ASTVผู้จัดการรายวัน -“พาณิชย์” แฉต้นเหตุน้ำตาลทรายในประเทศส่อขาดแคลน หลังพบ อุตสาหกรรมกว้านซื้อน้ำตาลทรายโควตา ก. ใช้แทนโควตา ค. ชง กอน. ตัดโควตา ค. 3 ปี ถ้าใช้ไม่ครบ พร้อมขอน้ำตาลโควตาพิเศษแจกจ่ายตามจุดขาดแคลน
นางสาวชุติมา บุณยประภัศร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (กอน.) เมื่อเร็วๆ นี้ กรมการค้าภายในได้เสนอ 2 มาตรการแก้ปัญหาภาวะน้ำตาลทรายขาวในประเทศตึงตัว หลังพบว่าน้ำตาลทรายขาวโควตา ก (บริโภคภายในประเทศ) เริ่มหาซื้อได้ยาก เพราะผู้ใช้น้ำตาลทรายโควตา ค. (ใช้ในการผลิตเพื่อส่งออก) บางส่วนแย่งซื้อน้ำตาลโควตา ก. เพราะราคาถูกกว่ามาก จึงเสนอให้ กอน. ทบทวนการจัดสรรโควตา ค. ให้สอดคล้องกับปริมาณที่ใช้จริง ซึ่งหากผู้ได้รับจัดสรรใช้น้ำตาลไม่ถึง 70% ของโควตาที่ได้รับ จะขอให้ตัดลดโควตาปีต่อไปลงเท่ากับปริมาณการใช้จริง จนถึงตัดสิทธิการได้รับโควตา 3 ปี นอกจากนี้ ยังเสนอให้ กอน.แบ่งน้ำตาลทรายขาวโควตา ก.บางส่วนให้กรมการค้าภายในดูแล เพื่อนำไปจัดสรรให้พื้นที่ขาดแคลน
“สาเหตุที่น้ำตาลทรายขาวตึงตัว เพราะตอนนี้มีผู้ผลิตในภาคอุตสาหกรรม มากว้านซื้อน้ำตาลในประเทศไปใช้แทน แม้จะไม่ผิดกฎหมาย แต่ก็ทำให้ปริมาณในตลาดไม่สมดุล ดังนั้นต้องทบทวนโควตาใหม่ หากผู้ผลิตไม่ใช้ก็จะถูกตัด ผู้ผลิตต้องพิจารณาให้ดี เพราะต่อไปหากน้ำตาลตลาดโลกถูกกว่าราคาในประเทศ ก็จะต้องยอมซื้อแพงด้วย เพราะไม่มีโควตา ค.ให้ซื้อแล้ว โดยแนวทางเหล่านี้จะขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ กอน.ในครั้งต่อไป” นางสาวชุติมากล่าว
น.ส.ชุติมา กล่าวว่า จากการสำรวจปริมาณน้ำตาลที่ใช้ผลิตสินค้า กับปริมาณสินค้าที่ผลิตได้ ไม่สอดคล้องกัน โดยขณะนี้การขอใช้น้ำตาล โควตา ค.ลดลงไปถึง 40% ทั้งที่ภาคอุตสาหกรรมยังผลิตสินค้าเป็นปกติ อีกทั้งบางรายมีคำสั่งผลิตสินค้าเพิ่มขึ้นจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกด้วย สำหรับน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ที่ใช้บริโภคภายในครัวเรือน ได้ส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้ว พบว่าไม่มีการขาดแคลน และยังจำหน่ายตามราคาที่กำหนด กก.ละ 23.50 บาท แต่หากประชาชนพบเห็นร้านค้าจำหน่ายเกินราคา สามารถแจ้งได้ที่ สายด่วน 1569 มีโทษปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ
ผู้สื่อข่าวรายงานข่าวจากวงการผู้ใช้น้ำตาลว่า สาเหตุที่น้ำตาลทรายตึงตัว ยังมาจาก บริษัท อ้อยและน้ำตาลไทย จำกัด (อนท.) ได้ทำราคาขายน้ำตาลโควตา ค. ล่วงหน้าไว้แล้วส่วนหนึ่ง ทำให้ไม่สามารถนำน้ำตาลโควตา ค. มาเพิ่มให้โควตา ก. ได้ สำหรับปริมาณน้ำตาลทรายโควตา ก. ปี 53 อยู่ที่ 21 ล้านตัน โดยทยอยขึ้นงวดไปแล้ว 3 งวด งวดละ 450,000 ตัน รวม 1.3 ล้านตัน และยังมีน้ำตาลทรายที่ค้างกระดานอีก 600,000 ตัน รวมทั้งสิ้น 1.9 ล้านตัน แต่ช่วงครึ่งเดือนแรกของปีนี้เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีปริมาณขายน้ำตาลโควตา ก. เพิ่มขึ้น 17% หรือ 170,000 ขณะที่โควตา ค. มีปริมาณการขอใช้ลดลง 60,000 กว่ากระสอบ
นางสาวชุติมา บุณยประภัศร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (กอน.) เมื่อเร็วๆ นี้ กรมการค้าภายในได้เสนอ 2 มาตรการแก้ปัญหาภาวะน้ำตาลทรายขาวในประเทศตึงตัว หลังพบว่าน้ำตาลทรายขาวโควตา ก (บริโภคภายในประเทศ) เริ่มหาซื้อได้ยาก เพราะผู้ใช้น้ำตาลทรายโควตา ค. (ใช้ในการผลิตเพื่อส่งออก) บางส่วนแย่งซื้อน้ำตาลโควตา ก. เพราะราคาถูกกว่ามาก จึงเสนอให้ กอน. ทบทวนการจัดสรรโควตา ค. ให้สอดคล้องกับปริมาณที่ใช้จริง ซึ่งหากผู้ได้รับจัดสรรใช้น้ำตาลไม่ถึง 70% ของโควตาที่ได้รับ จะขอให้ตัดลดโควตาปีต่อไปลงเท่ากับปริมาณการใช้จริง จนถึงตัดสิทธิการได้รับโควตา 3 ปี นอกจากนี้ ยังเสนอให้ กอน.แบ่งน้ำตาลทรายขาวโควตา ก.บางส่วนให้กรมการค้าภายในดูแล เพื่อนำไปจัดสรรให้พื้นที่ขาดแคลน
“สาเหตุที่น้ำตาลทรายขาวตึงตัว เพราะตอนนี้มีผู้ผลิตในภาคอุตสาหกรรม มากว้านซื้อน้ำตาลในประเทศไปใช้แทน แม้จะไม่ผิดกฎหมาย แต่ก็ทำให้ปริมาณในตลาดไม่สมดุล ดังนั้นต้องทบทวนโควตาใหม่ หากผู้ผลิตไม่ใช้ก็จะถูกตัด ผู้ผลิตต้องพิจารณาให้ดี เพราะต่อไปหากน้ำตาลตลาดโลกถูกกว่าราคาในประเทศ ก็จะต้องยอมซื้อแพงด้วย เพราะไม่มีโควตา ค.ให้ซื้อแล้ว โดยแนวทางเหล่านี้จะขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ กอน.ในครั้งต่อไป” นางสาวชุติมากล่าว
น.ส.ชุติมา กล่าวว่า จากการสำรวจปริมาณน้ำตาลที่ใช้ผลิตสินค้า กับปริมาณสินค้าที่ผลิตได้ ไม่สอดคล้องกัน โดยขณะนี้การขอใช้น้ำตาล โควตา ค.ลดลงไปถึง 40% ทั้งที่ภาคอุตสาหกรรมยังผลิตสินค้าเป็นปกติ อีกทั้งบางรายมีคำสั่งผลิตสินค้าเพิ่มขึ้นจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกด้วย สำหรับน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ที่ใช้บริโภคภายในครัวเรือน ได้ส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้ว พบว่าไม่มีการขาดแคลน และยังจำหน่ายตามราคาที่กำหนด กก.ละ 23.50 บาท แต่หากประชาชนพบเห็นร้านค้าจำหน่ายเกินราคา สามารถแจ้งได้ที่ สายด่วน 1569 มีโทษปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ
ผู้สื่อข่าวรายงานข่าวจากวงการผู้ใช้น้ำตาลว่า สาเหตุที่น้ำตาลทรายตึงตัว ยังมาจาก บริษัท อ้อยและน้ำตาลไทย จำกัด (อนท.) ได้ทำราคาขายน้ำตาลโควตา ค. ล่วงหน้าไว้แล้วส่วนหนึ่ง ทำให้ไม่สามารถนำน้ำตาลโควตา ค. มาเพิ่มให้โควตา ก. ได้ สำหรับปริมาณน้ำตาลทรายโควตา ก. ปี 53 อยู่ที่ 21 ล้านตัน โดยทยอยขึ้นงวดไปแล้ว 3 งวด งวดละ 450,000 ตัน รวม 1.3 ล้านตัน และยังมีน้ำตาลทรายที่ค้างกระดานอีก 600,000 ตัน รวมทั้งสิ้น 1.9 ล้านตัน แต่ช่วงครึ่งเดือนแรกของปีนี้เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีปริมาณขายน้ำตาลโควตา ก. เพิ่มขึ้น 17% หรือ 170,000 ขณะที่โควตา ค. มีปริมาณการขอใช้ลดลง 60,000 กว่ากระสอบ
