"ระเบียงข่าว"
มันเป็นเคราะห์กรรมของรัฐบาล ที่ไม่ถูกโฉลกกับ“สีแดง”
ตั้งแต่ก้าวมาบริหารประเทศ ต้องคอยรับมือแก้ปัญหาเริ่มจาก “คนเสื้อแดง” “เสธ.แดง” ล่าสุดก็“ปูแดง”
ทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมากลุ่มพลังเครือข่ายผู้ขายตรงแห่งประเทศไทย ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลเข้าไปดูแลแก้ปัญหาความไม่เป็นธรรมของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคหรือ สคบ. ที่อ้างข้อกฎหมายต่างๆนานา ให้ดีเอสไอ ตั้งข้อหาแชร์ลูกโซ่ สั่งปิดกิจการธุรกิจขายตรง ที่คนไทยเป็นเจ้าของ เหมือนเป็นการเอาใจบริษัทขายตรงข้ามชาติ
ทั้งๆ ที่บริษัทขายตรงที่คนไทยเป็นเจ้าของอย่าง บริษัทปูแดงไคโตซาน ที่ประกอบธุรกิจขายปุ๋ย ยอดฮิตของเกษตรกรไทย เพิ่งได้รับรางวัลผู้ประกอบการดีเด่นจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ไปหมาดๆ เมื่อเดือน มิ.ย.52
ปัญหานี้ถูกตั้งข้อสังเกตถึงความไม่ชอบมาพากล ในการบริหารงานของสคบ.จากหลายฝ่าย ขณะเดียวกันบริษัทปูแดง ก็ถูกตั้งข้อสังเกตว่า ถ้าไม่ผิดทำไมดีเอสไอ ต้องเข้าไปดำเนินการ
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ดูแลหน่วยงานสคบ. ต้องเข้าไปเคลียร์ปัญหาให้ได้ข้อยุติแบบ บัวไม่ช้ำ น้ำไม่ขุ่น ก่อนที่จะเกิดปัญหาลุกลามบานปลาย อันเนื่องมาจากการอ้างว่า คนไทยถูกกีดกันการเป็นเจ้าของธุรกิจขายตรง
ที่สำคัญรางวัลผู้ประกอบการดีเด่นที่กลุ่มพลังเครือข่ายขายตรงเหล่านี้ นำมา การันตี รับจากมือของ ฯพณฯนายกรัฐมนตรี มันน่าจะสะท้อนถึงคุณภาพของสินค้านั้นๆ แล้วทำไมถึงเจอข้อหาแชร์ลูกโซ่ ในช่วงเวลาสินค้ากำลังมียอดขายติดตลาด
อย่างไรก็ตาม เมื่อคนไทยผลิตสินค้าดีมีคุณภาพ ต้องสนับสนุน แต่กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ ก็ต้องเป็นไปอย่างถูกต้อง ไม่ผิดกฎหมาย
สิ่งที่น่าห่วงในวันนี้ ลำพังกลุ่มคนเสื้อแดงที่ออกมาเคลื่อนไหวก็ส่งผลต่อความไม่สงบโดยรวมของประเทศมากพอแล้ว อย่าให้ม็อบโน่น ม็อบนี่ แห่ออกมาเคลื่อนไหวบนท้องถนนกันมากกว่านี้เลย
ระวังอย่าให้พลังเครือข่ายที่ออกมาเคลื่อนไหว เรียกร้อง ถูกฝ่ายตรงข้ามฉวยโอกาสชักชวนไปเคลื่อนไหวร่วมป่วน เพียงเพราะผิดหวังจากการแก้ปัญหาของรัฐบาล
กฎเหล็ก 9 ข้อ ที่นายกรัฐมนตรี พ่นกรอกหูรัฐมนตรี มอบให้เป็นแนวทางการบริหารงาน หวังไม่ให้เกิดการทุจริต มันน่าจะแสดงอิทธิฤทธิ์ครอบคลุมไปยังหน่วยงานของภาครัฐ ซึ่งมีข้อครหาหนาหูเหมือนกันว่า ข้าราชการบางคนแอบตักตวงผลประโยชน์ในงานที่รับผิดชอบจนร่ำรวยผิดปกติ
