ASTVผู้จัดการรายวัน - แบล็คแคนยอนไส่เกียร์ 5 ขยายตลาดต่างประเทศหนักปี 2553 ประเดิมเดือนเมษายน ส่วนตลาดในประเทศเน้นขยายสาขาทำเลปั๊มน้ำมันและคีออสในนสนามบิน
นายประวิทย์ จิตนราพงศ์ ประธานกรรมการบริหารบริษัท แบล็คแคนยอน (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯมีแผนขยายธุรกิจในต่างประเทศมากขึ้นในปีหน้า หลังจากที่สร้างแบรนด์ แบล็กแคนยอน จนเป็นที่ยอมรับมาแล้วในหลายประเทศ โดยล่าสุดเตรียมขยายสาขาไปที่ประเทศจีนประมาณเดือนเมษายนปี 2553
ทั้งนี้สาขาที่ประเทศจีนจะเป็นแฟรนไชส์ ซึ่งผู้ซื้อแฟรนไชส์เป็นชาวจีน แต่ไปเรียนที่อเมริกาและมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทยบ่อยๆจึงคุ้นและรู้จักแบล็คแคนยอนเป็นอย่างดี และที่จีนนั้นยังไม่มีร้านกาแฟที่ให้บริการอาหารควบคู่ไปด้วยเปิดบริการแต่อย่างใด ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจของจีนเองก็ยังดีอยู่ จีดีพีเติบโตอย่างน่าพอใจ จึงสนใจลงทุนซื้อแฟรนไชส์เปิดที่จีน ที่เซี่ยงไฮ้ พื้นที่ประมาณ 150 ตารางเมตร ลงทุนประมาณ 12 ล้านบาท
สำหรับตลาดต่างประเทศของแบล็คแคนยอน ปัจจุบันมีเปิดบริการแล้วประมาณ 34 สาขา ซึ่งเป็นของแฟรนไชส์ทั้งหมด ซึ่งจีนถือเป็นประเทศที่ 7 แล้ว โดยประเทศอื่นคือ สิงค์โปร มาเลเซีย พม่า กัมพูชา อินโดนีเซีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งแผนงานปี 2553 วางเป้าหมายจะขยายสาขาเพิ่มอีกไม่ต่ำกว่า 6-7 แห่ง เช่น ในจีน 2 แห่ง มาเลเซีย 2 แห่งและอินโดนีเซีย 3 แห่ง
นายประวิทย์กล่าวต่อถึงแผนธุรกิจในประเทศไทยด้วยว่า มีเป้าหมายที่จะเปิดสาขาในปั๊มน้ำมันมากขึ้น เพราะว่าศูนย์การค้าและโมเดิร์นเทรดใหม่ๆเปิดตัวน้อยลง เพราะถูกกควบคุมด้วยกฎหมายต่างๆ ซึ่งสาขาในปั๊มน้ำมัน ใช้เงินลงทุนไม่สูงนัก
รวมทั้งการเปิดในรูปแบบคีออส ตามสนามบินด้วย ซึ่งปัจจุบันมีแล้วเช่นที่ สนามบินเชียงใหม่ เชียงราย ขอนแก่น และกระบี่ รวมทั้งการเปิดสาขารูปแบบโมเดลใหม่ตามพื้นที่ ซึ่งมีแล้ว 2 แห่งคือที่ ร้านปายหนาว ที่ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน และร้านพาลิโอ อินเลิฟ ที่เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา อย่างไรก็ตาม ปีหน้าตั้งเป้าหมายตัวเลขเปิดสาขาใหม่ประมาณ 12 แห่ง
ทั้งนี้แบล็คแคนยอนมีสาขาเปิดในปั๊มน้ำมันปตท. ประมาณ 40 กว่าแห่ง โดยปีที่แล้ว เปิดใหม่ในปั๊มได้มากถึง 25 แห่ง มากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 15 แห่ง โดยคาดว่าสิ้นปีนี้จะมีสาขารวมทั้งสิ้น 206 สาขา
ส่วนยอดขายรวมปีนีนี้คาดว่าจะมีประมาณ 1,150 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากปี 2552 แบ่งสัดส่วนเป็นรายได้ของบริษัทฯ 650 ล้านบาท รายได้จากแฟรนไชส์ซี 500 ล้านบาท ส่วนปีหน้าตั้งเป้าเติบโต 10%
นายประวิทย์ จิตนราพงศ์ ประธานกรรมการบริหารบริษัท แบล็คแคนยอน (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯมีแผนขยายธุรกิจในต่างประเทศมากขึ้นในปีหน้า หลังจากที่สร้างแบรนด์ แบล็กแคนยอน จนเป็นที่ยอมรับมาแล้วในหลายประเทศ โดยล่าสุดเตรียมขยายสาขาไปที่ประเทศจีนประมาณเดือนเมษายนปี 2553
ทั้งนี้สาขาที่ประเทศจีนจะเป็นแฟรนไชส์ ซึ่งผู้ซื้อแฟรนไชส์เป็นชาวจีน แต่ไปเรียนที่อเมริกาและมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทยบ่อยๆจึงคุ้นและรู้จักแบล็คแคนยอนเป็นอย่างดี และที่จีนนั้นยังไม่มีร้านกาแฟที่ให้บริการอาหารควบคู่ไปด้วยเปิดบริการแต่อย่างใด ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจของจีนเองก็ยังดีอยู่ จีดีพีเติบโตอย่างน่าพอใจ จึงสนใจลงทุนซื้อแฟรนไชส์เปิดที่จีน ที่เซี่ยงไฮ้ พื้นที่ประมาณ 150 ตารางเมตร ลงทุนประมาณ 12 ล้านบาท
สำหรับตลาดต่างประเทศของแบล็คแคนยอน ปัจจุบันมีเปิดบริการแล้วประมาณ 34 สาขา ซึ่งเป็นของแฟรนไชส์ทั้งหมด ซึ่งจีนถือเป็นประเทศที่ 7 แล้ว โดยประเทศอื่นคือ สิงค์โปร มาเลเซีย พม่า กัมพูชา อินโดนีเซีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งแผนงานปี 2553 วางเป้าหมายจะขยายสาขาเพิ่มอีกไม่ต่ำกว่า 6-7 แห่ง เช่น ในจีน 2 แห่ง มาเลเซีย 2 แห่งและอินโดนีเซีย 3 แห่ง
นายประวิทย์กล่าวต่อถึงแผนธุรกิจในประเทศไทยด้วยว่า มีเป้าหมายที่จะเปิดสาขาในปั๊มน้ำมันมากขึ้น เพราะว่าศูนย์การค้าและโมเดิร์นเทรดใหม่ๆเปิดตัวน้อยลง เพราะถูกกควบคุมด้วยกฎหมายต่างๆ ซึ่งสาขาในปั๊มน้ำมัน ใช้เงินลงทุนไม่สูงนัก
รวมทั้งการเปิดในรูปแบบคีออส ตามสนามบินด้วย ซึ่งปัจจุบันมีแล้วเช่นที่ สนามบินเชียงใหม่ เชียงราย ขอนแก่น และกระบี่ รวมทั้งการเปิดสาขารูปแบบโมเดลใหม่ตามพื้นที่ ซึ่งมีแล้ว 2 แห่งคือที่ ร้านปายหนาว ที่ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน และร้านพาลิโอ อินเลิฟ ที่เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา อย่างไรก็ตาม ปีหน้าตั้งเป้าหมายตัวเลขเปิดสาขาใหม่ประมาณ 12 แห่ง
ทั้งนี้แบล็คแคนยอนมีสาขาเปิดในปั๊มน้ำมันปตท. ประมาณ 40 กว่าแห่ง โดยปีที่แล้ว เปิดใหม่ในปั๊มได้มากถึง 25 แห่ง มากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 15 แห่ง โดยคาดว่าสิ้นปีนี้จะมีสาขารวมทั้งสิ้น 206 สาขา
ส่วนยอดขายรวมปีนีนี้คาดว่าจะมีประมาณ 1,150 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากปี 2552 แบ่งสัดส่วนเป็นรายได้ของบริษัทฯ 650 ล้านบาท รายได้จากแฟรนไชส์ซี 500 ล้านบาท ส่วนปีหน้าตั้งเป้าเติบโต 10%