ASTVผู้จัดการรายวัน- ประกาศผลศิลปินแห่งชาติ 2552 “ปรีชา เถาทอง” สาขาทัศนศิลป์ “เสกสรรค์ ประเสริฐกุล”สาขาวรรณศิลป์ วธ.ออกโรงแก้ต่างไม่ได้ทอดทิ้งศิลปิน-เงินกองทุนศิลปินแห่งชาติพอเลี้ยงตัวเอง
วานนี้ (7 ม.ค.) ที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย นายธีระ สลักเพชร รมว.วัฒนธรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ประกาศผลการคัดเลือกศิลปินแห่งชาติใน 3 สาขา ได้แก่ ทัศนศิลป์ วรรณศิลป์ และ สาขาศิลปะการแสดง ประจำปี พ.ศ.2552 มีรายชื่อดังต่อไปนี้ 1. ศ.ปรีชา เถาทอง สาขาทัศนศิลป์ ด้านจิตรกรรม 2. นายองอาจ สาตรพันธุ์ สาขาทัศนศิลป์ ด้านสถาปัตยกรรมร่วมสมัย 3. นางเพ็ญพรรณ สิทธิไตรย์ สาขาทัศนศิลป์ ด้านประณีตศิลป์- แกะสลักเครื่องสด 4. นายวรนันทน์ ชัชวาลทิพากร สาขาทัศนศิลป์ด้านภาพถ่าย
5. นายเสกสรรค์ ประเสริฐกุล สาขาวรรณศิลป์ ด้านเรื่องสั้น สารคดี นวนิยาย กวีนิพนธ์ 6. นายจตุพร รัตนวราหะ สาขาศิลปะการแสดง ด้านนาฏศิลป-โขน
7. นายอุทัย แก้วละเอียด สาขาศิลปะการแสดง ด้านดนตรีไทย 8. นางมัณฑนา โมรากุล สาขาศิลปะการแสดง ด้านดนตรีไทยสากล-คำร้อง 9. นายประยงค์ ชื่นเย็น สาขาศิลปะการแสดง ด้านดนตรีไทยลูกทุ่ง-ผู้เรียบเรียงเสียงประสาน
สำหรับเกณฑ์การคัดเลือกศิลปินแห่งชาตินี้ ประกอบด้วย 3 หลักเกณฑ์ใหญ่ ดังนี้ เป็นผู้มีความรู้ความสามารถ มีความเชี่ยวชาญและมีผลงานดีเด่นเป็นที่ยอมรับของวงการศิลปะแขนงนั้น เป็นผู้มีคุณธรรม มีผลงานที่ยังประโยชน์ต่อสังคมและมนุษยชาติ ได้รับรางวัลหรือเกียรติคุณระดับท้องถิ่น ระดับชาติ หรือระดับนานาชาติ ซึ่งในปีนี้มีผู้ผ่านการคัดเลือกจำนวนมาก และมีกระบวนการพิจารณาอย่างละเอียดมากที่สุดโดยศิลปินแห่งชาติปี 2552 จะเข้ารับพระราชทานโล่และเข็มเชิดชูเกียรติจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในวันที่ 24 ก.พ. นี้ เนื่องในวันศิลปินแห่งชาติ ที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย
นายธีระกล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่ากองทุนศิลปินแห่งชาติมีงบประมาณเหลือเพียง 3 ล้านบาท ว่า เป็นเรื่องที่เข้าใจคลาดเคลื่อน เนื่องจากเงินจำนวนี้เป็นงบประมาณของวัฒนธรรมจังหวัดที่จะได้รับเป็นปกติ และใช้ในกิจกรรมวัฒนธรรมในแต่ละจังหวัดเท่านั้น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับงานด้านศิลปินแห่งชาติแต่อย่างใด ตนขอให้สังคมอย่ากังวล และยืนยันว่า วธ.จะดูแลศิลปินแห่งชาติเป็นอย่างดี มีค่าตอบแทนให้เดือนละ 20,000 บาท อีกทั้งยังได้สิทธิการเบิกค่ารักษาพยาบาลตามระเบียบราชการ
"กรณีเงินกองทุนศิลปินที่ว่าถังแตกนั้นเป็นข่าวคลาดเคลื่อน เพราะ วธ.มีเงินทุนอยู่ 315 ล้านบาทเป็นเงินที่จะไม่แตะต้องเงินต้น แต่จะนำดอกเบี้ยมาใช้ ซึ่งได้ประมาณปีละ 8 ล้านบาท ในจำนวนนี้จะใช้จัดกิจกรรมเกี่ยวกับศิลปินแห่งชาติในรอบปี อีกทั้งในปี 2553 นี้ รัฐบาลได้ให้เงินงบประมาณมา 39.6 ล้านบาท ถือว่าน่าจะเพียงพอ"
นอกจากนี้ วธ.จะผลักดันให้ศิลปินแห่งชาติถ่ายทอดความรู้ให้เด็กและเยาวชนมากขึ้น ขณะเดียวกันก็จะส่งเสริมกิจกรรมของศิลปินแห่งชาติให้มากขึ้นด้วย รวมถึงจะพยายามส่งเสริมงานด้านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในมิติของศิลปินแห่งชาติด้วย
“เราดูแลศิลปินแห่งชาติและผู้มีผลงานดีเด่นด้านวัฒนธรรมที่เจ็บป่วยทั้งสิ้น 232 ครั้งใช้งบ 4.5 ล้านบาท ปีที่แล้วสูญเสียศิลปินแห่งชาติ 14 ท่านถือว่ามากทีเดียว ซึ่งศิลปินแห่งช่าติที่ป่วยขณะนี้ เช่น ครูหวังเต๊ะ วธ.ได้ดูแลอย่างต่อเนื่องมีเจ้าหน้าที่คอยถามอาการที่โรงพยาบาลและตามถึงบ้าน นอกจากนี้กองทุนศิลปินแห่งชาติก็ไม่ได้หวังพึ่งแต่รัฐบาล ได้พยายามจัดกิจกรรมเพื่อหารายได้ช่วยเหลือศิลปินที่ป่วยอย่างเต็มที่อยู่แล้ว ฉะนั้นประชาชนไม่ต้องเป็นห่วง” นายธีระกล่าว
วานนี้ (7 ม.ค.) ที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย นายธีระ สลักเพชร รมว.วัฒนธรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ประกาศผลการคัดเลือกศิลปินแห่งชาติใน 3 สาขา ได้แก่ ทัศนศิลป์ วรรณศิลป์ และ สาขาศิลปะการแสดง ประจำปี พ.ศ.2552 มีรายชื่อดังต่อไปนี้ 1. ศ.ปรีชา เถาทอง สาขาทัศนศิลป์ ด้านจิตรกรรม 2. นายองอาจ สาตรพันธุ์ สาขาทัศนศิลป์ ด้านสถาปัตยกรรมร่วมสมัย 3. นางเพ็ญพรรณ สิทธิไตรย์ สาขาทัศนศิลป์ ด้านประณีตศิลป์- แกะสลักเครื่องสด 4. นายวรนันทน์ ชัชวาลทิพากร สาขาทัศนศิลป์ด้านภาพถ่าย
5. นายเสกสรรค์ ประเสริฐกุล สาขาวรรณศิลป์ ด้านเรื่องสั้น สารคดี นวนิยาย กวีนิพนธ์ 6. นายจตุพร รัตนวราหะ สาขาศิลปะการแสดง ด้านนาฏศิลป-โขน
7. นายอุทัย แก้วละเอียด สาขาศิลปะการแสดง ด้านดนตรีไทย 8. นางมัณฑนา โมรากุล สาขาศิลปะการแสดง ด้านดนตรีไทยสากล-คำร้อง 9. นายประยงค์ ชื่นเย็น สาขาศิลปะการแสดง ด้านดนตรีไทยลูกทุ่ง-ผู้เรียบเรียงเสียงประสาน
สำหรับเกณฑ์การคัดเลือกศิลปินแห่งชาตินี้ ประกอบด้วย 3 หลักเกณฑ์ใหญ่ ดังนี้ เป็นผู้มีความรู้ความสามารถ มีความเชี่ยวชาญและมีผลงานดีเด่นเป็นที่ยอมรับของวงการศิลปะแขนงนั้น เป็นผู้มีคุณธรรม มีผลงานที่ยังประโยชน์ต่อสังคมและมนุษยชาติ ได้รับรางวัลหรือเกียรติคุณระดับท้องถิ่น ระดับชาติ หรือระดับนานาชาติ ซึ่งในปีนี้มีผู้ผ่านการคัดเลือกจำนวนมาก และมีกระบวนการพิจารณาอย่างละเอียดมากที่สุดโดยศิลปินแห่งชาติปี 2552 จะเข้ารับพระราชทานโล่และเข็มเชิดชูเกียรติจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในวันที่ 24 ก.พ. นี้ เนื่องในวันศิลปินแห่งชาติ ที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย
นายธีระกล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่ากองทุนศิลปินแห่งชาติมีงบประมาณเหลือเพียง 3 ล้านบาท ว่า เป็นเรื่องที่เข้าใจคลาดเคลื่อน เนื่องจากเงินจำนวนี้เป็นงบประมาณของวัฒนธรรมจังหวัดที่จะได้รับเป็นปกติ และใช้ในกิจกรรมวัฒนธรรมในแต่ละจังหวัดเท่านั้น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับงานด้านศิลปินแห่งชาติแต่อย่างใด ตนขอให้สังคมอย่ากังวล และยืนยันว่า วธ.จะดูแลศิลปินแห่งชาติเป็นอย่างดี มีค่าตอบแทนให้เดือนละ 20,000 บาท อีกทั้งยังได้สิทธิการเบิกค่ารักษาพยาบาลตามระเบียบราชการ
"กรณีเงินกองทุนศิลปินที่ว่าถังแตกนั้นเป็นข่าวคลาดเคลื่อน เพราะ วธ.มีเงินทุนอยู่ 315 ล้านบาทเป็นเงินที่จะไม่แตะต้องเงินต้น แต่จะนำดอกเบี้ยมาใช้ ซึ่งได้ประมาณปีละ 8 ล้านบาท ในจำนวนนี้จะใช้จัดกิจกรรมเกี่ยวกับศิลปินแห่งชาติในรอบปี อีกทั้งในปี 2553 นี้ รัฐบาลได้ให้เงินงบประมาณมา 39.6 ล้านบาท ถือว่าน่าจะเพียงพอ"
นอกจากนี้ วธ.จะผลักดันให้ศิลปินแห่งชาติถ่ายทอดความรู้ให้เด็กและเยาวชนมากขึ้น ขณะเดียวกันก็จะส่งเสริมกิจกรรมของศิลปินแห่งชาติให้มากขึ้นด้วย รวมถึงจะพยายามส่งเสริมงานด้านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในมิติของศิลปินแห่งชาติด้วย
“เราดูแลศิลปินแห่งชาติและผู้มีผลงานดีเด่นด้านวัฒนธรรมที่เจ็บป่วยทั้งสิ้น 232 ครั้งใช้งบ 4.5 ล้านบาท ปีที่แล้วสูญเสียศิลปินแห่งชาติ 14 ท่านถือว่ามากทีเดียว ซึ่งศิลปินแห่งช่าติที่ป่วยขณะนี้ เช่น ครูหวังเต๊ะ วธ.ได้ดูแลอย่างต่อเนื่องมีเจ้าหน้าที่คอยถามอาการที่โรงพยาบาลและตามถึงบ้าน นอกจากนี้กองทุนศิลปินแห่งชาติก็ไม่ได้หวังพึ่งแต่รัฐบาล ได้พยายามจัดกิจกรรมเพื่อหารายได้ช่วยเหลือศิลปินที่ป่วยอย่างเต็มที่อยู่แล้ว ฉะนั้นประชาชนไม่ต้องเป็นห่วง” นายธีระกล่าว