ASTVผู้จัดการ - รัฐมนตรีคลังยอมรับปัญหาทุจริตในกระทรวงสาธารณสุข กระทบภาพลักษณ์ไทยเข้มแข็ง เอแบคโพลล์เสือปืนไว เผยประชาชนจี้นายกฯ เชือดคนทุจริต สธ.
นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวยอมรับว่า ปัญหาทุจริตในโครงการลงทุนของกระทรวงสาธารณ (สธ.) สุขภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ที่เกิดขึ้นจนนายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กระทบต่อภาพลักษณ์ของโครงการไทยเข้มแข็ง เป็นสิ่งที่รัฐบาลจะต้องช่วยกันสร้างความมั่นใจต่อประชาชนว่าต้องทำให้โปร่งใสมากขึ้น
อย่างไรก็ดี จากปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้มองในเชิงบวกได้ว่า รัฐบาลมีกระบวนการตรวจสอบความโปร่งใสของแต่ละโครงการและสามารถระงับยับยั้งโครงการที่คาดว่าจะทุจริตได้ โดยที่ไม่ทำให้เกิดความเสียหายต่องบประมาณและเงินภาษีของประชาชน
"ถือว่าเรามีกระบวนการในการตรวจสอบความโปร่งใส ซึ่งสุดท้ายทำให้สามารถระงับไม่ให้ความเสียหายเกิดขึ้นแก่ภาษีของประชาชนและเราสามารถยุติความเสียหายได้ก่อน"
รมว.คลังกล่าวว่า ในส่วนของการจัดซื้อจัดจ้างอุปกรณ์ทางการแพทย์นั้น ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ขอให้คณะกรรมการกลั่นกรองโครงการที่ดูแลการใช้เงินในโครงการไทยเข้มแข็งไปพิจารณาราคากลางที่กระทรวงสาธารณสุขใช้ในการจัดซื้อจัดจ้างอุปกรณ์ทางการแพทย์ ตลอดจนดูว่าส่วนต่างมีมากแค่ไหน ถ้ามากผิดปกติจะตัดออก และไม่เอาเงินกลับมาคืนให้กับกระทรวงสาธารณสุข และจะไม่มีการจัดสรรใหม่ให้กับกระทรวงสาธารณสุขหรือกระทรวงอื่นๆ และให้สำนักงบประมาณพิจารณาความเหมาะสมของราคากลางด้วย
สำหรับเม็ดเงินของกระทรวงสาธารณสุขที่ได้จากงบไทยเข้มแข็งจำนวน 1.2 หมื่นล้านบาท แต่จากความเสียหายที่ตรวจสอบออกมาพบว่า ยังไม่มีการใช้เม็ดเงินตรงนี้ ความเสียหายยังไม่ปรากฎ แต่เมื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขแสดงความรับผิดชอบลาออกจากตำแหน่งที่ประชุมคณะรัฐมนตรีก็แสดงความชื่นชม
โพลล์จี้นายกฯ เชือดคนโกง สธ.
เอแบคโพลล์ เผยประชาชนส่วนใหญ่เชื่อโครงการลงทุนตามแผนไทยเข้มแข็งของกระทรวงสาธารณสุขวงเงิน 8.6 หมื่นล้านบาทมีปัญหาการทุจริตจริง โดยเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีเร่งสะสางปัญหา พร้อมเชื่อมั่นการทำงานของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงปัญหาการทุจริตในโครงการลงทุนตามแผนไทยเข้มแข็งของกระทรวงสาธารณสุข วงเงิน 8.6 หมื่นล้านบาท
"ตัวอย่างร้อยละ 64.8 เชื่อว่ามีการทุจริตในโครงการดังกล่าวจริง...ร้อยละ 96.8 ระบุถึงเวลาแล้วที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ควรจัดการขั้นเด็ดขาดกับปัญหาการทุจริตคอรัปชั่นในภาครัฐ" เอกสารเผยแพร่ระบุ
ขณะเดียวกันประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 64.6 เห็นด้วยกับการประกาศลาออกจากตำแหน่งของนายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ส่วนความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลหลังการประกาศลาออกของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พบว่าร้อยละ 38.9 เชื่อมั่นมากขึ้น และร้อยละ 60.0 เชื่อมั่นการทำงานของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ
สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ทำการสำรวจความคิดเห็นแบบเรียลไทม์จากประชาชน 18 จังหวัดทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น 1,074 ครัวเรือน.
นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวยอมรับว่า ปัญหาทุจริตในโครงการลงทุนของกระทรวงสาธารณ (สธ.) สุขภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ที่เกิดขึ้นจนนายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กระทบต่อภาพลักษณ์ของโครงการไทยเข้มแข็ง เป็นสิ่งที่รัฐบาลจะต้องช่วยกันสร้างความมั่นใจต่อประชาชนว่าต้องทำให้โปร่งใสมากขึ้น
อย่างไรก็ดี จากปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้มองในเชิงบวกได้ว่า รัฐบาลมีกระบวนการตรวจสอบความโปร่งใสของแต่ละโครงการและสามารถระงับยับยั้งโครงการที่คาดว่าจะทุจริตได้ โดยที่ไม่ทำให้เกิดความเสียหายต่องบประมาณและเงินภาษีของประชาชน
"ถือว่าเรามีกระบวนการในการตรวจสอบความโปร่งใส ซึ่งสุดท้ายทำให้สามารถระงับไม่ให้ความเสียหายเกิดขึ้นแก่ภาษีของประชาชนและเราสามารถยุติความเสียหายได้ก่อน"
รมว.คลังกล่าวว่า ในส่วนของการจัดซื้อจัดจ้างอุปกรณ์ทางการแพทย์นั้น ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ขอให้คณะกรรมการกลั่นกรองโครงการที่ดูแลการใช้เงินในโครงการไทยเข้มแข็งไปพิจารณาราคากลางที่กระทรวงสาธารณสุขใช้ในการจัดซื้อจัดจ้างอุปกรณ์ทางการแพทย์ ตลอดจนดูว่าส่วนต่างมีมากแค่ไหน ถ้ามากผิดปกติจะตัดออก และไม่เอาเงินกลับมาคืนให้กับกระทรวงสาธารณสุข และจะไม่มีการจัดสรรใหม่ให้กับกระทรวงสาธารณสุขหรือกระทรวงอื่นๆ และให้สำนักงบประมาณพิจารณาความเหมาะสมของราคากลางด้วย
สำหรับเม็ดเงินของกระทรวงสาธารณสุขที่ได้จากงบไทยเข้มแข็งจำนวน 1.2 หมื่นล้านบาท แต่จากความเสียหายที่ตรวจสอบออกมาพบว่า ยังไม่มีการใช้เม็ดเงินตรงนี้ ความเสียหายยังไม่ปรากฎ แต่เมื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขแสดงความรับผิดชอบลาออกจากตำแหน่งที่ประชุมคณะรัฐมนตรีก็แสดงความชื่นชม
โพลล์จี้นายกฯ เชือดคนโกง สธ.
เอแบคโพลล์ เผยประชาชนส่วนใหญ่เชื่อโครงการลงทุนตามแผนไทยเข้มแข็งของกระทรวงสาธารณสุขวงเงิน 8.6 หมื่นล้านบาทมีปัญหาการทุจริตจริง โดยเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีเร่งสะสางปัญหา พร้อมเชื่อมั่นการทำงานของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงปัญหาการทุจริตในโครงการลงทุนตามแผนไทยเข้มแข็งของกระทรวงสาธารณสุข วงเงิน 8.6 หมื่นล้านบาท
"ตัวอย่างร้อยละ 64.8 เชื่อว่ามีการทุจริตในโครงการดังกล่าวจริง...ร้อยละ 96.8 ระบุถึงเวลาแล้วที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ควรจัดการขั้นเด็ดขาดกับปัญหาการทุจริตคอรัปชั่นในภาครัฐ" เอกสารเผยแพร่ระบุ
ขณะเดียวกันประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 64.6 เห็นด้วยกับการประกาศลาออกจากตำแหน่งของนายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ส่วนความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลหลังการประกาศลาออกของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พบว่าร้อยละ 38.9 เชื่อมั่นมากขึ้น และร้อยละ 60.0 เชื่อมั่นการทำงานของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ
สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ทำการสำรวจความคิดเห็นแบบเรียลไทม์จากประชาชน 18 จังหวัดทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น 1,074 ครัวเรือน.