xs
xsm
sm
md
lg

"สุรยุทธ์"ตัดใจไม่ลง ยังไม่คืนที่เขายายเที่ยง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-"สุรยุทธ์"ยังไม่คืนที่เขายายเที่ยง อ้างรอให้กรมป่าไม้ชี้ขาดก่อน ขณะที่กรมป่าไม้ขอเวลา 7 วันสำรวจพื้นที่ก่อนชี้ขาด ระบุเป็นป่าอนุรักษ์โซนซีห้ามครอบครอง ข้องใจเป็นที่ดินที่ซื้อจากนายเบ้า จริงหรือไม่ ด้าน"แดงถ่อย" สลายชุมนุม ทิ้งขยะ สิ่งปฏิกูลเกลื่อน ตลอดสองข้างทาง อุจจาระ ปัสสาวะ ส่งกลิ่นหึ่ง ขู่บุกทำเนียบองคมนตรีและเขาสอยดาวคิวต่อไป ขณะเดียวที่สำนักอนุรักษ์ 11 บุกตรวจยึดที่ดิน ภบท.5 ริมถนนพิษณุโลก-หล่มสัก ถูกใช้ผุดรีสอร์ท-กาแฟสด ก่อนหน้าคณะ “ชวน หลีกภัย” ผ่านลงพื้นที่นครไทย ทัวร์หม่อน-ไหม คุ้มไร่กำนันจุลไหมไทยแห่งเพชรบูรณ์

เมื่อเวลา 15.00 น. วานนี้ (12 ม.ค.) ที่มูลนิธิรัฐบุรุษ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี เป็นประธานแถลงข่าวมหกรรมดนตรีเพื่อธรรมชาติและชีวิตครั้งที่ 14 ที่จะจัดขึ้นที่ บ้านโต่งโต้น ทางขึ้นเขาใหญ่ด้าน อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ในวันที่ 23 ม.ค.นี้ ตั้งแต่เวลา 15.00 - 06.00 น.ของวันที่ 24 ม.ค.นี้

จากนั้นพล.อ.สุรยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กลุ่มเสื้อแดงชุมนุมเพื่อเรียกร้องให้มีการคืนที่ดินบ้านพักเขายายเที่ยงจำนวน 21ไร่ ว่าจากการที่โฆษกสำนักอัยการสูงสุดได้ชี้แจง และได้รับทราบว่าคณะกรรมการกรมป่าไม้ จะดำเนินการพิจารณาตามระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งตนตอบได้เพียงว่า ตนพร้อมจะปฏิบัติตามกฎหมาย เมื่อกรมป่าไม้พิจารณาว่ามีคำชี้ขาดเป็นอย่างไร ตนพร้อมปฏิบัติตามนั้น

เมื่อถามว่าหากกรมป่าไม้ชี้ขาดให้คืนที่ดิน ยินดีจะคืนหรือไม่ พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่าตนพร้อมปฏิบัติตามกฎหมาย ส่วนจะเป็นอย่างไร ตนไม่ทราบ เพราะคณะกรรมการยังไม่มีการชี้ขาดมา เมื่อถามว่าทราบหรือไม่ว่าพื้นที่ที่ครอบครองมีความผิดตามกฎหมาย พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ในแง่ที่เป็นความผิดต่างๆ ตนไม่ได้ทราบในรายละเอียดมากนัก เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่า

"เป็นเรื่องที่อาจจะมีผู้ที่กล่าวหาผม แต่เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายอยู่แล้ว เมื่อถึงขั้นนี้ในเรื่องความผิดตามกฎ หมายคงไม่ได้ถือว่าผมเป็นผู้บุกรุก ซึ่งเป็นไปตามที่โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดได้แถลงไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ผมทราบเพียงแต่ผลที่แถลงไปแล้วเท่านั้น

เมื่อถามถึงกรณีที่กลุ่มเสื้อแดงเรียกร้องให้ลาออกจากตำแหน่งองคมนตรี พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า "ไม่ได้เป็นเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกัน" เมื่อถามว่า จะแสดงสปิริตคืนพื้นที่ก่อนที่กรมป่าไม้จะมีผลชี้ขาดหรือไม่ พล.อ.สุรยุทธ์ ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม ก่อนที่จะเดินเลี่ยงสื่อมวลชนออกไป

**ป่าไม้ขอเวลาตรวจสอบ 7 วัน

นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวถึงกรณีการครอบครองที่ดินบนเขายายเที่ยงของพล.อ.สุรยุทธ์ว่าขอให้รอผลการดำเนินการของกรมป่าไม้ ซึ่งจะเป็นผู้ชี้ขาดว่า จะให้มีการดำเนินการอย่างไรต่อไป

ด้านนายศักดิ์สิทธิ์ ตรีเดช ปลัดทส. กล่าวถึงการตั้งคณะทำงานเพื่อแก้ไข และบรรเทาปัญหาการบุกรุกพื้นที่เขายายเที่ยงว่า ต้องอาศัย 2 หน่วยงาน คือ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช และกรมป่าไม้ ทำงานร่วมกัน ซึ่งตามหลักการแล้วคณะทำงานจะต้องมีอำนาจหน้าที่ในการเรียกดูข้อมูลเอกสารที่เกี่ยวข้อง และลงพื้นที่เข้าไปตรวจสอบ รวมทั้งนำข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียม และแผนที่เข้ามาเปรียบเทียบวัด เพื่อนำไปสู่ข้อสรุปให้ได้ข้อเท็จจริงและนำไปสู่การแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างครอบคลุม ไม่เฉพาะกรณีที่เป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้เท่านั้น แต่ต้องครอบคลุมไปถึงทุกกรณี

นายสมชัย เพียรสถาพร อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า ขณะนี้กรมป่าไม้ยังไม่ได้รับสำนวนคดีจากอัยการ เมื่อได้รับแล้ว คณะทำงานเพื่อแก้ไขและบรรเทาปัญหาการบุกรุกพื้นที่เขายายเที่ยง จะใช้เวลาในการตรวจสอบข้อเท็จจริงในพื้นที่เขายายเที่ยงภายใน 7 วัน จากนั้นจะมีความชัดเจนว่าจะดำเนินการอย่างไรให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ ส่วนในพื้นที่อื่นๆทั่วประเทศที่มีปัญหาในลักษณะเดียวกัน ก็จะดำเนินการต่อไปในภายหลัง

**ข้องใจเป็นที่"นายเบ้า"จริงหรือไม่

แหล่งข่าวจากทส. ระบุว่าสำหรับประเด็นที่ต้องพิจารณาในพื้นที่เขายายเที่ยงของพล.อ.สุรยุทธ์นั้น มีข้อสังเกตว่าพื้นที่ที่พล.อ.สุรยุทธ์ครอบครองอยู่ เป็นที่ดินแปลงของนายเบ้า สินนอก และบุตรเขยจริงหรือไม่ เพราะที่ดินจัดสรรตามมติครม . เมื่อวันที่ 29 เม.ย.18 ควรอยู่ในพื้นที่ตีนเขา ไม่ใช่อยู่บริเวณที่สูง ซึ่งเป็นพื้นที่อนุรักษ์โซนซี ถือเป็นพื้นที่ป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง เป็นป่าต้นน้ำ ห้ามประชาชนครอบครองแม้ต่อการเช่าทำประโยชน์ ก็ไม่ได้เด็ดขาด

นอกจากนั้นตามที่ระบุว่า พล.อ.สุรยุทธ์ ครอบครองที่ดินประมาณ 20 ไร่ แต่ในความจริงมีพื้นที่ในครอบครองประมาณ 30 ไร่ ซึ่งจะถือว่าเป็นการบุกรุกเพิ่มเติมหรือไม่ ทั้งนี้ตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ ระบุว่า ผู้ครอบครองที่ดินป่าสงวนอย่างผิดกฎหมาย ผู้ครอบครองรายสุดท้ายต้องรับผิดชอบตามกฎหมายด้วย

**เสื้อแดงลั่นบุกทำเนียบองคมนตรี

นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง กล่าวถึงกรณี พล.อ.สุรยุทธ์ ยังไม่ยอมคืนที่ดินเขายายเที่ยง และไม่ลาออกจากตำแหน่งองคมนตรีว่า พล.อ.สุรยุทธ์ ไม่มีสิทธิ์จะมาบอกว่าคืนหรือไม่ เพราะที่ดินเขายายเที่ยงไม่ใช่ของ พล.อ.สุรยุทธ์ตั้งแต่แรก เหมือนโจรที่ไปขโมยของมา ตำรวจก็รู้ว่าโจรคนนั้นเป็นใคร ดังนั้นเมื่อเห็นกับตาก็ต้องจับกุมทันที หากไม่มีการดำเนินการก็จะทำให้นายทุนที่บุกรุกป่ารายอื่น นำมาเป็นข้ออ้างไม่ต้องถูกดำเนินคดีได้

ที่ผ่านมา กรมป่าไม้ต้องดำเนินการ เพราะเป็นความผิดซึ่งหน้า มีการสร้างบ้านพักตากอากาศ ไม่ควรจะมาตั้งกรรมการสอบสวนอีก 60 วัน แต่สามารถดำเนินการจับกุมและยึดที่ดินป่าสงวนคืนได้ทันที การตั้งกรรมการนั้นเป็นการถ่วงเวลา เพื่อหาทางช่วย พล.อ.สุรยุทธ์

ทั้งนี้กลุ่มคนเสื้อแดงได้ยื่นแจ้งความนายสุวิทย์ คุณกิติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนายสมชัย เพียรสถาพร อธิบดีกรมป่าไม้ไปแล้ว ฐานละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ ดังนั้นหากทั้ง 2 คนถ่วงเรื่อง ไม่ดำเนินการกับพล.อ.สุรยุทธ์ ทั้งทางอาญา และทางแพ่ง โดยให้จ่ายค่าเสียหายและยึดบ้านคืนมา ก็ต้องรับผิดชอบด้วย

อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 13 ม.ค. แกนนำกลุ่มเสื้อแดง จะหารือกันอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป โดยเบื้องต้นได้วางแผนไว้ว่า จะไปทวงถามกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมว่า จะดำเนินการอย่างไรกับ พล.อ.สุรยุทธ์ รวมทั้งจะไปยื่นหนังสือที่ทำเนียบองคมนตรี เพื่อทวงถามจุดยืนขององคมนตรีคนอื่นๆ ด้วยว่าจะทำอย่างไรต่อกรณีของพล.อ.สุรยุทธ์ นอกจากนี้จะถาม พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ถึงกรณีเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว จ.จันทบุรี ด้วย

**ยัน"ป๋า"ไม่เกี่ยวสนามกอล์ฟสอยดาว

พล.ท.ภารวี ชาญเลขา ผู้จัดการทั่วไปสนามกอล์ฟสอยดาวไฮแลนด์ จันทบุรี กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดง กล่าวพลาดพิงว่าพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการบริหารงานภายในสนามกอล์ฟ พร้อมทั้งระบุว่าพล.อ. เปรม มีหุ้นในกิจการของสนามกอล์ฟดังกล่าว และประกาศจะนัดชุมนุมที่เขาสอยดาวนั้น ตนขอยืนยันว่า พล.อ.เปรม ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้น ในกิจการสนามกอล์ฟแห่งนี้ ไม่ว่าจะที่ปรึกษา หรือการถือครองหุ้น ตามที่กลุ่มคนเสื้อแดงกล่าวอ้าง

"ที่ผ่านมา พล.อ.เปรม เคยมาเล่นกอล์ฟที่สนามจริง แต่เมื่อ 6-7 ปีที่ผ่านมา ซึ่งมาออกรอบประมาณ 2-3 ครั้งในรอบ 3 ปี ครั้งล่าสุดเมื่อ 3 ปีที่แล้วได้เดินทางมาพักผ่อนพร้อมเพื่อนสนิท 4-5 คน โดยใช้ระยะเวลาพักอยู่ที่สนามกอล์ฟเพียง 1-2 วันเท่านั้น และใช้เวลาส่วนใหญ่ออกรอบตีกอล์ฟกับเพื่อนๆ และไม่มีนักการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย มีเพียงทหารอารักขาที่ติดตามมาเท่านั้น " พล.ท.ภารวี กล่าว

สำหรับสนามกอล์ฟ สอยดาวไฮแลนด์ จันทบุรี ตั้งอยู่เลขที่ 224 หมู่ 2 ต.ทับไทร อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี เปิดทำการเมื่อเดือนธ.ค.36 บนพื้นที่กว่า 1,200 ไร่ เฉพาะตัวสนามกอล์ฟ รอยต่อ อ.สอยดาว ซึ่งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของเทือกเขาสอยดาว ภายในถูกใช้เป็นสถานที่พักผ่อนระดับเฟิร์สคลาส พรั่งพร้อมด้วยสาธารณูปโภค และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ประกอบด้วย โรงแรมหรู ขนาด 46 ห้อง คลับเฮ้าส์ พร้อมสระว่ายน้ำ ซึ่งจากข้อมูลเบื้องต้นทราบว่า สนามกอล์ฟแห่งนี้ มีกลุ่มคหบดี พ่อค้า รวมทั้งนายทุนใน จ.จันทบุรี ร่วมกันถือครองหุ้นในกิจการอยู่เป็นจำนวนมาก และมีสำนักงานทั้งในจ.จันทบุรี และกรุงเทพฯ

ด้านนายพจน์ รักความสุข นายอำเภอโป่งน้ำร้อน กล่าวว่า ถ้ากลุ่มคนเสื้อแดงมาชุมนุมที่เขาสอยดาว จริง ทางอ.โป่งน้ำร้อน ได้มีการเตรียมความพร้อม โดยจัดกำลังเจ้าหน้าที่ อส อปพร. จำนวน 150 นาย และได้ประสานกับตำรวจในท้องที่ให้เข้าดูแลความปลอดภัยอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งจะดูแลกลุ่มคนเสื้อแดงไม่ให้มีปัญหากับชาวบ้านในท้องที่ด้วย

**"ม็อบแดง"ทิ้งขยะปฏิกูลเกลื่อน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากกลุ่มเสื้อแดงสลายการชุมนุมที่เขายายเที่ยง ไปเมื่อเช้าวานนี้ (12 ธ.ค.) ปรากฏว่า ที่บริเวณที่ชุมนุม ซึ่งอยู่ตรงหน้าบ้านพักพล.อ.สุรยุทธ์ เกลื่อนไปด้วยเศษขยะ ทั้งพลาสติก ขวดน้ำ กระดาษ กล่องโฟม เศษอาหาร ถูกทิ้งกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ นอกจากนี้ยังมีเสาปูน รั้วลวดหนาม ที่ถูกกลุ่มคนเสื้อแดงถอนทำลายตลอดแนว ก็กองทิ้งไว้ให้เจ้าหน้าที่ดูต่างหน้า ขณะที่บริเวณป่าสองข้างทางก็เต็มไปด้วย อุจจาระ ปัสสาวะ ส่งกลิ่นเหม็นคลุ้งไปทั่ว

ต่อมา ทางเทศบาลตำบลคลองไผ่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ได้ระดมกำลังคนพร้อมรถเก็บขยะ ที่มีอยู่ทั้งหมด 3 คัน มาเก็บกวาดขยะในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งพนักงานเก็บขยะรายหนึ่ง กล่าว่า โดยปกติในช่วงเช้าของทุกวัน เมื่อเก็บขยะในเขตเทศบาลหมดแล้ว ทุกคนก็ไปทำงานอย่างอื่นต่อ แต่วันนี้ต้องระดมพนักงานเก็บขยะที่มีอยู่ทั้งหมด 10 คน เข้ามาช่วยกันเก็บขยะที่กระจายเกลื่อนบริเวณ ตั้งแต่ทางขึ้นเขายายเที่ยง เป็นระยะทาง 14 กม. จนถึงสถานที่ชุมนุม ซึ่งคงต้องใช้เวลาเก็บตลอดทั้งวันจึงหมด อีกทั้งต้องขอสนับสนุนพนักงานและรถเก็บขยะจาก เทศบาลตำบลหนองน้ำใส เข้ามาช่วยด้วย ซึ่งแม้ว่างานหนักเพิ่มขึ้น แต่พวกเราก็ได้รับค่าแรงเท่าเดิม

**"แม้ว"เผยไต๋ป่วนเพื่อเงิน 7.6 หมื่น ล.

นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการวิดีโอลิงก์ ของพ.ต.ท.ทักษิณ มายังที่ชุมนุมของคนเสื้อแดงที่เขายายเที่ยงว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้แสดงธาตุแท้ถึงความต้องการของตัวเองที่ต้องการจะเอาเงิน 7.6 หมื่นล้านบาทคืน ตรงกับที่หลายฝ่ายวิเคราะห์ไว้ และเนื้อหาส่วนใหญ่ก็ได้บิดเบือนข้อเท็จจริง และพาดพิงมาถึงรัฐบาลนี้ โดยเฉพาะการกล่าวหาว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เมื่อไปหารือกับผู้นำต่างประเทศ ก็ยกหัวข้อการไล่ล่าตัวเองมาพูดคุยเพียงเรื่องเดียว ซึ่งเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง เพราะนายกฯรู้จักหน้าที่และมารยาททางการทูตระหว่างประเทศดี และเป็นการหารือเรื่องเศรษฐกิจเป็นหลักในฐานะตัวแทนรัฐบาลไทย คงไม่เอาเรื่องไร้สาระที่เกี่ยวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ มาเป็นประเด็นหลักในการเจรจา

"พ.ต.ท.ทักษิณ อย่าสำคัญตัวผิดว่ายังเป็นคนสำคัญที่มีราคา ทั้งที่แท้จริงมีสถานะเพียงนักโทษที่หลบหนีคดีเท่านั้น การกล่าวอ้างถึงผู้นำประเทศต่างๆ ก็ควรระบุชื่อเสียงเรียงนามให้ชัดเจน อย่ายกเมฆมาอ้างลอยๆ เพียงเพื่อสร้างภาพให้สาวกของตัวเองหลงเชื่อ แต่ความเสียหายกลับเกิดขึ้นในแวดวงผู้นำนานาชาติ จนเขาเอือมระอา พ.ต.ท.ทักษิณไปหมดแล้ว" นายเทพไทกล่าว

**หยัน"แม้ว"ไม่กล้ากลับไทยตามที่คุย

ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาเนื้อหาคำพูดของพ.ต.ท.ทักษิณ ที่ระบุว่า จะชักธงรบถึงขั้นแตกหัก โดยจะร่วมต่อสู้กับคนเสื้อแดง และถ้าคนเสื้อแดงบอกว่าจำเป็นที่จะให้ตัวเองกลับเข้าประเทศไทย ก็จะกลับทันทีนั้น ตนเห็นว่าเป็นการเปิดเผยความต้องการของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่จะรบแตกหักกับรัฐบาล เพื่อวังผลในการปลุกระดมให้คนเสื้อแดงฮึกเหิม เพื่อให้มียอดจำนวนคนเพิ่มขึ้นในการนัดชุมนุมใหญ่ครั้งหน้า ซึ่งเป็นการโฆษณาชวนเชื่อทั้งที่ความจริงแล้ว คนอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่กล้าที่จะเดินทางกลับประเทศไทยแน่นอน แต่ยังมีพฤติกรรมปากกล้าขาสั่น โดยพยายามแสดงให้เห็นว่ายังต่อสู้กับรัฐบาล และกลุ่มอำมาตย์อย่างจริงจัง เพราะประกาศว่าเมื่อตัวเองตายไปแล้วไม่ว่าจะอยู่ในนรก หรือสวรรค์ ก็จะต่อสู้ต่อไปนั้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคนที่มีจิตพยาบาท อาฆาตแค้น ซึ่งในความจริงวิบากกรรมของมนุษย์จะสิ้นสุดก็แค่ความตาย แต่พ.ต.ท.ทักษิณ ยังขู่อาฆาตพยาบาทที่จะคิดบัญชีไปถึงภพในนรก และสวรรค์ ซึ่งคนอย่างนี้ ก็ไม่แน่ใจว่าจะได้ขึ้นสวรรค์ หรือตกนรกกันแน่

**"นพดล"แนะทางออกประเทศ 5 ข้อ

นายนพดล ปัทมะ ทนายความส่วนตัวพ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวถึงกรณีพ.ต.ท.ทักษิณ วีดีโอลิงก์ไปที่เวทีคนเสื้อแดงที่เขายายเที่ยง โดยปลุกระดมให้คนเสื้อแดงต่อสู้เพื่อความเป็นธรรม ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ กำลังต่อสู้เพื่อให้ได้ประชาธิปไตย และความเป็นธรรมกลับคืนมา เนื่องจากพ.ต.ท.ทักษิณ ถูกกระทำ และไม่ได้รับความเป็นธรรม จากการยึดอำนาจ และความอยุติธรรมของบ้านเมืองที่มี 2 มาตรฐาน

อย่างไรก็ตาม พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เน้นย้ำมาตลอดเรื่องการใช้แนวทางสันติวิธี ปฏิบัติตามกรอบของกฎหมาย วันนี้เราถูกพรรคประชาธิปัตย์ใส่ร้ายป้ายสี ผ่านสื่อว่าเป็นพวกป่วนเมือง ซึ่งมันไม่ใช่ ยืนยันว่ากลุ่มคนเสื้อแดง ไม่ใช่พวกป่วนเมือง ป่วนชาติ แต่เรากำลังต่อสู้เพื่อลูกหลานของเรา

สำหรับทางออกของประเทศนั้น น่าจะใช้บัญญัติ 5 ประการ ดังนี้ 1. แก้รัฐธรรมนูญโดยนำฉบับปี 40 มาใช้ 2. นิรโทษกรรมทุกคดีที่เป็นผลพวงจากการยึดอำนาจ และรัฐธรรมนูญฉบับที่ไม่เป็นธรรม 3. กลุ่มคนทุกสี ต้องให้สัตยาบันว่าจะยุติการเคลื่อนไหวบนท้องถนน และยอมรับผลการเลือกตั้งในอนาคต 4. ยุบสภา และ 5. จัดการเลือกตั้งอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม

**เขายายเที่ยงกระเทือนเขาค้อ

ขณะเดียวกัน วานนี้ (12 ม.ค.) นายวิรัช จตุพนาพร ผอ.ส่วนอนุรักษ์และป้องกันทรัพยากร สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ป่าไม้ที่ 11 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯประมาณ 20 นายได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ “เขาค้อ” ในเขตรอยต่อ 2 จังหวัด พิษณุโลก-เพชรบูรณ์ หลังสืบทราบว่า มีนายทุนบุกรุกก่อสร้างวัตถุถาวรเป็นรีสอร์ท- ร้านกาแฟสด บริเวณจุดชมวิว ริมถนนสาย 12 หรือพิษณุโลก-หล่มสัก บริเวณหลักกิโลเมตร 106 คือ แคมสนป์ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นพื้นที่เตรียมการของป่าเขตอนุรักษ์ ที่ได้รับมอบพื้นที่มาจากกรมประชาสงเคราะห์ ช่วงเกิดเหตุการณ์ดินถล่มน้ำก้อ-น้ำชุน ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของโครงการพื้นฟูและพัฒนาพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำก้อ – น้ำชุม จ.เพชรบูรณ์ กรมอุทยานฯ

โดยเจ้าหน้าที่อุทยานฯตรวจสอบพื้นที่ 2 จุด พิกัด หลังจากได้รับการร้องเรียนว่า มีนายทุน ที่เบื้องต้น เป็นระดับผู้อำนวยการและนายทหารสัญญาบัตร เป็นผู้ครอบครองโดยใช้ชื่อบุคคลอื่น ก่อสร้างเป็นซุ้มกาแฟสด ลักษณะรีสอร์ท เป็นสิ่งปลูกสร้างถาวรวัตถุ “วิวสวย การแฟสด และศรีสุขฟิชชิ้งปาร์ค 2”ซึ่งตั้งอยู่ในเขตโครงการพื้นฟูและพัฒนาพื้นที่เสี่ยงภัย น้ำก้อ–น้ำชุม จ.เพชรบูรณ์ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ป่าไม้ที่ 11 กรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช

ผอ.ส่วนอนุรักษ์และป้องกันทรัพยากร เปิดเผยว่า คนที่ใช้ที่ป่าทำธุรกิจซึ่งผิดกฎหมาย แต่อีกคนหนึ่งต้องใช้ที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ์ราคาเป็นแสนบาททำธุรกิจ ถือว่า ไม่เป็นธรรม ตนในฐานะเจ้าของพื้นที่ก็ต้องดำเนินการจัดการเพื่อความเสมอภาคของสังคมและไม่ให้ถูกกล่าวหาว่า ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ จำเป็นต้องตรวจยึดที่ดิน 2 แปลงดังกล่าวไว้ก่อน ไม่ว่าเช่าหรือขายต่อก็ตาม เบื้องต้นแจ้งข้อหาผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 มาตรา 54 ข้อหาร่วมกันยึดถือครอบครอง ทำประโยชน์ อันเป็นการทำลายป่า โดยไม่ได้รับอนุญาตและมาตรา 55

“มติ ครม.30 มิ.ย 41 นั้นผ่อนปรนให้เกษตรกรในพื้นที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ไม่สามารถเปลี่ยนมือ หรือกระทำการ สร้างสิ่งถาวรวัตถุ เป็นอันผิดกฎหมาย ก็ขอให้นายทุนทั้งหลาย หยุดซื้อขายที่ดินทีมีใบ ภบท.5” นายวิรัช เผย

ทั้งนี้ การปฏิบัติการยึดที่ดิน ภทบ.5 ทั้ง 2 แปลงดังกล่าวของเจ้าหน้าที่จากสำนักฯอนุรักษ์ที่ 11 เกิดขึ้นก่อนที่คณะของชวน หลีกภัย ที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์-อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางกลับมาจากไร่กำนันจุน-คุ้นวงศ์ จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งทำธุรกิจปลูกหม่อนเลี้ยงไหม โดยมีลูกไร่ชาวห้วยเฮี้ย เป็นผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม เพื่อศึกษาและดูงานตามโครงการต้นกล้าอาชีพ “การปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ของมูลนิธิจุลไหมไทย” เพื่อผ่านเส้นทางดังกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น