สืบเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้ว ที่ทำนายทายทักว่า “กุมภาพันธ์ : แดงดุ-แดงเดือด!” ซึ่งมีแนวโน้มจะเป็นนั้น จากกรณีการโยนความคิดในความพยายามจัดตั้งผุดความคิด “กองทัพประชาชนโดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” จนเป็นที่ฮือฮากันทั่วทุกวงการ วิพากษ์วิจารณ์กันตลอด 2 วันปลายสัปดาห์ที่แล้ว สอดคล้องกันตามการคาดการณ์ของ “แสงแดด”
เมื่อแนวคิด “กองทัพประชาชนฯ” โผล่เข้าสู่กลางวงสังคมไทย จนเป็นที่ฮือฮาหวือหวาอย่างมาก จนเกิดการแตกแยกของกลุ่มบุคคล 3 กลุ่มขึ้น
กลุ่มหนึ่ง เป็น “กลุ่มส่ายหน้า-หัวเราะ” ที่เกิดจากการสงสัย “กลุ่มเสื้อแดง” และ/หรือ “นปช. : แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ” ว่า “คิดได้ยังไง!” เหตุผลส่ายหน้าเพราะว่า “แนวคิดเลอะเทอะ!” เช่นนี้คิดกันได้อย่างไร จน “กลั้นหัวเราะ” ไม่อยู่ แม้กระทั่ง “แสงแดด” เอง นั่งขำอยู่ประมาณ 20 นาที ว่า กลุ่มแกนนำคนเสื้อแดง หรือแม้กระทั่งผู้หลักผู้ใหญ่ของทั้ง “กลุ่มเสื้อแดง-กลุ่มนปช.” จนอาจเลยเถิดไปถึง “พรรคเพื่อไทย” ที่คิดกันได้อย่างไร จนมีการวิพากษ์วิจารณ์กันตลอดทั้งวัน ในรายการวิทยุหลัก ทั้งจากนักวิชาการและประชาชนทั่วไปว่า “เลอะเทอะ!”
กลุ่มที่สอง น่าจะเป็นประชาชนทั่วไปที่เกิด “อาการตกใจ!” เพราะอาจมีข้อมูลน้อย ประกอบกับเฝ้าสังเกตการเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงมาโดยตลอด จึงเกิดอาการผสมผสานทั้ง “ตกใจ” และแน่นอนประชาชนจำนวนมาก “เบื่อ-เอือมระอา!” กับ “กลุ่มชุมนุมประท้วง-ม็อบ” ที่เพียรพยายามเดินสายสร้างความอิดหนาระอาใจแก่ผู้คนทั่วไป
อย่างไรก็ตาม ประชาชนทั่วไปทั้งที่ “รู้-ตระหนักดี” และ “รู้น้อย!” แน่นอนที่ต้องเกิดอารามตกใจกลัวว่า “กองทัพประชาชน” น่าจะเกิดขึ้นจริง เนื่องด้วยกลุ่มเสื้อแดงประกาศว่า “แดงทั้งแผ่นดิน-แดงล้านคน”
แถมมีข่าวลอยมาว่า กลุ่มแกนนำเสื้อแดงเร่งระดมสมาชิกเสื้อแดงจากทั้งภาคเหนือและภาคอีสานให้เดินทางเข้าสู่กรุงเทพฯ นับหลายแสนคน พร้อมทั้งให้แต่ละคนนำ “ขวด” นำติดตัวมาคนละขวด โดยน่าเชื่อว่า วัตถุประสงค์สำคัญอาจจะให้บรรจุน้ำมันเพื่อปฏิบัติการ “เผาเมือง!”
และที่สำคัญมากกว่านั้น ก็เพราะว่า “26 กุมภาพันธ์” เป็น “วันพิพากษา (Judgement Day)” สำหรับ “คดี 7.6 หมื่นล้านบาท” ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จะวินิจฉัยตัดสินในวันนั้นว่าจะ “ยึดทรัพย์-ยึดเงิน” ของอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หรือไม่ ซึ่งต่างลุ้นระทึกอย่างมากตลอดเดือนกุมภาพันธ์
ทั้ง “กลุ่มเสื้อแดง-นปช.คุณทักษิณ” ต่างประกาศกร้าวว่า “ถ้าไม่ได้รับความเป็นธรรม” จะก่อหวอดทำลายบ้านเมืองให้พินาศคามือ ดังนั้น แน่นอนที่สุด ประชาชนทั่วไปก็น่าจะตกใจ วิตกว่า จะเป็นไปตามคำประกาศกร้าวของกลุ่มทั้งหมดที่กล่าวข้างต้น
ถามว่า แม้กระทั่งกลุ่มหนึ่งที่ “ส่ายหน้า-หัวเราะ-เลอะเทอะ” วิตกกังวลกับเหตุการณ์รุนแรงหรือไม่ ก็ต้องตอบว่า ในซอกมุมความคิดก็น่าจะกังวลเช่นเดียวกัน เพราะ “มวลชนคนรักทักษิณ” เดินเกมเร่งหนักมาโดยตลอด และที่สำคัญคือ “ทุนเยอะ” พร้อมสนับสนุน
กลุ่มสาม น่าจะเป็น “กลุ่มสุดโต่ง!” กล่าวคือ “กลุ่มแฟนคลับทักษิณ” ที่คงได้ “เฮ!” และคิดเลยเถิดว่า “เราชนะแล้ว!” ในการโค่นล้ม “ระบบอำมาตย์-ประชาธิปัตย์” และอีกกลุ่มหนึ่งที่ไม่ได้ฝักใฝ่ฝ่ายใด ซึ่งน่าเชื่อว่า “ดี!” ให้มับรบราฆ่าฟันจะได้จบๆ กันเสียที!
ต้องเรียนตามตรงว่า “กองทัพประชาชน” นั้น เป็นแนวคิดที่เพียง “ลีลา-กลยุทธ์” ของ “กลุ่มเสื้อแดง” เท่านั้น ที่เพียรพยายามก่อหวอด “ยั่วยุ” และ “แสดงพลัง” เท่านั้น โดยมุ่งไปที่วัตถุประสงค์ “รุนแรง-แตกหัก” และที่สำคัญที่สุดคือ “การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง!”
การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองนั้น พุ่งเป้าไปที่สองเป้าหมายหลักกล่าวคือ “ยุบสภา” หรือไม่ก็ “รัฐประหาร” ทั้งนี้ “ผู้บงการ-กลุ่มแกนนำ” ต้องเกิดความมั่นใจว่า ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ใด “ชนะแน่นอน!”
กล่าวคือ ถ้ามี “การยุบสภา” และจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ ผลสำรวจหลายครั้งจากหลายสำนักต่างสำรวจพบว่า “พรรคเพื่อไทย” ได้รับชัยชนะทุกครั้ง จำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมีตัวเลขสูงถึง 230-240 ที่นั่งทุกครั้ง โดยเฉพาะจากภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคกลางบางส่วน ส่วนกรุงเทพฯ น่าจะได้ไม่น้อยกว่า 3-5 ที่นั่ง
ขอย้ำว่า ถ้ามีการเลือกตั้งทั่วไป ในระยะเวลาอันใกล้นี้ “พรรคเพื่อไทย” ชนะขาดแน่นอน ไม่ต้องศึกษาอื่นไกล แม้กระทั่งการเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่แล้ว เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ปี 2550 “พรรคพลังประชาชน” ซึ่งเป็น “พรรคนอมินี” ของ “ไทยรักไทย” เดิม ยังชนะแบบขาดลอย ทั้งๆ ที่ขาดสารพัดปัจจัยทางอำนาจสนับสนุน และครั้งนี้ถ้ามีการเลือกตั้งก็จะซ้ำรอยเดิมอย่างแน่นอน
ส่วนกรณี “รัฐประหาร” นั้น “ลึกลับซับซ้อน” อย่างมาก เนื่องด้วยความจริงที่ต้องยอมรับว่า “กองทัพบก” ปัจจุบัน ตลอดจน “กองทัพอากาศ-กองทัพเรือ” มีลักษณะเป็น “แตงโม” กล่าวคือ “เปลือกสีเขียว-ข้างในแดง” ซึ่งหมายความว่า “เอกภาพ” ภายในกองทัพนั้น “แตกแยก” และยังมีบางกลุ่มฝักใฝ่คุณทักษิณ ชินวัตร
สมมติว่า เกิดรัฐประหารขึ้นจะเกิด “รัฐประหารซ้อน!” ด้วยการทุ่มเงินนับหมื่นล้านบาทจนถึงหลักหลายหมื่นล้าน เพื่อซ้อนการกระทำรัฐประหารของฝ่ายที่ต้องการจัดการโค่นล้ม “ระบอบทักษิณ” และครั้งนี้ต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาด เพื่อไม่ให้ได้ผุดได้เกิดอีกต่อไป ดังนั้น “รัฐประหารซ้อน” จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน และ “ฝ่ายแดง” เชื่อมั่นว่า “ชนะ!” และสามารถทำให้ “ระบอบทักษิณ” สามารถทยานกลับเข้าสู่วงจรอำนาจได้อีกครั้งหนึ่ง
การเคลื่อนไหวที่ “เร่งโหม-เร่งแรง” เพื่อเป็น “การยั่วยุ” ให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เพราะคิดคำนวณอย่างละเอียดแล้ว เห็น “ชัยชนะ” ที่ปลายทาง ไม่ว่า “ยุบสภา” หรือ “รัฐประหาร!”
ปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่ขณะนี้ ในหมู่มวลประชาชนคนไทยที่เป็น “พลังเงียบ” ต่างรู้ซึ้งและตระหนักดีว่า “สถานการณ์บ้านเมือง” ปัจจุบันยัง “ผิดปกติ-ไม่เข้ารูปเข้ารอย” และ “ไม่สมหวังดั่งใจ” กับทั้ง “รัฐบาล” และ “กองทัพ”
ความคิดถูกแบ่งแยกออกเป็น 3 ส่วนสำคัญ กล่าวคือ ส่วนแรก นั้น ไม่ชอบทักษิณจนถึงขั้นเกลียดทักษิณเพราะรู้ดีว่า “โครตโกง!” เพียงใด จนสามารถร่ำรวยระดับหลายแสนล้านบาทภายในระยะเวลา 5 ปีเท่านั้น และไม่ต้องการให้กลับมามีอำนาจอีก
ส่วนสอง นั้น ไม่ค่อยแฮปปี้กับการทำงานของพรรคประชาธิปัตย์มากมายนัก แต่ “ไม่มีทางเลือก” จนต้องเกิด “อาการจำนน-จำยอม” โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมานั้น “ผลงาน” ที่จับต้องได้ ไม่ค่อยปรากฏมากเท่าใดนัก และก็ต้องยอมรับว่า “พรรคประชาธิปัตย์” นั้น “ลีลาวาทะดี!” แต่ “ทำงานไม่เก่ง!” เพียงแต่ “ประชาชนให้โอกาส” เพราะไม่มีทางเลือกใดที่ดีกว่านี้ ซึ่งอาจจะสอดคล้องกับสภาวะกับโครงสร้างและระบบการเมืองการปกครองไทย
ส่วนที่สาม นั้น นอกเหนือจากไม่มีทางเลือกแล้ว กล่าวคือ “โนทักษิณ!” กับ “ไม่แฮปปี้” กับประชาธิปัตย์ แต่ “ไม่มีทางเลือก-ให้โอกาส” แต่เอือมระอาและปฏิเสธ “5 พรรคร่วมรัฐบาล” ที่ต้องต้องยอมรับว่า “พลิ้ว-ลีลาจัด” โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ไม่จริงใจ” กับ “มุ่งประโยชน์ส่วนตน!” มากกว่าส่วนรวม
ประชาชนจำนวนมากปัจจุบันเกิดอาการ ”กระอักกระอ่วนใจ” กับสภาพความเป็นจริงทั้งหมด “แสงแดด” ฟันธงเลยว่า “พลังเงียบ!” จำนวนสูงถึงร้อยละ 50 เป็นเช่นนั้น
ส่วน “กลุ่มเสื้อแดง-แฟนคลับทักษิณ” ที่ “พันธุ์แท้” น่าจะมีเพียงร้อยละ 15-20 เท่านั้น นอกนั้น “แบมือ-รีดไถ” จากเงินทุนคุณทักษิณเกือบทั้งหมด น่าเชื่อว่าประมาณร้อยละ 30 ดังนั้น เมื่อใดที่ “กองทุนษิณาตร้า!”ยุติการต่อท่อน้ำเลี้ยง สถานการณ์ความวุ่นวายจะค่อยๆ หมดแรงและตายไปในที่สุด
อย่างไรก็ตาม “กุมภาพันธ์” จะเป็นช่วงที่รุนแรงและดุที่สุด ไปจนถึงวันที่ 26 กุมภาพันธ์ แต่ความจริงที่ต้องขอกระซิบบอกท่านผู้อ่านว่า “ความแรง” ของเสื้อแดงนั้น มิได้เป็นไปตาม “คำขู่” แต่ประการใด ว่าไปแล้ว สภาพที่แท้จริง น่าจะ “ฟ่าม!” และ “กลวงใน” จะสังเกตได้ว่า การชุมนุมแต่ละครั้งตามสถานที่ราชการต่างๆ มีจำนวนมากเพียงหลักร้อยเท่านั้น สูงสุดไม่น่าจะเกินพันคน
จริงๆ แล้ว “บุคคลน่าสงสารสูงสุด!” คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ “ถูกหลอก-ถูกล้วง!” โดยตลอด แม้กระทั่ง “พรรคเพื่อไทย” ของตนเองก็ “แตก!” ควบคุมอะไรไม่ได้ แม้กระทั่ง “ผู้ใหญ่-แกนนำแดง” ยัง “น้อยใจ-แตกแยก” กันเอง หรือแม้แต่ “กองทัพประชาชน” ก็ย่อยสลายไปในที่สุด จนกระทั่ง “นายทหารบ้า-เสธฯ บอ!” กับ “พลเอกรองเท้ากอลฟ์” ยังถูกถลกหนังหัวว่าเป็น “หมาเน่า!” จากเด็กเมื่อวานซืน
ศึกนี้คุณทักษิณต้องเปิดอกเปิดใจว่า “แดงนับล้าน-แดงทั้งแผ่นดิน” เพื่อคุณทักษิณ น่าจะฝันหวาน!
เมื่อแนวคิด “กองทัพประชาชนฯ” โผล่เข้าสู่กลางวงสังคมไทย จนเป็นที่ฮือฮาหวือหวาอย่างมาก จนเกิดการแตกแยกของกลุ่มบุคคล 3 กลุ่มขึ้น
กลุ่มหนึ่ง เป็น “กลุ่มส่ายหน้า-หัวเราะ” ที่เกิดจากการสงสัย “กลุ่มเสื้อแดง” และ/หรือ “นปช. : แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ” ว่า “คิดได้ยังไง!” เหตุผลส่ายหน้าเพราะว่า “แนวคิดเลอะเทอะ!” เช่นนี้คิดกันได้อย่างไร จน “กลั้นหัวเราะ” ไม่อยู่ แม้กระทั่ง “แสงแดด” เอง นั่งขำอยู่ประมาณ 20 นาที ว่า กลุ่มแกนนำคนเสื้อแดง หรือแม้กระทั่งผู้หลักผู้ใหญ่ของทั้ง “กลุ่มเสื้อแดง-กลุ่มนปช.” จนอาจเลยเถิดไปถึง “พรรคเพื่อไทย” ที่คิดกันได้อย่างไร จนมีการวิพากษ์วิจารณ์กันตลอดทั้งวัน ในรายการวิทยุหลัก ทั้งจากนักวิชาการและประชาชนทั่วไปว่า “เลอะเทอะ!”
กลุ่มที่สอง น่าจะเป็นประชาชนทั่วไปที่เกิด “อาการตกใจ!” เพราะอาจมีข้อมูลน้อย ประกอบกับเฝ้าสังเกตการเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงมาโดยตลอด จึงเกิดอาการผสมผสานทั้ง “ตกใจ” และแน่นอนประชาชนจำนวนมาก “เบื่อ-เอือมระอา!” กับ “กลุ่มชุมนุมประท้วง-ม็อบ” ที่เพียรพยายามเดินสายสร้างความอิดหนาระอาใจแก่ผู้คนทั่วไป
อย่างไรก็ตาม ประชาชนทั่วไปทั้งที่ “รู้-ตระหนักดี” และ “รู้น้อย!” แน่นอนที่ต้องเกิดอารามตกใจกลัวว่า “กองทัพประชาชน” น่าจะเกิดขึ้นจริง เนื่องด้วยกลุ่มเสื้อแดงประกาศว่า “แดงทั้งแผ่นดิน-แดงล้านคน”
แถมมีข่าวลอยมาว่า กลุ่มแกนนำเสื้อแดงเร่งระดมสมาชิกเสื้อแดงจากทั้งภาคเหนือและภาคอีสานให้เดินทางเข้าสู่กรุงเทพฯ นับหลายแสนคน พร้อมทั้งให้แต่ละคนนำ “ขวด” นำติดตัวมาคนละขวด โดยน่าเชื่อว่า วัตถุประสงค์สำคัญอาจจะให้บรรจุน้ำมันเพื่อปฏิบัติการ “เผาเมือง!”
และที่สำคัญมากกว่านั้น ก็เพราะว่า “26 กุมภาพันธ์” เป็น “วันพิพากษา (Judgement Day)” สำหรับ “คดี 7.6 หมื่นล้านบาท” ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จะวินิจฉัยตัดสินในวันนั้นว่าจะ “ยึดทรัพย์-ยึดเงิน” ของอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หรือไม่ ซึ่งต่างลุ้นระทึกอย่างมากตลอดเดือนกุมภาพันธ์
ทั้ง “กลุ่มเสื้อแดง-นปช.คุณทักษิณ” ต่างประกาศกร้าวว่า “ถ้าไม่ได้รับความเป็นธรรม” จะก่อหวอดทำลายบ้านเมืองให้พินาศคามือ ดังนั้น แน่นอนที่สุด ประชาชนทั่วไปก็น่าจะตกใจ วิตกว่า จะเป็นไปตามคำประกาศกร้าวของกลุ่มทั้งหมดที่กล่าวข้างต้น
ถามว่า แม้กระทั่งกลุ่มหนึ่งที่ “ส่ายหน้า-หัวเราะ-เลอะเทอะ” วิตกกังวลกับเหตุการณ์รุนแรงหรือไม่ ก็ต้องตอบว่า ในซอกมุมความคิดก็น่าจะกังวลเช่นเดียวกัน เพราะ “มวลชนคนรักทักษิณ” เดินเกมเร่งหนักมาโดยตลอด และที่สำคัญคือ “ทุนเยอะ” พร้อมสนับสนุน
กลุ่มสาม น่าจะเป็น “กลุ่มสุดโต่ง!” กล่าวคือ “กลุ่มแฟนคลับทักษิณ” ที่คงได้ “เฮ!” และคิดเลยเถิดว่า “เราชนะแล้ว!” ในการโค่นล้ม “ระบบอำมาตย์-ประชาธิปัตย์” และอีกกลุ่มหนึ่งที่ไม่ได้ฝักใฝ่ฝ่ายใด ซึ่งน่าเชื่อว่า “ดี!” ให้มับรบราฆ่าฟันจะได้จบๆ กันเสียที!
ต้องเรียนตามตรงว่า “กองทัพประชาชน” นั้น เป็นแนวคิดที่เพียง “ลีลา-กลยุทธ์” ของ “กลุ่มเสื้อแดง” เท่านั้น ที่เพียรพยายามก่อหวอด “ยั่วยุ” และ “แสดงพลัง” เท่านั้น โดยมุ่งไปที่วัตถุประสงค์ “รุนแรง-แตกหัก” และที่สำคัญที่สุดคือ “การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง!”
การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองนั้น พุ่งเป้าไปที่สองเป้าหมายหลักกล่าวคือ “ยุบสภา” หรือไม่ก็ “รัฐประหาร” ทั้งนี้ “ผู้บงการ-กลุ่มแกนนำ” ต้องเกิดความมั่นใจว่า ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ใด “ชนะแน่นอน!”
กล่าวคือ ถ้ามี “การยุบสภา” และจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ ผลสำรวจหลายครั้งจากหลายสำนักต่างสำรวจพบว่า “พรรคเพื่อไทย” ได้รับชัยชนะทุกครั้ง จำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมีตัวเลขสูงถึง 230-240 ที่นั่งทุกครั้ง โดยเฉพาะจากภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคกลางบางส่วน ส่วนกรุงเทพฯ น่าจะได้ไม่น้อยกว่า 3-5 ที่นั่ง
ขอย้ำว่า ถ้ามีการเลือกตั้งทั่วไป ในระยะเวลาอันใกล้นี้ “พรรคเพื่อไทย” ชนะขาดแน่นอน ไม่ต้องศึกษาอื่นไกล แม้กระทั่งการเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่แล้ว เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ปี 2550 “พรรคพลังประชาชน” ซึ่งเป็น “พรรคนอมินี” ของ “ไทยรักไทย” เดิม ยังชนะแบบขาดลอย ทั้งๆ ที่ขาดสารพัดปัจจัยทางอำนาจสนับสนุน และครั้งนี้ถ้ามีการเลือกตั้งก็จะซ้ำรอยเดิมอย่างแน่นอน
ส่วนกรณี “รัฐประหาร” นั้น “ลึกลับซับซ้อน” อย่างมาก เนื่องด้วยความจริงที่ต้องยอมรับว่า “กองทัพบก” ปัจจุบัน ตลอดจน “กองทัพอากาศ-กองทัพเรือ” มีลักษณะเป็น “แตงโม” กล่าวคือ “เปลือกสีเขียว-ข้างในแดง” ซึ่งหมายความว่า “เอกภาพ” ภายในกองทัพนั้น “แตกแยก” และยังมีบางกลุ่มฝักใฝ่คุณทักษิณ ชินวัตร
สมมติว่า เกิดรัฐประหารขึ้นจะเกิด “รัฐประหารซ้อน!” ด้วยการทุ่มเงินนับหมื่นล้านบาทจนถึงหลักหลายหมื่นล้าน เพื่อซ้อนการกระทำรัฐประหารของฝ่ายที่ต้องการจัดการโค่นล้ม “ระบอบทักษิณ” และครั้งนี้ต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาด เพื่อไม่ให้ได้ผุดได้เกิดอีกต่อไป ดังนั้น “รัฐประหารซ้อน” จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน และ “ฝ่ายแดง” เชื่อมั่นว่า “ชนะ!” และสามารถทำให้ “ระบอบทักษิณ” สามารถทยานกลับเข้าสู่วงจรอำนาจได้อีกครั้งหนึ่ง
การเคลื่อนไหวที่ “เร่งโหม-เร่งแรง” เพื่อเป็น “การยั่วยุ” ให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เพราะคิดคำนวณอย่างละเอียดแล้ว เห็น “ชัยชนะ” ที่ปลายทาง ไม่ว่า “ยุบสภา” หรือ “รัฐประหาร!”
ปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่ขณะนี้ ในหมู่มวลประชาชนคนไทยที่เป็น “พลังเงียบ” ต่างรู้ซึ้งและตระหนักดีว่า “สถานการณ์บ้านเมือง” ปัจจุบันยัง “ผิดปกติ-ไม่เข้ารูปเข้ารอย” และ “ไม่สมหวังดั่งใจ” กับทั้ง “รัฐบาล” และ “กองทัพ”
ความคิดถูกแบ่งแยกออกเป็น 3 ส่วนสำคัญ กล่าวคือ ส่วนแรก นั้น ไม่ชอบทักษิณจนถึงขั้นเกลียดทักษิณเพราะรู้ดีว่า “โครตโกง!” เพียงใด จนสามารถร่ำรวยระดับหลายแสนล้านบาทภายในระยะเวลา 5 ปีเท่านั้น และไม่ต้องการให้กลับมามีอำนาจอีก
ส่วนสอง นั้น ไม่ค่อยแฮปปี้กับการทำงานของพรรคประชาธิปัตย์มากมายนัก แต่ “ไม่มีทางเลือก” จนต้องเกิด “อาการจำนน-จำยอม” โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมานั้น “ผลงาน” ที่จับต้องได้ ไม่ค่อยปรากฏมากเท่าใดนัก และก็ต้องยอมรับว่า “พรรคประชาธิปัตย์” นั้น “ลีลาวาทะดี!” แต่ “ทำงานไม่เก่ง!” เพียงแต่ “ประชาชนให้โอกาส” เพราะไม่มีทางเลือกใดที่ดีกว่านี้ ซึ่งอาจจะสอดคล้องกับสภาวะกับโครงสร้างและระบบการเมืองการปกครองไทย
ส่วนที่สาม นั้น นอกเหนือจากไม่มีทางเลือกแล้ว กล่าวคือ “โนทักษิณ!” กับ “ไม่แฮปปี้” กับประชาธิปัตย์ แต่ “ไม่มีทางเลือก-ให้โอกาส” แต่เอือมระอาและปฏิเสธ “5 พรรคร่วมรัฐบาล” ที่ต้องต้องยอมรับว่า “พลิ้ว-ลีลาจัด” โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ไม่จริงใจ” กับ “มุ่งประโยชน์ส่วนตน!” มากกว่าส่วนรวม
ประชาชนจำนวนมากปัจจุบันเกิดอาการ ”กระอักกระอ่วนใจ” กับสภาพความเป็นจริงทั้งหมด “แสงแดด” ฟันธงเลยว่า “พลังเงียบ!” จำนวนสูงถึงร้อยละ 50 เป็นเช่นนั้น
ส่วน “กลุ่มเสื้อแดง-แฟนคลับทักษิณ” ที่ “พันธุ์แท้” น่าจะมีเพียงร้อยละ 15-20 เท่านั้น นอกนั้น “แบมือ-รีดไถ” จากเงินทุนคุณทักษิณเกือบทั้งหมด น่าเชื่อว่าประมาณร้อยละ 30 ดังนั้น เมื่อใดที่ “กองทุนษิณาตร้า!”ยุติการต่อท่อน้ำเลี้ยง สถานการณ์ความวุ่นวายจะค่อยๆ หมดแรงและตายไปในที่สุด
อย่างไรก็ตาม “กุมภาพันธ์” จะเป็นช่วงที่รุนแรงและดุที่สุด ไปจนถึงวันที่ 26 กุมภาพันธ์ แต่ความจริงที่ต้องขอกระซิบบอกท่านผู้อ่านว่า “ความแรง” ของเสื้อแดงนั้น มิได้เป็นไปตาม “คำขู่” แต่ประการใด ว่าไปแล้ว สภาพที่แท้จริง น่าจะ “ฟ่าม!” และ “กลวงใน” จะสังเกตได้ว่า การชุมนุมแต่ละครั้งตามสถานที่ราชการต่างๆ มีจำนวนมากเพียงหลักร้อยเท่านั้น สูงสุดไม่น่าจะเกินพันคน
จริงๆ แล้ว “บุคคลน่าสงสารสูงสุด!” คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ “ถูกหลอก-ถูกล้วง!” โดยตลอด แม้กระทั่ง “พรรคเพื่อไทย” ของตนเองก็ “แตก!” ควบคุมอะไรไม่ได้ แม้กระทั่ง “ผู้ใหญ่-แกนนำแดง” ยัง “น้อยใจ-แตกแยก” กันเอง หรือแม้แต่ “กองทัพประชาชน” ก็ย่อยสลายไปในที่สุด จนกระทั่ง “นายทหารบ้า-เสธฯ บอ!” กับ “พลเอกรองเท้ากอลฟ์” ยังถูกถลกหนังหัวว่าเป็น “หมาเน่า!” จากเด็กเมื่อวานซืน
ศึกนี้คุณทักษิณต้องเปิดอกเปิดใจว่า “แดงนับล้าน-แดงทั้งแผ่นดิน” เพื่อคุณทักษิณ น่าจะฝันหวาน!