สศค.เผยเดือน พ.ย.รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิทะลุเป้ากว่า 2 หมื่นล้าน คิดเป็น 19% ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 โดยภาษีที่จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณในลำดับต้นๆ ได้แก่ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีสรรพสามิตรถยนต์ อากรขาเข้า และภาษีเบียร์ สะท้อนการบริโภคที่แข็งแกร่ง และการนำเข้าที่ฟื้นตัวอย่างชัดเจน ส่วนภาษีน้ำมันจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 3,537 ล้านบาท เป็นผลจากการปรับเพิ่มอัตราภาษีน้ำมันในเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา
นายสาธิต รังคสิริ ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยการจัดเก็บรายได้เดือนพฤศจิกายน 2552 จัดเก็บได้สุทธิ 127,445 ล้านบาท สูงเกินประมาณการ 20,354 ล้านบาท หรือคิดเป็น 19% ซึ่งต่อเนื่องเป็นเดือนที่สองของปีงบประมาณ 2553 ทำให้มั่นใจภาวะเศรษฐกิจของไทยในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2552 จะขยายตัวเป็นบวกอย่างแน่นอน
"จากผลการจัดเก็บภาษีในเดือนพฤศจิกายน 2552 ที่ผ่านมา ทำให้มั่นใจว่าเศรษฐกิจไทยไตรมาสสุดท้ายของปี 2552 จะขยายตัวในอัตราที่เป็นบวกตามที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลังได้ประมาณการไว้อย่างแน่นอน"
ภาษีที่จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการเป็นอันดับต้นๆ ได้แก่ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีสรรพสามิตรถยนต์ อากรขาเข้า และภาษีเบียร์ ซึ่งสะท้อนถึงการบริโภคและการนำเข้าที่ฟื้นตัวอย่างชัดเจน ส่วนภาษีน้ำมันจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 3,537 ล้านบาท เป็นผลจากการปรับเพิ่มอัตราภาษีน้ำมันในเดือนพฤษภาคม 2552 ที่ผ่านมา
ส่วนช่วง 2 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2553 (ตุลาคม-พฤศจิกายน 2552) รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 243,080 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 40,419 ล้านบาท หรือคิดเป็น 19.9% โดยกรมสรรพสามิตจัดเก็บภาษีได้สูงกว่าเป้าหมาย 17,590 ล้านบาท หรือ 37.2%, กรมสรรพากรจัดเก็บภาษีได้สูงกว่าเป้าหมาย 14,074 หรือ 9.8% และกรมศุลกากรจัดเก็บภาษีได้สูงกว่าเป้าหมาย 3,849 ล้านบาท หรือ 29.6%
สำหรับรัฐวิสาหกิจนำส่งรายได้ 18,590 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 245 ล้านบาท หรือ 1.3% แต่สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 168.3% และหน่วยงานอื่นจัดเก็บได้รวม 18,111 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 2,322 ล้านบาท หรือ 14.7% แต่ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของก่อน 5.3%
