xs
xsm
sm
md
lg

การเมืองเก่า เห็นแก่ตัว ก็ฉิบหายหมด

เผยแพร่:   โดย: วิทยา วชิระอังกูร


ผมจดจำและประทับใจถ้อยคำที่ท่านพุทธทาสภิกขุ กล่าวกับอาจารย์เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง เนิ่นนานมาแล้วว่า “ประชาธิปไตยต้องประโยชน์ของประชาชนเป็นใหญ่ ไม่ใช่ประชาชนเป็นใหญ่ ประชาชนเป็นใหญ่แล้วมันไม่แน่ ประชาชนบ้าบอก็ได้ของประชาชน โดยประชาชน ถ้าประชาชนเห็นแก่ตัวแล้ว ฉิบหายหมด”

โดยภาพและเสียงของท่านพุทธทาสภิกขุ ที่เทศนาเป็นคำสอนคำเตือนสติข้างต้นนั้น ได้ปรากฏเผยแผ่ต่อสาธารณชนทางทีวีต่อเนื่องมาเป็นระยะเวลาพอสมควรแล้ว ซึ่งสาธุชนที่ได้สดับตรับฟัง คงจะเข้าใจเนื้อหาประชาธิปไตยได้ถ่องแท้ยิ่งขึ้น

และเมื่อสดับตรับฟังและเฝ้าดูเหตุการณ์บ้านเมืองที่เป็นอยู่ในขณะนี้ ก็เลยเกิดนึกเปรียบเทียบขึ้นมาว่า พฤติกรรมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ระดมพลป่วนบ้านป่วนเมืองไม่หยุดไม่หย่อนอยู่ในขณะนี้ คล้ายจะส่อแสดงให้เห็นว่า เป็นการตีความประชาธิปไตยอย่างผิดๆ หรือยังไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ จึงยังคงมุ่งเน้นให้ประชาชนเป็นใหญ่ หาใช่ประโยชน์ของประชาชนเป็นใหญ่ ใช่หรือไม่?  

โดยเฉพาะประชาชนคนเสื้อแดงที่ดูเหมือนจะทำอะไรได้ตามอำเภอใจอย่างไม่ยำเกรงกฎหมายบ้านเมือง และดูเหมือนจะเหิมเกริมไปกับความเชื่อฝังหัวของกวีเอกวิสา คัญทัพ ผู้เลือกข้างทักษิณและคนเสื้อแดง ที่ภูมิอกภูมิใจกับวรรคทองของตนที่เคยเขียนไว้ว่า “เมื่อท้องฟ้าสีทองผ่องอำไพ ประชาชนต้องเป็นใหญ่ในแผ่นดิน”

และหรือจะเป็นไปตามคำเตือนของท่านพุทธทาส ที่ว่า  “ถ้าประชาชนเป็นใหญ่ แล้วมันไม่แน่ ประชาชนบ้าบอก็ได้ของประชาชน โดยประชาชน ถ้าประชาชนเห็นแก่ตัวแล้ว ฉิบหายหมด”

ดูจากพฤติกรรมของแกนนำคนเสื้อแดงอย่าง สามเกลอหัวขวด วีระ จตุพร ณัฐวุฒิ ลักษณะคล้ายคนบ้าบอหรือไม่? และยิ่งดูไปถึงท่าทีของ อริสมันต์ แรมโบ้ สุพร ขวัญชัย ไพรพนาแห่งเมืองอุดรฯ เพชรวรรตแห่งเชียงใหม่ 51 หรืออีกมากมายหลายคนรวมไปถึง หมอเหวง และจักรภพ อีเพ็ญ การพูดจาปราศรัยของผู้คนเหล่านี้ที่แหกปากตะโกนก้าวร้าวบนเวทีคนเสื้อแดง พฤติกรรมการล้อมวงฉี่รดโลงศพหน้าที่ทำการ กกต.กลางเมืองกรุง การรุมทำร้ายและฆ่าคนกลางเมืองเชียงใหม่ การประกาศทางวิทยุกระจายเสียงให้คนเสื้อแดงไปดักฆ่านายกรัฐมนตรีที่สนามบินเชียงใหม่ การประกาศขู่จะเผาบ้านประธาน กกต. การขู่จะกระทืบ ผบ.ทบ.ลองช่วยกันพิจารณาดูว่า การกระทำดังกล่าวเหล่านี้ ดูคล้ายคนผิดปกติบ้าบอหรือไม่?

และยิ่งตอนนี้ ผนวกเอาแม่ทัพกองกำลังไม่ทราบฝ่ายอย่าง เสธ.แดง ที่กำลังสติแตกจากการถูกพักราชการ และถูกหมายเรียกจากพนักงานสอบสวน ระบุความผิดหลายข้อหา พฤติกรรมของกลุ่มคนเสื้อแดงก็ยิ่งนับวันจะบ้าบอคอแตกมากยิ่งขึ้น และแม้จะพยายามเฉไฉตั้งเป้าหมายการต่อสู้ว่าเพื่อโค่นล้มระบอบอำมาตยาธิปไตย หรือเรียกร้องเชิดชูระบอบประชาธิปไตยให้ฟังดูดี แต่แท้ที่จริงก็ไม่อาจเก็บซ่อนเป้าประสงค์ที่แท้จริง ที่ทำทุกวิถีทางเพียงเพื่อรับใช้ปกป้องนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร ในรูปแบบต่างตอบแทนอย่างสุดลิ่มทิ่มประตูนั่นเอง

และการต่อสู้ของกลุ่มคนเสื้อแดงเยี่ยงนี้กระมังที่เข้าข่ายเป็น “ประชาชนบ้าบอ ประชาชนเห็นแก่ตัวแล้ว ฉิบหายหมด”

ดังจะเห็นได้จากการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงทุกครั้ง ผู้ปราศรัยบนเวทีล้วนใช้ลีลาการปลุกระดม โดยเน้นการยั่วยุเพื่อก่อให้เกิดความรุนแรงในทุกวิถีทาง ด้วยความเชื่อที่ว่า หากสามารถโค่นล้มรัฐบาลและอำนาจแฝงต่างๆ ที่หนุนรัฐบาลนี้ลงได้ จะเป็นการกรุยทางให้ทักษิณ ชินวัตร คืนสู่อำนาจได้ตามต้องการ โดยไม่เคยคำนึงถึงเหตุผลความถูกต้องหรือผลกระทบที่จะสร้างความฉิบหายล่มจมแก่บ้านเมืองและประโยชน์สุขของสังคมโดยส่วนรวม

ไม่ว่าจะเป็นการประกาศปลุกระดมให้คนเสื้อแดงเตรียมน้ำมันเชื้อเพลิงใส่ขวดมาร่วมชุมนุมเพื่อเตรียมพร้อมที่จะเผาศาลากลางจังหวัด หรือเผาบ้านเผาเมืองเพื่อขับไล่ฝ่ายอำมาตย์และรัฐบาล

ไม่ว่าจะเป็นการประกาศข่มขู่ว่าจะลอบสังหารผู้พิพากษา คตส. และป.ป.ช.รวมทั้งการปลุกระดมหลายต่อหลายครั้งในที่ชุมนุมคนเสื้อแดง ให้คนเสื้อแดงร่วมกันจัดการนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีกับองคมนตรีคนอื่นๆ อีก 4 คน อย่างแสดงความอาฆาตมาดร้ายโจ่งแจ้งกลางที่ชุมนุม

โดยเฉพาะการให้สัมภาษณ์สื่อและการปราศรัยบนเวทีของ เสธ.แดง (พลตรีขัตติยะ สวัสดิผล) ที่นับวันจะดุเดือดเลือดพล่านขึ้นทุกที โดยถึงขั้นจิกหัวด่า ผบ.ทบ.และให้ร้ายกองทัพอย่างสาดเสียเทเสีย รวมทั้งการกล่าววาจาก้าวร้าวก้าวล่วงให้ร้ายป้ายสีต่อสถาบันองคมนตรีและสถาบันศาลอย่างไม่ยำเกรง (รายละเอียดปรากฏหลักฐานชัดแจ้งในคลิปวิดีโอ การปราศรัยของนายอริสมันต์ และเสธ.แดงที่ดูและฟังได้โดยละเอียดทาง www.manager.co.th)

ผมเชื่อว่าประชาชนคนไทยส่วนใหญ่ที่รักชาติรักความเป็นธรรม และอยากเห็นบ้านเมืองเป็นปกติสุข คงรู้สึกอึดอัดขัดข้องใจเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ปล่อยปละละเลยให้กลุ่มคนเสื้อแดงกระทำการอุกอาจ ผิดทั้งต่อกฎหมายอาญาบ้านเมือง และผิดทั้งต่อศีลธรรม จารีตประเพณีของสังคมไทย โดยกลไกรัฐเหมือนง่อยเปลี้ยเสียศูนย์ หรือหมดสิ้นน้ำยาที่จะจัดการกับปัญหาป่วนบ้านป่วนเมืองของกลุ่มคนเหล่านั้นได้

ปล่อยให้มีการใช้เครื่องขยายเสียงประกาศข่มขู่ปองร้ายหมายเข่นฆ่าผู้คนกลางบ้านกลางเมือง ท่ามกลางเสียงโห่ร้องหนุนส่งของฝูงชนที่มาร่วมชุมนุม ซึ่งถือเป็นการกระทำผิดกฎหมายซึ่งหน้า ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถเข้าระงับจับกุมดำเนินคดีได้ แต่ก็หาได้มีการดำเนินการแต่อย่างใดไม่

ปล่อยให้นายทหารระดับนายพลที่ยังอยู่ในราชการตะโกนด่า ดูหมิ่นเหยียดหยามผู้บังคับบัญชา และให้ร้ายป้ายสีกองทัพอย่างเสียหายกลางที่ชุมนุมชน เป็นข่าวเผยแพร่ทั้งทางสื่อ วิทยุ โทรทัศน์ และหนังสือพิมพ์ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการกองทัพบก ทำได้แค่ให้สัมภาษณ์อย่างหน่อมแน้มว่า ทุกอย่างให้เป็นไปตามกฎหมาย จนทหารในกองทัพหลายส่วนเริ่มอดรนทนไม่ได้ต้องออกมาแสดงการตอบโต้แทน

ซึ่งก็กลับมีคำถามซื่อใสจากประชาชนต่อเหล่าทหารหาญของชาติว่า แล้วที่ผ่านมาหลายปี มีคนมุ่งร้ายกระทำการจาบจ้วงล่วงละเมิดจอมทัพไทยอย่างเป็นกระบวนการ เหตุใดทหารหาญของชาติจึงนิ่งเฉยเป็นทองไม่รู้ร้อน ไม่ยักจะมีทหารหาญกรมกองใดแสดงปฏิกิริยาปกป้องสถาบันตามคำสัตย์ปฏิญาณแต่อย่างใดเลย

มิหนำซ้ำ การแสดงพลังของทหารหลายกองพันครั้งนี้ก็กลับถูกเสธ.แดง ดูหมิ่นดูแคลนกลับ ว่าเป็นกองทัพแต๋วแตกที่ค่อยๆ ทยอยกันออกมาให้เป็นที่ขำขันเฮอาของกลุ่มคนเสื้อแดง ด้วยซ้ำไป

หรือว่าบัดนี้เมืองไทยเรากำลังอยู่ในยุคประชาธิปไตยที่บิดเบี้ยวพิกลพิการ ประชาธิปไตย ที่ไม่เคยมีใครใส่ใจถึงประโยชน์ของบ้านเมือง ประโยชน์ของประชาชนเป็นใหญ่ แต่เป็นประชาธิปไตยที่มีแต่คนเห็นแก่ตัว ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรัฐ ฝ่ายการเมือง หรือฝ่ายประชาชน และถ้ายังถูลู่ถูกังกันไปอยู่เยี่ยงนี้ สุดท้ายก็จะประสบความล่มจมฉิบหายหมดอย่างที่ท่านพุทธทาสภิกขุ กล่าวเตือนไว้อย่างแน่นอน

ผมขอส่งท้ายบทความอันน่าหดหู่นี้ ด้วยบทกลอนที่ ว.แหวนลงยา เขียนขึ้นด้วยความคับข้องใจต่อเหตุบ้านการเมืองที่เป็นอยู่ในขณะนี้ ครับ

กะโหลกกะลา       ที่แคบแค่        เห็นแก่ตัว
แบกโลภหลง        เมามัว            เต็มสองบ่า
จึงไร้สิ้น               นิติธรรม         ในรัฐสภา
มีแต่ศาสตร์          อวิชชา          อลัชชี
เอ็งยอมรับ           หรือไม่           เล่าไอ้ทิด
ว่าการเมือง          วิปริต             ผิดวิถี
เพราะพวกเอ็ง       เอาแต่ได้       ในทุกวิธี
เล่นการเมือง         กันแบบ    ศ  รี  ธ  น  ญ  ชั  ย  !


(อ่านบทกลอนฉบับเต็มได้ที่www.oknation.net/blog/wachira89)
กำลังโหลดความคิดเห็น