xs
xsm
sm
md
lg

ตั้งกรรมการร่วม แก้ส่วนแบ่งช่อง 3 บี้จ่ายค่าต๋งเพิ่ม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน –ปิดเกมยื้อค่าต๋ง ช่อง3 ยอมจ่ายเพิ่ม ลุ้นโค้งสุดท้ายส่งตัวแทนฝ่ายละ 3 คน หาข้อตกลงตัวเลขร่วมกัน ก่อนวันที่ 10 พ.ย.นี้ ฟากบอร์ด อสมท ชูหลายโมเดล หาวิธีจ่ายผลประโยชน์ในรูปตัวเงินมากขึ้น เพื่อหาข้อสรุปสู่การต่อสัญญาอัตโนมัติ 10 ปี

นายสุรพล นิติไกรพจน์ ประธานกรรมการ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การประชุมระหว่างคณะบอร์ด อสมท กับคณะบอร์ด บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ วานนี้(26 ต.ค.) สรุปออกมาแล้วว่า ทางช่อง 3 จะยังคงเดินหน้าร่วมธุรกิจกับทาง อสมทต่อ และยินยอมที่จะจ่ายผลประโยชน์ในรูปตัวเงินมากขึ้น ตามที่ อสมท ร้องขอไป โดยจะไม่เข้าไปแตะในส่วนของสัญญา เพราะในส่วนของสัญญานั้นทั้งสองฝ่ายยังมีความคิดที่แตกต่างกันอยู่ จึงเลี่ยงที่จะไม่เข้าไปแก้ไขสัญญาตรงนี้ แต่หันมาตกลงกันเรื่องการจ่ายผลประโยชน์ในรูปตัวเงินมากขึ้นแทน

สำหรับขั้นตอนต่อไปคือ ทั้ง 2 ฝ่าย ได้ส่งตัวแทนฝ่ายละ 3 คน เพื่อนร่วมกันหาโมเดลที่ดีที่สุดในการ จ่ายผลประโยชน์ในรูปตัวเงินมากขึ้น โดยในส่วนของทาง บอร์ด อสมท ได้ส่งตัวแทนร่วมเจรจา เป็น กรรมการ 3 คนได้แก่ นายวิทยาธร ท่อแก้ว, นายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ และนายธีรศักดิ์ สุวรรณยศ ส่วนทางด้านบางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ได้ส่งกรรมการร่วมเจรจา 3 คนเช่นกัน ได้แก่นายประวิทย์ มาลีนนท์ และนางรัตนา มาลีนนท์ ซึ่งการเจรจาหาตัวเลข การจ่ายผลประโยชน์ในรูปตัวเงินมากขึ้นนี้ จะต้องสรุปให้เสร็จภายในวันที่ 10 พ.ย. นี้ โดยจะเริ่มเจรจาครั้งแรกในวันพุธที่ 28 ต.ค. 2552 เวลา 16.00น.

ทั้งนี้หากหาข้อยุติเรื่องการจ่ายผลประโยชน์ในรูปตัวเงินมากขึ้นลงตัวแล้ว อาจจะมีการทำบันทึกข้อตกลงสัญญาระหว่างเพิ่มเติม แต่จะไม่มีการแก้สัญญาแน่นอน และหลังจากนั้นก็จะนำเรื่องเข้าสู่ขั้นตอนต่อไป เพื่อให้ทันในการดำเนินการต่อสัญญาเดิมที่ทำไว้แบบ 20+10 ซึ่งจะมีผลหลังวันที่ 25 มี.ค. 2553นี้ต่อไปอีก 10 ปี

**แตะสัญญามาก อาจจะไม่ได้รับการคุ้มครอง

ด้านนายวิทยาธร ท่อแก้ว บอร์ดอสมท กล่าวว่า การประชุมปรึกษาหารือระหว่างบอร์ด อสมท กับบอร์ด ช่อง3 ทั้งคณะ เพื่อหาแนวทางเรื่องของการต่อสัญญา 10 ปีนั้น เบื้องต้นของการเจรจา จะต้องถามทางช่อง 3 ก่อนเป็นอันดับแรกว่า ยังพร้อมที่จะทำธุรกิจร่วมกันหรือไม่ ซึ่งถ้ายังตกลงที่จะทำต่อ ก็พร้อมที่จะเจรจาหาข้อตกลงร่วมกัน โดยทางบอร์ด อสมทพร้อมที่จะนำเสนอแนวคิดต่อไป ภายใต้แนวทางเดิมที่เคยเสนอไปแล้ว คือ ต้องการให้ทางช่อง 3 เพิ่มค่าตอบแทนให้มากขึ้นจากเดิม

อย่างไรก็ตาม บอร์ด อสมท แต่ละท่าน มีแนวคิดเรื่องค่าตอบแทนนี้แตกต่างกันไป และจะเสนอแนวทางเหล่านี้ในที่ประชุมครั้งนี้ด้วย เพื่อนำไปสู่ข้อสรุปที่ทั้ง 2 ฝ่ายพอใจด้วยกันทั้งคู่ ขณะที่ประธานบอร์ด อสมท คือนายสุรพลมองว่า อยากให้ค่าตอบแทนสัญญาครั้งนี้ อยู่ในอัตรา ที่ 6-5% ของรายได้บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ซึ่งเป็นคู่สัญญา โดยต่อปีบริษัทนี้มีรายได้ราว 4,000 ล้านบาท ดังนั้นต่อปีควรจะจ่ายค่าตอบแทนให้อสมท ประมาณ 230 ล้านบาท จากเดิมตามสัญญา จะจ่ายที่ 200 ล้านบาท หรือ 10 ปี ต้องจ่าย 2,002 ล้านบาท

แต่มองว่า หากแนวทางนี้เห็นพ้องต้องกัน อาจจะมีการเข้าไปแตะหรือแก้ไขสัญญา จนอาจจะกลายเป็นการทำสัญญาขึ้นมาใหม่ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น การทำสัญญาครั้งนี้ก็จะไม่ได้รับการคุ้มครอง จากกฎหมายรัฐธรรมนูญ ปี 2550 เรื่องการคุ้มครองคู่สัญญาเดิม ที่ไม่ต้องโอนกิจการไปตามที่ พรบ.ประกอบกิจการวิทยุและโทรทัศน์ ปี 2551 และหลังจากนั้นคลื่นสัมปทานนี้อาจจะต้องถูกโอนไปอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ กสทช.ต่อไป รวมถึงค่าตอบแทนใหม่ที่ทำขึ้นมาก็ต้องถูกโอนไปสู่ กสทช ด้วย ทั้งนี้มองว่าประธานบอร์ด อสมท อาจจะมีแนวทางแก้ไขเรื่องดังกล่าวไว้เรียบร้อยแล้ว

สำหรับตน ได้มีแนวคิด เกี่ยวกับค่าตอบแทนการต่อสัญญานี้ไว้บ้างแล้ว โดยต้องการให้ทางช่อง 3 ยอมจ่ายเงินให้เปล่าในการต่อสัญญาครั้งนี้ ซึ่งเป็นแนวทางที่ไม่ต้องเข้าไปแตะในส่วนของสัญญาเดิมแต่อย่างไร โดยเบื้องต้นมองว่า เม็ดเงินก้อนนี้ ควรจะอยู่ที่ประมาณ 300-600 ล้านบาท ซึ่งช่อง 3 สามารถแบ่งจ่ายได้ด้วย

สำหรับข้อดีของแนวความคิดนี้ คือ อสมท สามารถรายงานตัวเลขรายได้ได้ง่ายขึ้น เป็นหลักประกันความเสี่ยงได้ว่า อสมท จะได้เงินก้อนตายตัว เพราะในปีหน้า กฎหมายก็จะเปิดเสรีให้คลื่นความถี่ ถึงวันนั้นก็อาจจะมีผู้เล่นเข้ามาในธุรกิจนี้สูงขึ้น ตัวเลขรายได้ที่ช่อง3 จะมีอาจจะลดลง เพราะมีการเข้ามาแชร์มากขึ้น ดังนั้นค่าตอบแทนที่ 6.5% อสมท อาจจะได้น้อยลงไปด้วย

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การเจรจาครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่เรื่องของการต่อสัญญาสัมปทานช่อง3 ได้มาถึงการร่วมปรึกษาหารือกับแบบทั้งคณะ ระหว่างคณะบอร์ดอสมท และบอร์ดบางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นท์โดยเริ่มหารือกันนานร่วม 3 ชม.หลังเสร็จสิ้นการเจรจา ท่าทางฝ่ายนายประวิทย์ดูค่อนข้างเครียดอย่างเห็นได้ชัด .
กำลังโหลดความคิดเห็น