“เสธ.แดง” มอบตัวกองปราบฯ โบ้ยสื่อเสี้ยมจนทำให้ ผบ.ทบ.เข้าใจผิดสั่งพักราชการ ยังมั่วนิ่มทะเลาะ ผบ.ทบ.ทำเพื่อชาติ พร้อมแจ้งความกลับ ดำเนินคดี ผบ.ทบ. รมต.กลาโหม และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ด้าน “พล.อ.พัลลภ” ยกหางเสธ.แดง ยันไม่ได้กระทำผิด ลูกน้องเดือดร้อน พี่ต้องช่วย
วันนี้ (1 ก.พ.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 11.30 น. พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก พร้อมด้วย พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส.พรรคเพื่อไทย จ.นครราชสีมา นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้อีสาน แกนนำ นปช.พร้อมด้วยกลุ่มคนเสื้อแดง จำนวนกว่า 500 คน เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต รอง ผบก.ป. เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา “ร่วมกันมีและครอบครองอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกให้ได้ ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย หลังเจ้าหน้าที่ยึดอาวุธสงครามในบ้านพักและลูกน้องคนสนิท ที่บ้านพักภายในค่าย ม.พัน 4 รอ. และ ม.พัน 3 รอ.ได้เป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งได้จับกุมตัว จ.ส.อ.ณัฏฐ์สิทธิ์ สุวรรณราช ผบ.หมู่ยานเกราะ อดีตคนขับรถ พลทหารมนัสชัย คำพร สังกัดกองพันบริการและกองบริการศูนย์การทหารม้า และนายเอกลักษณ์ วิเศษวงษา อายุ 24 ปี คนเฝ้าบ้านของ เสธ.แดง ดำเนินคดี
พล.ต.ขัตติยะ กล่าวว่า เรื่องที่ตนถูกสั่งพักราชการเนื่องจากว่าก่อนวันที่ 10 ธันวาคม 2552 ประมาณ 2 เดือน พล.อ.พัลลภ ได้เรียกตนไปพบ เนื่องจากมีกลุ่มทหารพรานออกมาร่วมชุมนุมกับคนเสื้อแดงพร้อมทั้งสั่งให้ห้ามปรามไม่ให้กำลังทหารพรานกลุ่มนี้ไปปะทะกับทหารกำลังหลัก แต่ปรากฏว่ามีสื่อบางกลุ่มที่ออกมาเสี้ยม จนทำให้ ผบ.ทบ.เข้าใจผิดสั่งพักราชการตน จนมาวันที่ 14 ม.ค.เหตุก็เริ่มคุกรุ่น เมื่อมีการยิงระเบิดเข้าไปใน บก.ทบ. ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สมัยรัชการที่ 5 ที่ได้ตั้งกองทัพบกขึ้นมา จนวันที่ 19 ม.ค.เรื่องมาแดงก็เพราะว่ามีการเรียกทหารให้ไปโบกปูนซ่อมร่องรอยที่ถูกลูกระเบิดยิง จนสื่อไปทราบเรื่อง ต่อมาในวันที่ 21 ม.ค.จึงมีการเข้าตรวจค้นบ้านพักของตน และเป็นครั้งแรกที่มีการตรวจค้นแบบไม่มีหมาย เรื่องที่ตนทะเลาะกับ ผบ.ทบ.ถือเป็นเรื่องที่ทะเลาะกันเพื่อชาติ เนื่องจากมีการทำให้เสียดินแดนในพื้นที่กรณีข้อพิพาทเรื่องเขาวิหาร ที่ทำให้เราต้องเสียดินแดนไปอีกเป็นครั้งที่ 15 จนกระทั่งมีทหารตุ๊ดออกมาร่วมทะเลาะกับตน ก็ถือว่าเป็นการเอาใจนายที่มากันทั้งก๊วนกอล์ฟ ถามว่ามึงแต่ละคนเคยมีประวัติร่วมรบบ้างหรือไม่ เคยปะทะข้าศึกหรือไม่ เคยถูก ปตอ.ยิงหรือเปล่า แต่ละคนตีกอล์ฟเก่ง ที่ขึ้นกันมาทั้งก๊วน เคยเห็นข่าวหนังสือพิมพ์ ไม่เคยเห็นมีกระติกน้ำ ไม่รู้ว่าเป็นนักรบชนิดไหน แถมยังพาพลทหารมาเดินขบวน จึงเป็นเรื่องสิ่งผิดปกติ
พล.ต.ขัตติยะ กล่าวต่อว่า ในวันนี้ที่ตนมามอบตัวเนื่องจากถือว่าการจับกุมครั้งนี้เป็นการกระทำที่ไม่ชอบหลายอย่าง เมื่อคดีเข้าสู่กระบวนการจึงเชื่อว่าน่าจะชนะ นอกจากนี้จะขอแจ้งความกลับเพื่อให้ดำเนินคดีต่อ ผบ.ทบ. รมต.กลาโหม และ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมด้วย โดยมีนายมานิตย์ จิตต์จันทร์กลับ อดีตผู้พิพากษาศาลอาญา เป็นหัวหน้าคณะทำงาน เพื่อแจ้งจับให้ดำเนินคดีข้อหาเป็นกบฏต่อราชอาณาจักร ตามมาตรา 113 เพราะกฎหมายที่ไม่ได้มีการเขียนโดยผ่านรัฐสภา ก็ถือว่าเป็นกฎหมายโจร ดังนั้น รัฐธรรมนูญ ปี 50 คือรัฐธรรมนูญโจร ถึงจะเขียนมาตรา 39 ที่เกี่ยวกับการนิรโทษกรรมขึ้นมาก็ตาม คำสั่งพักราชการของ รมต.กลาโหมที่สั่งพักราชการตน จึงถือว่าเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบธรรม เพราะคณะรัฐบาลชุดนี้ได้มาอย่างไม่ถูกต้อง เมื่อ รมต. จะกระทำอะไรลงไป ย่อมเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องเหมือนกัน
ด้าน พล.อ.พัลลภ ได้กล่าวกับบรรดากลุ่มคนเสื้อแดงที่หน้าอาคารผู้บังคับบัญชา กองปราบปรามว่า ขอขอบคุณทุกคนที่มาร่วมให้กำลังใจ เสธ.แดง ที่ตนเดินทางมาด้วย ก็เพราะเป็นอดีตผู้บังคับบัญชาของ เสธ.แดง เป็นนายทหารรุ่นพี่ เมื่อน้องเดือดร้อนก็ต้องมา ซึ่งตนมีส่วนสำคัญที่ทำให้เสธ.แดงเดือดร้อน คงจำกันได้ว่าเมื่อวันที่ 10 ธ.ค.2552 มีการชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ก็มีทหารพรานค่ายปักธงชัย มาร่วมชุมนุมด้วยจำนวนมาก ตนกลัวว่าอาจมีการปะทะกันระหว่างทหารพรานของเสื้อแดงกับทหารหลัก จึงเรียกเสธ.แดงออกมาพบ เพื่อให้ช่วยไปดู เพราะไม่อยากให้เกิดการปะทะ ไม่อยากเห็นคนไทยฆ่ากันเอง
พล.อ.พัลลภ กล่าวต่อว่า จากเหตุนี้เองจึงเป็นข้ออ้างข้อหนึ่งที่ทำให้ เสธ.แดงต้องถูกสั่งพักราชการ ก็อยากฝากไปยังทหารที่ตบเท้ามาต่อต้าน เสธ.แดง ว่าการเข้าให้กำลังใจ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.แบบนี้เป็นการธำรงเกียรติ หรือทำลายเกียรติ เมื่อ เสธ.แดง ถูกสอบวินัยฐานดูถูกผู้บังคับบัญชา ก็ต้องเป็นไปตามระเบียบของกองทัพ เมื่อสั่งพักราชการไปแล้วจะเอาอะไรกันอีก การลงโทษพักราชการสำหรับนายทหารชั้นนายพลนั้นถือเป็นเรื่องใหญ่ ตามธรรมเนียมของผู้บังคับบัญชาความผิดครั้งเดียวก็ต้องมีการลงโทษครั้งเดียว
“การที่ทหารตบเท้าออกมาประท้วง เสธ.แดง แสดงว่าไม่ให้ความเคารพ ผบ.ทบ.ที่สั่งลงโทษ เสธ.แดง ไปแล้ว แถมบางหน่วยยังประกาศห้าม เสธ.แดง เข้าเขตทหารด้วย อยากถามว่าเอาสมองส่วนไหนคิด การที่ท่านห้าม เสธ.แแดง ไม่ให้เข้าเขตทหารที่ท่านรับผิดชอบ ตนยอมรับได้ แต่ในจังหวัดนั้นๆ เสธ.แดง มีสิทธิ์จะไปไหนก็ได้ การประกาศเช่นนี้ถือว่าทำตัวเหนือกฎหมาย ขอฝากไปยังน้องๆ ที่เป็นผู้พันผู้การในขณะนี้ที่เคยเป็นลูกศิษย์ของตน ไม่เคยสอนให้ทำอย่างนี้ เมื่อทำผิดก็ให้อภัยกันได้ในฐานะรุ่นพี่ ถ้ารู้แล้วก็กลับตัวเสียใหม่ได้” พล.อ.พัลลภ กล่าว
ต่อมา พล.ต.ขัตติยะ จึงเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อเข้าให้ปากคำ ซึ่งหลังจากการสอบสวนก็คงจะมีการปล่อยตัวผู้ถูกกล่าวออกไป เนื่องจากเข้าพบพนักงานสอบสวนเอง เมื่อมีสำนวนการสอบสวนเสร็จแล้วก็จะได้เรียก พล.ต.ขัตติยะ นำตัวส่งตัวฟ้องต่ออัยการ
ภายหลังที่ พล.ต.ขัตติยะ ผ่านขั้นตอนการสอบสวน และพิมพ์ลายนิ้วมือลายแล้วก็ได้เดินออกจากห้องสอบสวนด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแล้วออกมาพูดกับกลุ่มเสื้อแดงที่บริเวณหน้าอาคารผบก.ป.ว่าในการสอบสวนก็ไม่มีปัญหาอะไร มาเพียงรับทราบข้อกล่าวหาและให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา จากนี้ไปรัฐบาลต้องยุบสภาเพื่อให้เกิดการเลือกตั้งใหม่เป็นประเทศที่มีประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์ขอบคุณพี่น้องทุกคนที่มาให้กำลังใจจากนั้นกลุ่มเสื้อแดงก็สลายตัวกลับไป
วันนี้ (1 ก.พ.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 11.30 น. พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก พร้อมด้วย พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส.พรรคเพื่อไทย จ.นครราชสีมา นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้อีสาน แกนนำ นปช.พร้อมด้วยกลุ่มคนเสื้อแดง จำนวนกว่า 500 คน เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต รอง ผบก.ป. เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา “ร่วมกันมีและครอบครองอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกให้ได้ ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย หลังเจ้าหน้าที่ยึดอาวุธสงครามในบ้านพักและลูกน้องคนสนิท ที่บ้านพักภายในค่าย ม.พัน 4 รอ. และ ม.พัน 3 รอ.ได้เป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งได้จับกุมตัว จ.ส.อ.ณัฏฐ์สิทธิ์ สุวรรณราช ผบ.หมู่ยานเกราะ อดีตคนขับรถ พลทหารมนัสชัย คำพร สังกัดกองพันบริการและกองบริการศูนย์การทหารม้า และนายเอกลักษณ์ วิเศษวงษา อายุ 24 ปี คนเฝ้าบ้านของ เสธ.แดง ดำเนินคดี
พล.ต.ขัตติยะ กล่าวว่า เรื่องที่ตนถูกสั่งพักราชการเนื่องจากว่าก่อนวันที่ 10 ธันวาคม 2552 ประมาณ 2 เดือน พล.อ.พัลลภ ได้เรียกตนไปพบ เนื่องจากมีกลุ่มทหารพรานออกมาร่วมชุมนุมกับคนเสื้อแดงพร้อมทั้งสั่งให้ห้ามปรามไม่ให้กำลังทหารพรานกลุ่มนี้ไปปะทะกับทหารกำลังหลัก แต่ปรากฏว่ามีสื่อบางกลุ่มที่ออกมาเสี้ยม จนทำให้ ผบ.ทบ.เข้าใจผิดสั่งพักราชการตน จนมาวันที่ 14 ม.ค.เหตุก็เริ่มคุกรุ่น เมื่อมีการยิงระเบิดเข้าไปใน บก.ทบ. ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สมัยรัชการที่ 5 ที่ได้ตั้งกองทัพบกขึ้นมา จนวันที่ 19 ม.ค.เรื่องมาแดงก็เพราะว่ามีการเรียกทหารให้ไปโบกปูนซ่อมร่องรอยที่ถูกลูกระเบิดยิง จนสื่อไปทราบเรื่อง ต่อมาในวันที่ 21 ม.ค.จึงมีการเข้าตรวจค้นบ้านพักของตน และเป็นครั้งแรกที่มีการตรวจค้นแบบไม่มีหมาย เรื่องที่ตนทะเลาะกับ ผบ.ทบ.ถือเป็นเรื่องที่ทะเลาะกันเพื่อชาติ เนื่องจากมีการทำให้เสียดินแดนในพื้นที่กรณีข้อพิพาทเรื่องเขาวิหาร ที่ทำให้เราต้องเสียดินแดนไปอีกเป็นครั้งที่ 15 จนกระทั่งมีทหารตุ๊ดออกมาร่วมทะเลาะกับตน ก็ถือว่าเป็นการเอาใจนายที่มากันทั้งก๊วนกอล์ฟ ถามว่ามึงแต่ละคนเคยมีประวัติร่วมรบบ้างหรือไม่ เคยปะทะข้าศึกหรือไม่ เคยถูก ปตอ.ยิงหรือเปล่า แต่ละคนตีกอล์ฟเก่ง ที่ขึ้นกันมาทั้งก๊วน เคยเห็นข่าวหนังสือพิมพ์ ไม่เคยเห็นมีกระติกน้ำ ไม่รู้ว่าเป็นนักรบชนิดไหน แถมยังพาพลทหารมาเดินขบวน จึงเป็นเรื่องสิ่งผิดปกติ
พล.ต.ขัตติยะ กล่าวต่อว่า ในวันนี้ที่ตนมามอบตัวเนื่องจากถือว่าการจับกุมครั้งนี้เป็นการกระทำที่ไม่ชอบหลายอย่าง เมื่อคดีเข้าสู่กระบวนการจึงเชื่อว่าน่าจะชนะ นอกจากนี้จะขอแจ้งความกลับเพื่อให้ดำเนินคดีต่อ ผบ.ทบ. รมต.กลาโหม และ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมด้วย โดยมีนายมานิตย์ จิตต์จันทร์กลับ อดีตผู้พิพากษาศาลอาญา เป็นหัวหน้าคณะทำงาน เพื่อแจ้งจับให้ดำเนินคดีข้อหาเป็นกบฏต่อราชอาณาจักร ตามมาตรา 113 เพราะกฎหมายที่ไม่ได้มีการเขียนโดยผ่านรัฐสภา ก็ถือว่าเป็นกฎหมายโจร ดังนั้น รัฐธรรมนูญ ปี 50 คือรัฐธรรมนูญโจร ถึงจะเขียนมาตรา 39 ที่เกี่ยวกับการนิรโทษกรรมขึ้นมาก็ตาม คำสั่งพักราชการของ รมต.กลาโหมที่สั่งพักราชการตน จึงถือว่าเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบธรรม เพราะคณะรัฐบาลชุดนี้ได้มาอย่างไม่ถูกต้อง เมื่อ รมต. จะกระทำอะไรลงไป ย่อมเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องเหมือนกัน
ด้าน พล.อ.พัลลภ ได้กล่าวกับบรรดากลุ่มคนเสื้อแดงที่หน้าอาคารผู้บังคับบัญชา กองปราบปรามว่า ขอขอบคุณทุกคนที่มาร่วมให้กำลังใจ เสธ.แดง ที่ตนเดินทางมาด้วย ก็เพราะเป็นอดีตผู้บังคับบัญชาของ เสธ.แดง เป็นนายทหารรุ่นพี่ เมื่อน้องเดือดร้อนก็ต้องมา ซึ่งตนมีส่วนสำคัญที่ทำให้เสธ.แดงเดือดร้อน คงจำกันได้ว่าเมื่อวันที่ 10 ธ.ค.2552 มีการชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ก็มีทหารพรานค่ายปักธงชัย มาร่วมชุมนุมด้วยจำนวนมาก ตนกลัวว่าอาจมีการปะทะกันระหว่างทหารพรานของเสื้อแดงกับทหารหลัก จึงเรียกเสธ.แดงออกมาพบ เพื่อให้ช่วยไปดู เพราะไม่อยากให้เกิดการปะทะ ไม่อยากเห็นคนไทยฆ่ากันเอง
พล.อ.พัลลภ กล่าวต่อว่า จากเหตุนี้เองจึงเป็นข้ออ้างข้อหนึ่งที่ทำให้ เสธ.แดงต้องถูกสั่งพักราชการ ก็อยากฝากไปยังทหารที่ตบเท้ามาต่อต้าน เสธ.แดง ว่าการเข้าให้กำลังใจ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.แบบนี้เป็นการธำรงเกียรติ หรือทำลายเกียรติ เมื่อ เสธ.แดง ถูกสอบวินัยฐานดูถูกผู้บังคับบัญชา ก็ต้องเป็นไปตามระเบียบของกองทัพ เมื่อสั่งพักราชการไปแล้วจะเอาอะไรกันอีก การลงโทษพักราชการสำหรับนายทหารชั้นนายพลนั้นถือเป็นเรื่องใหญ่ ตามธรรมเนียมของผู้บังคับบัญชาความผิดครั้งเดียวก็ต้องมีการลงโทษครั้งเดียว
“การที่ทหารตบเท้าออกมาประท้วง เสธ.แดง แสดงว่าไม่ให้ความเคารพ ผบ.ทบ.ที่สั่งลงโทษ เสธ.แดง ไปแล้ว แถมบางหน่วยยังประกาศห้าม เสธ.แดง เข้าเขตทหารด้วย อยากถามว่าเอาสมองส่วนไหนคิด การที่ท่านห้าม เสธ.แแดง ไม่ให้เข้าเขตทหารที่ท่านรับผิดชอบ ตนยอมรับได้ แต่ในจังหวัดนั้นๆ เสธ.แดง มีสิทธิ์จะไปไหนก็ได้ การประกาศเช่นนี้ถือว่าทำตัวเหนือกฎหมาย ขอฝากไปยังน้องๆ ที่เป็นผู้พันผู้การในขณะนี้ที่เคยเป็นลูกศิษย์ของตน ไม่เคยสอนให้ทำอย่างนี้ เมื่อทำผิดก็ให้อภัยกันได้ในฐานะรุ่นพี่ ถ้ารู้แล้วก็กลับตัวเสียใหม่ได้” พล.อ.พัลลภ กล่าว
ต่อมา พล.ต.ขัตติยะ จึงเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อเข้าให้ปากคำ ซึ่งหลังจากการสอบสวนก็คงจะมีการปล่อยตัวผู้ถูกกล่าวออกไป เนื่องจากเข้าพบพนักงานสอบสวนเอง เมื่อมีสำนวนการสอบสวนเสร็จแล้วก็จะได้เรียก พล.ต.ขัตติยะ นำตัวส่งตัวฟ้องต่ออัยการ
ภายหลังที่ พล.ต.ขัตติยะ ผ่านขั้นตอนการสอบสวน และพิมพ์ลายนิ้วมือลายแล้วก็ได้เดินออกจากห้องสอบสวนด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแล้วออกมาพูดกับกลุ่มเสื้อแดงที่บริเวณหน้าอาคารผบก.ป.ว่าในการสอบสวนก็ไม่มีปัญหาอะไร มาเพียงรับทราบข้อกล่าวหาและให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา จากนี้ไปรัฐบาลต้องยุบสภาเพื่อให้เกิดการเลือกตั้งใหม่เป็นประเทศที่มีประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์ขอบคุณพี่น้องทุกคนที่มาให้กำลังใจจากนั้นกลุ่มเสื้อแดงก็สลายตัวกลับไป