ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุมสภาฯ วานนี้ (28 ม.ค.) ซึ่งมีนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณกระทู้ถามสด นายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ถามนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เรื่องการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม โดยอ้างว่านายอภิสิทธิ์ บังอาจแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม โดยกล่าวในที่ประชุม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ว่า ไม่ได้ขัดข้องเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ต้องไม่นิรโทษกรรมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และไม่ต้องการคืนทรัพย์สินให้ พ.ต.ท.ทักษิณ จึงเห็นว่านายอภิสิทธิ์ กำลังเอา พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเยื่อกับพรรคร่วมรัฐบาลในการเสียคำพูดเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ทำให้ นายอรรถพร พลบุตร ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ได้ลุกขึ้นประท้วงให้ ขอเข้าประเด็นอย่าพูดเพื่อรับใช้คนๆ เดียว นายจตุพร จึงกล่าวว่า คนเพชรบุรี เป็นนักเลง ให้บอกมาเลยว่ารับใช้คนๆ เดียวคือใคร นายอรรถพร จึงบอกว่า รับใช้ทักษิณ นายจตุพร สวนขึ้นมาทันทีว่า ขอให้ถอนคำพูด นายอรรถพร จึงกล่าวว่า ที่ถามเพราะไม่อยากให้มีคนกล่าววหาว่า ตู๊ดตู่ สู้แล้วรวยนายชัย ได้ให้นายอรรถพร ถอนคำพู แต่นายอรรถพร ไม่ยอมถอน นายชัยจึงได้เชิญออกจากห้องประชุม
นายอภิสิทธิ์ ชี้แจวว่าเรื่องนี้ตนพูด เป็นเรื่องของศาลในการตัดสิน อะไรที่สามารถตรวจสอบและพิสูจน์ได้ก็คืน ตรวจสอบไม่ได้ก็ยึดก็เท่านั้น ยืนยันว่าสิ่งที่นายจตุพรถามมาไม่เคยพูด และไม่เคยก้าวล่วงศาล
ผมไม่เคยมีประวัติแบบนี้ และไม่ควรกล่าวหาว่าผมเหิมเกรม เพราะท่านปั้นน้ำเป็นตัวมาตลอด แต่สิ่งที่ท่านพูดบนเวทีแรงกว่านี้เยอะ แต่ท่านพูดเพราะพยายามปลุกปั่นสร้างให้คนเกลียดชังผม และรัฐบาล ยืนยันสิ่งที่ท่านพูดไม่เป็นความจริง
จากนั้นนายจตุพร ถามต่อว่า นายอภิสิทธิ์ และนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ มีสิทธิ์อะไร ไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ตามหนังสือลับของกระทรวงการต่างประเทศขอให้ศาลเร่งรัดพิจารณาดำเนินคดียึดทรัพย์ของพ.ต.ท.ทักษิณ ในวันที่ 26 ก.พ.นี้
นายอภิสิทธิ์ ชี้แจงว่า เรื่องนิรโทษกรรม เป็นเรื่องของฝ่ายนิติบัญญัติ ตนไม่มีสิทธิ์ไปแทรกแซง แต่พฤติกรรมที่ท่านกำลังกล่าวหาตนอยู่นั้น ไม่มีใครพูดถึงทรัพย์สินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่จะถูกยึดเลย พูดแต่เรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ประเด็นการรับราชการทหาร ก็ชี้แจงในสภาไปแล้ว
ผมไม่รู้ว่าท่านจบกฏหมายหรือเปล่า เพราะการกล่าวหาผมในสภา ผมฟ้องท่านไม่ได้ แต่ท้าไปพูดที่อื่น ไม่แน่ เพราะในชีวิตผมฟ้องใครไม่กี่คน มีแต่ท่านปั้นน้ำเป็นตัว โกหกซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนเชื่อคำโกหกของตัวเอง ส่วนเรื่องเอกสารของกระทรวงการต่างประเทศ เป็นเรื่องเก่าเป็นการรายงานสถานการณ์เท่านั้น
นายสุนัย จุลพงษ์ศธร ส.ส.สัดส่วนเพื่อไทย จึงว่า นายจตุพร พูดถึงนายกฯ ทั้งในและนอกสภา อยากให้นายกฯฟ้องนายจตุพร เสียทีทำให้ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ลุกขึ้นประท้วงกันหลายคน ขณะที่ส.ส. พรรคเพื่อไทยก็ยกมือประท้วงจนวุนวายอยู่พักก่อนจะยุติ
ทำให้ นายอรรถพร พลบุตร ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ได้ลุกขึ้นประท้วงให้ ขอเข้าประเด็นอย่าพูดเพื่อรับใช้คนๆ เดียว นายจตุพร จึงกล่าวว่า คนเพชรบุรี เป็นนักเลง ให้บอกมาเลยว่ารับใช้คนๆ เดียวคือใคร นายอรรถพร จึงบอกว่า รับใช้ทักษิณ นายจตุพร สวนขึ้นมาทันทีว่า ขอให้ถอนคำพูด นายอรรถพร จึงกล่าวว่า ที่ถามเพราะไม่อยากให้มีคนกล่าววหาว่า ตู๊ดตู่ สู้แล้วรวยนายชัย ได้ให้นายอรรถพร ถอนคำพู แต่นายอรรถพร ไม่ยอมถอน นายชัยจึงได้เชิญออกจากห้องประชุม
นายอภิสิทธิ์ ชี้แจวว่าเรื่องนี้ตนพูด เป็นเรื่องของศาลในการตัดสิน อะไรที่สามารถตรวจสอบและพิสูจน์ได้ก็คืน ตรวจสอบไม่ได้ก็ยึดก็เท่านั้น ยืนยันว่าสิ่งที่นายจตุพรถามมาไม่เคยพูด และไม่เคยก้าวล่วงศาล
ผมไม่เคยมีประวัติแบบนี้ และไม่ควรกล่าวหาว่าผมเหิมเกรม เพราะท่านปั้นน้ำเป็นตัวมาตลอด แต่สิ่งที่ท่านพูดบนเวทีแรงกว่านี้เยอะ แต่ท่านพูดเพราะพยายามปลุกปั่นสร้างให้คนเกลียดชังผม และรัฐบาล ยืนยันสิ่งที่ท่านพูดไม่เป็นความจริง
จากนั้นนายจตุพร ถามต่อว่า นายอภิสิทธิ์ และนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ มีสิทธิ์อะไร ไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ตามหนังสือลับของกระทรวงการต่างประเทศขอให้ศาลเร่งรัดพิจารณาดำเนินคดียึดทรัพย์ของพ.ต.ท.ทักษิณ ในวันที่ 26 ก.พ.นี้
นายอภิสิทธิ์ ชี้แจงว่า เรื่องนิรโทษกรรม เป็นเรื่องของฝ่ายนิติบัญญัติ ตนไม่มีสิทธิ์ไปแทรกแซง แต่พฤติกรรมที่ท่านกำลังกล่าวหาตนอยู่นั้น ไม่มีใครพูดถึงทรัพย์สินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่จะถูกยึดเลย พูดแต่เรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ประเด็นการรับราชการทหาร ก็ชี้แจงในสภาไปแล้ว
ผมไม่รู้ว่าท่านจบกฏหมายหรือเปล่า เพราะการกล่าวหาผมในสภา ผมฟ้องท่านไม่ได้ แต่ท้าไปพูดที่อื่น ไม่แน่ เพราะในชีวิตผมฟ้องใครไม่กี่คน มีแต่ท่านปั้นน้ำเป็นตัว โกหกซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนเชื่อคำโกหกของตัวเอง ส่วนเรื่องเอกสารของกระทรวงการต่างประเทศ เป็นเรื่องเก่าเป็นการรายงานสถานการณ์เท่านั้น
นายสุนัย จุลพงษ์ศธร ส.ส.สัดส่วนเพื่อไทย จึงว่า นายจตุพร พูดถึงนายกฯ ทั้งในและนอกสภา อยากให้นายกฯฟ้องนายจตุพร เสียทีทำให้ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ลุกขึ้นประท้วงกันหลายคน ขณะที่ส.ส. พรรคเพื่อไทยก็ยกมือประท้วงจนวุนวายอยู่พักก่อนจะยุติ
