xs
xsm
sm
md
lg

รร.ปรับตัวรับ3จี โวยมหาดไทยบื้อ รร.เถื่อนเพียบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – ส.โรงแรมไทย เล็งขยายช่องทางการตลาดเจาะโซเชียลเน็คเวิร์คบนโทรศัพท์มือถือ รับ3จี พร้อมโวยมหาดไทย ปล่อยโรงแรมเถื่อนเกลื่อนเมือง ทั้งที่มีกฎหมายบังคับใช้แล้ว ภาพรวมอัตราเฉลี่ยราคาห้องพักปีนี้จึงวูบอีกกว่า 5-8%

นายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร  อุปนายกสมาคมโรงแรมไทย(ทีเอชเอ) เปิดเผยถึงแผนงานด้านการตลาดของสมาคมโรงแรมไทยในปี 2553 ว่า จะเร่งดำเนินการใน 4 กิจกรรม ได้แก่  1. การพัฒนาเว็บไซต์ เน้นโหมดสำรองห้องพักผ่านโทรศัพท์มือถือ 2.กิจกรรม โฮเทล มีท เอเยนต์ในตลาดต่างประเทศ 3.การจัดกิจกรรมพบปะหน่วยงานราชการและองค์กร เพื่อส่งเสริมตลาดประชุมสัมมนา(โดยเมสติกไมซ์ ) และ 4. การจัดทำข้อมูลอัตราเข้าพักเฉลี่ย และราคาห้องพักเฉลี่ยของโรงแรมทั้งประเทศ
***พัฒนาเว็บผ่านมือถือเจาะสังคมออนไลน์****
สำหรับการพัฒนาเว็บไซต์ เพื่อเจาะสังคมออนไลน์ผ่านระบบโทรศัพท์มือถือนั้น ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของพฤติกรรมผู้บริโภครุ่นใหม่ พัฒนาระบบให้ทัน เพื่อรองรับกำลังซื้อตรงนี้ให้ได้  โดยสมาคมฯคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในปีนี้ เบื้องต้นต้องประสานกับบริษัทหรือหน่วยงานมีเทคโนโลยีรูปแบบนี้ที่ใช้กับโทรศัพท์มือถือได้ทุกค่าย เข้ามาเป็นพันธมิตรเอื้อธุรกิจต่อกันมากกว่าจะต้องใช้เงินจำนวนมากในการลงทุน
“ความสะดวกของสังคมคนรุ่นใหม่ได้ถูกพัฒนาไปพร้อมกับเทคโนโลยีบนโทรศัพท์มือถือ เช่น เทคโนโลยี 3 จี เป็นต้น ทำให้มีการพัฒนาเว็บไซต์สำหรับเปิดในโทรศัพท์มือถือ ผู้ประกอบการจึงคิดบริการเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายผ่านช่องทางนี้กันมากขึ้น ซึ่งทีเอชเอ จะพัฒนาเว็บไซต์ให้เป็นพอร์ทัลเว็บ เป็นเพย์เม้นเกทเวย์
อินสแตนท์บุ๊คกิ้ง และ อินสแตนท์ อินฟอร์เมชั่น ครบวงจรในหนึ่งเดียว“
ปัจจุบันนักท่องเที่ยวที่จองห้องพักโรงแรมของสมาชิกทีเอชเอ แบ่งเป็น 25% จองผ่านเว็บไซต์ อีก 75% ผ่านตัวแทนจำหน่าย โดยการเติบโตในรูปแบบการจองผ่านเว็บไซต์ต่อเนื่องทุกปี เฉลี่ยปีละ 5-10%   โดยบริการใหม่นี้จะถือเป็นทางเลือกหนึ่งให้แก่ผู้บริโภค  ซึ่งบริการรูปแบบนี้ในอเมริกาใช้กันแพร่หลายแล้ว ส่วนประเทศเพื่อบ้านไทย เช่น สิงคโปร์ ก็มีบริการนี้แล้วเช่นกัน
*** โวยมหาดไทยปล่อยรร.เถื่อนเกลื่อนเมือง****
ด้านนายประกิจ ชินอมรพงษ์ นายกสมาคมโรงแรมไทย(ทีเอชเอ) กล่าวว่า  อุตสาหกรรมโรงแรมปี 2553 มี 2 ประเด็นใหญ่น่าเป็นห่วงคือ 1.ปัญหาสงครามราคา เป็นผลให้อัตราค่าเฉลี่ยราคาที่พักโดยรวมของประเทศไทยในปี 2553 ลดลงจากปีก่อนนี้อีกราว 5-8% ขณะที่อัตราค่าเฉลี่ยโรงแรมทั่วโลกเริ่มฟื้นตัวไปในทิศทางเดียวกันกับอัตรการเข้าพัก และตัวเลขเศรษฐกิจ
2.ปัญหาสถานการณ์โอเวอร์ซัปพลายของจำนวนห้องพัก อันเกิดจากผู้ประกอบการนอกระบบ อาทิ เซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ หอพัก โครงการบ้านจัดสรรที่มีบริการปล่อยเช่า ส่งผลให้ดีมานด์ที่มีอยู่ในตลาดไปใช้ซัพพลายที่ไม่ถูกกฎหมายจากกลุ่มนี้ เพราะราคาถูกกว่า เพราะไม่ต้องเสียภาษีเฉพาะธุรกิจโรงแรม
“ขอฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงมหาดไทยซึ่งกำกับดูแลการใช้ประโยชน์อาคารโดยตรง และ ฝากผ่านไปยัง ททท. ให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยจัดระบบห้องพักที่ไม่เข้าข่ายโรงแรมนี้ ให้หันมาเข้าระบบ หรือไม่ก็ลงโทษความผิดตามกฎหมาย พ.ร.บ.โรงแรมที่ประกาศใช้มาแล้วหลายปี รวมถึงขอให้ภาครัฐยกเลิกระบบเหมาจ่าย  เพราะเป็นช่องว่างเอื้อให้หน่วยงานราชการใช้โรงแรมเถื่อนกันมาก”
รายงานจากสมาคมโรงแรมไทยตามภูมิภาคต่าง พบว่า ทุกพื้นที่มีจำนวนโรงแรมห้องพักเกิดขึ้นใหม่จำนวนมากทั้งที่ถูกและไม่ถูกตามกฎหมาย ได้แก่ โรงแรมภาคใต้ เฉพาะ 3 จังหวัดหลัก  ภูเก็ต กระบี่ พังงา คาดว่าปีนี้จะมีโรงแรมเปิดใหม่อีกกว่า 3,000 ห้อง เป็นระดับ 4-7ดาว ไม่นับรวมโครงการบ้านจัดสรร คอนโดที่ปล่อยเช่า, ภาคตะวันตก เพชรบุรี ประจวบฯ พบว่าเฉพาะที่หัวหินและ ชะอำ มีห้องพักรวมกว่า 20,000 ห้อง โดยระยะ 3 ปีล่าสุดนี้มีห้องพักเพิ่มขึ้นถึง 10,000 ห้อง ยังไม่นับรวม คอนโดมิเนียม บ้านจัดสรร และเซอร์วิสอพาร์ทเม้นต์,  ภาคเหนือ โรงแรมขนาดเล็ก ราคา 300-400 บาท ต่อคืน ผุดขึ้นจำนวนมากโดยเฉพาะเหนือตอนล่าง, ภาคตะวันออก เน้นที่ พัทยา จ.ชลบุรี  คาดมีโรงแรมเปิดใหม่อีกว่า 2,000 ห้องปีนี้ จากเดิมที่โอเวอร์ซัปพลายแล้ว
ส่วนภาคกลาง ที่อยุธยา เซอร์วิสอพาร์ทเม้นต์และห้องพักรายวันเกิดขึ้นจำนวนมาก


ASTVผู้จัดการรายวัน – ส.โรงแรมไทย ก้าวทันโลกออนไลน์ เล็งขยายช่องทางการตลาดเจาะโซเชียลเน็คเวิล์ดบนโทรศัพท์มือถือ พร้อมผนึกกำลังโวยมหาดไทย ปล่อยโรงแรมเถื่อนเกลื่อนเมือง ทั้งที่มีกฎหมายบังคับใช้แล้ว ชี้เป็นฉนวนใหญ่ให้เกิดการแข่งขันสาดสงครามราคาใส่กันเอง ภาพรวมอัตราเฉลี่ยราคาห้องพักปีนี้จึงวูบอีกกว่า 5-8%

นายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร  อุปนายกสมาคมโรงแรมไทย(ทีเอชเอ) เปิดเผยถึงแผนงานด้านการตลาดของสมาคมโรงแรมไทยในปี 2553 ว่า จะเร่งดำเนินการใน 4 กิจกรรม ได้แก่  1. การพัฒนาเว็บไซต์ เน้นโหมดสำรองห้องพักผ่านโทรศัพย์มือถือ 2.กิจกรรม โฮเทล มีท เอเยนต์ในตลาดต่างประเทศ โดยจัดทีมสมาชิก ออกไปนัดหารือกับผู้ซื้อในต่างประเทศ เช่น  รัสเซีย อินเดีย
และประเทศกลุ่มเอเชียที่พูดภาษาจีน   3.การจัดกิจกรรมพบปะหน่วยงานราชการและองค์กร เพื่อส่งเสริมตลาดประชุมสัมมนา(โดยเมสติกไมซ์ ) และ 4. การจัดทำข้อมูลอัตราเข้าพักเฉลี่ย และ ราคาห้องพักเฉลี่ยของโรงแรมทั้งประเทศ และแบ่งตามภูมิภาค โดยทุนสนับสนุนจากกระทรวงการท่องเที่ยวฯ 1 ล้านบาท จัดทำเพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลสำหรับอ้างอิงในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ และ
ประกอบการตัดสินใจทางธุรกิจ

***พัฒนาเว็บผ่านมือถือเจาะสังคมออนไลน์****
สำหรับประเด็นการพัฒนาเว็บไซน์ เพื่อเจาะสังคมออนไลน์ผ่านระบบโทรศัพท์มือถือ นั้นถือเป็นเทรนที่กำลังมาแรงเป็นที่สนใจของสังคมออนไลน์ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของพฤติกรรมผู้บริโภครุ่นใหม่ ซึ่งสมาคมฯต้องจับเทรนตลาดให้ถูกและพัฒนาระบบให้ทัน เพื่อรองรับกำลังซื้อตรงนี้ให้ได้  โดยสมาคมฯคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในปีนี้
เบื้องต้นต้องประสานกับบริษัทหรือหน่วยงานมีเทคโนโลยีรูปแบบนี้ที่ใช้กับโทรศัพย์มือถือได้ทุกค่าย เข้ามาเป็นพันธมิตรเอื้อธุรกิจต่อกันมากกว่าจะต้องใช้เงินจำนวนมากในการลงทุน

“ ความสะดวกของสัมคมคนรุ่นใหม่ได้ถูกพัฒนาไปพร้อมกับเทคโนโลยีบนโทรศัพย์มือถือ เช่น เทคโนโลยี 3 จี เป็นต้น ทำให้มีการพัฒนาเว็บไซต์สำหรับเปิดในโทรศัพย์มือถือ เพราะมือถือได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว ผู้ประกอบการจึงคิดบริการเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายผ่านช่องทางนี้กันมากขึ้น ซึ่งทีเอชเอ จะพัฒนาเว็บไซต์ให้เป็น พอร์ทัลเว็บ เป็นเพย์เม้นเกรทเวย์
อินสแตนท์บุ๊คกิ้ง และ อินสแตนท์ อินฟอร์เมชั่น ครบวงจรในหนึ่งเดียว “

ปัจจุบันนักท่องเที่ยวที่จองห้องพักโรงแรมของสมาชิกทีเอช แบ่งเป็น 25% จองผ่านเว็บไซต์ อีก 75% ผ่านตัวแทนจำหน่าย ซึ่งตัวแทนจำหน่ายหรือเอยต์ทัวร์ที่เป็นโฮเซลเลอร์ก็มีเว็บไซต์ของตัวเองด้วยเช่นกัน โดยแนวโน้วการเติบโตในรูปแบบการจองผ่านเว็บไซต์เติบโตต่เนื่องทุกปี เฉลี่ยปีลบะ 5-10%   โดยบริการใหม่นี้จะถือเป็นทางเลือกหนึ่งให้แก่ผู้บริโภค  ซึ่งบริการรูปแบบนี้
ในอเมริการมีใช้กันแพร่หลายแล้ว ส่วนประเทศเพื่อบ้านไทย เช่น สิงคโปร์ ก็มีบริการนี้แล้วเช่นกัน

*** โวยมหาดไทยปล่อยโรงแรมเถื่อนเกลื่อนเมือง****
ด้านนายประกิจ ชินอมรพงษ์ นายกสมาคมโรงแรมไทย(ทีเอชเอ) กล่าวว่า  ในส่วนของภาพรวมอุตสาหกรรมโรงแรมในปี 2553 มีสิ่งที่น่าเป็นห่วง 2 ประเด็นใหญ่ ได้แก่ 1.ปัญหาไพร์ส วอล์ หรือสงครามราคา เพื่อสร้างความน่าสนใจดึงดูดลูกค้า  เป็นผลให้อัตราค่าเฉลี่ยราคาที่พักโดยรวมของประเทศไทยในปี 2553 ลดลงจากปีก่อนนี้อีกราว 5-8%
ขณะที่อัตราค่าเฉลี่ยโรงแรมทั่วโลกเริ่มฟื้นตัวไปในทิศทางเดียวกันกับอัตรการเข้าพัก และ ตัวเลขเศรษฐกิจ และ ปัญหาที่ 2 ซึ่งมีส่วนทำให้เกิดปัญหาแรกด้วย นั่นคือ สถานการณ์โอเวอร์ซัพพลายของจำนวนห้องพัก อันเกิดจากผู้ประกอบการนอกระบบ อาทิ เซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ หอพัก โครงการบ้านจัดสรรที่มีบริการปล่อยเช่า ล้วนหันมาเปิดบริการแบบเช่ารายวัน
ส่งผลให้ดีมานด์ที่มีอยู่ในตลาดไปใช้ซัพพลายที่ไม่ถูกกฎหมาย กลุ่มนี้ เพราะราคาถูกกว่า ซึ่งการที่คิดราคาถูกกว่าโรงแรมได้ก็เพราะต้นทุนประกอบการต่ำกว่า เนื่องจากไม่ต้องเสียภาษีเฉพาะธุรกิจโรงแรม และการก่อสร้างก็ไม่มีระเบียบมากมายเหมือนโรงแรมจึงใช้ทุนต่ำกว่า

“ขอฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงมหาดไทยซึ่งกำกับดูแลการใช้ประโยชน์อาคารโดยตรง และ ฝากผ่านไปยัง ททท. ให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยจัดระบบห้องพักที่ไม่เข้าข่ายโรงแรมนี้ ให้หันมาเข้าระบบ หรือไม่ก็ลงโทษความผิดตามกฎหมาย พ.ร.บ.โรงแรมที่ประกาศใช้มาแล้วหลายปี จะได้เป็นกำลังใจให้กับผู้ประกอบการที่ดำเนินการถูกกฎหมาย รวมถึง
ขอให้ภาครัฐยกเลิกระบบเหมาจ่าย  เพราะเป็นช่องว่างเอื้อให้หน่วยงานราชการใช้โรงแรมเถื่อนกันมาก”

อย่างไรก็ตามรายงานจากสมาคมโรงแรมไทยตามภูมิภาคต่าง พบว่า ทุกพื้นที่มีจำนวนโรงแรมห้องพักเกิดขึ้นใหม่จำนวนมากทั้งที่ถูกและไม่ถูกตามกฎหมาย ได้แก่ โรงแรมภาคใต้ เฉพาะ 3 จังหวัดหลัก  ภูเก็ต กระบี่ พังงา คาดว่าปีนี้จะมีโรงแรมเปิดใหม่อีกกว่า 3,000 ห้อง เป็นระดับ 4-7ดาว ไม่นับรวมโครงการบ้านจัดสรร คอนโดที่ปล่อยเช่า ภาคตะวันตก เพชรบุรี ประจวบฯ พบว่าเฉพาะที่หัวหิน
และ ชะอำ มีห้องพักรวมกว่า 20,000 ห้อง โดยระยะ 3 ปีล่าสุดนี้มีห้องพักเพิ่มขึ้นถึง 10,000 ห้อง ยังไม่นับรวม คอนโดมิเนียม บ้านจัดสรร และเซอร์วิสอพาร์ทเม้ต์  ภาคเหนือ โรงแรมขนาดเล็ก ราคา 300-400 บาท ต่อคืน ผุดขึ้นจำนวนมากโดยเฉพาะเหนือตอนล่าง ภาคตะวสันออก เน้นที่ พัทยา จ.ชลบุรี  คาดมีโรงแรมเปิดใหม่อีกว่า 2,000 ห้องปีนี้ จากเดิมที่โอเวอร์ซัพพลายแล้ว
โดยเฉพาะช่วงนอกฤดูท่องเที่ยว ส่วนภาค กลาง ที่อยุธยา เซอร์วิสอพาร์ทเม้นต์และห้องพักรายวันเกิดขึ้นจำนวนมาก

ข้อมูลทั้งหมดที่กล่าวมา ห้องพักเช่ารายวันผิดกฆหมายเหล่านั้น เป็นข้อมูลสำคัญที่เข้ามาแย่งส่วนแบ่งตลาด ประกอบกับปีที่ผ่านมาจำนวนนักท่องเที่ยวลด จากวิกฤตเศรษบกิจ และแม้ปีนี้จะมีแนวโน้มดีขึ้นก็ยังโอเวอร์ซัพพลาย เป็นเหตุให้ผู้ประกอบการต้องแข่งขันกันตัดราคาค่าห้องเพื่อความอยู่รอด ดังนั้นจึงต้องการให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ
อกมากวดขัดและใช้กฎหมายที่มีอยู่บังคับอย่างเคร่งครัด
กำลังโหลดความคิดเห็น