ASTVผู้จัดการรายวัน – เอไอเอสพลิกเกม 3G หลังไม่เห็นอนาคตการประมูลไลเซ่นส์กทช. จับมือทีโอทีโรมมิ่งบริการ 3G ในกทม.เปิดบริการ 1 ก.พ.นี้ ก่อนพัฒนาไปสู่ความร่วมมือทุกรูปแบบ ตามวิชัน 2010 ที่หวังสร้างระบบนิเวศน์ด้านสื่อสารหรือEcosystem
นายสมประสงค์ บุญยะชัย รองประธานกรรมการบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ เอไอเอส กล่าวว่าวิชันเอไอเอสในปี53 เอไอเอสมีแนวคิดการทำตลาดแบบอีโคซิสเต็ม (Ecosystem) หรือระบบนิเวศน์ของโลกแห่งการสื่อสาร ซึ่งรวมทุกบริการที่เอไอเอสมีให้เชื่อมต่อกันแบบไร้รอยต่อ เนื่องจากเอไอเอสเล็งเห็นแนวโน้มรูปแบบการใช้บริการด้านสื่อสารโทรคมนาคมของคนไทยในปีที่ผ่านมามีการเติบโตอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะการใช้โมบายล์ อินเทอร์เน็ต อินเทอร์เน็ตไร้สาย รวมถึงบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคมีความต้องการใช้บริการที่ผสมผสานกันจนแยกไม่ออก
ทั้งนี้ในปีที่ผ่านมาเอไอเอสมียอดการดาวน์โหลดเพลงมากกว่า 20 ล้านครั้ง โดย 60% เป็นการดาวน์โหลดผ่านคอลล์เซ็นเตอร์ มีผู้ใช้บริการโมบายล์ อินเทอร์เน็ตกว่า 6.5 ล้านราย และมีผู้ใช้แอร์การ์ดเอไอเอสในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแล้วกว่า 3 แสนราย ขณะที่การเข้าสู่สังคมออนไลน์ และอีเมล์ผ่านแบล็กเบอรี่ในเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ของเอไอเอสมีผู้ใช้บริการแล้วกว่า1 แสนราย ซึ่งปัจจุบันเอไอเอสมีลูกค้า 28.5 ล้านราย
นายวิเชียร เมฆตระการ หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ผู้บริหาร เอไอเอส กล่าวว่า ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ เอไอเอสจะเปิดให้บริการ 3G ด้วยใช้วิธีโรมมิ่ง ดาต้ากับบริการ 3 Gของบริษัท ทีโอที ซึ่งเปิดให้บริการไปแล้วในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล อย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้ในเฟสแรกจะเปิดให้บริการเฉพาะลูกค้าที่ซื้อซิมใหม่ของเอไอเอสก่อน ขณะที่การพัฒนาเฟสต่อไปบริษัทอยู่ระหว่างวางระบบเพื่อให้ลูกค้าเอไอเอส สามารถเชื่อมต่อบริการ 3Gของทีโอทีได้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ส่วนค่าบริการขณะนี้ยังไม่ชัดเจนเบื้องต้นคาดว่าจะต้องใกล้เคียงกับเอกชนที่เป็นMVNO กับทีโอที
'สำหรับค่าบริการที่เกิดจากธุรกิจนี้จะเป็นรายได้ของทีโอที เพราะเอไอเอสไม่อยากเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับ 3G ของทีโอทีเพราะหวั่นว่าจะมีผลต่อการขอไลเซ่นส์ใหม่ เนื่องจากขณะนี้กทช.ยังตีความเรื่องนี้ไม่ชัดเจน'
นอกจากนี้เอไอเอสพร้อมจะเปิดการเจรจากับทีโอที ในรูปของการลงทุนร่วมกัน แม้กระทั่งการเป็นผู้ลงทุนให้สำหรับการลงทุนสร้างโครงข่าย 3G ทั่วประเทศมูลค่า 2 หมื่นล้านบาทที่ขณะนี้ต้องอยู่ระหว่างชะลอโครงการ
นายวิเชียร กล่าวว่า วิธีการดังกล่าวถือว่าสอดคล้องกับวิสัยทัศน์บริษัทที่ต้องการดำเนินธุรกิจในรูปแบบ อีโคซิสเต็ม (Ecosystem) ซึ่งหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญคือ พันธมิตรทางธุรกิจ นอกเหนือจากเรื่องของอุปกรณ์ ช่องทางการให้บริการลูกค้า ผู้ให้บริการคอนเทนต์ และผู้พัฒนาโซลูชั่นส์
สำหรับเงินลงทุนเอไอเอสในปีนี้คาดว่าจะอยู่ใกล้เคียงปีที่ผ่านมาคือประมาณ 1.1-1.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งไม่รวมการลงทุน 3Gขณะที่หากจะต้องลงทุนโครงข่าย 3Gคาดว่าจะใช้งบฯ ต่อเนื่อง 3 ปี ประมาณ 4.5-5 หมื่นล้านบาท
สำหรับแนวโน้มอุตสาหกรรมโทรคมนาคมปี53 คาดเติบโต 3-5% ใกล้เคียงกับการขยายตัวของภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศ หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 2.5 แสนล้านบาท หรือมีผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือราว 69 ล้านเลขหมายโดยบริการที่ยังคงเติบโตต่อเนื่อง ได้แก่ ดิจิตอล คอนเทนต์ 20% อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (บรอดแบนด์) แบบมีสาย เติบโต 25% บรอดแบนด์ไร้สาย เติบโต 50% หรือคิดเป็นจำนวนผู้ใช้ 18 ล้านคนส่วนรายได้รวมบริษัทปีนี้ตั้งเป้ามากกว่า 1แสนล้านบาท ซึ่งในส่วนของเอไอเอสเชื่อว่าจะเติบโต3-5%เช่นกัน
นายสมประสงค์ บุญยะชัย รองประธานกรรมการบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ เอไอเอส กล่าวว่าวิชันเอไอเอสในปี53 เอไอเอสมีแนวคิดการทำตลาดแบบอีโคซิสเต็ม (Ecosystem) หรือระบบนิเวศน์ของโลกแห่งการสื่อสาร ซึ่งรวมทุกบริการที่เอไอเอสมีให้เชื่อมต่อกันแบบไร้รอยต่อ เนื่องจากเอไอเอสเล็งเห็นแนวโน้มรูปแบบการใช้บริการด้านสื่อสารโทรคมนาคมของคนไทยในปีที่ผ่านมามีการเติบโตอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะการใช้โมบายล์ อินเทอร์เน็ต อินเทอร์เน็ตไร้สาย รวมถึงบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคมีความต้องการใช้บริการที่ผสมผสานกันจนแยกไม่ออก
ทั้งนี้ในปีที่ผ่านมาเอไอเอสมียอดการดาวน์โหลดเพลงมากกว่า 20 ล้านครั้ง โดย 60% เป็นการดาวน์โหลดผ่านคอลล์เซ็นเตอร์ มีผู้ใช้บริการโมบายล์ อินเทอร์เน็ตกว่า 6.5 ล้านราย และมีผู้ใช้แอร์การ์ดเอไอเอสในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแล้วกว่า 3 แสนราย ขณะที่การเข้าสู่สังคมออนไลน์ และอีเมล์ผ่านแบล็กเบอรี่ในเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ของเอไอเอสมีผู้ใช้บริการแล้วกว่า1 แสนราย ซึ่งปัจจุบันเอไอเอสมีลูกค้า 28.5 ล้านราย
นายวิเชียร เมฆตระการ หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ผู้บริหาร เอไอเอส กล่าวว่า ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ เอไอเอสจะเปิดให้บริการ 3G ด้วยใช้วิธีโรมมิ่ง ดาต้ากับบริการ 3 Gของบริษัท ทีโอที ซึ่งเปิดให้บริการไปแล้วในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล อย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้ในเฟสแรกจะเปิดให้บริการเฉพาะลูกค้าที่ซื้อซิมใหม่ของเอไอเอสก่อน ขณะที่การพัฒนาเฟสต่อไปบริษัทอยู่ระหว่างวางระบบเพื่อให้ลูกค้าเอไอเอส สามารถเชื่อมต่อบริการ 3Gของทีโอทีได้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ส่วนค่าบริการขณะนี้ยังไม่ชัดเจนเบื้องต้นคาดว่าจะต้องใกล้เคียงกับเอกชนที่เป็นMVNO กับทีโอที
'สำหรับค่าบริการที่เกิดจากธุรกิจนี้จะเป็นรายได้ของทีโอที เพราะเอไอเอสไม่อยากเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับ 3G ของทีโอทีเพราะหวั่นว่าจะมีผลต่อการขอไลเซ่นส์ใหม่ เนื่องจากขณะนี้กทช.ยังตีความเรื่องนี้ไม่ชัดเจน'
นอกจากนี้เอไอเอสพร้อมจะเปิดการเจรจากับทีโอที ในรูปของการลงทุนร่วมกัน แม้กระทั่งการเป็นผู้ลงทุนให้สำหรับการลงทุนสร้างโครงข่าย 3G ทั่วประเทศมูลค่า 2 หมื่นล้านบาทที่ขณะนี้ต้องอยู่ระหว่างชะลอโครงการ
นายวิเชียร กล่าวว่า วิธีการดังกล่าวถือว่าสอดคล้องกับวิสัยทัศน์บริษัทที่ต้องการดำเนินธุรกิจในรูปแบบ อีโคซิสเต็ม (Ecosystem) ซึ่งหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญคือ พันธมิตรทางธุรกิจ นอกเหนือจากเรื่องของอุปกรณ์ ช่องทางการให้บริการลูกค้า ผู้ให้บริการคอนเทนต์ และผู้พัฒนาโซลูชั่นส์
สำหรับเงินลงทุนเอไอเอสในปีนี้คาดว่าจะอยู่ใกล้เคียงปีที่ผ่านมาคือประมาณ 1.1-1.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งไม่รวมการลงทุน 3Gขณะที่หากจะต้องลงทุนโครงข่าย 3Gคาดว่าจะใช้งบฯ ต่อเนื่อง 3 ปี ประมาณ 4.5-5 หมื่นล้านบาท
สำหรับแนวโน้มอุตสาหกรรมโทรคมนาคมปี53 คาดเติบโต 3-5% ใกล้เคียงกับการขยายตัวของภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศ หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 2.5 แสนล้านบาท หรือมีผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือราว 69 ล้านเลขหมายโดยบริการที่ยังคงเติบโตต่อเนื่อง ได้แก่ ดิจิตอล คอนเทนต์ 20% อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (บรอดแบนด์) แบบมีสาย เติบโต 25% บรอดแบนด์ไร้สาย เติบโต 50% หรือคิดเป็นจำนวนผู้ใช้ 18 ล้านคนส่วนรายได้รวมบริษัทปีนี้ตั้งเป้ามากกว่า 1แสนล้านบาท ซึ่งในส่วนของเอไอเอสเชื่อว่าจะเติบโต3-5%เช่นกัน