ASTVผู้จัดการรายวัน - บอร์ด MILL ไฟเขียวแตกพาร์เหลือ 0.40 บาท และให้เพิ่มทุน 2 พันล้านบาท ราคาหุ้นละ 10 บาทและ 10.50 บาท ขาย DEG บริษัทในเครือ KFW สถาบันทางการเงินยักษ์ใหญ่โซนยุโรป พร้อมให้ BRP ลงทุนโครงการ Green Mill มูลค่าไม่เกิน 2.9 พันลบ.หวังลดต้นทุนการผลิต ป้องความเสี่ยงหากขาดแคลนวัตถุดิบ รองรับแข่งขันในอนาคต ด้าน "สิทธิชัย " เผยเสริมฐานเงินทุนกลุ่มบริษัทแกร่งและขยายงาน
นายสิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มิลล์คอนสตีลอินดัสทรีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ MILL เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 1/2553 เมื่อวันที่ 20 มกราคม 53 ว่าบอร์ดมีมติอนุมัติให้จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน และหุ้นบุริมสิทธิเพิ่มทุน ที่ราคา 10 บ. และ 10.50 บ. เพื่อขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด(PP) และผู้ถือหุ้นของบริษัทบี อาร์ พี สตีล จำกัด หรือ BRP นอกจากนี้บริษัทยังได้จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ แบงค์ DEG บริษัทในเครือ KfW Bankengruppe ซึ่งเป็นหนึ่งในสถาบันทางการเงินเพื่อการพัฒนาที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป
โดยบอร์ดยังอนุมัติเปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้ของหุ้นโดยลดมูลค่าหุ้นที่ตราไว้จากหุ้นเดิมหุ้นละ 1 บาท เป็นหุ้นละ 0.40 บาท ทำให้จำนวนหุ้นของบริษัทเพิ่มจาก 692,599,996 หุ้น เป็น 1,731,499,990 หุ้น แบ่งเป็นหุ้นที่จดทะเบียนชำระแล้ว 1,432,499,990 หุ้น และหุ้นที่ออกไว้เพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ (วอร์แรนต์) 299 ล้านหุ้นโดยแบ่งจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนไม่เกิน 218,750,000 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 0.40 บาท ให้แก่ DEG ในราคาหุ้นละ 3.84 บาท ราคาเสนอขายดังกล่าวเป็นราคาที่คิดจากมูลค่าที่ตราไว้ 0.40 บาทต่อหุ้น
ขณะที่หุ้นบุริมสิทธิเพิ่มทุนให้จัดสรรไม่เกิน 499,300,000 หุ้น มูลค่าพาร์ 0.40 บาทต่อหุ้น เพื่อขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (PP) ในราคาหุ้นละไม่ต่ำกว่า 4 บาท โดยราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับราคาหุ้นละไม่ต่ำกว่า 10 บาท กรณีที่บริษัทมีพาร์ 1 บาท รวมถึงให้จัดสรรหุ้นบุริมสิทธิเพิ่มทุน 33,608,960 หุ้น ให้แก่ผู้ถือหุ้นของ BRP 17 ราย ในราคาหุ้นละ 4.20 บาท อัตราส่วน 4.45 หุ้นของบริษัท มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 0.40 บาท ต่อ 1 หุ้น ของ BRP พาร์ 5 บาท และจัดสรรหุ้นบุริมสิทธิเพิ่มทุน 11,700,000 หุ้น ให้แก่ผู้ถือหุ้นของ BRP 7 ราย ในราคาหุ้นละ 4 บาท ในอัตราส่วน 4.68 หุ้นของบริษัท พาร์ 0.40 บาท และ BRP พาร์ 5 บาท โดยผู้ถือหุ้นของ BRP สามารถนำหุ้น BRP มาชำระเป็นค่าหุ้นบุริมสิทธิเพิ่มทุนของบริษัทได้
ทั้งนี้ ราคาเสนอขายที่หุ้นละ 4.20 บาท และ 4 บาทข้างต้น เป็นราคาเสนอขายที่คิดจากการปรับลดพาร์ซึ่งราคาดังกล่าวเท่ากับราคา 10.50 บาท และ 10.00 บาทตามลำดับ
พร้อมกันนี้ยังอนุมัติให้ BRP ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ซื้อสินทรัพย์ลงทุนในโครงการ Green Mill ได้แก่ เตาหลอมอาร์คไฟฟ้า มูลค่า 2,900 ล้านบาท คาดว่าจะติดตั้งได้ไตรมาสแรกปี 53 และเริ่มดำเนินการได้ปี 55 เพื่อผลิต billet ทั้งระดับ commercial grade ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตเหล็กเส้น เหล็กข้ออ้อย และ billet ระดับ special grade เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูง(High Value Added) ซึ่งปัจจุบันไทยยังคงต้องนำเข้า billet อยู่ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงความขาดแคลนวัตถุดิบลดการนำเข้า และทำให้บริษัทลดต้นทุนในกระบวนการผลิต สามารถนำเศษเหล็ก (Scrap) มาหมุนเวียนใช้ใหม่ได้ ช่วยในการประหยัดพลังงาน และช่วยป้องกันความเสี่ยงในการขาดแคลนวัตถุดิบ พร้อมทั้งขยายผลิตภัณฑ์สินค้าได้หลากหลายมากขึ้น
" การตัดสินใจเข้าทำรายการซื้อหุ้นสามัญที่เหลือของ BRP อีก 10.10% จากผู้ถือหุ้นของ BRP ที่ตกลงแลกหุ้นนั้น จะทำให้เรามีโครงสร้างการถือหุ้นและการจัดการที่ชัดเจนเนื่อง เพราะเราเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ จะทำให้การดำเนินการมีความคล่องตัวมากขึ้น ปราศจากความขัดแย้งที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต ส่วนมูลค่ารวมของการเพิ่มทุนในครั้งนี้อยู่ที่ประมาณ 2 พันล้านบาท เราเพิ่มทุนเพื่อต้องการรองรับการขยายงานและโครงการใหม่ๆ ในอนาคต รวมถึงเป็นการเสริมสร้างฐานทุนของบริษัทและบริษัทย่อย ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น อันจะนำไปสู่การเติบโตและโอกาสในการทำกำไร ส่วนในอนาคตมีความจำเป็นต้องใช้เงินลงทุนหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับโอกาส ผลตอบแทนและความเสี่ยง "นายสิทธิชัยกล่าว\
นายสิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มิลล์คอนสตีลอินดัสทรีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ MILL เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 1/2553 เมื่อวันที่ 20 มกราคม 53 ว่าบอร์ดมีมติอนุมัติให้จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน และหุ้นบุริมสิทธิเพิ่มทุน ที่ราคา 10 บ. และ 10.50 บ. เพื่อขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด(PP) และผู้ถือหุ้นของบริษัทบี อาร์ พี สตีล จำกัด หรือ BRP นอกจากนี้บริษัทยังได้จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ แบงค์ DEG บริษัทในเครือ KfW Bankengruppe ซึ่งเป็นหนึ่งในสถาบันทางการเงินเพื่อการพัฒนาที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป
โดยบอร์ดยังอนุมัติเปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้ของหุ้นโดยลดมูลค่าหุ้นที่ตราไว้จากหุ้นเดิมหุ้นละ 1 บาท เป็นหุ้นละ 0.40 บาท ทำให้จำนวนหุ้นของบริษัทเพิ่มจาก 692,599,996 หุ้น เป็น 1,731,499,990 หุ้น แบ่งเป็นหุ้นที่จดทะเบียนชำระแล้ว 1,432,499,990 หุ้น และหุ้นที่ออกไว้เพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ (วอร์แรนต์) 299 ล้านหุ้นโดยแบ่งจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนไม่เกิน 218,750,000 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 0.40 บาท ให้แก่ DEG ในราคาหุ้นละ 3.84 บาท ราคาเสนอขายดังกล่าวเป็นราคาที่คิดจากมูลค่าที่ตราไว้ 0.40 บาทต่อหุ้น
ขณะที่หุ้นบุริมสิทธิเพิ่มทุนให้จัดสรรไม่เกิน 499,300,000 หุ้น มูลค่าพาร์ 0.40 บาทต่อหุ้น เพื่อขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (PP) ในราคาหุ้นละไม่ต่ำกว่า 4 บาท โดยราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับราคาหุ้นละไม่ต่ำกว่า 10 บาท กรณีที่บริษัทมีพาร์ 1 บาท รวมถึงให้จัดสรรหุ้นบุริมสิทธิเพิ่มทุน 33,608,960 หุ้น ให้แก่ผู้ถือหุ้นของ BRP 17 ราย ในราคาหุ้นละ 4.20 บาท อัตราส่วน 4.45 หุ้นของบริษัท มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 0.40 บาท ต่อ 1 หุ้น ของ BRP พาร์ 5 บาท และจัดสรรหุ้นบุริมสิทธิเพิ่มทุน 11,700,000 หุ้น ให้แก่ผู้ถือหุ้นของ BRP 7 ราย ในราคาหุ้นละ 4 บาท ในอัตราส่วน 4.68 หุ้นของบริษัท พาร์ 0.40 บาท และ BRP พาร์ 5 บาท โดยผู้ถือหุ้นของ BRP สามารถนำหุ้น BRP มาชำระเป็นค่าหุ้นบุริมสิทธิเพิ่มทุนของบริษัทได้
ทั้งนี้ ราคาเสนอขายที่หุ้นละ 4.20 บาท และ 4 บาทข้างต้น เป็นราคาเสนอขายที่คิดจากการปรับลดพาร์ซึ่งราคาดังกล่าวเท่ากับราคา 10.50 บาท และ 10.00 บาทตามลำดับ
พร้อมกันนี้ยังอนุมัติให้ BRP ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ซื้อสินทรัพย์ลงทุนในโครงการ Green Mill ได้แก่ เตาหลอมอาร์คไฟฟ้า มูลค่า 2,900 ล้านบาท คาดว่าจะติดตั้งได้ไตรมาสแรกปี 53 และเริ่มดำเนินการได้ปี 55 เพื่อผลิต billet ทั้งระดับ commercial grade ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตเหล็กเส้น เหล็กข้ออ้อย และ billet ระดับ special grade เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูง(High Value Added) ซึ่งปัจจุบันไทยยังคงต้องนำเข้า billet อยู่ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงความขาดแคลนวัตถุดิบลดการนำเข้า และทำให้บริษัทลดต้นทุนในกระบวนการผลิต สามารถนำเศษเหล็ก (Scrap) มาหมุนเวียนใช้ใหม่ได้ ช่วยในการประหยัดพลังงาน และช่วยป้องกันความเสี่ยงในการขาดแคลนวัตถุดิบ พร้อมทั้งขยายผลิตภัณฑ์สินค้าได้หลากหลายมากขึ้น
" การตัดสินใจเข้าทำรายการซื้อหุ้นสามัญที่เหลือของ BRP อีก 10.10% จากผู้ถือหุ้นของ BRP ที่ตกลงแลกหุ้นนั้น จะทำให้เรามีโครงสร้างการถือหุ้นและการจัดการที่ชัดเจนเนื่อง เพราะเราเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ จะทำให้การดำเนินการมีความคล่องตัวมากขึ้น ปราศจากความขัดแย้งที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต ส่วนมูลค่ารวมของการเพิ่มทุนในครั้งนี้อยู่ที่ประมาณ 2 พันล้านบาท เราเพิ่มทุนเพื่อต้องการรองรับการขยายงานและโครงการใหม่ๆ ในอนาคต รวมถึงเป็นการเสริมสร้างฐานทุนของบริษัทและบริษัทย่อย ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น อันจะนำไปสู่การเติบโตและโอกาสในการทำกำไร ส่วนในอนาคตมีความจำเป็นต้องใช้เงินลงทุนหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับโอกาส ผลตอบแทนและความเสี่ยง "นายสิทธิชัยกล่าว\
