการถวายฎีกาคดีนำคำปราศรัยของ “ดา ตอร์ปิโด” หรือ น.ส.ดารณี ชาญเชิงศิลปกุล มาปราศรัยบนเวทีพันธมิตรฯ นายสนธิกล่าวว่า การถวายฎีกาดังกล่าวไม่ได้เป็นการขอพระราชทานอภัยโทษ แต่เป็นการขอความเป็นธรรม เนื่องจากตนเป็นผู้พูดบนเวทีพันธมิตรฯ เพื่อชี้ให้เห็นว่า มีผู้กล่าวหมิ่นสถาบัน และให้เจ้าหน้าที่ไปดำเนินคดี แต่กลับถูกโดนดำเนินคดีด้วย และโดยตามธรรมเนียมอัยการจะต้องรอพระราชวินิจฉัยก่อนถึงจะสั่งฟ้อง แต่นี่กลับจะทำทันที แต่กรณีของแกนนำ นปช.กลับไม่ทำ

นายสนธิกล่าวอีกว่า ทั้ง 5 แกนนำทุกคนบาดเจ็บหมด เจ็บมากเจ็บน้อยก็แล้วแต่คน ทั้งๆ ที่มีการลอบสังหารเกิดขึ้นกลางเมืองแต่ตำรวจกลับทำอะไรไม่ได้ ทุกวันนี้เห็นตำรวจนั่งหามือปาขี้นายกฯ แต่กลับไม่ทำคดีลอบสังหารตน ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าตนหายตัวไปนั้น พวกเราไม่ใช่วีรบุรุษ เราคือชาวบ้านธรรมดา เมื่อมีศึกสงครามก็จับดาบสู้ พอสงบศึกก็กลับไปทำหน้าที่ของตัวเอง ตนไม่ได้หายไปไหน แต่จำเป็นต้องไปรักษาขา และไม่ได้หนีลอบสังหาร เพราะยังไงพวกมันก็ต้องทำ ล่าสุดยังโดนแกนนำเสื้อแดงปล่อยข่าวว่า ทางการลาวไม่ให้ตนเข้าประเทศเพราะไปโกงเขา ทั้งๆ ที่ล่าสุดเจ้าหน้าที่ระดับสูงของลาวยังฝากความคิดถึงมาให้ตน รวมทั้งตนก็ไม่เคยหนีคดี ศาลนัดวันไหนก็ไปพบ

“คดีบุกบ้านป๋า คดีจักรภพหมิ่นสถาบันกลับเงียบ แต่มาถึงคดีสนธิกลับเร่งดำเนินคดีไปหมด อัยการข้างทักษิณก็มี จริงๆ พวกเราถูกใช้ 2 มาตรฐานตลอด โดนยิง ตายเป็นสิบ เจ็บเป็น 100 ขนาด ป.ป.ช.ชี้มูลให้มีความผิด ตร.ยังกลับไม่ให้ผิด ขอฝากถามถึงนายกฯ คดียิงสนธิไปถึงไหนแล้ว” นายสนธิกล่าว

นายสมเกียรติ กล่าวว่า ขอคารวะดวงวิญญาณวีรชนที่ร่วมต่อสู้กันมา และขออวยพรให้แกนนำที่ไปอยู่ฝ่ายเสื้อแดงให้โชคดีด้วย ทั้งนี้ 4 ปีที่ผ่านมาของพันธมิตรฯ ถือเป็นพลังที่ก้าวหน้าที่สุด คือ พลังด้านศีลธรรม ต่อสู้กับระบอบที่แข็งแรงที่สุดคือ “ระบอบทักษิณ” ที่มีความเบ็ดเสร็จทั้งเสียงในสภาฯ กองทัพ และองค์กรอิสระ แต่การชุมนุมครั้งแรกของพันธมิตรฯ ก็สามารถทำให้พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องยุบสภาฯ และต้องยอมรับว่า ถือพันธมิตรฯ เป็นพลังส่วนที่ก้าวหน้าที่สุดของสังคมเป็นกระแสที่สั่นสะเทือนไปถึงคนไทยทั่วโลก และยืนยันว่าพันธมิตรยังคงคำเดิม คือรักษาชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

ขณะที่ พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ถ้าพันธมิตรฯไม่ออกมาต่อสู้ ตนเชื่อว่า บ้านเมืองจะแย่กว่านี้ ส่วนเรื่องจิตสำนึกทางการเมืองนั้น เมื่อเขาไม่ทำเราก็ต้องทำ จริงๆแล้ว ถ้าเราไม่ทำเราก็อยู่ได้ แต่เราต้องทำเพราะหลายคนมันไม่ทำ ใครจะคิดยังไงก็ช่างเขา ถ้าเราคิดว่าคนนั้นไม่ทำแล้วเราทำทำไม บ้านเมืองก็จบกัน ขณะที่กรณีดึงพ.ต.ท.ทักษิณ ลงเล่นการเมือง ตอนแรกๆ ตนเห็น พ.ต.ท.ทักษิณ เขาดี แต่หลังๆ เขาเปลี่ยนไป และทันทีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ขายชินคอร์ปให้เทมาเส็ก ตนก็เขียนจดหมายเปิดผนึกถึง พ.ต.ท.ทักษิณเพื่อคัดค้าน ซึ่งตอนที่อยู่พลังธรรมตนเคยบอกว่า นักการเมืองต้องเสียสละ แต่ทักษิณกลับไม่ทำ ทั้งนี้ พล.ต.จำลองยังปฏิเสธว่า ไม่เคยคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ทางโทรศัพท์หลังจากวันนั้น เพราะตนคิดว่าเขาเปลี่ยนไปแล้ว

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เคยต่อสู้ร่วมกับ พล.ต.จำลอง สมัยพฤษภาทมิฬ ปี 2535 และตนเชื่อว่า คนเนรคุณคนจะไม่เจริญ

ทั้งนี้นายสมศักดิ์เปิดเผยด้วยว่า ตนเป็นคนไปชวนพล.ต.จำลอง ระหว่าง พล.ต.จำลองชุมนุมต่อต้านเบียร์ช้างเข้าตลาดหลักทรัพย์ ที่ถ.วิทยุ ส่วนที่ตนเข้าร่วมชุมนุมเพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ดันขายรัฐวิสาหกิจ ทั้งนี้ยอมรับว่า สมัยที่ชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรฯ ตนเห็นคนดีเยอะมากๆ ถ้าตายนี่ถือว่า ขึ้นสวรรค์แล้ว ขณะที่หน้าที่ของพันธมิตรฯ ถ้ามีงูมาเราต้องตีงูก่อน ส่วนกาจะมาจิกงูกินก็เป็นเรื่องของมัน และตนยังเชื่อมั่นว่า กำลังพันธมิตรยังสามารถจัดการกับคนไม่ดีอยู่ แต่ก็อยู่ที่กิจกรรมของพันธมิตรฯที่จะทำกัน แต่คำพูดที่ว่า กลุ่มเสื้อแดงแข็งแรงขึ้นไม่น่าจะจริง เพราะคนกลุ่มนี้ความชอบธรรมไม่มีแล้ว และคนเริ่มถอยห่าง

นายพิภพ กล่าวถึงการคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า พันธมิตรยังมีจุดมุ่งหมายเดิมคือการคัดค้านการขายชาติ แก้ไขกฏหมายเพื่อประโยชน์ตน ตนเชื่อว่า จุดมุ่งหมายเดิมของการแก้รัฐธรรมนูญต้องอยู่บนธรรมะ แต่คนพวกนั้นไม่แก้เพื่อเช่นนั้น เราจึงได้ตัดสินใจประกาศคัดค้านแก้รธน. จากนั้นเราจึงทำตามช่องทางตามกฏหมาย คือยื่นหนังสือเพื่อเสนอตัวจะขอล่าชื่อถอดถอน 102 ส.ส.ที่เข้าร่วมแก้รัฐธรรมนูญ และตนคาดว่าจะเสร็จครบ 20,000 ชื่อ ภายใน 2 สัปดาห์นี้

ด้านนายสุริยะใส กล่าวเสริมว่า ตอนนี้เราเชื่อใจใครไม่ได้นอกจากพลังพันธมิตรฯ ถ้าเราเชื่อมั่นพลังแบบนี้เราไม่ต้องกลัว และตนเชื่อว่า พลังเงียบจะไม่เพิกเฉยต่อการกลับมาของ พ.ต.ท.ทักษิณ
กำลังโหลดความคิดเห็น