ASTVผู้จัดการรายวัน - สศค.เผยจัดเก็บภาษี 3 เดือนแรกวิ่งฉิว มียอดรวม 3.48 แสนล้าน สูงกว่าเป้า 6.6 หมื่นล้าน หรือกว่า 23% ชี้เป็นผลจากการจัดเก็บรายได้ 3 กรมหลักที่สูงกว่าเป้าหมายเช่นกัน โดยเฉพาะการภาษีมูลค่าเพิ่ม สะท้อนถึงการอุปโภค-การนำเข้าที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง มั่นใจทั้งปีทะลุเป้าแน่นอน
นายสาธิต รังคสิริ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)เปิดเเผยว่า ในเดือนธันวาคม 2552 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 1.03 แสนล้านบาท สูงกว่าเป้าเกือบ 25,000 ล้านบาท เป็นผลจากการบริโภคและการนำเข้าที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง ส่งผลให้ช่วง 3 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2553 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สูงกว่าเป้า 67,000 ล้านบาท หรือร้อยละ 23.8
ทั้งนี้ ในเดือนธันวาคม 2552 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 103,487 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 24,841 ล้านบาท หรือร้อยละ 31.6 เป็นผลจากการจัดเก็บภาษีที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคและการนำเข้าสูงกว่าประมาณการ ซึ่งสะท้อนถึงภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ มูลค่าการนำเข้าทองคำที่เพิ่มสูงขึ้นมากในเดือนธันวาคมส่งผลให้ภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บจากการนำเข้าเพิ่มสูงขึ้นจากแนวโน้มปกติ
โดยภาษีที่จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 3 อันดับแรก ได้แก่ ภาษีมูลค่าเพิ่ม จัดเก็บได้ 41,378 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 8,101 ล้านบาทหรือร้อยละ 24.3 เป็นผลจากการบริโภคภายในประเทศและการนำเข้าที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากมูลค่าการนำเข้าทองคำที่เพิ่มขึ้นถึงประมาณ 1,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนธันวาคม 2552 เมื่อเทียบกับมูลค่าการนำเข้าทองคำเฉลี่ยประมาณเดือนละ 160 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วง 3 เดือนก่อนหน้า
ภาษีน้ำมันจัดเก็บได้ 13,004 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 4,130 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 46.5 เป็นผลจากการปรับเพิ่มอัตราภาษีน้ำมันในเดือนพฤษภาคม 2552 ประกอบกับการสำรองน้ำมัน สำเร็จรูปเพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงวันหยุดปีใหม่
และภาษีรถยนต์ จัดเก็บได้ 6,989 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 3,450 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 97.5 เป็นผลจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง และอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ นอกจากนี้ ในด้านผู้ประกอบการมีการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่และการจัดโครงการส่งเสริมการขายเพื่อรองรับกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ชะลอการตัดสินใจซื้อในช่วงก่อนหน้าที่เศรษฐกิจหดตัวอย่างรุนแรง
สำหรับในช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2553 (ตุลาคม – ธันวาคม 2552) รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 348,169 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 66,864 ล้านบาท หรือร้อยละ 23.8 โดยทั้ง 3 กรมจัดเก็บหลัก ได้แก่ กรมสรรพสามิตจัดเก็บได้รวม 100,846 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 28,694 ล้านบาท หรือร้อยละ 39.8 (สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วร้อยละ 76.1) เนื่องจากมีการปรับเพิ่มอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมัน สุรา เบียร์ และยาสูบ เมื่อเดือนพฤษภาคม 2552 ประกอบกับการบริโภคภายในประเทศที่ฟื้นตัว ส่งผลให้จัดเก็บภาษีน้ำมัน ภาษีรถยนต์ และภาษีเบียร์ สูงกว่าประมาณการ 11,245 8,154 และ 4,855 ล้านบาท หรือร้อยละ 42.6 76.1 และ 42.1 ตามลำดับ
กรมสรรพากร จัดเก็บได้รวม 230,136 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 26,475 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 13.0 (สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วร้อยละ 1.3) ภาษีที่จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการที่สำคัญ คือ ภาษีมูลค่าเพิ่มจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 18,515 ล้านบาท หรือร้อยละ 18.0
และกรมศุลกากร จัดเก็บได้รวม 25,414 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 6,149 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 31.9 (สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วร้อยละ 5.1) เนื่องจากอากรขาเข้าจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 5,660 ล้านบาท หรือร้อยละ 30.3 โดยมีสาเหตุหลักจากการนำเข้าที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ รัฐวิสาหกิจ นำส่งรายได้ 21,175 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 44 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.2 (สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วร้อยละ 71.9) เนื่องจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ธนาคารออมสิน และสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลนำส่งรายได้สูงกว่าประมาณการ 1,290 708 และ 575 ล้านบาท ตามลำดับ อย่างไรก็ดี การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคขอทยอยนำส่งรายได้เป็น 6 งวด จากเดิมที่คาดว่าจะนำส่งทั้งจำนวนในเดือนตุลาคม นอกจากนี้ บมจ.การบินไทย ไม่สามารถจ่ายเงินปันผลได้เนื่องจากมีผลประกอบการขาดทุน
นายสาธิตกล่าวอีกว่า จากผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลในช่วง 3 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2553 สะท้อนว่าเศรษฐกิจไทยได้ฟื้นตัวแล้ว ทำให้มั่นใจว่าการจัดเก็บรายได้ในปีงบประมาณ 2553 นี้ จะสูงกว่าประมาณการอย่างแน่นอน และส่งผลให้ฐานะการคลังของรัฐบาลมีความมั่นคง
นายสาธิต รังคสิริ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)เปิดเเผยว่า ในเดือนธันวาคม 2552 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 1.03 แสนล้านบาท สูงกว่าเป้าเกือบ 25,000 ล้านบาท เป็นผลจากการบริโภคและการนำเข้าที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง ส่งผลให้ช่วง 3 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2553 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สูงกว่าเป้า 67,000 ล้านบาท หรือร้อยละ 23.8
ทั้งนี้ ในเดือนธันวาคม 2552 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 103,487 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 24,841 ล้านบาท หรือร้อยละ 31.6 เป็นผลจากการจัดเก็บภาษีที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคและการนำเข้าสูงกว่าประมาณการ ซึ่งสะท้อนถึงภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ มูลค่าการนำเข้าทองคำที่เพิ่มสูงขึ้นมากในเดือนธันวาคมส่งผลให้ภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บจากการนำเข้าเพิ่มสูงขึ้นจากแนวโน้มปกติ
โดยภาษีที่จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 3 อันดับแรก ได้แก่ ภาษีมูลค่าเพิ่ม จัดเก็บได้ 41,378 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 8,101 ล้านบาทหรือร้อยละ 24.3 เป็นผลจากการบริโภคภายในประเทศและการนำเข้าที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากมูลค่าการนำเข้าทองคำที่เพิ่มขึ้นถึงประมาณ 1,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนธันวาคม 2552 เมื่อเทียบกับมูลค่าการนำเข้าทองคำเฉลี่ยประมาณเดือนละ 160 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วง 3 เดือนก่อนหน้า
ภาษีน้ำมันจัดเก็บได้ 13,004 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 4,130 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 46.5 เป็นผลจากการปรับเพิ่มอัตราภาษีน้ำมันในเดือนพฤษภาคม 2552 ประกอบกับการสำรองน้ำมัน สำเร็จรูปเพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงวันหยุดปีใหม่
และภาษีรถยนต์ จัดเก็บได้ 6,989 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 3,450 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 97.5 เป็นผลจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง และอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ นอกจากนี้ ในด้านผู้ประกอบการมีการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่และการจัดโครงการส่งเสริมการขายเพื่อรองรับกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ชะลอการตัดสินใจซื้อในช่วงก่อนหน้าที่เศรษฐกิจหดตัวอย่างรุนแรง
สำหรับในช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2553 (ตุลาคม – ธันวาคม 2552) รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 348,169 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 66,864 ล้านบาท หรือร้อยละ 23.8 โดยทั้ง 3 กรมจัดเก็บหลัก ได้แก่ กรมสรรพสามิตจัดเก็บได้รวม 100,846 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 28,694 ล้านบาท หรือร้อยละ 39.8 (สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วร้อยละ 76.1) เนื่องจากมีการปรับเพิ่มอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมัน สุรา เบียร์ และยาสูบ เมื่อเดือนพฤษภาคม 2552 ประกอบกับการบริโภคภายในประเทศที่ฟื้นตัว ส่งผลให้จัดเก็บภาษีน้ำมัน ภาษีรถยนต์ และภาษีเบียร์ สูงกว่าประมาณการ 11,245 8,154 และ 4,855 ล้านบาท หรือร้อยละ 42.6 76.1 และ 42.1 ตามลำดับ
กรมสรรพากร จัดเก็บได้รวม 230,136 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 26,475 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 13.0 (สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วร้อยละ 1.3) ภาษีที่จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการที่สำคัญ คือ ภาษีมูลค่าเพิ่มจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 18,515 ล้านบาท หรือร้อยละ 18.0
และกรมศุลกากร จัดเก็บได้รวม 25,414 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 6,149 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 31.9 (สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วร้อยละ 5.1) เนื่องจากอากรขาเข้าจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 5,660 ล้านบาท หรือร้อยละ 30.3 โดยมีสาเหตุหลักจากการนำเข้าที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ รัฐวิสาหกิจ นำส่งรายได้ 21,175 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 44 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.2 (สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วร้อยละ 71.9) เนื่องจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ธนาคารออมสิน และสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลนำส่งรายได้สูงกว่าประมาณการ 1,290 708 และ 575 ล้านบาท ตามลำดับ อย่างไรก็ดี การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคขอทยอยนำส่งรายได้เป็น 6 งวด จากเดิมที่คาดว่าจะนำส่งทั้งจำนวนในเดือนตุลาคม นอกจากนี้ บมจ.การบินไทย ไม่สามารถจ่ายเงินปันผลได้เนื่องจากมีผลประกอบการขาดทุน
นายสาธิตกล่าวอีกว่า จากผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลในช่วง 3 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2553 สะท้อนว่าเศรษฐกิจไทยได้ฟื้นตัวแล้ว ทำให้มั่นใจว่าการจัดเก็บรายได้ในปีงบประมาณ 2553 นี้ จะสูงกว่าประมาณการอย่างแน่นอน และส่งผลให้ฐานะการคลังของรัฐบาลมีความมั่นคง