ASTVผู้จัดการรายวัน/ภูมิภาค -“เสธ.แดง” มอบตัวกองปราบฯโบ้ยสื่อเสี้ยมจนทำให้ ผบ.ทบ.เข้าใจผิดสั่งพักราชการ เพี้ยนหนักทะเลาะ ผบ.ทบ.ทำเพื่อชาติ แจ้งความกลับ ผบ.ทบ. รมต.กลาโหม และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ด้าน “พล.อ.พัลลภ” ยกหาง เสธ.แดง ยันไม่ได้กระทำผิด ลูกน้องเดือดร้อน พี่ต้องช่วย ทหารหาญ 3 จชต.นับ 1,000 นายตบเท้าปฏิญาณตนปกป้องกองทัพ หลังมอบตัว "เสธ.แดง" เหินฟ้าหาพ่อแม้วที่ดูไบ
วานนี้(1 ก.พ.)ที่กองปราบปราม เวลา 11.30 น.พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก พร้อมด้วย พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส.พรรคเพื่อไทย จ.นครราชสีมา นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้อีสาน แกนนำ นปช.พร้อมด้วยกลุ่มคนเสื้อแดง จำนวนกว่า 500 คน เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต รอง ผบก.ป. เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา “ร่วมกันมีและครอบครองอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกให้ได้ ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย” หลังเจ้าหน้าที่ยึดอาวุธสงครามในบ้านพักและลูกน้องคนสนิท ที่บ้านพักภายในค่าย ม.พัน 4 รอ. และ ม.พัน 3 รอ.ได้เป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งได้จับกุมตัว จ.ส.อ.ณัฏฐ์สิทธิ์ สุวรรณราช ผบ.หมู่ยานเกราะ อดีตคนขับรถ พลทหารมนัสชัย คำพร สังกัดกองพันบริการและกองบริการศูนย์การทหารม้า และนายเอกลักษณ์ วิเศษวงษา อายุ 24 ปี คนเฝ้าบ้านของ เสธ.แดง ดำเนินคดี
พล.ต.ขัตติยะ กล่าวว่า เรื่องที่ตนถูกสั่งพักราชการเนื่องจากว่าก่อนวันที่ 10 ธันวาคม 2552 ประมาณ 2 เดือน พล.อ.พัลลภ ได้เรียกตนไปพบ เนื่องจากมีกลุ่มทหารพรานออกมาร่วมชุมนุมกับคนเสื้อแดงพร้อมทั้งสั่งให้ห้ามปรามไม่ให้กำลังทหารพรานกลุ่มนี้ไปปะทะกับทหารกำลังหลัก แต่ปรากฏว่ามีสื่อบางกลุ่มที่ออกมาเสี้ยม จนทำให้ ผบ.ทบ.เข้าใจผิดสั่งพักราชการตน จนมาวันที่ 14 ม.ค.เหตุก็เริ่มคุกรุ่น เมื่อมีการยิงระเบิดเข้าไปใน บก.ทบ. ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สมัยรัชการที่ 5 ที่ได้ตั้งกองทัพบกขึ้นมา จนวันที่ 19 ม.ค.เรื่องมาแดงก็เพราะว่ามีการเรียกทหารให้ไปโบกปูนซ่อมร่องรอยที่ถูกลูกระเบิดยิง จนสื่อไปทราบเรื่อง ต่อมาในวันที่ 21 ม.ค.จึงมีการเข้าตรวจค้นบ้านพักของตน และเป็นครั้งแรกที่มีการตรวจค้นแบบไม่มีหมาย เรื่องที่ตนทะเลาะกับ ผบ.ทบ.ถือเป็นเรื่องที่ทะเลาะกันเพื่อชาติ เนื่องจากมีการทำให้เสียดินแดนในพื้นที่กรณีข้อพิพาทเรื่องเขาวิหาร ที่ทำให้เราต้องเสียดินแดนไปอีกเป็นครั้งที่ 15 จนกระทั่งมีทหารตุ๊ดออกมาร่วมทะเลาะกับตน ก็ถือว่าเป็นการเอาใจนายที่มากันทั้งก๊วนกอล์ฟ ถามว่ามึงแต่ละคนเคยมีประวัติร่วมรบบ้างหรือไม่ เคยปะทะข้าศึกหรือไม่ เคยถูก ปตอ.ยิงหรือเปล่า แต่ละคนตีกอล์ฟเก่ง ที่ขึ้นกันมาทั้งก๊วน เคยเห็นข่าวหนังสือพิมพ์ ไม่เคยเห็นมีกระติกน้ำ ไม่รู้ว่าเป็นนักรบชนิดไหน แถมยังพาพลทหารมาเดินขบวน จึงเป็นเรื่องสิ่งผิดปกติ
**แจ้งความกลับ"อนุพงศ์-ประวิตร"
พล.ต.ขัตติยะ กล่าวต่อว่า ตนมามอบตัวเนื่องจากถือว่าการจับกุมครั้งนี้เป็นการกระทำที่ไม่ชอบหลายอย่าง เมื่อคดีเข้าสู่กระบวนการจึงเชื่อว่าน่าจะชนะ นอกจากนี้จะขอแจ้งความกลับเพื่อให้ดำเนินคดีต่อ ผบ.ทบ. รมต.กลาโหม และ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมด้วย โดยมีนายมานิตย์ จิตต์จันทร์กลับ อดีตผู้พิพากษาศาลอาญา เป็นหัวหน้าคณะทำงาน เพื่อแจ้งจับให้ดำเนินคดีข้อหาเป็นกบฏต่อราชอาณาจักร ตามมาตรา 113 เพราะกฎหมายที่ไม่ได้มีการเขียนโดยผ่านรัฐสภา ก็ถือว่าเป็นกฎหมายโจร ดังนั้น รัฐธรรมนูญ ปี 50 คือรัฐธรรมนูญโจร ถึงจะเขียนมาตรา 39 ที่เกี่ยวกับการนิรโทษกรรมขึ้นมาก็ตาม คำสั่งพักราชการของ รมต.กลาโหมที่สั่งพักราชการตน จึงถือว่าเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบธรรม เพราะคณะรัฐบาลชุดนี้ได้มาอย่างไม่ถูกต้อง เมื่อ รมต. จะกระทำอะไรลงไป ย่อมเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องเหมือนกัน
**"พัลลภ"ป้องเสธ.แดงไม่ผิด**
ด้าน พล.อ.พัลลภ ได้กล่าวกับบรรดากลุ่มคนเสื้อแดงที่หน้าอาคารผู้บังคับบัญชา กองปราบปรามว่า ขอขอบคุณทุกคนที่มาร่วมให้กำลังใจ เสธ.แดง ที่ตนเดินทางมาด้วย ก็เพราะเป็นอดีตผู้บังคับบัญชาของ เสธ.แดง เป็นนายทหารรุ่นพี่ เมื่อน้องเดือดร้อนก็ต้องมา ซึ่งตนมีส่วนสำคัญที่ทำให้เสธ.แดงเดือดร้อน คงจำกันได้ว่าเมื่อวันที่ 10 ธ.ค.2552 มีการชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ก็มีทหารพรานค่ายปักธงชัย มาร่วมชุมนุมด้วยจำนวนมาก ตนกลัวว่าอาจมีการปะทะกันระหว่างทหารพรานของเสื้อแดงกับทหารหลัก จึงเรียกเสธ.แดงออกมาพบ เพื่อให้ช่วยไปดู เพราะไม่อยากให้เกิดการปะทะ ไม่อยากเห็นคนไทยฆ่ากันเอง
พล.อ.พัลลภ กล่าวต่อว่า จากเหตุนี้เองจึงเป็นข้ออ้างข้อหนึ่งที่ทำให้ เสธ.แดงต้องถูกสั่งพักราชการ ก็อยากฝากไปยังทหารที่ตบเท้ามาต่อต้าน เสธ.แดง ว่าการเข้าให้กำลังใจ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.แบบนี้เป็นการธำรงเกียรติ หรือทำลายเกียรติ เมื่อ เสธ.แดง ถูกสอบวินัยฐานดูถูกผู้บังคับบัญชา ก็ต้องเป็นไปตามระเบียบของกองทัพ เมื่อสั่งพักราชการไปแล้วจะเอาอะไรกันอีก การลงโทษพักราชการสำหรับนายทหารชั้นนายพลนั้นถือเป็นเรื่องใหญ่ ตามธรรมเนียมของผู้บังคับบัญชาความผิดครั้งเดียวก็ต้องมีการลงโทษครั้งเดียว
“การที่ทหารตบเท้าออกมาประท้วง เสธ.แดง แสดงว่าไม่ให้ความเคารพ ผบ.ทบ.ที่สั่งลงโทษ เสธ.แดง ไปแล้ว แถมบางหน่วยยังประกาศห้าม เสธ.แดง เข้าเขตทหารด้วย อยากถามว่าเอาสมองส่วนไหนคิด การที่ท่านห้าม เสธ.แแดง ไม่ให้เข้าเขตทหารที่ท่านรับผิดชอบ ตนยอมรับได้ แต่ในจังหวัดนั้นๆ เสธ.แดง มีสิทธิ์จะไปไหนก็ได้ การประกาศเช่นนี้ถือว่าทำตัวเหนือกฎหมาย ขอฝากไปยังน้องๆ ที่เป็นผู้พันผู้การในขณะนี้ที่เคยเป็นลูกศิษย์ของตน ไม่เคยสอนให้ทำอย่างนี้ เมื่อทำผิดก็ให้อภัยกันได้ในฐานะรุ่นพี่ ถ้ารู้แล้วก็กลับตัวเสียใหม่ได้” พล.อ.พัลลภ กล่าว
ต่อมา พล.ต.ขัตติยะ จึงเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อเข้าให้ปากคำ ซึ่งหลังจากการสอบสวนก็คงจะมีการปล่อยตัวผู้ถูกกล่าวออกไป เนื่องจากเข้าพบพนักงานสอบสวนเอง เมื่อมีสำนวนการสอบสวนเสร็จแล้วก็จะได้เรียก พล.ต.ขัตติยะ นำตัวส่งตัวฟ้องต่ออัยการ
ภายหลังที่ พล.ต.ขัตติยะ ผ่านขั้นตอนการสอบสวน และพิมพ์ลายนิ้วมือลายแล้วก็ได้เดินออกจากห้องสอบสวนด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแล้วออกมาพูดกับกลุ่มเสื้อแดงที่บริเวณหน้าอาคารผบก.ป.ว่าในการสอบสวนก็ไม่มีปัญหาอะไร มาเพียงรับทราบข้อกล่าวหาและให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา จากนี้ไปรัฐบาลต้องยุบสภาเพื่อให้เกิดการเลือกตั้งใหม่เป็นประเทศที่มีประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์ขอบคุณพี่น้องทุกคนที่มาให้กำลังใจจากนั้นกลุ่มเสื้อแดงก็สลายตัวกลับไป
***เหินฟ้าหาพ่อแม้วที่ดูไบ
ผู้สื่อข่าวรายงานในช่วงเย็นวานนี้ เวลาประมาณ 17.30 น. พล.อ.พัลลภ, พล.ต.ขัตติยะ พ.ต.ท.สมชาย นายอริสมันต์ นายสุภรณ์พร้อมด้วยแกนนำบางส่วนจะได้เดินทางไปเยี่ยมพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่นครดูไบ สหรัฐอาหรับอเมิเรสต์ โดยเที่ยวบินทีจี 517 โดยจะออกจากสนามบินสุวรรรภูมิเวลา 17.30 น.และถึงดูไบเวลาประมาณ 21.40 น.
***ทหารจชต.ตบเท้าป้องเกียรติกองทัพ
เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี พล.ต.ชาญประดิษฐ์ แสงนิล ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกปัตตานี ได้เป็นประธานกล่าวคำปฏิญาณตนเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาที่มีวินัยของกองทัพและ พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก โดยมีกองกำลังจากทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ และทหารพราน ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี เข้าร่วมพิธีกว่า 1,000 นาย โดยมีการนำป้ายข้อความที่ระบุถึงความจงรัก ภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และกองทัพ
พล.ต.ชาญประดิษฐ์ กล่าวว่า หลังจากเกิดสถานการณ์ของความคิดที่แตกต่างของทหารบางกลุ่มบางนายในกองทัพ ทำให้กองทัพต้องได้รับความเสื่อมเสียเกียรติภูมิและอาจก่อให้เกิดการแตกแยกความสามัคคีในหมู่ทหาร ซึ่งเป็นแบบอย่างที่ไม่สมควรยิ่งของทหารในกองทัพ ซึ่งทหารแห่งกองทัพไทยมีความภูมิใจในเครื่องแบบและเกียรติ ทหารทุกนายขอเป็นกำลังใจให้กับผู้บัญชาการทหารบกและผู้บัญชาการทหารในทุกระดับในอันที่จะต่อสู้และยืนหยัดในการปกป้องเกียรติภูมิของทหาร
พร้อมกันนี้ทหารหาญหลายนายที่ร่วมพิธียังระบุถึงพฤติกรรมของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ที่ไม่เหมาะสมไม่ควรเอาแบบอย่าง ซึ่งไม่เคยมีในกองทัพไทย จึงไม่อยากให้ เสธ.แดง เข้ามาปรากฏตัวในพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
**มทบ.23 สั่งกำลังพลโชว์พลังป้องกองทัพ
ด้าน พล.ต.สมชาย อัครวนิชชา ผบ.มทบ.23 ได้นำเหล่าทหารมณฑลทหารบกที่ 23 กรมทหารม้าที่ 6 กองพันทหารม้าที่ 6 กองพันทหารม้าที่ 14 และค่าย ร.8 เข้าแถวกล่าวปฏิญาณตนบริเวณหน้าพระราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินินาถ ค่ายศรีพัชรินทร์ จ.ขอนแก่น เพื่อแสดงพลังปกป้องสถาบันทหารเช่นกัน
**มณฑลหทารบกที่ 12 ค่ายจักรพงษ์
เคลื่อนไหวปกป้องสถาบันระลอกที่ 2
เช่นเดียวกับที่หน้าอนุสาวรีย์ จอมพลสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนารถกรมหลวงพิษณุโลกประชานารถ ตรงข้ามกองบัญชาการมณฑลทหารบกที่ 12 ค่ายจักรพงษ์ ต.ดงพระราม อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี พล.ต.สุรพันธ์ พวงเพ็ชร ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 12 เป็นประธานนำกำลังพลและครอบครัวกว่า 1,000 คน ร่วมถวายสัตย์ปฏิญาณตนเป็นข่าราชการที่ดีและร่วมกิจกรรม การปกป้องสถาบันทหาร
โดย พล.ต.สุรพันธ์ เป็นตัวแทนถวายสักการพระอนุสาวรีย์ จอมพลสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนารถกรมหลวงพิษณุโลกประชานารถ ผู้ก่อตั้งค่ายจักรพงษ์ ซึ่งเป็นค่ายทหารแบบยุโรปแห่งแรกในประเทศไทย จากนั้นได้นำกำลังกล่าวปฏิญาณตนเป็นทหารที่ดี มีวินัย เชื่อฟังผู้บังคับบัญชา ฯลฯ
นอกจากนี้ ในวันที่ 9 ก.พ.ทางมณฑลทหารบกที่ 12 จะจัด เสวนาเรื่องความรักชาติ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายกองทัพบกให้รักชาติสามัคคีความร่วมมือให้กำลังพลเข้าใจถึงความสามัคคี โดยจะมีหน่วงงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมด้วยจำนวนมาก โดยเฉพาะชุมชนต่าง ๆ ของ จ.ปราจีนบุรี
**จทบ.พะเยานำกำลังพลแสดงจุดยืนยึดมั่นระเบียบวินัย
เช่นเดียวกับที่บริเวณสนามหน้า พระราชานุสาวรีย์พ่อขุนเจืองธรรมิกราช ค่ายขุนเจืองธรรมิกราช จ.พะเยา พล.ต.ประตินันท์ สายหัสดี ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกพะเยา นำกำลังพลของหน่วยทหารในพื้นที่ จ.พะเยากว่า 1,000 นาย เข้าร่วมแสดงพลังในการร่วมปกป้องสถาบันทหารในพิธีแสดงตนเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาที่ดี ซึ่งบรรดาเหล่าทหารหาญที่เข้าร่วมต่างแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันหลักของชาติและแสดงเจตนารมณ์ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของทหารที่ไม่เคารพรวมทั้งไม่ปฏิบัติตามแบบธรรมเนียมของทหาร ที่จะส่งผลให้กองทัพเสื่อมเสียชื่อเสียงตลอดจนเกิดการแตกความสามัคคีในหมู่คณะ
**ทหารสกลนคร2พันนายร่วมพลังใจให้ ผบ.ทบ
ส่วนที่ จ.สกลนคร พล.ต.ณรงค์ดิศ สีทาแก ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกสกลนคร เป็นประธานกิจกรรมรวมพลังปฏิญาณตนเป็นทหารของชาติ มอบหนังสือให้กำลังใจต่อผู้บังคับบัญชาและร้องเพลงปลุกใจ โดยมีข้าราชการทหารจากจังหวัดทหารบกสกลนคร กรมทหาราบที่ 3 กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 3 กองร้อยรบพิเศษที่ 2 และหมวดซ่อมบำรุงส่วนหน้าที่ 1 กองพลทหารราบที่ 3 จำนวน 2,000 นาย ร่วมกิจกรรม เพื่อร่วมกันแสดงพลังในการร่วมกันปกป้องสถานบันทหาร
วานนี้(1 ก.พ.)ที่กองปราบปราม เวลา 11.30 น.พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก พร้อมด้วย พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส.พรรคเพื่อไทย จ.นครราชสีมา นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้อีสาน แกนนำ นปช.พร้อมด้วยกลุ่มคนเสื้อแดง จำนวนกว่า 500 คน เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต รอง ผบก.ป. เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา “ร่วมกันมีและครอบครองอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกให้ได้ ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย” หลังเจ้าหน้าที่ยึดอาวุธสงครามในบ้านพักและลูกน้องคนสนิท ที่บ้านพักภายในค่าย ม.พัน 4 รอ. และ ม.พัน 3 รอ.ได้เป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งได้จับกุมตัว จ.ส.อ.ณัฏฐ์สิทธิ์ สุวรรณราช ผบ.หมู่ยานเกราะ อดีตคนขับรถ พลทหารมนัสชัย คำพร สังกัดกองพันบริการและกองบริการศูนย์การทหารม้า และนายเอกลักษณ์ วิเศษวงษา อายุ 24 ปี คนเฝ้าบ้านของ เสธ.แดง ดำเนินคดี
พล.ต.ขัตติยะ กล่าวว่า เรื่องที่ตนถูกสั่งพักราชการเนื่องจากว่าก่อนวันที่ 10 ธันวาคม 2552 ประมาณ 2 เดือน พล.อ.พัลลภ ได้เรียกตนไปพบ เนื่องจากมีกลุ่มทหารพรานออกมาร่วมชุมนุมกับคนเสื้อแดงพร้อมทั้งสั่งให้ห้ามปรามไม่ให้กำลังทหารพรานกลุ่มนี้ไปปะทะกับทหารกำลังหลัก แต่ปรากฏว่ามีสื่อบางกลุ่มที่ออกมาเสี้ยม จนทำให้ ผบ.ทบ.เข้าใจผิดสั่งพักราชการตน จนมาวันที่ 14 ม.ค.เหตุก็เริ่มคุกรุ่น เมื่อมีการยิงระเบิดเข้าไปใน บก.ทบ. ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สมัยรัชการที่ 5 ที่ได้ตั้งกองทัพบกขึ้นมา จนวันที่ 19 ม.ค.เรื่องมาแดงก็เพราะว่ามีการเรียกทหารให้ไปโบกปูนซ่อมร่องรอยที่ถูกลูกระเบิดยิง จนสื่อไปทราบเรื่อง ต่อมาในวันที่ 21 ม.ค.จึงมีการเข้าตรวจค้นบ้านพักของตน และเป็นครั้งแรกที่มีการตรวจค้นแบบไม่มีหมาย เรื่องที่ตนทะเลาะกับ ผบ.ทบ.ถือเป็นเรื่องที่ทะเลาะกันเพื่อชาติ เนื่องจากมีการทำให้เสียดินแดนในพื้นที่กรณีข้อพิพาทเรื่องเขาวิหาร ที่ทำให้เราต้องเสียดินแดนไปอีกเป็นครั้งที่ 15 จนกระทั่งมีทหารตุ๊ดออกมาร่วมทะเลาะกับตน ก็ถือว่าเป็นการเอาใจนายที่มากันทั้งก๊วนกอล์ฟ ถามว่ามึงแต่ละคนเคยมีประวัติร่วมรบบ้างหรือไม่ เคยปะทะข้าศึกหรือไม่ เคยถูก ปตอ.ยิงหรือเปล่า แต่ละคนตีกอล์ฟเก่ง ที่ขึ้นกันมาทั้งก๊วน เคยเห็นข่าวหนังสือพิมพ์ ไม่เคยเห็นมีกระติกน้ำ ไม่รู้ว่าเป็นนักรบชนิดไหน แถมยังพาพลทหารมาเดินขบวน จึงเป็นเรื่องสิ่งผิดปกติ
**แจ้งความกลับ"อนุพงศ์-ประวิตร"
พล.ต.ขัตติยะ กล่าวต่อว่า ตนมามอบตัวเนื่องจากถือว่าการจับกุมครั้งนี้เป็นการกระทำที่ไม่ชอบหลายอย่าง เมื่อคดีเข้าสู่กระบวนการจึงเชื่อว่าน่าจะชนะ นอกจากนี้จะขอแจ้งความกลับเพื่อให้ดำเนินคดีต่อ ผบ.ทบ. รมต.กลาโหม และ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมด้วย โดยมีนายมานิตย์ จิตต์จันทร์กลับ อดีตผู้พิพากษาศาลอาญา เป็นหัวหน้าคณะทำงาน เพื่อแจ้งจับให้ดำเนินคดีข้อหาเป็นกบฏต่อราชอาณาจักร ตามมาตรา 113 เพราะกฎหมายที่ไม่ได้มีการเขียนโดยผ่านรัฐสภา ก็ถือว่าเป็นกฎหมายโจร ดังนั้น รัฐธรรมนูญ ปี 50 คือรัฐธรรมนูญโจร ถึงจะเขียนมาตรา 39 ที่เกี่ยวกับการนิรโทษกรรมขึ้นมาก็ตาม คำสั่งพักราชการของ รมต.กลาโหมที่สั่งพักราชการตน จึงถือว่าเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบธรรม เพราะคณะรัฐบาลชุดนี้ได้มาอย่างไม่ถูกต้อง เมื่อ รมต. จะกระทำอะไรลงไป ย่อมเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องเหมือนกัน
**"พัลลภ"ป้องเสธ.แดงไม่ผิด**
ด้าน พล.อ.พัลลภ ได้กล่าวกับบรรดากลุ่มคนเสื้อแดงที่หน้าอาคารผู้บังคับบัญชา กองปราบปรามว่า ขอขอบคุณทุกคนที่มาร่วมให้กำลังใจ เสธ.แดง ที่ตนเดินทางมาด้วย ก็เพราะเป็นอดีตผู้บังคับบัญชาของ เสธ.แดง เป็นนายทหารรุ่นพี่ เมื่อน้องเดือดร้อนก็ต้องมา ซึ่งตนมีส่วนสำคัญที่ทำให้เสธ.แดงเดือดร้อน คงจำกันได้ว่าเมื่อวันที่ 10 ธ.ค.2552 มีการชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ก็มีทหารพรานค่ายปักธงชัย มาร่วมชุมนุมด้วยจำนวนมาก ตนกลัวว่าอาจมีการปะทะกันระหว่างทหารพรานของเสื้อแดงกับทหารหลัก จึงเรียกเสธ.แดงออกมาพบ เพื่อให้ช่วยไปดู เพราะไม่อยากให้เกิดการปะทะ ไม่อยากเห็นคนไทยฆ่ากันเอง
พล.อ.พัลลภ กล่าวต่อว่า จากเหตุนี้เองจึงเป็นข้ออ้างข้อหนึ่งที่ทำให้ เสธ.แดงต้องถูกสั่งพักราชการ ก็อยากฝากไปยังทหารที่ตบเท้ามาต่อต้าน เสธ.แดง ว่าการเข้าให้กำลังใจ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.แบบนี้เป็นการธำรงเกียรติ หรือทำลายเกียรติ เมื่อ เสธ.แดง ถูกสอบวินัยฐานดูถูกผู้บังคับบัญชา ก็ต้องเป็นไปตามระเบียบของกองทัพ เมื่อสั่งพักราชการไปแล้วจะเอาอะไรกันอีก การลงโทษพักราชการสำหรับนายทหารชั้นนายพลนั้นถือเป็นเรื่องใหญ่ ตามธรรมเนียมของผู้บังคับบัญชาความผิดครั้งเดียวก็ต้องมีการลงโทษครั้งเดียว
“การที่ทหารตบเท้าออกมาประท้วง เสธ.แดง แสดงว่าไม่ให้ความเคารพ ผบ.ทบ.ที่สั่งลงโทษ เสธ.แดง ไปแล้ว แถมบางหน่วยยังประกาศห้าม เสธ.แดง เข้าเขตทหารด้วย อยากถามว่าเอาสมองส่วนไหนคิด การที่ท่านห้าม เสธ.แแดง ไม่ให้เข้าเขตทหารที่ท่านรับผิดชอบ ตนยอมรับได้ แต่ในจังหวัดนั้นๆ เสธ.แดง มีสิทธิ์จะไปไหนก็ได้ การประกาศเช่นนี้ถือว่าทำตัวเหนือกฎหมาย ขอฝากไปยังน้องๆ ที่เป็นผู้พันผู้การในขณะนี้ที่เคยเป็นลูกศิษย์ของตน ไม่เคยสอนให้ทำอย่างนี้ เมื่อทำผิดก็ให้อภัยกันได้ในฐานะรุ่นพี่ ถ้ารู้แล้วก็กลับตัวเสียใหม่ได้” พล.อ.พัลลภ กล่าว
ต่อมา พล.ต.ขัตติยะ จึงเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อเข้าให้ปากคำ ซึ่งหลังจากการสอบสวนก็คงจะมีการปล่อยตัวผู้ถูกกล่าวออกไป เนื่องจากเข้าพบพนักงานสอบสวนเอง เมื่อมีสำนวนการสอบสวนเสร็จแล้วก็จะได้เรียก พล.ต.ขัตติยะ นำตัวส่งตัวฟ้องต่ออัยการ
ภายหลังที่ พล.ต.ขัตติยะ ผ่านขั้นตอนการสอบสวน และพิมพ์ลายนิ้วมือลายแล้วก็ได้เดินออกจากห้องสอบสวนด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแล้วออกมาพูดกับกลุ่มเสื้อแดงที่บริเวณหน้าอาคารผบก.ป.ว่าในการสอบสวนก็ไม่มีปัญหาอะไร มาเพียงรับทราบข้อกล่าวหาและให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา จากนี้ไปรัฐบาลต้องยุบสภาเพื่อให้เกิดการเลือกตั้งใหม่เป็นประเทศที่มีประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์ขอบคุณพี่น้องทุกคนที่มาให้กำลังใจจากนั้นกลุ่มเสื้อแดงก็สลายตัวกลับไป
***เหินฟ้าหาพ่อแม้วที่ดูไบ
ผู้สื่อข่าวรายงานในช่วงเย็นวานนี้ เวลาประมาณ 17.30 น. พล.อ.พัลลภ, พล.ต.ขัตติยะ พ.ต.ท.สมชาย นายอริสมันต์ นายสุภรณ์พร้อมด้วยแกนนำบางส่วนจะได้เดินทางไปเยี่ยมพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่นครดูไบ สหรัฐอาหรับอเมิเรสต์ โดยเที่ยวบินทีจี 517 โดยจะออกจากสนามบินสุวรรรภูมิเวลา 17.30 น.และถึงดูไบเวลาประมาณ 21.40 น.
***ทหารจชต.ตบเท้าป้องเกียรติกองทัพ
เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี พล.ต.ชาญประดิษฐ์ แสงนิล ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกปัตตานี ได้เป็นประธานกล่าวคำปฏิญาณตนเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาที่มีวินัยของกองทัพและ พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก โดยมีกองกำลังจากทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ และทหารพราน ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี เข้าร่วมพิธีกว่า 1,000 นาย โดยมีการนำป้ายข้อความที่ระบุถึงความจงรัก ภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และกองทัพ
พล.ต.ชาญประดิษฐ์ กล่าวว่า หลังจากเกิดสถานการณ์ของความคิดที่แตกต่างของทหารบางกลุ่มบางนายในกองทัพ ทำให้กองทัพต้องได้รับความเสื่อมเสียเกียรติภูมิและอาจก่อให้เกิดการแตกแยกความสามัคคีในหมู่ทหาร ซึ่งเป็นแบบอย่างที่ไม่สมควรยิ่งของทหารในกองทัพ ซึ่งทหารแห่งกองทัพไทยมีความภูมิใจในเครื่องแบบและเกียรติ ทหารทุกนายขอเป็นกำลังใจให้กับผู้บัญชาการทหารบกและผู้บัญชาการทหารในทุกระดับในอันที่จะต่อสู้และยืนหยัดในการปกป้องเกียรติภูมิของทหาร
พร้อมกันนี้ทหารหาญหลายนายที่ร่วมพิธียังระบุถึงพฤติกรรมของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ที่ไม่เหมาะสมไม่ควรเอาแบบอย่าง ซึ่งไม่เคยมีในกองทัพไทย จึงไม่อยากให้ เสธ.แดง เข้ามาปรากฏตัวในพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
**มทบ.23 สั่งกำลังพลโชว์พลังป้องกองทัพ
ด้าน พล.ต.สมชาย อัครวนิชชา ผบ.มทบ.23 ได้นำเหล่าทหารมณฑลทหารบกที่ 23 กรมทหารม้าที่ 6 กองพันทหารม้าที่ 6 กองพันทหารม้าที่ 14 และค่าย ร.8 เข้าแถวกล่าวปฏิญาณตนบริเวณหน้าพระราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินินาถ ค่ายศรีพัชรินทร์ จ.ขอนแก่น เพื่อแสดงพลังปกป้องสถาบันทหารเช่นกัน
**มณฑลหทารบกที่ 12 ค่ายจักรพงษ์
เคลื่อนไหวปกป้องสถาบันระลอกที่ 2
เช่นเดียวกับที่หน้าอนุสาวรีย์ จอมพลสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนารถกรมหลวงพิษณุโลกประชานารถ ตรงข้ามกองบัญชาการมณฑลทหารบกที่ 12 ค่ายจักรพงษ์ ต.ดงพระราม อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี พล.ต.สุรพันธ์ พวงเพ็ชร ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 12 เป็นประธานนำกำลังพลและครอบครัวกว่า 1,000 คน ร่วมถวายสัตย์ปฏิญาณตนเป็นข่าราชการที่ดีและร่วมกิจกรรม การปกป้องสถาบันทหาร
โดย พล.ต.สุรพันธ์ เป็นตัวแทนถวายสักการพระอนุสาวรีย์ จอมพลสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนารถกรมหลวงพิษณุโลกประชานารถ ผู้ก่อตั้งค่ายจักรพงษ์ ซึ่งเป็นค่ายทหารแบบยุโรปแห่งแรกในประเทศไทย จากนั้นได้นำกำลังกล่าวปฏิญาณตนเป็นทหารที่ดี มีวินัย เชื่อฟังผู้บังคับบัญชา ฯลฯ
นอกจากนี้ ในวันที่ 9 ก.พ.ทางมณฑลทหารบกที่ 12 จะจัด เสวนาเรื่องความรักชาติ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายกองทัพบกให้รักชาติสามัคคีความร่วมมือให้กำลังพลเข้าใจถึงความสามัคคี โดยจะมีหน่วงงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมด้วยจำนวนมาก โดยเฉพาะชุมชนต่าง ๆ ของ จ.ปราจีนบุรี
**จทบ.พะเยานำกำลังพลแสดงจุดยืนยึดมั่นระเบียบวินัย
เช่นเดียวกับที่บริเวณสนามหน้า พระราชานุสาวรีย์พ่อขุนเจืองธรรมิกราช ค่ายขุนเจืองธรรมิกราช จ.พะเยา พล.ต.ประตินันท์ สายหัสดี ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกพะเยา นำกำลังพลของหน่วยทหารในพื้นที่ จ.พะเยากว่า 1,000 นาย เข้าร่วมแสดงพลังในการร่วมปกป้องสถาบันทหารในพิธีแสดงตนเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาที่ดี ซึ่งบรรดาเหล่าทหารหาญที่เข้าร่วมต่างแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันหลักของชาติและแสดงเจตนารมณ์ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของทหารที่ไม่เคารพรวมทั้งไม่ปฏิบัติตามแบบธรรมเนียมของทหาร ที่จะส่งผลให้กองทัพเสื่อมเสียชื่อเสียงตลอดจนเกิดการแตกความสามัคคีในหมู่คณะ
**ทหารสกลนคร2พันนายร่วมพลังใจให้ ผบ.ทบ
ส่วนที่ จ.สกลนคร พล.ต.ณรงค์ดิศ สีทาแก ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกสกลนคร เป็นประธานกิจกรรมรวมพลังปฏิญาณตนเป็นทหารของชาติ มอบหนังสือให้กำลังใจต่อผู้บังคับบัญชาและร้องเพลงปลุกใจ โดยมีข้าราชการทหารจากจังหวัดทหารบกสกลนคร กรมทหาราบที่ 3 กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 3 กองร้อยรบพิเศษที่ 2 และหมวดซ่อมบำรุงส่วนหน้าที่ 1 กองพลทหารราบที่ 3 จำนวน 2,000 นาย ร่วมกิจกรรม เพื่อร่วมกันแสดงพลังในการร่วมกันปกป้องสถานบันทหาร
