ASTVผู้จัดการรายวัน- บสก.แนะกรมบังคับคดีเร่งขจัดอุปสรรค ลดปริมาณทรัพย์หลายแสนล้านค้างกรมฯ ชี้ประเด็นลดราคาขานเริ่มต้น 80% ไม่ได้ช่วย ดึงแบงก์เจ้าของทรัพย์ซื้อคืน ลดหมุนเวียนประมูลหลายรอบ แจงไม่รีบเข้าประมูลทรัพย์ในกรมฯ เลือกที่ไม่มีปัญหา แย้มม.ค.เซ็นสัญญาซื้อเอ็นพีเอจากเอเอ็มซีพญาไท
นายบรรยง วิเศษมงคลชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทบริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (บสก.) เปิดเผยถึงประเด็นที่กรมบังคับคดี กำลังจะปรับปรุงกฎหมายและระเบียบว่าด้วยการกำหนดราคาขายเริ่มต้นครั้งแรกที่ 80% ว่า จริงๆแล้ว อาจจะไม่ใช่วิธีที่จะช่วยให้การจำหน่ายทรัพย์ออกไปได้มาก เนื่องจากราคาประเมินของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่อ้างอิงราคาตลาดนั้น อาจจะไม่เหมาะสม ซึ่งในบางครั้งราคาประเมินอาจจะสูงและหรือต่ำก็ได้ ซึ่งการประมูลส่วนใหญ่จะมีนำทรัพย์ต่างๆมาประมูลหลายรอบ นั้นแสดงให้เห็นว่า ทรัพย์ดังกล่าวไม่อยู่ในความสนใจของผู้ซื้อ
"ทรัพย์ที่ถูกประมูลหลายรอบนั้น วิธีแก้ น่าจะให้สถาบันการเงินหรือเจ้าหนี้ซื้อทรัพย์ดังกล่าวไป อาจจะเลือกบางรายการ เพื่อลดปริมาณทรัพย์ที่คั่งค้างอยู่ในกรมบังคับคดี เนื่องจากทรัพย์บางรายการ ก็มีปัญหาอยู่มาก เช่น หนี้ส่วนกลางที่ค้างอยู่สูง บางทรัพย์หนี้สูงกว่าราคาขาย ซึ่งก็ไม่คุ้ม หรือ ทรัพย์ดังกล่าวมีผู้อยู่อาศัย มีผู้บุกรุก หรือทรัพย์ที่อยู่ในข่ายการครอบครองที่ดินแบบปรปักษ์ เป็นต้น ดังนั้น ต่อให้ผู้ประมูลได้ในราคาที่ต่ำ ก็ต้องไปแก้ปัญหาในภายหลัง "นายบรรยงกล่าวให้เห็นถึงอุปสรรคที่เกิดขึ้น
สำหรับนโยบายต่อการเข้าประมูลในกรมบังคับคดีว่า ทางบสก.มีความชัดเจนแล้วที่จะเน้นประมูลทรัพย์ที่ไม่มีหนี้ส่วนกลาง ไม่มีคดีค้าง โดยในระยะเริ่มแรกได้เข้าประมูลทรัพย์มาแล้ว 10-20 รายการ ส่วนใหญ่เป็นที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งทางบสก.จะไม่รีบเร่งในการเข้าซื้อทรัพย์ เพราะต้องพิจารณาถึงการบริหารจัดการทรัพย์ที่มีอยู่ในบสก.กับที่จะเข้าไปซื้อจากสถาบันการเงินต่างๆ โดยล่าสุดสามารถตกลงซื้อเอ็นพีเอ 2 กองจากบริษัทบริหารสินทรัพย์พญาไทย คาดจะตกลงการเซ็นสัญญาภายในเดือนม.ค.นี้ ในส่วนของการเสนอราคาซื้อหนี้(NPL)กองใหม่จากธนาคารทหารไทย มีความชัดเจนและจะเข้าไปตรวจสอบหนี้และทรัพย์สินม.ค.นี้ และคาดว่าจะจบการเจรจาได้ในเดือนก.พ.นี้
ทั้งนี้ เป้าหมายในการซื้อเอ็นพีเอทั้งหมดในปีนี้จะประมาณ 15,000 ล้านบาท และคาดว่าตลอดทั้งปีตัวเลขน่าจะสูง เพราะในปี 2552 บสก.ได้ตั้งเป้าซื้อเอ็นพีเอจากทุกๆสถาบันการเงิน 15,000 ล้านบาท สรุปตัวเลขสิ้นปี 52 อยู่ที่ 30,000 ล้านบาท ในส่วนของรายได้ทั้งหมดตั้งเป้าไว้ที่ 12,027 ล้านบาท
" เชื่อว่าในปีใหม่นี้ ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งจะเร่งขายหนี้เอ็นพีแอลและเอ็นพีเอจำนวนมาก เนื่องจากฐานะการเงินของธนาคารค่อนข้างดี พิจารณาจากตัวเลขผลประกอบการในปีที่ผ่านมากำไรกันมาก ประกอบกับในปีนี้ ธนาคารหลายแห่งจะแข่งขันในการปล่อยสินเชื่อ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวม "นายบรรยงกล่าวและว่า
ทางบสก.กำลังรวบรวมคอนโดมิเนียมคุณภาพที่ดีมีการปรับปรุงแล้ว มาจัดรวมเพื่อทำกิจกรรมทางการตลาดอีกครั้ง เพราะในช่วงครึ่งหลังของปีที่ผ่านมา ผลจากการจัด"มหกรรมคอนโด บสก.ราคาพิเศษ " ลูกค้าให้การตอบรับอย่างล้นหลาม 800 ยูนิต มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท ขายหมด ทำให้ต้องเลือกและรวบรวมทรัพย์ประเภทคอนโดฯมารองรับ เพื่อทำแผนการตลาดในการจัดมหกรรมฯอีกครั้ง
นายบรรยง วิเศษมงคลชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทบริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (บสก.) เปิดเผยถึงประเด็นที่กรมบังคับคดี กำลังจะปรับปรุงกฎหมายและระเบียบว่าด้วยการกำหนดราคาขายเริ่มต้นครั้งแรกที่ 80% ว่า จริงๆแล้ว อาจจะไม่ใช่วิธีที่จะช่วยให้การจำหน่ายทรัพย์ออกไปได้มาก เนื่องจากราคาประเมินของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่อ้างอิงราคาตลาดนั้น อาจจะไม่เหมาะสม ซึ่งในบางครั้งราคาประเมินอาจจะสูงและหรือต่ำก็ได้ ซึ่งการประมูลส่วนใหญ่จะมีนำทรัพย์ต่างๆมาประมูลหลายรอบ นั้นแสดงให้เห็นว่า ทรัพย์ดังกล่าวไม่อยู่ในความสนใจของผู้ซื้อ
"ทรัพย์ที่ถูกประมูลหลายรอบนั้น วิธีแก้ น่าจะให้สถาบันการเงินหรือเจ้าหนี้ซื้อทรัพย์ดังกล่าวไป อาจจะเลือกบางรายการ เพื่อลดปริมาณทรัพย์ที่คั่งค้างอยู่ในกรมบังคับคดี เนื่องจากทรัพย์บางรายการ ก็มีปัญหาอยู่มาก เช่น หนี้ส่วนกลางที่ค้างอยู่สูง บางทรัพย์หนี้สูงกว่าราคาขาย ซึ่งก็ไม่คุ้ม หรือ ทรัพย์ดังกล่าวมีผู้อยู่อาศัย มีผู้บุกรุก หรือทรัพย์ที่อยู่ในข่ายการครอบครองที่ดินแบบปรปักษ์ เป็นต้น ดังนั้น ต่อให้ผู้ประมูลได้ในราคาที่ต่ำ ก็ต้องไปแก้ปัญหาในภายหลัง "นายบรรยงกล่าวให้เห็นถึงอุปสรรคที่เกิดขึ้น
สำหรับนโยบายต่อการเข้าประมูลในกรมบังคับคดีว่า ทางบสก.มีความชัดเจนแล้วที่จะเน้นประมูลทรัพย์ที่ไม่มีหนี้ส่วนกลาง ไม่มีคดีค้าง โดยในระยะเริ่มแรกได้เข้าประมูลทรัพย์มาแล้ว 10-20 รายการ ส่วนใหญ่เป็นที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งทางบสก.จะไม่รีบเร่งในการเข้าซื้อทรัพย์ เพราะต้องพิจารณาถึงการบริหารจัดการทรัพย์ที่มีอยู่ในบสก.กับที่จะเข้าไปซื้อจากสถาบันการเงินต่างๆ โดยล่าสุดสามารถตกลงซื้อเอ็นพีเอ 2 กองจากบริษัทบริหารสินทรัพย์พญาไทย คาดจะตกลงการเซ็นสัญญาภายในเดือนม.ค.นี้ ในส่วนของการเสนอราคาซื้อหนี้(NPL)กองใหม่จากธนาคารทหารไทย มีความชัดเจนและจะเข้าไปตรวจสอบหนี้และทรัพย์สินม.ค.นี้ และคาดว่าจะจบการเจรจาได้ในเดือนก.พ.นี้
ทั้งนี้ เป้าหมายในการซื้อเอ็นพีเอทั้งหมดในปีนี้จะประมาณ 15,000 ล้านบาท และคาดว่าตลอดทั้งปีตัวเลขน่าจะสูง เพราะในปี 2552 บสก.ได้ตั้งเป้าซื้อเอ็นพีเอจากทุกๆสถาบันการเงิน 15,000 ล้านบาท สรุปตัวเลขสิ้นปี 52 อยู่ที่ 30,000 ล้านบาท ในส่วนของรายได้ทั้งหมดตั้งเป้าไว้ที่ 12,027 ล้านบาท
" เชื่อว่าในปีใหม่นี้ ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งจะเร่งขายหนี้เอ็นพีแอลและเอ็นพีเอจำนวนมาก เนื่องจากฐานะการเงินของธนาคารค่อนข้างดี พิจารณาจากตัวเลขผลประกอบการในปีที่ผ่านมากำไรกันมาก ประกอบกับในปีนี้ ธนาคารหลายแห่งจะแข่งขันในการปล่อยสินเชื่อ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวม "นายบรรยงกล่าวและว่า
ทางบสก.กำลังรวบรวมคอนโดมิเนียมคุณภาพที่ดีมีการปรับปรุงแล้ว มาจัดรวมเพื่อทำกิจกรรมทางการตลาดอีกครั้ง เพราะในช่วงครึ่งหลังของปีที่ผ่านมา ผลจากการจัด"มหกรรมคอนโด บสก.ราคาพิเศษ " ลูกค้าให้การตอบรับอย่างล้นหลาม 800 ยูนิต มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท ขายหมด ทำให้ต้องเลือกและรวบรวมทรัพย์ประเภทคอนโดฯมารองรับ เพื่อทำแผนการตลาดในการจัดมหกรรมฯอีกครั้ง