xs
xsm
sm
md
lg

"เสธ.แดง"ส่อหัวเน่ากำลังพลทั่วปท.ฮือตะเพิดหยุดถ่อยป่วนสถาบันฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กำลังพลทั่วประเทศลุกฮือปกป้องสถาบันกองทัพ พร้อมตะเพิด “เสธ.แดง” หยุดพฤติกรรมถ่อยเถื่อนทันที ชี้ถ้าเป็นประเพณีทหารในอดีตถือผิดวินัยทัพอย่างร้ายแรง


**ทัพภาค2ตะเพิด“เสธ.แดง”หยุดถ่อย

ที่ จ.นครราชสีมา วานนี้ (29 ม.ค.) กำลังพลสังกัดกองทัพภาคที่ 2 และหน่วยขึ้นตรงได้พร้อมใจกันรวมพลแสดงพลังปกป้องสถาบันกองทัพบก พร้อมให้กำลังใจ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.และไม่เห็นด้วยกับทหารบางคนที่ไม่เคารพผู้บังคับบัญชาสร้างความแตกแยกให้กับกองทัพ พร้อมกันถึง 4 หน่วยหลัก
 
โดยเฉพาะที่สนามหน้ากองบัญชาการช่วยรบที่ 2 (บชร.2) ค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 อ.เมืองนครราชสีมา พล.ต.พจน์ เหรียญมณี ผู้บัญชาการกองบัญชาการช่วยรบที่ 2 ได้นำกำลังพลสังกัด บชร.2 กว่า 1,200 นายทำพิธีรวมพลังปกป้องสถาบันทหารและปฏิญาณตนเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาที่ดีมีระเบียบวินัย

ทั้งนี้ เนื่องจากปัจจุบันมีทหารบางนายไม่เคารพและปฏิบัติตามแบบธรรมเนียมของทหาร ทำให้กองทัพต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง และทำให้เกิดการแตกแยกความสามัคคีในหมู่คณะ ซึ่งเป็นแบบอย่างที่ไม่สมควรอย่างยิ่งต่อกำลังพลในกองทัพ ซึ่งกำลังพลของกองบัญชาการช่วยรถที่ 2 ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของทหารที่ไม่เคารพระบบอาวุโส และไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ทหารผู้ใดที่กระทำการอันไม่สมควรต่อผู้บังคับบัญชา และกระทำที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อกองทัพ ขอให้ยุติการกระทำดังกล่าว เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับกำลังพลทุกนาย และเพื่อรักษาความสามัคคีในหมู่คณะของเหล่าทหารหาญ ที่รักและภูมิใจในอาชีพและเครื่องแบบที่สวมใส่

นอกจากนี้ กำลังพลของ บชร. 2 ขอเป็นกำลังใจให้กับ ผบ.ทบ.และผู้บังคับบัญชาทุกระดับในการที่จะต่อสู้และยืนหยัดเพื่อรักษาไว้ซึ่งเกียรติภูมิของเหล่าทหารหาญ และเป็นแบบอย่างที่ดีให้กำลังพลต่อไป

พ.อ.ชูชีพ ปทุมานนท์ ผู้บังคับการกองพันซ่อมบำรุงที่ 22 บชร.2 ตัวแทนกำลังพล บชร.2 กล่าวว่า เราไม่เห็นด้วยกับการกระทำของทหารที่ไร้วินัย และ ขอเรียกร้องให้ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ "เสธ. แดง" หยุดพฤติกรรมก้าวร้าว อาฆาตมาตร้ายจาบจ้วงผู้บังคับบัญชาและสร้างความแตกแยกให้กับกองทัพโดยทันที เพราะเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของทหารที่ต้องมีระเบียบ วินัย และธรรมเนียมของทหาร
ขณะเดียวกันที่กรมทหารพรานที่ 26 ค่ายปักธงชัย อ.ปักธงชัย จ.นครราสีมา ได้มีการรวมกำลังพลทำพิธีรวมพลังปกป้องสถาบันทหารและให้กำลังใจ ผบ.ทบ.ขึ้นที่บริเวณอนุสาวรีย์นักรบดำ เช่นเดียวกับที่มณฑลทหารบกที่ 21 (มทบ.21) ณ บริเวณสนามหน้ากองบัญชาการมณฑลทหารบกที่ 21 และกองพลทหารราบที่ 3 ณ บริเวณสนามหน้า กองบัญชาการกองพลทหารราบที่ 3 ค่ายสุรนารี อ.เมืองนครราชสีมา ก็ได้รวมกำลังพลทำพิธีดังกล่าวอย่างพร้อมเพรียงกัน

**กรมทหารราบ 15-ทัพภาค 4 ตบเท้าฮึ่ม

ส่วนที่สนามบินกองทัพภาค 4 ค่ายวชิราวุธ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช กำลังพลจากกองทัพภาค 4 พล.ต.สกล ชื่นตระกูล เสนาธิการกองทัพภาคที่ 4 เตรียมทหารรุ่น 13 จปร. 24 เป็นประธาน ในพิธีปฏิญาณตนเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาที่มีวินัย ของหน่วยทหารค่ายวชิราวุธ กองทัพภาค 4 โดยมี พ.อ.เกื้อกูล อินนาจักร รองเสนาธิการกองทัพภาค 4 (2) เตรียมทหารรุ่น 18 จปร. 29 พ.อ.จำรัส สังขวร รองผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 15 เตรียมหทารรุ่น 21 จปร. 32 นำกำลังพลรวม 1,200 นาย ร่วมปฎิญาณตน

ทั้งนี้ นายทหารสัญญาบัตรนายหนึ่งเปิดเผยว่า พฤติกรรมของ เสธ.แดง ถ้าเป็นประเพณีทหารในอดีตกาลนั้นถือเป็นพฤติการณ์ผิดวินัยทัพอย่างร้ายแรงที่หาญก้าวล่วงผู้บังคับบัญชาสูงสุด ซึ่งผู้บังคับบัญชาสูงสุด สามารถใช้อาญาสิทธิ์สั่งกุดหัวเสียบประจานได้ทันที เพื่อเป็นเยี่ยงอย่างแก่ทหาร แต่ในปัจจุบันกฎหมายที่เกี่ยวข้องสลับซับซ้อน ต้องดำเนินการตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ทหารระดับนายพลนั้นมีสิทธิคุ้มครองอยู่มาก จะต้องดำเนินการไปตามขั้นตอน

"การที่ เสธ.แดง ประพฤติเช่นนี้ไม่ได้เป็นผลดีกับตัว เสธ.แดง เป็นการเกินสมควรต่อการประพฤติของนายทหารระดับนายพล ที่ต้องประพฤติเป็นเยี่ยงอย่างของนายทหารรุ่นน้อง แท้จริงเมื่ออยู่ในสังคมทหารจะต้องเป็นทหารอาชีพ จะต้องรู้วินัยทหาร และประพฤติปฏิบัติอยู่ในกรอบระเบียบวินัยอย่างเคร่งครัด สำหรับเสธ.แดงนั้นมาถึงขั้นนายพลถือว่าโชคดีแล้วความประพฤติของเสธ.แดง เป็นแค่คนธรรมดาที่สวมเครื่องแบบทหารเท่านั้น”

**แม่ทัพน้อยภาค3นำทหารตบเท้าป้องเกียรติ

ขณะที่สนามธารีฉัตร ค่ายเอกาทศรถ จ.พิษณุโลก พล.ท.วรรณทิพย์ ว่องไว แม่ทัพน้อยภาคที่ 3 ได้นำกำลังพลในสังกัดกองทัพภาคที่ 3 จำนวน 17 หน่วย รวมทั้งสิ้น 2,550 คน ทำพิธีแสดงพลังเพื่อปกป้องเกียรติและศักดิ์ศรีของทหาร ในค่ายสมเด็จพระเอกาทศ

ทั้งนี้ พล.ท.วรรณทิพย์ กล่าวต่อหน้าทหารทั้ง 17 หน่วยตอนหนึ่งว่า กำลังพลในค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถมาร่วมพลังกัน เพื่อปกป้องเกียรติและศักดิ์ศรีของทหาร หลังมีการเคลื่อนไหวของอดีตทหารที่เกี่ยวข้องกับการเมือง แสดงความคิดเห็นไม่สอดคล้องกัน ทหารบางนายยังใช้คำพูดไม่เหมาะสมหลายอย่างต่อผู้บังคับบัญชาเหนือตน ล้วนเป็นการทำลายศักดิ์ศรี เกียรติภูมิของทหารที่สร้างกันมานาน จึงไม่เป็นที่น่าชื่นชมยินดี หากจะมีผู้หนึ่งผู้ใดไม่ว่าจะเป็นทหารหรือบุคคลอื่น กระทำให้เสื่อมเสียศักดิ์ศรีของทหาร

ดังนั้น ขอให้ทหารทุกคนได้ตั้งใจให้แน่วแน่มั่นคงอันที่จะปกป้องเกียรติ โดยให้สัจจะแก่ตนเองต่อหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเอกาทศรถว่า จะไม่ประพฤติปฏิบัติในสิ่งที่จะนำไปสู่ การทำลายเกียรติและศักดิ์ศรีของทหารด้วยประการทั้งปวง ทั้งจักช่วยกันปกป้องเกียรติและศักดิ์ศรีทหารด้วยชีวิต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การแสดงพลังเพื่อปกป้องเกียรติและศักดิ์ศรีของทหารที่ค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ นำโดย พล.ท.วรรณทิพย์ ว่องไว แม่ทัพน้อยภาคที่ 3 ซึ่งถือว่า เป็นทหารเตรียมทหารรุ่นที่ 12 รุ่นเดียวกับ พล.ท.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รองผู้บัญชาการทหารบก และถือว่าเป็นรุ่นน้องของ พล.ท.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน แม่ทัพภาคที่ 3 (คนปัจจุบัน) ซึ่งเป็นเตรียมทหารรุ่นที่ 11 ขณะที่ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ ”เสธ.แดง” ก็เป็นเตรียมทหารรุ่น 11

**ทหารสตูลร่วมปฎิญาณตนเป็นทหารที่ดีต่อชาติ

ส่วนที่ จ.สตูล พ.อ.นิติ ติณสูลานนท์ ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 5 ได้นำทหารกว่า 100 นาย ออกมาแสดงพลังปฏิญาณตนเป็นเหล่าทหารที่ดี มีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ที่กองบังคับการกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 5 เช่นกัน

**ปตอ.ตบเท้าปฏิญาณเป็นทหารของ "ในหลวง-ราชินี"

ที่กองพลปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน (ปตอ.) เมื่อเวลา 08.00 น. วานนี้ (29 ม.ค.) พล.ท.ยุทธศิลป์ โดยชื่นงาม ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ (ผบ.นปอ.) นำกำลังพลของ หน่วยกองพลทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานและหน่วยบัญชาการต่อสู้ป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก ทำพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณ เพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

รวมทั้งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาที่ดีของหน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ และหน่วยขึ้นตรง ซึ่งการรวมพลของกำลังพลในครั้งนี้ เพื่อต้องการปฏิญาณตนให้เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาที่ดี และแสดงออกถึงความมีระเบียบวินัย ในการเชื่อฟังและปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา

พล.ท.ยุทธศิลป์ กล่าวว่า อยากให้กำลังพลทุกนาย ได้มีความสำนึกบุญคุณของประเทศชาติ เป็นมิตรต่อประชาชน เชื่อมั่นในผู้บังคับบัญชา ปฏิบัติตามคำสั่งโดยเคร่งครัดและจะเป็นทหารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ รวมทั้งเทิดทูลสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นสถาบันหลักของชาติ

จากนั้น พล.ท.ยุทธศิลป์ ให้สัมภาษณ์ถึงการนำกำลังพลออกมาถวายสัตย์ว่า เป็นเรื่องที่เราทำประจำอยู่แล้วเพื่อให้กำลังพลมีความตระหนักหน้าที่ในการทำงานให้ประเทศชาติและประชาชน ขอยืนยันว่า หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศกองทัพบกและหน่วยขึ้นตรงมีความเป็นเอกภาพ มีความรักสามัคคีกันในทุกเรื่อง ทั้งนี้ กำลังพลทุกคนได้ปฏิบัติตามตามนโยบายของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ที่ได้เน้นย้ำเสมอว่า ให้หน่วยของเราสร้างทหารให้มีอุดมการณ์ในความรักชาติ เสียสละ เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนและจะทำในกรอบวินับระเบียบของทหารว่าจะต้องเชื่อฟังผู้บังคับบัญชาอย่างเคร่งครัด

**"พัลลภ"โดดป้อง"เสธ.แดง"ทหารนอกแถว

พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี ที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การที่ผู้บังคับหน่วยคุมกำลังกองทัพบก ออกมาตอบโต้ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบกที่ดูหมิ่น พล.อ.อนุงพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ทำไมไม่ออกมาตอนที่ พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ ประธานที่ปรึกษากองทัพไทย ออกมาว่า พล.อ.อนุพงษ์ หรือกรณีนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯที่ออกมาเล่นงาน ผบ.ทบ.

พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า การกระทำแบบนี้ไม่เข้าใจว่าทำเพื่ออะไร หรือเพื่อตอบแทนบุญคุณ ซึ่งการตอบแทนบุญคุณมาสามารถทำได้หลายอย่าง แต่ไม่ใช่มาตบเท้าตอบแทนบุญคุณ การออกมาแบบนั้นจะเป็นการสร้าง 2 มาตรฐาน และสร้างตวามแตกแยกในกองทัพมากกว่าทหาร 1 กรม มี 5 พันกว่าคน ออกมา 1 พันคนก็แค่ 20 % เท่านั้นเอง แต่การกระทำแบบนี้เหมือนนำกองทัพมาช่วยในเรื่องส่วนตัว ถือเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม

"การที่บอกว่าต้องออกมา เพราะ พล.ต.ขัตติยะ ไม่ควรนำกองทัพไปยุ่งกับการเมือง แล้วการที่ไปตั้งรัฐบาลในค่ายทหารจะอธิบายได้อย่างไรว่า ทหารไม่ยุ่งการเมืองหรือตอนนี้ไม่แค่ยุ่งแต่โอบอุ้มด้วย หรือหากทหารไม่ควรจะทำตัวไร้วินัยออกมาต่อว่าผู้บังคับบัญชา แล้วการที่ ผบ.เหล่าทัพ รวมตัวไปกดดันผู้บังคับบัญชาอย่างนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ให้ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หมายความว่า อย่างไร ถ้าผู้นำเหล่าทัพออกมากดดันผู้บังคับบัญชาได้ แต่ เสธ.แดง ทำไม่ได้งั้นหรือ"

พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า หากอยากจะแก้ไขจริง พวกน้องในฐานะรุ่นน้องก็ควรจะเชิญ เสธ.แดง ในฐานะรุ่นพี่ไปพูดคุยกัน จะเหมาะสมมากกว่าออกมาตบเท้าแบบนี้ เราเป็นพี่น้องโรงเรียนเตรียมทหาร โรงเรียน จปร.เหมือนกัน น้องเห็นว่าพี่ทำอะไรไม่เหมาะสม ก็เรียกมาคุยกันได้แบบพี่ๆน้องๆ การทำแบบนี้ประขาชนก็จะตกอกตกใจว่าทหารมาฮึ่มใส่กัน จะเกิดความแตกแยกกันไปใหญ่ ไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องที่ออกมากันแบบนี้ ตอนนี้ประชาชนไม่โง่แล้ว เขาดูออกว่าอะไรคืออะไร ตอนนี้บ้านเมืองวุ่นวายมาทำแบบนี้จะยิ่งแย่ไปใหญ่ ฝากถามน้องด้วยว่าทำไมมาเก่งกับพวกเดียวกัน ไม่ไปเก่งกับคนอื่นบ้าง อย่างนายสนธิทำไม่ไม่เห็นมีใครเก่งไปตบเท้าตอบโต้เขาบ้าง ที่เขามาดูหมิ่นเกียรติภูมิของ ลูกจปร. อยากให้น้องคิดดูให้ดีกับการที่จะทำอะไรออกมาแบบนี้

**ค้นบ้านเสธ.แดงหวั่นมีสิ่งผิดกม.

วันเดียวกัน เมื่อเวลา 10.00 น.ที่กองบังคับการตำรวจปราบปราม พ.อ.ฐิติศักดิ์ สมทัศน์ ผบ.กองพันทหารสารวัตรที่ 11 เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ประภาส อ่องมะลิ พนักงานสอบสวน (สบ 2) กก.1 บก.ป.เพื่อให้ปากคำกรณีที่เป็นหัวหน้าชุดสารวัตรทหาร (สห.) เข้าตรวจค้นบ้านพักของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ภายใน ม.พัน 4 และจ.ส.อ.ณัฎฐ์สิทธิ์ สุวรรณราช ลูกน้องของ พล.ต.ขัตติยะ ภายใน ม.พัน 3 พร้อมยึดอาวุธสงครามจำนวนมาก ก่อนประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าควบคุมตัว จ.ส.อ.ณัฎฐ์สิทธิ์ พลทหารมานัสชัย อำพร และ นายเอกลักษณ์ วิเศษวงศา มาดำเนินคดี โดยภายหลังการเข้าให้ปากคำกว่า 2 ชั่วโมงเสร็จสิ้นลง พ.อ.ฐิติศักดิ์ กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า มาให้การตามปกติ ส่วนประเด็นที่พนักงานสอบสวนยังติดใจสงสัยนั้น ก็ได้ชี้แจงจนเกิดความชัดเจนแล้ว

มีรายงานแจ้งว่า พ.อ.ฐิติศักดิ์ ได้ให้การกับพนักงานสอบสวนถึงประเด็นการเข้าตรวจค้นบ้านพักของ พล.ต.ขัตติยะ และลูกน้องว่า มีสาเหตุมาจากการที่ผู้บังคับบัญชาสงสัยว่า น่าจะมีสิ่งผิดกฎหมายเก็บซ่อนไว้ภายในบ้านพักดังกล่าว จึงนำกำลังเข้าตรวจค้น กระทั่งสามารถยึดอาวุธสงคราม วัตถุระเบิด และยุทธภัณฑ์จำนวนมาก สำหรับการตรวจค้นรถตู้เบนซ์ สีเทา ทะเบียน ศข 121 กทม.ของ พล.ต.ขัตติยะนั้น มีพลทหารมานัสชัย นายเอกลักษณ์ เป็นผู้ใช้รีโมตคอนโทรลเปิดประตูรถและนำเข้าตรวจค้นโดยยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้ถือวิสาสะเข้าตรวจค้นเอง นอกจากนี้ในการค้น ก็มีการบันทึกวิดีโอไว้เป็นหลักฐานอย่างละเอียดทั้งหมด

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า พนักงานสอบสวนได้สอบถามถึงประเด็นเรื่องคนขับรถของ พล.ต.ขัตติยะ ซึ่งทาง พ.อ.ฐิติศักดิ์ อ้างว่าไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ หรือคำสั่งใดๆ ที่ระบุให้พลทหารมานัสชัย มาทำหน้าที่ขับรถให้ พล.ต.ขัตติยะ แต่ทหารที่อยู่ภายใน ม.พัน 4 ต่างทราบดีว่า พลทหารมานัสชัย เป็นคนขับรถให้แก่พล.ต.ขัตติยะ อย่างไรก็ดี พ.ต.ฐิติศักดิ์ พร้อมที่จะประสานไปยังผู้บังคับบัญชา มายืนยันกับพนักงานสอบสวนในประเด็นดังกล่าวอีกครั้งในภายหลัง
กำลังโหลดความคิดเห็น