ศูนย์ข่าวภาคใต้ - กลุ่มคนร้ายตอบโต้เจ้าหน้าที่ใช้ช่วงวันครบรอบ 6 ปี เหตุปล้นปืนคลังแสง กองพันพัฒนาที่ 4 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ก่อเหตุลอบวางระเบิดชาวบ้านโดนลูกหลงบาดเจ็บ 2 คน ขณะที่ทหาร-ตำรวจยังตรึงกำลังเข้มหวั่นโดนป่วนหลังปีใหม่
เมื่อเวลา 07.30 น. วานนี้ (4 ม.ค.) พ.ต.ท.เลียบ พรหมจันทร์ รอง ผกก.กลุ่มงานสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส พร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ตำรวจ สภ.เจาะไอร้อง และทหารหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 31 ตรวจเก็บหลักฐานเหตุระเบิด 2 จุด เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา (3 ม.ค.)
จุดแรกระเบิดบนถนนสายเจาะไอร้อง-ไอร์ปาแย บ้านเจาะไอร้อง ม.1 ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง พบชิ้นส่วนระเบิดชนิดแสวงเครื่องใส่ไว้ในถังดับเพลิง น้ำหนัก 20 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยแบตเตอรี่ลากสายไฟฟ้าเข้าไปในป่าข้างทาง 150 เมตร แรงระเบิดทำให้พื้นเป็นหลุมลึก 60 ซม.กว้าง 150 ซม. รวมทั้งรถหุ้มเกราะของทหารชุดร้อย ร.15134 ฉก.นราธิวาส 31 ขณะลาดตระเวนตรวจความเรียบร้อยได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ ผู้ก่อเหตุยังยิงซ้ำด้วยอาวุธปืนเอ็ม 16 และอาก้า แต่เจ้าหน้าที่ไม่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
ส่วนจุดที่ 2 วางระเบิดในพื้นที่ ม.1 ต.บางขุนทอง อ.ตากใบ ชาวบ้านบาดเจ็บเล็กน้อย 2 ราย ชุดลาดตระเวนเส้นทางทหารร้อย ร 1531 ฉก.นราธิวาส 36 ช่วยนำส่งโรงพยาบาลตากใบ ในที่เกิดเหตุพบชิ้นส่วนระเบิดชนิดแสวงเครื่องใส่ไว้ในกล่องเหล็ก น้ำหนัก 5 กิโลกรัม ลากสายไฟฟ้าเข้าไปในพงหญ้าข้างทางเพื่อใช้จุดระเบิด
อนึ่ง เมื่อวันที่ 4 ม..ค.2547 หรือเมื่อ 6 ปีก่อน ได้เกิดเหตุการณ์คนร้ายปล้นปืนครั้งใหญ่จากกองพันพัฒนาที่ 4 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า "ค่ายปิเหล็ง" ต.ปิเหล็ง อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ซึ่งเหตุการณ์ปล้นปืนในครั้งนั้นได้กลายเป็นปฐมบทแห่งความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้รอบใหม่ และเกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี
ที่ จ.ยะลา วันเดียวกัน (4 ม.ค.53) พ.ต.อ.ภูมิเพ็ชร พิพัฒน์เพ็ชรภูมิ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ได้สั่งการไปยัง ผกก.สภ.และ สวญ.ผู้เป็นหัวหน้า ในพื้นที่ 8 อำเภอ ของ จ.ยะลา ให้เพิ่มมาตรการในการดูแลความปลอดภัยแก่ชาวบ้าน, ย่านชุมชน, ฐานที่ตั้ง และสถานที่ราชการให้เข้มงวดมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ เพื่อป้องกันการก่อเหตุร้ายของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบอาจลอบเข้ามาสร้างสถานการณ์ ป่วนในพื้นที่เขตเทศบาลนครยะลา และอำเภอรอบนอก เนื่องจากในวันนี้ (4ม.ค.53) เป็นวันครบรอบ 6 ปีของเหตุกลุ่มคนร้ายปล้นปืน จากกองพันพัฒนาที่ 4 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส จึงมีการสั่งการให้ตำรวจ ทุก ๆ สภ.เพิ่มความเข้มงวดให้รัดกุมมากยิ่งขึ้นเป็นกรณีพิเศษ
พ.ต.อ.ภูมิเพ็ชร กล่าวว่า ตนได้สั่งกำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ ให้เพิ่มความเข้มในการปฏิบัติ และระมัดระวังตัว เป็นกรณีพิเศษ พร้อมทั้งประสานกับทางเจ้าหน้าที่ทหาร และฝ่ายปกครอง เพื่อผนึกกำลังในการป้องกันเหตุ เพราะคนร้ายอาจใช้ยุทธวิธีในรูปแบบต่างๆ ในการตอบโต้เจ้าหน้าที่ ส่วนในพื้นที่เมืองได้มีการประสานกับกองกำลังภาคประชาชนในการดูแลพื้นที่อย่างเต็มอัตราหากมีเหตุสามารถควบคุมและตอบโต้ได้ทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศในวันเปิดโรงเรียนวันแรกของปี 2553 เมื่อช่วงเช้าวานนี้ (4 ม.ค.) ว่า กำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และกลุ่มอาสาสมัครภาคประชาชน ชรบ.และ อรบ.ในพื้นที่ทั้ง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้มีการสนธิกำลังตรวจเข้มถนนสายหลักและสายรอง รวมทั้งบริเวณโรงเรียนโดยรอบ
โดยเฉพาะโรงเรียนในพื้นที่ล่อแหลมอย่างเข้มงวด ภายหลังจากหน่วยข่าวความมั่นคงได้มีการแจ้งเตือนว่า ขณะนี้กลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอประกอบด้วย อ.จะนะ อ.เทพา อ.สะบ้าย้อย และ อ.นาทวี จ.สงขลาได้มีการประชุมวางแผนนัดแนะที่จะลอบก่อเหตุในช่วงเดือนมกราคม ซึ่งอยู่ในห้วงวันก่อตั้งขบวนการและวันสถาปนาธรรมนูญ ปี 2511 ของขบวนการ PULO เก่า โดยกลุ่มก่อความไม่สงบมีแผนที่จะทำการลอบวางระเบิด ซุ่มยิง และก่อเหตุลอบวางเพลิงเพื่อเป็นการสร้างสถานการณ์ในห้วงเดือนมกราคมนี้
พล.ท.กสิกร คีรีศรี ผบ.พตท.เปิดเผยว่า แม้จะผ่านพ้นช่วงเทศกาลปีใหม่ในช่วง 7 วัน เฝ้าระวังภัยความไม่สงบจังหวัดชายแดนใต้แล้วก็ตาม แต่ในส่วนของการปฎิบัติหน้าที่ของฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ยังคงเกาะติดสถานการณ์ความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ก่อเหตุความไม่สงบและเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นช่วงคาบเกี่ยววันครบรอบ 6 ปี ที่คนร้ายบุกปล้นปืนจากกองพันพัฒนาที่ 4 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ (ค่ายปิเหล็ง) ซึ่งประเด็นนี้เจ้าหน้าที่ได้วางมาตรการรักษาความปลอดภัยประชาชนในพื้นที่ครอบคลุม จนถึงวันสิ้นสุดเทศกาลปีใหม่ คือ ตั้งแต่วันที่ 25 ธ.ค.-7 ม.ค. หรือ 7 วันก่อนและหลังปีใหม่ ซึ่งมาตรการดังกล่าวได้มีการวางแผนให้ครอบคลุมวันสำคัญในช่วงนี้ด้วย โดยเฉพาะวันครบรอบ 6 ปีปล้นปืน เบื้องต้นจึงไม่ห่วงเรื่องการก่อเหตุสร้างสถานการณ์และที่สำคัญไม่อยากให้ประชาชนตื่นตกใจกับกระแสดังกล่าว
เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ได้มีการประเมินสถานการณ์และเตรียมความพร้อมมาตรการป้องกันภัยต่างๆ ครอบคลุมวันสำคัญต่างๆที่เกี่ยวเนื่อง หรือ อยู่ระหว่างช่วงเทศกาลเอาไว้แล้ว เนื่องจากต้องปิดทุกช่องทางที่คนร้ายจ้องเกาะกระแสวันสำคัญเหล่านี้ก่อเหตุเพื่อปลุกกระแสความรุนแรงในพื้นที่
เมื่อเวลา 07.30 น. วานนี้ (4 ม.ค.) พ.ต.ท.เลียบ พรหมจันทร์ รอง ผกก.กลุ่มงานสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส พร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ตำรวจ สภ.เจาะไอร้อง และทหารหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 31 ตรวจเก็บหลักฐานเหตุระเบิด 2 จุด เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา (3 ม.ค.)
จุดแรกระเบิดบนถนนสายเจาะไอร้อง-ไอร์ปาแย บ้านเจาะไอร้อง ม.1 ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง พบชิ้นส่วนระเบิดชนิดแสวงเครื่องใส่ไว้ในถังดับเพลิง น้ำหนัก 20 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยแบตเตอรี่ลากสายไฟฟ้าเข้าไปในป่าข้างทาง 150 เมตร แรงระเบิดทำให้พื้นเป็นหลุมลึก 60 ซม.กว้าง 150 ซม. รวมทั้งรถหุ้มเกราะของทหารชุดร้อย ร.15134 ฉก.นราธิวาส 31 ขณะลาดตระเวนตรวจความเรียบร้อยได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ ผู้ก่อเหตุยังยิงซ้ำด้วยอาวุธปืนเอ็ม 16 และอาก้า แต่เจ้าหน้าที่ไม่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
ส่วนจุดที่ 2 วางระเบิดในพื้นที่ ม.1 ต.บางขุนทอง อ.ตากใบ ชาวบ้านบาดเจ็บเล็กน้อย 2 ราย ชุดลาดตระเวนเส้นทางทหารร้อย ร 1531 ฉก.นราธิวาส 36 ช่วยนำส่งโรงพยาบาลตากใบ ในที่เกิดเหตุพบชิ้นส่วนระเบิดชนิดแสวงเครื่องใส่ไว้ในกล่องเหล็ก น้ำหนัก 5 กิโลกรัม ลากสายไฟฟ้าเข้าไปในพงหญ้าข้างทางเพื่อใช้จุดระเบิด
อนึ่ง เมื่อวันที่ 4 ม..ค.2547 หรือเมื่อ 6 ปีก่อน ได้เกิดเหตุการณ์คนร้ายปล้นปืนครั้งใหญ่จากกองพันพัฒนาที่ 4 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า "ค่ายปิเหล็ง" ต.ปิเหล็ง อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ซึ่งเหตุการณ์ปล้นปืนในครั้งนั้นได้กลายเป็นปฐมบทแห่งความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้รอบใหม่ และเกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี
ที่ จ.ยะลา วันเดียวกัน (4 ม.ค.53) พ.ต.อ.ภูมิเพ็ชร พิพัฒน์เพ็ชรภูมิ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ได้สั่งการไปยัง ผกก.สภ.และ สวญ.ผู้เป็นหัวหน้า ในพื้นที่ 8 อำเภอ ของ จ.ยะลา ให้เพิ่มมาตรการในการดูแลความปลอดภัยแก่ชาวบ้าน, ย่านชุมชน, ฐานที่ตั้ง และสถานที่ราชการให้เข้มงวดมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ เพื่อป้องกันการก่อเหตุร้ายของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบอาจลอบเข้ามาสร้างสถานการณ์ ป่วนในพื้นที่เขตเทศบาลนครยะลา และอำเภอรอบนอก เนื่องจากในวันนี้ (4ม.ค.53) เป็นวันครบรอบ 6 ปีของเหตุกลุ่มคนร้ายปล้นปืน จากกองพันพัฒนาที่ 4 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส จึงมีการสั่งการให้ตำรวจ ทุก ๆ สภ.เพิ่มความเข้มงวดให้รัดกุมมากยิ่งขึ้นเป็นกรณีพิเศษ
พ.ต.อ.ภูมิเพ็ชร กล่าวว่า ตนได้สั่งกำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ ให้เพิ่มความเข้มในการปฏิบัติ และระมัดระวังตัว เป็นกรณีพิเศษ พร้อมทั้งประสานกับทางเจ้าหน้าที่ทหาร และฝ่ายปกครอง เพื่อผนึกกำลังในการป้องกันเหตุ เพราะคนร้ายอาจใช้ยุทธวิธีในรูปแบบต่างๆ ในการตอบโต้เจ้าหน้าที่ ส่วนในพื้นที่เมืองได้มีการประสานกับกองกำลังภาคประชาชนในการดูแลพื้นที่อย่างเต็มอัตราหากมีเหตุสามารถควบคุมและตอบโต้ได้ทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศในวันเปิดโรงเรียนวันแรกของปี 2553 เมื่อช่วงเช้าวานนี้ (4 ม.ค.) ว่า กำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และกลุ่มอาสาสมัครภาคประชาชน ชรบ.และ อรบ.ในพื้นที่ทั้ง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้มีการสนธิกำลังตรวจเข้มถนนสายหลักและสายรอง รวมทั้งบริเวณโรงเรียนโดยรอบ
โดยเฉพาะโรงเรียนในพื้นที่ล่อแหลมอย่างเข้มงวด ภายหลังจากหน่วยข่าวความมั่นคงได้มีการแจ้งเตือนว่า ขณะนี้กลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอประกอบด้วย อ.จะนะ อ.เทพา อ.สะบ้าย้อย และ อ.นาทวี จ.สงขลาได้มีการประชุมวางแผนนัดแนะที่จะลอบก่อเหตุในช่วงเดือนมกราคม ซึ่งอยู่ในห้วงวันก่อตั้งขบวนการและวันสถาปนาธรรมนูญ ปี 2511 ของขบวนการ PULO เก่า โดยกลุ่มก่อความไม่สงบมีแผนที่จะทำการลอบวางระเบิด ซุ่มยิง และก่อเหตุลอบวางเพลิงเพื่อเป็นการสร้างสถานการณ์ในห้วงเดือนมกราคมนี้
พล.ท.กสิกร คีรีศรี ผบ.พตท.เปิดเผยว่า แม้จะผ่านพ้นช่วงเทศกาลปีใหม่ในช่วง 7 วัน เฝ้าระวังภัยความไม่สงบจังหวัดชายแดนใต้แล้วก็ตาม แต่ในส่วนของการปฎิบัติหน้าที่ของฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ยังคงเกาะติดสถานการณ์ความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ก่อเหตุความไม่สงบและเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นช่วงคาบเกี่ยววันครบรอบ 6 ปี ที่คนร้ายบุกปล้นปืนจากกองพันพัฒนาที่ 4 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ (ค่ายปิเหล็ง) ซึ่งประเด็นนี้เจ้าหน้าที่ได้วางมาตรการรักษาความปลอดภัยประชาชนในพื้นที่ครอบคลุม จนถึงวันสิ้นสุดเทศกาลปีใหม่ คือ ตั้งแต่วันที่ 25 ธ.ค.-7 ม.ค. หรือ 7 วันก่อนและหลังปีใหม่ ซึ่งมาตรการดังกล่าวได้มีการวางแผนให้ครอบคลุมวันสำคัญในช่วงนี้ด้วย โดยเฉพาะวันครบรอบ 6 ปีปล้นปืน เบื้องต้นจึงไม่ห่วงเรื่องการก่อเหตุสร้างสถานการณ์และที่สำคัญไม่อยากให้ประชาชนตื่นตกใจกับกระแสดังกล่าว
เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ได้มีการประเมินสถานการณ์และเตรียมความพร้อมมาตรการป้องกันภัยต่างๆ ครอบคลุมวันสำคัญต่างๆที่เกี่ยวเนื่อง หรือ อยู่ระหว่างช่วงเทศกาลเอาไว้แล้ว เนื่องจากต้องปิดทุกช่องทางที่คนร้ายจ้องเกาะกระแสวันสำคัญเหล่านี้ก่อเหตุเพื่อปลุกกระแสความรุนแรงในพื้นที่
