แบล็คแคนยอน ชูครีเอทีฟอีโคโนมี รุกธุรกิจ พร้อมชูไทน์อิน สาขาปายหนาว กับหนังปายอินเลิฟ หวังขยายกลุ่มเด็ก 17-18 ปี เร่งเครื่องดันยอดขายโตตามเป้าหมาย หลัง 9 เดือนแรกยังต่ำเป้า เตรียมเผยโฉมสาขาโมเดลใหม่ที่โคราชกลาง ธ.ค.นี้
นายประวิทย์ จิตนราพงศ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แบล็คแคนยอน (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายเติบโตโดยรวมที่ 10% แต่ช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ปรากฏว่า ยอดขายมีอัตราเติบโตเพียง 5% เท่านั้น ต่ำกว่าเป้าหมาย ซึ่งบริษัทจะต้องทำตลาดเต็มที่ เพื่อผลักดันยอดขายให้เติบโตตามเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ในสิ้นปีนี้ ซึ่งมั่นใจว่า จะสามารถทำได้ เนื่องจากว่าช่วงไตรมาสสุดท้ายถือเป็นหน้าขายของธุรกิจ โดยมีสัดส่วนยอดขายมากกว่า 35% มาจากไตรมาสสุดท้ายนี้ จึงยังมีโอกาสในการขายอีก
โดยยอดขายของบริษัทปีที่แล้ว มีประมาณ 600 ล้านบาท ส่วนยอดขายรวมของแฟรนไชส์มีประมาณ 500 ล้านบาท เมื่อรวมทั้งหมดแล้วจะมียอดขายประมาณ 1,100 ล้านบาท ทั้งนี้บริษัทมีแผนที่จะนำแนวคิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ หรือ Creative Economy มาเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาธุรกิจด้วย โดยแนวคิดนี้ได้นำมาผนวกใช้กับสาขาในรูปแบบใหม่ที่เปิดไปแล้วเมือ่ปีที่แล้วชื่อ “ปายหนาว บาย แบล็คแคนยอน” ที่ถนนชัยสงคราม อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน และมีแผนที่จะเปิดสาขารูปแบบตามพื้นที่ท้องถิ่นที่ลงทุน อีกที่ โคราชในโครงการพาลิโอ แต่ยังไม่ได้ตั้งชื่อสาขาใหม่นี้ คาดว่า จะลงทุนประมาณ 3 ล้านบาทเปิดบริการกลางเดือนธันวาคมปีนี้
สำหรับ ร้านปายหนาว บาย แบล็คแคนยอน นี้ ตกแต่งและตั้งชื่อให้เข้ากับท้องถิ่น ที่มีอากาศหนาวและเป็นแหล่งท่องเที่ยวแบบธรรมชาติ โครงสร้างของร้านเป็นไม้ที่มีอายุกว่า 80 ปี นำศิลปะของท้องถิ่นมาตกแต่ง ล่าสุด บริษัทได้นำกลยุทธ์การไทน์อินกับภาพยนตร์เรื่อง “ปาย อิน เลิฟ” ที่จะฉายในเดือนธันวาคมนี้ กับสาขาดังกล่าวนี้ โดยมีเป้าหมายที่ต้องการจะสร้างแบรนด์และขยายกลุ่มเป้าหมายไปยังเด็กและวัยรุ่นอายุ 17-21 ปีมากขึ้น จากเดิมที่กลุ่มเป้าหมายจะเป็นครอบครัว และผู้ใหญ่ และอายุ 22 ปีขึ้นไป ซึ้งจะมีกิจกรรมและสินค้าอื่นตามมาต่อเนื่องด้วยสำหรับการร่วมมือกับหนังเรื่องนี้
ในช่วงไตรมาสสุดท้ายยังมีแผนที่จะเปิดสาขาเพิ่มอีก 5 สาขา จากปัจจุบันที่มีสาขาเปิดบริการในไทยแล้ว 203 สาขา ทั้งของบริษัทฯเองและของแฟรนไชส์ด้วย ส่วนแผนปีหน้าวางงบประมาณลงทุนไว้ 30 ล้านบาท เปิดสาขาใหม่อีกประมาณ 12 แห่ง เป็นของบริษัททั้งหมด เน้นทำเลสแตนด์อโลน ปั๊มน้ำมัน เมืองท่องเที่ยว และสถาบันการศึกษา เป็นหลัก เนื่องจากว่าศูนย์การค้าใหม่เปิดตัวน้อยลง และตั้งเป้าหมายปีหน้ามียอดขายเติบโต 12%
ส่วนในตลาดต่างประเทศนั้น เปิดร้านแฟรนไชส์ไปแล้วรวม 34 สาขาใน 6 ประเทศ คือ มาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ พม่า สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และ กัมพูชา แต่จะมุ่งเน้นที่ 2 ประเทศแรก เป็นหลัก ส่วนที่อินเดียนั้นเซ็นสัญญาเรียบร้อยแล้ว แตยังไม่ได้เปิดสาขา เนื่องจากติดปัญหาบางประการ ส่วนที่จีนได้มีการเจรจากันบ้างแล้ว แต่ยังไม่ได้สรุปผล นายประวิทย์ กล่าวด้วยว่า ช่วงเทศกาลปีใหม่สิ้นปีนี้ บริษัทได้ร่วมมือกับทางค่ายเบียร์ไฮเนเก้นจัดทำลานเบียร์สด โดยที่บริษัทเปิดบริการ
นายประวิทย์ จิตนราพงศ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แบล็คแคนยอน (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายเติบโตโดยรวมที่ 10% แต่ช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ปรากฏว่า ยอดขายมีอัตราเติบโตเพียง 5% เท่านั้น ต่ำกว่าเป้าหมาย ซึ่งบริษัทจะต้องทำตลาดเต็มที่ เพื่อผลักดันยอดขายให้เติบโตตามเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ในสิ้นปีนี้ ซึ่งมั่นใจว่า จะสามารถทำได้ เนื่องจากว่าช่วงไตรมาสสุดท้ายถือเป็นหน้าขายของธุรกิจ โดยมีสัดส่วนยอดขายมากกว่า 35% มาจากไตรมาสสุดท้ายนี้ จึงยังมีโอกาสในการขายอีก
โดยยอดขายของบริษัทปีที่แล้ว มีประมาณ 600 ล้านบาท ส่วนยอดขายรวมของแฟรนไชส์มีประมาณ 500 ล้านบาท เมื่อรวมทั้งหมดแล้วจะมียอดขายประมาณ 1,100 ล้านบาท ทั้งนี้บริษัทมีแผนที่จะนำแนวคิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ หรือ Creative Economy มาเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาธุรกิจด้วย โดยแนวคิดนี้ได้นำมาผนวกใช้กับสาขาในรูปแบบใหม่ที่เปิดไปแล้วเมือ่ปีที่แล้วชื่อ “ปายหนาว บาย แบล็คแคนยอน” ที่ถนนชัยสงคราม อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน และมีแผนที่จะเปิดสาขารูปแบบตามพื้นที่ท้องถิ่นที่ลงทุน อีกที่ โคราชในโครงการพาลิโอ แต่ยังไม่ได้ตั้งชื่อสาขาใหม่นี้ คาดว่า จะลงทุนประมาณ 3 ล้านบาทเปิดบริการกลางเดือนธันวาคมปีนี้
สำหรับ ร้านปายหนาว บาย แบล็คแคนยอน นี้ ตกแต่งและตั้งชื่อให้เข้ากับท้องถิ่น ที่มีอากาศหนาวและเป็นแหล่งท่องเที่ยวแบบธรรมชาติ โครงสร้างของร้านเป็นไม้ที่มีอายุกว่า 80 ปี นำศิลปะของท้องถิ่นมาตกแต่ง ล่าสุด บริษัทได้นำกลยุทธ์การไทน์อินกับภาพยนตร์เรื่อง “ปาย อิน เลิฟ” ที่จะฉายในเดือนธันวาคมนี้ กับสาขาดังกล่าวนี้ โดยมีเป้าหมายที่ต้องการจะสร้างแบรนด์และขยายกลุ่มเป้าหมายไปยังเด็กและวัยรุ่นอายุ 17-21 ปีมากขึ้น จากเดิมที่กลุ่มเป้าหมายจะเป็นครอบครัว และผู้ใหญ่ และอายุ 22 ปีขึ้นไป ซึ้งจะมีกิจกรรมและสินค้าอื่นตามมาต่อเนื่องด้วยสำหรับการร่วมมือกับหนังเรื่องนี้
ในช่วงไตรมาสสุดท้ายยังมีแผนที่จะเปิดสาขาเพิ่มอีก 5 สาขา จากปัจจุบันที่มีสาขาเปิดบริการในไทยแล้ว 203 สาขา ทั้งของบริษัทฯเองและของแฟรนไชส์ด้วย ส่วนแผนปีหน้าวางงบประมาณลงทุนไว้ 30 ล้านบาท เปิดสาขาใหม่อีกประมาณ 12 แห่ง เป็นของบริษัททั้งหมด เน้นทำเลสแตนด์อโลน ปั๊มน้ำมัน เมืองท่องเที่ยว และสถาบันการศึกษา เป็นหลัก เนื่องจากว่าศูนย์การค้าใหม่เปิดตัวน้อยลง และตั้งเป้าหมายปีหน้ามียอดขายเติบโต 12%
ส่วนในตลาดต่างประเทศนั้น เปิดร้านแฟรนไชส์ไปแล้วรวม 34 สาขาใน 6 ประเทศ คือ มาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ พม่า สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และ กัมพูชา แต่จะมุ่งเน้นที่ 2 ประเทศแรก เป็นหลัก ส่วนที่อินเดียนั้นเซ็นสัญญาเรียบร้อยแล้ว แตยังไม่ได้เปิดสาขา เนื่องจากติดปัญหาบางประการ ส่วนที่จีนได้มีการเจรจากันบ้างแล้ว แต่ยังไม่ได้สรุปผล นายประวิทย์ กล่าวด้วยว่า ช่วงเทศกาลปีใหม่สิ้นปีนี้ บริษัทได้ร่วมมือกับทางค่ายเบียร์ไฮเนเก้นจัดทำลานเบียร์สด โดยที่บริษัทเปิดบริการ