xs
xsm
sm
md
lg

อัยการมั่นใจยึดทรัพย์แม้ว-ทนายแถลงสู้คดีไม่ใช่สาระสำคัญ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายนันทศักดิ์ พูลสุข อธิบดีอัยการฝ่ายช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย หนึ่งในคณะทำงานอัยการคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาท ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เปิดเผยวานนี้ (26 ม.ค.)ว่า ขณะนี้คณะทำงานอยู่ระหว่างร่างคำแถลงปิดคดีฝ่ายอัยการผู้ร้องขอให้ยึดทรัพย์ โดยในการร่างแถลงปิดคดีนี้จะสรุปให้ศาลเห็นพฤติการณ์ การกระทำผิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ตามที่อัยการได้ยื่นฟ้องไปตั้งแต่ต้นรวม 5 ประเด็น ซึ่งขณะนี้กำลังสรุปคำเบิกความของพยานปากสำคัญๆ ที่เข้าเบิกความในชั้นไต่สวนว่า พยานปากไหน เบิกความประเด็นใดที่สำคัญๆ เพื่อนำเสนอศาลพิจารณาครั้งสุดท้าย
เชื่อว่าอัยการจะสามารถยื่นคำแถลงปิดคดีได้ในวันที่ 10 ก.พ.นี้ ก่อนครบกำหนด 30 วัน ตามที่ศาลมีคำสั่ง ส่วนที่ทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ยื่นคำแถลงปิดคดีไปแล้ว อัยการคงไม่นำมาพิจารณาประกอบ เพราะถือว่าไม่ใช่สาระที่จะสำคัญกว่าคำให้การของพยาน
ทั้งนี้ข้อต่อสู้ในการแถลงปิดคดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อวันที่ 21 ม.ค. ที่ผ่านมา นายฉัตรทิพย์ ตัณฑ์ประศาสน์ และนายพลพีร์ ตุลยสุวรรณ ทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้ถูกกล่าวหาคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาท พร้อมคณะ เดินทางมายื่นคำแถลงปิดคดีก่อนที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จะอ่านพิพากษาในวันที่ 26 ก.พ.นี้ เวลา 13.00 น.
โดยคำแถลงปิดคดีมีความยาว 162 หน้า ลงลายมือชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ สรุปว่า ข้อกล่าวหาทั้งหมดของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) เป็นพียงการสันนิษฐาน คาดเดา และการจงใจบิดเบือนข้อเท็จจริง โดยไม่มีมูลความจริง ปราศจากหลักฐานสนับสนุนข้อกล่าว และขัดแย้งกับเอกสารทั้งหมดของราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งขัดแย้งคำเบิกความของพยานซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานรัฐทุกหน่วยงาน จึงไม่มีเหตุที่จะฟังว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ผู้ถูกกล่าวหาให้บุตรและญาติพี่น้องถือหุ้น บริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ไว้แทนโดยไม่เชื่อว่ามีการซื้อขายหุ้นจริง
แต่ปรากฏข้อเท็จจริงชัดแจ้งจากทั้งพยานบุคคลและเอกสาร ตลอดจนพฤติการณ์ ที่เกี่ยวข้องว่า เงินที่ได้จากการขายหุ้นทั้งหมดจำนวน 69,722,880,932.05 บาท และเงินปันผลอีกจำนวน 6,898,722,129 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 76,621,603,061.05 บาทในคดีนี้ เป็นเงินของผู้ที่รับโอนหุ้นจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ผู้ถูกกล่าวหาและคู่สมรสจริง ไม่ใช่เงินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ผู้ถูกกล่าวหาและคู่สมรสอย่างแน่นอน จึงไม่ใช่เงินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และเจ้าหน้าที่ของรัฐ อัยการสูงสุด ผู้ร้องคดีนี้จึงไม่มีสิทธินำมาร้องขอให้เงินนั้นตกเป็นของแผ่นดิน จึงขอให้ศาลโปรดมีคำพิพากาษายกคำร้องของอัยการสูงสุด และมีคำสั่งเพิกถอนการอายัดเงินและทรัพย์สินทั้งหมดที่ คตส.ได้มีคำสั่งอายัดไว้ในคดีนี้ ให้ผู้ถูกกล่าวหา และผู้คัดค้านอื่นที่เป็นเจ้าของที่แท้จริงด้วย
อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตุว่าการแถลงปิดคดีของฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้ต่อสู้ในประเด็นข้อเท็จจริง หรือ ไม่มีการแสดงพยานหลักฐานเพื่อหักล้างพยานบุคคลที่ฝ่ายอัยการนำสืบต่อศาลให้เป็นที่ประจักษ์ชัด ขณะที่พยานทุกปากยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้กระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหา
กำลังโหลดความคิดเห็น