ที่กองบังคับการกองปราบปราม (บก.ป.) วานนี้ (27 ธ.ค.) นายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ที่นำเอกสารลับของกระทรวงการต่างประเทศเกี่ยวกับวิธีการปรับความสัมพันธ์กับ สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรี กัมพูชา หลังแต่งตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องหาหนีคุกให้เป็นที่ปรึกษาเศรษฐกิจ จนถูกกระทรวงการต่างประเทศแจ้งความ บก.ป. ฐานนำเอกสารลับมาเปิดเผย ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ท.จตุพร งามสุวิชชากุล พนักงานสอบสวน สบ.2 กก.1 บก.ป. ให้ดำเนินคดีกับ นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ข้อหาปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และหมิ่นประมาท กรณีทำหนังสือรายงานนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะนายกรัฐมนตรี กล่าวหากลุ่ม นปช.และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรทำลายเสถียรภาพของรัฐบาล
และให้ดำเนินคดีกับกระทรวงการต่างประเทศ และนายวีรศักดิ์ ฟูตระกูบ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นต่อบุคคลที่สามให้ได้รับความเสียหาย กรณีที่กล่าวหาว่าเป็นผู้เปิดเผยเอกสารลับของทางราชการและบิดเบือนข้อเท็จจริงในเอกสาร สุดท้ายให้ดำเนินกับนายวัชระ เพชรทอง ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาและแจ้งความเท็จ กรณีเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้งข้อหาเผยแพร่เอกสารลับของทางราชการ
นายจตุพร กล่าวว่า ในวันที่ 11 ม.ค. 2553 กลุ่ม นปช.นัดชุมนุมใหญ่ ที่เขาย้ายเที่ยง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นที่ตั้งบ้านของ พล.อ.สุรยุทธ จุลานนท์ องคมนตรี เพื่อประท้วงระบอบอำมาตย์อภิสิทธิ์ชน 2 มาตรฐาน ชาวบ้านที่อยู่ตีนเขา ถูกลงโทษจำคุก 5 ปี 10 ปี แต่พล.อ.สุรยุทธ กลับไม่ถูกดำเนินคดี จากนั้นจะประชุมนัดชุมนุมใหญ่ในกรุงเทพฯ ซึ่งจะเป็นการชุมนุมครั้งสุดท้าย ไม่มีครั้งที่ 2 อีกต่อไป หมายความว่าการชุมนุมครั้งนี้หากรัฐบาลไม่ยุบสภาคืนอำนาจให้กับประชาชนจะไม่เลิกชุมนุม
นายจตุพรกล่าวว่า มีความพยายามที่จะถอนประกันตัวพวกตน แสดงถึงความยุติธรรม เพราะเมื่อแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง แล้วยังกลับไปชุมนุมต่อในม็อบ ซึ่งขณะนี้มีข่าวว่ากลุ่มเสื้อแดงจะไปก่อกวนแถวพารากอน หรือสถานที่จัดงานเคาดาวน์ต่างๆ เหมือนที่เกิดเกิดขึ้นเมื่อปี 2549 และโยนความผิดให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ หากมีเหตุการณ์เกิดขึ้นไม่ใช่คนเสื้อแดง โดยสิ้นปีนี้แกนนำเสื้อแดงจะไปที่ จ.เชียงใหม่ ขอร้องรัฐบาลว่าอย่าสร้างสถานการณ์เอาชีวิตประชาชนเป็นเครื่องมือ
และให้ดำเนินคดีกับกระทรวงการต่างประเทศ และนายวีรศักดิ์ ฟูตระกูบ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นต่อบุคคลที่สามให้ได้รับความเสียหาย กรณีที่กล่าวหาว่าเป็นผู้เปิดเผยเอกสารลับของทางราชการและบิดเบือนข้อเท็จจริงในเอกสาร สุดท้ายให้ดำเนินกับนายวัชระ เพชรทอง ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาและแจ้งความเท็จ กรณีเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้งข้อหาเผยแพร่เอกสารลับของทางราชการ
นายจตุพร กล่าวว่า ในวันที่ 11 ม.ค. 2553 กลุ่ม นปช.นัดชุมนุมใหญ่ ที่เขาย้ายเที่ยง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นที่ตั้งบ้านของ พล.อ.สุรยุทธ จุลานนท์ องคมนตรี เพื่อประท้วงระบอบอำมาตย์อภิสิทธิ์ชน 2 มาตรฐาน ชาวบ้านที่อยู่ตีนเขา ถูกลงโทษจำคุก 5 ปี 10 ปี แต่พล.อ.สุรยุทธ กลับไม่ถูกดำเนินคดี จากนั้นจะประชุมนัดชุมนุมใหญ่ในกรุงเทพฯ ซึ่งจะเป็นการชุมนุมครั้งสุดท้าย ไม่มีครั้งที่ 2 อีกต่อไป หมายความว่าการชุมนุมครั้งนี้หากรัฐบาลไม่ยุบสภาคืนอำนาจให้กับประชาชนจะไม่เลิกชุมนุม
นายจตุพรกล่าวว่า มีความพยายามที่จะถอนประกันตัวพวกตน แสดงถึงความยุติธรรม เพราะเมื่อแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง แล้วยังกลับไปชุมนุมต่อในม็อบ ซึ่งขณะนี้มีข่าวว่ากลุ่มเสื้อแดงจะไปก่อกวนแถวพารากอน หรือสถานที่จัดงานเคาดาวน์ต่างๆ เหมือนที่เกิดเกิดขึ้นเมื่อปี 2549 และโยนความผิดให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ หากมีเหตุการณ์เกิดขึ้นไม่ใช่คนเสื้อแดง โดยสิ้นปีนี้แกนนำเสื้อแดงจะไปที่ จ.เชียงใหม่ ขอร้องรัฐบาลว่าอย่าสร้างสถานการณ์เอาชีวิตประชาชนเป็นเครื่องมือ