00...เห็นภาพลงนามความร่วมมือระหว่าง กรมสอบสวนคดีพิเศษ กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ได้ทำบันทึกความตกลง (MOU) ความร่วมมือ “ว่าด้วยการเชื่อมโยงระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูลคอมพิวเตอร์” โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษจะนำข้อมูลที่ขอเชื่อมโยงกับระบบคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในความควบคุมดูแลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้แก่ 1. ข้อมูลประกาศสืบจับ 2.ข้อมูลทะเบียนประวัติ 3.ข้อมูลประวัติบุคคลพ้นโทษ 4.ข้อมูลคนหายพลัดหลง 5.ข้อมูลรถหาย 6.ข้อมูลใบสั่งจราจร 7.ข้อมูลลายนิ้วมือ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการทำงานของกรมสอบสวนคดีพิเศษต่อไป
งานนี้ “พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์” รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ คนสนิทของ “พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง” อดีตอธิบดีคนก่อน พูดว่า “การเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมสอบสวนคดีพิเศษ ถือเป็นการบูรณาการ การทำงานครั้งสำคัญของกระบวนการยุติธรรมในการแลกเปลี่ยนข้อมูลร่วมกัน ซึ่งจะทำให้เกิดความรวดเร็วในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ยังผลไปสู่ความสงบสุขของประชาชนและประเทศชาติบ้านเมือง”
แต่งานนี้ “พ.ต.อ.ณรัชต์” อาจจะลืมคิดไปว่า อดีตครั้งที่ท่านเป็นลูกน้องรับใช้นายอย่าง “พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง” ครั้งข่าวลอบสังหาร “สนธิ ลิ้มทองกุล” กำลังร้อนแรง หลัง “ส.ต.ท.วรวุฒิ มุ่งสันติ” ช่วยราชการดีเอสไอ ตกเป็นผู้ต้องหา จำได้วันนั้น “พ.ต.อ.ณรัชต์” นี่แหละถือว่า แสบสุดๆ ไม่ยอมพูดเรื่องเกี่ยวกับจอมวายร้าย “ส.ต.ท.วรวุฒิ มุ่งสันติ” ให้ตำรวจได้กลิ่นว่ามันกำลังหลบหนีอยู่ที่ไหน
ไม่เป็นไร เมื่อนายเปลี่ยน และความร่วมมือระหว่าง สตช.และดีเอสไอ เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น งานแรกหากดีเอสไอนำข้อมูลของ สตช.ที่ประกาศสืบจับ “ส.ต.ท.วรวุฒิ มุ่งสันติ” ไปใช้ในการล่าตัว หรือ แจ้งเบาะแสการหลบหนีให้กับตำรวจได้รับรู้ ประชาชนคงจะให้อภัยนะสำหรับ “พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์”
00... “การประชุมเรียบร้อยดี ไม่มีปัญหาอะไร” นั่นคือคำพูดสั้นๆ ของ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” หลังเดินออกจากห้องประชุม ก.ตร.เมื่อวันที่ 23 พ.ย.52
หลัง ก.ตร.มีการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับรอง ผบช.-ผบก.จำนวน 177 ตำแหน่ง ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี แม้จะมี ก.ตร.เจ้าเก่าอย่าง “ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์” ที่ไม่ได้เข้าประชุม และ “พล.ต.อ.พิชิต ควรเตชะคุปต์” ที่วอล์กเอาต์เพื่อแสดงจุดยืนในหลักการเดิม ว่าต้องให้ได้ ผบ.ตร.ตัวจริงก่อนถึงจะดำเนินการแต่งตั้งระดับรองลงมา
แต่เมื่อเสียงค้านไร้ซึ่งความชอบธรรม การแต่งตั้งจึงเดินต่อไปเพื่อประโยชน์ขององค์กรตำรวจ ส่วนใครสมหวัง ผิดหวัง คงว่าไปตามระเบียบ
โดยที่ บัญชีแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้จะนำไปรวมกับบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายระดับ ผบช.ถึง รอง ผบ.ตร. เพื่อเสนอโปรดเกล้าฯไปพร้อมกัน และ ภายใน 1-2 วัน พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร.จะมีคำสั่งให้ผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งโยกย้ายในครั้งนี้ไปรักษาราชการแทน เพื่อให้ไปดำเนินการแต่งตั้งระดับ สว.-รอง ผบก.ที่เดิมทีต้องทำบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายให้เสร็จภายในวันที่ 30 พ.ย.2552 แต่ ก.ตร.ได้อนุมัติให้เลื่อนไปเป็นวันที่ 31 ธ.ค.2552
00...ทำดีต้องชม! สำหรับ “พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์” รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รรท.ผบช.น.) ที่เอาจริงเอาจังกับการปฏิบัติภารกิจพื้นที่เมืองหลวง ยามค่ำคืนก็ออกตรวจท้องที่ ทำเอาตำรวจโรงพักตื่นตัวกันเป็นทิวแถว รวมทั้งการกวาดล้างจับกุมอาชญากรรม ที่มีความเข้มข้นมากขึ้น
แต่สำหรับ “พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์” ถือว่างานหนักพอดู เมื่อกลุ่มเสื้อแดงประกาศแตกหัก เตรียมเกณฑ์ต่างด้าว ร่วมชุมนุมขับไข่รัฐบาล แม้ท่าน น.1 จะตั้งทีมออกตรวจสอบหาข่าวตามโรงงานเป็นการป้องกันแต่เนิ่นๆ ก็ตามที แต่สำหรับต่างด้าวเสื้อแดง ที่กะมาเพื่อก่อเหตุ ก่อกวนนั้น ถือว่าไม่ธรรมดานะครับ ดังนั้น หากเป็นการตัดไฟแต่ต้นลม ป้องกันความวุ่นวายที่อาจจะเกิดขึ้น ท่านน่าจะสั่งลูกน้องของท่านจัดเตรียมร่างสำนวนขอยื่นศาลถอนประกันตัว ไอ้พวกแดงแกนนำไว้ได้เลย เพราะหากนับหัวแล้ว ทุกคนมีคดีติดตัวทั้งน้าน!!!
ส่วนอีกคนที่ต้องไม่ประมาท และต้องติดตามความเคลื่อนไหวตลอดเวลา คือ ทหารบ๊อง “เสธ.แดง” เจ้าเก่า เพราะคนคนนี้ เมื่อผู้เป็นนายใหญ่ สั่งการอะไรมา เขาทำได้ทุกอย่าง โดยไม่คิดว่าประเทศจะเสียหายอย่างไร
งานนี้ “พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์” รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ คนสนิทของ “พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง” อดีตอธิบดีคนก่อน พูดว่า “การเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมสอบสวนคดีพิเศษ ถือเป็นการบูรณาการ การทำงานครั้งสำคัญของกระบวนการยุติธรรมในการแลกเปลี่ยนข้อมูลร่วมกัน ซึ่งจะทำให้เกิดความรวดเร็วในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ยังผลไปสู่ความสงบสุขของประชาชนและประเทศชาติบ้านเมือง”
แต่งานนี้ “พ.ต.อ.ณรัชต์” อาจจะลืมคิดไปว่า อดีตครั้งที่ท่านเป็นลูกน้องรับใช้นายอย่าง “พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง” ครั้งข่าวลอบสังหาร “สนธิ ลิ้มทองกุล” กำลังร้อนแรง หลัง “ส.ต.ท.วรวุฒิ มุ่งสันติ” ช่วยราชการดีเอสไอ ตกเป็นผู้ต้องหา จำได้วันนั้น “พ.ต.อ.ณรัชต์” นี่แหละถือว่า แสบสุดๆ ไม่ยอมพูดเรื่องเกี่ยวกับจอมวายร้าย “ส.ต.ท.วรวุฒิ มุ่งสันติ” ให้ตำรวจได้กลิ่นว่ามันกำลังหลบหนีอยู่ที่ไหน
ไม่เป็นไร เมื่อนายเปลี่ยน และความร่วมมือระหว่าง สตช.และดีเอสไอ เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น งานแรกหากดีเอสไอนำข้อมูลของ สตช.ที่ประกาศสืบจับ “ส.ต.ท.วรวุฒิ มุ่งสันติ” ไปใช้ในการล่าตัว หรือ แจ้งเบาะแสการหลบหนีให้กับตำรวจได้รับรู้ ประชาชนคงจะให้อภัยนะสำหรับ “พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์”
00... “การประชุมเรียบร้อยดี ไม่มีปัญหาอะไร” นั่นคือคำพูดสั้นๆ ของ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” หลังเดินออกจากห้องประชุม ก.ตร.เมื่อวันที่ 23 พ.ย.52
หลัง ก.ตร.มีการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับรอง ผบช.-ผบก.จำนวน 177 ตำแหน่ง ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี แม้จะมี ก.ตร.เจ้าเก่าอย่าง “ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์” ที่ไม่ได้เข้าประชุม และ “พล.ต.อ.พิชิต ควรเตชะคุปต์” ที่วอล์กเอาต์เพื่อแสดงจุดยืนในหลักการเดิม ว่าต้องให้ได้ ผบ.ตร.ตัวจริงก่อนถึงจะดำเนินการแต่งตั้งระดับรองลงมา
แต่เมื่อเสียงค้านไร้ซึ่งความชอบธรรม การแต่งตั้งจึงเดินต่อไปเพื่อประโยชน์ขององค์กรตำรวจ ส่วนใครสมหวัง ผิดหวัง คงว่าไปตามระเบียบ
โดยที่ บัญชีแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้จะนำไปรวมกับบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายระดับ ผบช.ถึง รอง ผบ.ตร. เพื่อเสนอโปรดเกล้าฯไปพร้อมกัน และ ภายใน 1-2 วัน พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร.จะมีคำสั่งให้ผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งโยกย้ายในครั้งนี้ไปรักษาราชการแทน เพื่อให้ไปดำเนินการแต่งตั้งระดับ สว.-รอง ผบก.ที่เดิมทีต้องทำบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายให้เสร็จภายในวันที่ 30 พ.ย.2552 แต่ ก.ตร.ได้อนุมัติให้เลื่อนไปเป็นวันที่ 31 ธ.ค.2552
00...ทำดีต้องชม! สำหรับ “พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์” รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รรท.ผบช.น.) ที่เอาจริงเอาจังกับการปฏิบัติภารกิจพื้นที่เมืองหลวง ยามค่ำคืนก็ออกตรวจท้องที่ ทำเอาตำรวจโรงพักตื่นตัวกันเป็นทิวแถว รวมทั้งการกวาดล้างจับกุมอาชญากรรม ที่มีความเข้มข้นมากขึ้น
แต่สำหรับ “พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์” ถือว่างานหนักพอดู เมื่อกลุ่มเสื้อแดงประกาศแตกหัก เตรียมเกณฑ์ต่างด้าว ร่วมชุมนุมขับไข่รัฐบาล แม้ท่าน น.1 จะตั้งทีมออกตรวจสอบหาข่าวตามโรงงานเป็นการป้องกันแต่เนิ่นๆ ก็ตามที แต่สำหรับต่างด้าวเสื้อแดง ที่กะมาเพื่อก่อเหตุ ก่อกวนนั้น ถือว่าไม่ธรรมดานะครับ ดังนั้น หากเป็นการตัดไฟแต่ต้นลม ป้องกันความวุ่นวายที่อาจจะเกิดขึ้น ท่านน่าจะสั่งลูกน้องของท่านจัดเตรียมร่างสำนวนขอยื่นศาลถอนประกันตัว ไอ้พวกแดงแกนนำไว้ได้เลย เพราะหากนับหัวแล้ว ทุกคนมีคดีติดตัวทั้งน้าน!!!
ส่วนอีกคนที่ต้องไม่ประมาท และต้องติดตามความเคลื่อนไหวตลอดเวลา คือ ทหารบ๊อง “เสธ.แดง” เจ้าเก่า เพราะคนคนนี้ เมื่อผู้เป็นนายใหญ่ สั่งการอะไรมา เขาทำได้ทุกอย่าง โดยไม่คิดว่าประเทศจะเสียหายอย่างไร