xs
xsm
sm
md
lg

“ตั้งตรงจิตร”สยายปีกธุรกิจ“นวด” ทุ่มพันล.ปูพรมไทย-ตปท. ผนึกปั๊มปตท.ผุด“เชตวัน”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – ทายาทตระกูล “ตั้งตรงจิตร”  ต้นตำหรับ “นวดวัดโพธิ์”  เตรียมทุ่มเงิน 1,000 ล้านบาท ผุดศูนย์สุขภาพภายใต้แบรนด์ “เชตวัน” ชูคอนเซ็ปต์” ศูนย์สุขภาพครบวงจร” ยึดทำเลงามย่านหัวเมืองใหญ่ และ แหล่งท่องเที่ยว ประเดิม ดอยสะเก็ต จ.เชียงใหม่ ปีนี้ พร้อมจับมือปั๊ม ปตท. ผุดสาขาย่อย ย่องเงียบดูพื้นที่ คอมมูนิตี้มอลล์  ขณะที่ตลาดต่างประเทศ ดอดเจรจาคู่ค้า เล็งผุดที่แรก อินเดีย ตามติดมาที่จีน  เผยงบโฆษณาปีนี้ 20 ล้านบาท โต 10 เท่าจากปีก่อน
นายเสรัชย์  ตั้งตรงจิตร  กรรมการผู้จัดการ ศูนย์สุขภาพเชตวัน ในเครือโรงเรียนแพทย์แผนโบราณวัดพระเชตุพน(วัดโพธิ์)  เปิดเผยว่า  มีแผนใช้เงินลงทุน 800-1,000 ล้านบาท เพื่อขยายธุรกิจนวดแผนไทย ทั้งตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศ ในระยะเวลา 3 ปีจากนี้  โดยตลาดในประเทศ การขยายสาขาจะแบ่งเป็น 2 รูปแบบ ได้แก่  ศูนย์สุขภาพ แอนด์ รีสอร์ท เพื่อสุขภาพ  โดยปีนี้จะเปิดที่
อ.ดอยสะเก็ต จ.เชียงใหม่  ใช้เงินลงทุนราว 80-100 ล้านบาท   คาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการราวปลายปีหรือต้นปีหน้า  
นอกจากนั้น ยังมองหาพื้นที่ ในจังหวัดอื่นๆ เน้นที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว อาทิ   เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์  จ.ลพบุรี เป็นต้น  โดยแต่ละแห่งจะใช้พื้นที่ไม่ต่ำกว่า 10 ไร่ ศูนย์สุขภาพรูปแบบนี้จะเน้นให้บริการแก่ลูกค้าแบบครบวงจร เช่น นวดไทย สปา นวดเพื่อบำบัดและฟื้นฟู   นวดบำบัดด้วยน้ำ เป็นต้น รวมถึงมีบริการที่พักและอาหารแนวสุขภาพ  สำหรับผู้ที่ต้องการเข้าคอร์สฟื้นฟู ตั้งแต่ 3 วัน ถึง  1 เดือน
***ยึดทำเลหัวเมือง-แหล่งท่องเที่ยว
“เราจะเน้นเปิดสาขาในจังหวัดหัวเมืองใหญ่และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆ เช่น จังหวัดชายทะเล  หรือ  น้ำตก ภูเขา โดยเฉพาะจังหวัดที่มีสนามบิน เพราะขณะนี้ ชาวต่างชาติ นิยมที่จะเดินทางตรงถึงแหล่งท่องเที่ยว มากกว่าที่จะผ่านเข้ามาที่กรุงเทพ เพราะเบื่อรถติดและการเมืองไทย โดยสาขาต่างจังหวัดเราจะเป็นศูนย์สุขภาพครบวงจร ทั้ง ฟื้นฟูและบำบัด  เป็นรีสอร์ทและโรงเรียนสอนด้วย”
นอกจากนั้นยังจับมือกับสถานีบริการน้ำมัน ป.ต.ท.. ในรูปแบบ ไลฟ์ พลาซ่า ประเดิมเปิดสาขาต้นแบบแล้วที่ ปั๊ม ป.ต.ท. ไลฟ์ พลาซ่า ถ.รัตนาธิเบศร์ ภายใต้ชื่อร้าน “ศูนย์สุขภาพเชตวัน” ให้บริการ นวดแผนโบราณ สปา และ ทรีทเม้นท์ เป็นหลัก เจาะกลุ่มลูกค้า ครอบครัวและวัยทำงาน สาขารูปแบบในปั๊มน้ำมัน จะใช้เงินลงทุนสาขาละ  5 ล้านบาท คาดว่าในปีนี้จะเปิดประมาณ  5- 10 แห่ง  ช่วงแรกเน้นพื้นที่ กรุงเทพฯและปริมณฑลเป็นหลัก  และยังมองพื้นที่ในทำเลศักยภาพอื่นๆ เช่น คอมมูนิตี้มอลล์ต่างๆ
***สยายปีกเปิดสาขาต่างประเทศ***
สำหรับตลาดต่างประเทศ มีแนวคิดจะไปลงทุนเปิดโรงเรียนสอนนวดแผนโบราณ และศูนย์สุขภาพ  โดยประเทศที่สนใจขณะนี้ ได้แก่ อินเดีย และ จีน  ซึ่งจะลงทุนในลักษณะร่วมทุนกับนักธุรกิจพื้นที่ ขณะนี้เจรจาอยู่กับนักธุรกิจในประเทศอินเดีย คาดว่าปลายปีนี้หรือต้นปีหน้าจะเปิดแห่งแรก ที่ มุมไบ  และอีกหลายเมืองที่ดูทำเลไว้ เช่น  เดลี บังกาลอ และ สิกขิม เป็นต้น ส่วนที่ประเทศจีน  อยู่ระหว่างเจรจากับคู่ค้าที่จะมาร่วมลงทุน  เมืองที่สนใจคือ ปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้ เป็นต้น โดยที่ผ่านมา เชตวัน จะเน้นเดินสายโรดโชว์ สร้างการรับรู้ในต่างประเทศปีละ 5-6 ครั้ง ลูกค้าที่มาใช้บริการ ได้แก่ ญี่ปุ่น ยุโรป อเมริกา  เยอมัน จีน อินเดีย เป็นต้น
“ จีนและอินเดียเป็นตลาดใหญ่ ประชากรประเทศละกว่า 1,000 คน เราจึงสนใจ แต่ทั้งนี้การหาผู้ร่วมธุรกิจของเชตวัน จะต้องมีแนวคิดที่สอดคล้องกัน กล่าวคือ เชตวัน เราจะไม่เน้นความเป็นธุรกิจมากจนเกินไป แต่ต้องการใช้ศาสตร์การนวดของไทย ไปช่วยฟื้นฟูและบำบัด   ส่วนโรงเรียนที่จะเปิดควบคู่ไปด้วยกับศูนย์นั้น จะเน้นให้วิชาความรู้ และสอนงานด้านบริการให้แก่ผู้สนใจ”
***จับกลุ่มบีบวกและผู้สูงอายุ
สำหรับลูกค้าเป้าหมายของเชตวัน  เป็นกลุ่มบีบวกขึ้นไป เป็นกลุ่มวัยทำงานและ ผู้สูงอายุเป็นหลัก ซึ่งถือเป็นตลาดใหญ่ เพราะปัจจุบันจำนวนผู้สูงอายุมีเพิ่มมากขึ้น  โดยมีรายงานระบุว่า ในอีก 20 ปีข้างหน้าทั่วโลกจะมีผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นเท่าตัว หรือมีประชากรผู้สูงอายุเป็นสัดส่วน 2 ใน 3 ของจำนวนประชากรทั่งโลก เราจึงเห็นว่าเป็นตลาดใหญ่และมีศักยภาพในการจับจ่ายเงินเพื่อดูแลสุขภาพด้วย  
นายเสรัชย์   กล่าวว่า สัดส่วนลูกค้าของเชตวัน ปัจจุบันคนไทย 60% ต่างชาติ 40%  ซึ่งจากแผนธุรกิจที่กล่าวมา บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตทางรายได้เฉลี่ยปีละ กว่า 20% และจากแผนงานขยายสาขาในประเทศเพิ่มมากขึ้น คาดว่าจะเพิ่มสัดส่วนลูกค้าคนไทยเป็น 70% และต่างชาติ 30% ในปีหน้า ซึ่งบริการของเชตวันจะเริ่มต้นที่ราคา 300 บาท ไปถึงหลักพันบาท ยอมรับธุรกิจนี้แข่งขันสูง แต่หากเป็นโครงสร้างธุรกิจแบบเชตวันเราเป็นหนึ่งเดียวในประเทศไทย ที่มีทั้งโรงเรียนสอน  ร้านบริการ   ผลิตภัณฑ์ และอาหารเพื่อสุขภาพ ซึ่งทั้งหมดอยู่ภายใต้บริษัท แพทย์แผนไทย จำกัดและ  บริษัท เมดิคอร์ส ซึ่งการลงทุนที่จะเกิดขึ้นนี้ 80% เป็นเงินสด อีก 20% เป็นสินเชื่อ  สาขาในปั๊มน้ำมัน คืนทุนภายใน 1-2 ปี ส่วนศูนย์สุขภาพ จะคืนทุน 3-5 ปี
สำหรับปีนี้ บริษัทตั้งงบโฆษณาประชาสัมพันธ์ไว้ที่ 20 ล้านบาท เพิ่ม 10 เท่าจากปีก่อนที่ใช้งบเพียง 2-3 ล้านบาท ขณะนี้เชตวัน มี 3 สาขา คือที่วัดโพธิ์ กรุงเทพฯ , ที่ถนนแจ้งวัฒนะ และ ที่ อ.ศาลายา จ.นครปฐม
กำลังโหลดความคิดเห็น