นายจงรัก ระรวยทรง กรรมการผู้อำนวยการ สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ (สมาคมโบรกเกอร์) เปิดเผยว่า สมาคมบริษัทหลักทรัพย์จะมีการสอบถามไปยังบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) นครหลวงไทย จำกัด หรือ SCIS กรณีที่บล.นครหลวงไทยแถลงข่าวจะมีการคิดอัตราค่าธรรมเนียมการซื้อขายหลักทรัพย์(ค่าคอมมิชชั่น)ในส่วนที่มูลค่าการซื้อขายมากกว่า 20 ล้านบาทต่อวันในอัตราที่ 0%ซึ่งถือว่าไม่ทำตามข้อตกลงของทางสมาคมฯจากก่อนหน้านี้ที่ทางสมาคมบริษัทหลักทรัพย์มีประชุมร่วมกันกับบล.สมาชิกและสมาชิกทุกรายมีมติออกมาว่าจะให้คิดอัตราที่0.15%
ทั้งนี้ ทางบล.นครหลวงไทยนั้นตอบว่าจะคิดค่าคอมมิชชั่นที่อัตรา 0.15%เช่นกัน แต่ทำไมเมื่อเวลาบริษัทมีการแถลงข่าว ไม่เหมือนกับที่ได้มีการตกลงกันก่อนหน้านี้ โดยฝ่ายบริหารของสมาคมฯจะมีการดำเนินการสอบถามเรื่องดังกล่าวแก่บล.นครหลวงไทย ซึ่งทางสมาคมฯจะไม่ให้มีการคิดค่าคอมมิชชั่นที่อัตรา0%เกิดขึ้นแม้จะเป็นระยะเวลาเพียง3 เดือนก็ตาม เพราะเรื่องข้อตกลงดังกล่าวนั้นเป็นข้อตกลงที่บล.สมาชิกทุกรายมีมติร่วมกัน ดังนั้นสมาชิกทุกรายต้องปฏิบัติตาม
“ฝ่ายกรรมการบริหารสมาคมฯจะมีการคุยกับทางบล.นครหลวงไทยในเร็วๆนี้ จากที่บล.นครหลวงไทยมีการแถลงข่าวการคิดค่าคอมมิชชั่นในส่วนวอลุ่มที่เกิน20 ล้านบาทต่อวัน อัตรา0% ซึ่งไม่เหมือนกับตอนที่บล.นครหลวงไทยบอกในที่ประชุมหารือบล.สมาชิกที่จะคิดค่าคอมมิชชั่นดังกล่าวเป็นไปตามแนวทางเดียวกับที่สมาชิกมีมติออกมา คือจะคิดที่อัตรา0.15% โดยทางบล.นครหลวงไทยจะคิดอัตราที่0%ไม่ได้แม้จะเป็นเพียงระยะเวลา 3 เดือนเท่านั้นก็ตามเพราะ เมื่อทุกคนมีมติร่วมกันแล้วก็ควรที่จะทำตาม”นายจงรัก กล่าว
สำหรับการที่สมาคมฯได้มีการหารือกับสมาชิกเนื่องจากเกณฑ์ของตลาดหลักหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)ในเรื่องการคิดค่าคอมมิชชั่นปีหน้านั้นหากนักลงทุนมีการซื้อขายต่อวันมากกว่า20ล้านบาทสามารถต่อรองค่าคอมมิชชั่นได้เสรี จึงมีความกังวลว่าจะมีการแข่งขันราคาที่รุนแรงและจากการหารือกับบล.สมาชิกทุกรายนั้น ทางบล.สมาชิกมีมติร่วมกันว่าจะไม่มีการแข่งขันด้านราคากันแต่จะมีการแข่งกันเรื่องคุณภาพการให้บริการที่ดีกับนักลงทุน เพราะหากมีการแข่งขันด้านราคานั้นจะไม่สามารถที่จะมีการพัฒนาในเรื่องคุณภาพการให้บริการ พัฒนาสินค้าใหม่ และจะมีการลดต้นทุนโดยการลดคุณภาพในการจัดทำบทวิเคราะห์เพื่อแนะนำการลงทุนแก่นักลงทุน ส่งผลให้นักลงทุนไม่มีข้อมูลประกอบการตัดสินใจ
นายจงรัก กล่าวว่า จากการประชุมร่วมกับบล.สมาชิกนั้นได้กำหนดแนวทางการคิดค่าคอมมิชชั่นที่มีมูลค่าการซื้อขายต่อวันที่มากกว่า20 ล้านบาท 3 แนวทางดังนี้ คือหากนักลงทุนซื้อขายผ่านเจ้าหน้าที่การตลาด (มาร์เกตติ้ง) จะคิดค่าคอมมิชชั่นที่อัตรา 0.15% หากซื้อขายผ่านอินเตอร์เน็ตแบ่งเป็น ซื้อขายผ่านบัญชีเงินสดคิดอัตราที่0.12% ส่วนซื้อขายผ่านบัญชีแคลชบาลานซ์และเครดิตบาลานซ์จะคิดอัตราที่ 0.10%
อย่างไรก็ตาม ปีหน้าเมื่อมีการเริ่มใช้ค่าคอมมิชชั่นขั้นบันไดนั้น ทางสมาคมฯจะมีการดำเนินการดูแลให้สมาชิกมีการคิดค่าคอมมิชชั่นตามที่สมาชิกมีมติร่วมกัน ซึ่งจะไม่มีการตัดราคาโดยการคิดค่าคอมมิชชั่นเหลือ0% แม้ข้อตกลงดังกล่าวนั้นไม่ได้มีการออกมาเป็นกฎเกณฑ์ของทางการที่ทุกคนต้องทำตาม แต่จากการที่บล.มีมติร่วมกันนั้นเป็นสิ่งที่โบรกเกอร์ทุกรายจะต้องมีการทำตามข้อตกลงที่บล.สมาชิกมีมติร่วมกัน
ทั้งนี้ ทางบล.นครหลวงไทยนั้นตอบว่าจะคิดค่าคอมมิชชั่นที่อัตรา 0.15%เช่นกัน แต่ทำไมเมื่อเวลาบริษัทมีการแถลงข่าว ไม่เหมือนกับที่ได้มีการตกลงกันก่อนหน้านี้ โดยฝ่ายบริหารของสมาคมฯจะมีการดำเนินการสอบถามเรื่องดังกล่าวแก่บล.นครหลวงไทย ซึ่งทางสมาคมฯจะไม่ให้มีการคิดค่าคอมมิชชั่นที่อัตรา0%เกิดขึ้นแม้จะเป็นระยะเวลาเพียง3 เดือนก็ตาม เพราะเรื่องข้อตกลงดังกล่าวนั้นเป็นข้อตกลงที่บล.สมาชิกทุกรายมีมติร่วมกัน ดังนั้นสมาชิกทุกรายต้องปฏิบัติตาม
“ฝ่ายกรรมการบริหารสมาคมฯจะมีการคุยกับทางบล.นครหลวงไทยในเร็วๆนี้ จากที่บล.นครหลวงไทยมีการแถลงข่าวการคิดค่าคอมมิชชั่นในส่วนวอลุ่มที่เกิน20 ล้านบาทต่อวัน อัตรา0% ซึ่งไม่เหมือนกับตอนที่บล.นครหลวงไทยบอกในที่ประชุมหารือบล.สมาชิกที่จะคิดค่าคอมมิชชั่นดังกล่าวเป็นไปตามแนวทางเดียวกับที่สมาชิกมีมติออกมา คือจะคิดที่อัตรา0.15% โดยทางบล.นครหลวงไทยจะคิดอัตราที่0%ไม่ได้แม้จะเป็นเพียงระยะเวลา 3 เดือนเท่านั้นก็ตามเพราะ เมื่อทุกคนมีมติร่วมกันแล้วก็ควรที่จะทำตาม”นายจงรัก กล่าว
สำหรับการที่สมาคมฯได้มีการหารือกับสมาชิกเนื่องจากเกณฑ์ของตลาดหลักหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)ในเรื่องการคิดค่าคอมมิชชั่นปีหน้านั้นหากนักลงทุนมีการซื้อขายต่อวันมากกว่า20ล้านบาทสามารถต่อรองค่าคอมมิชชั่นได้เสรี จึงมีความกังวลว่าจะมีการแข่งขันราคาที่รุนแรงและจากการหารือกับบล.สมาชิกทุกรายนั้น ทางบล.สมาชิกมีมติร่วมกันว่าจะไม่มีการแข่งขันด้านราคากันแต่จะมีการแข่งกันเรื่องคุณภาพการให้บริการที่ดีกับนักลงทุน เพราะหากมีการแข่งขันด้านราคานั้นจะไม่สามารถที่จะมีการพัฒนาในเรื่องคุณภาพการให้บริการ พัฒนาสินค้าใหม่ และจะมีการลดต้นทุนโดยการลดคุณภาพในการจัดทำบทวิเคราะห์เพื่อแนะนำการลงทุนแก่นักลงทุน ส่งผลให้นักลงทุนไม่มีข้อมูลประกอบการตัดสินใจ
นายจงรัก กล่าวว่า จากการประชุมร่วมกับบล.สมาชิกนั้นได้กำหนดแนวทางการคิดค่าคอมมิชชั่นที่มีมูลค่าการซื้อขายต่อวันที่มากกว่า20 ล้านบาท 3 แนวทางดังนี้ คือหากนักลงทุนซื้อขายผ่านเจ้าหน้าที่การตลาด (มาร์เกตติ้ง) จะคิดค่าคอมมิชชั่นที่อัตรา 0.15% หากซื้อขายผ่านอินเตอร์เน็ตแบ่งเป็น ซื้อขายผ่านบัญชีเงินสดคิดอัตราที่0.12% ส่วนซื้อขายผ่านบัญชีแคลชบาลานซ์และเครดิตบาลานซ์จะคิดอัตราที่ 0.10%
อย่างไรก็ตาม ปีหน้าเมื่อมีการเริ่มใช้ค่าคอมมิชชั่นขั้นบันไดนั้น ทางสมาคมฯจะมีการดำเนินการดูแลให้สมาชิกมีการคิดค่าคอมมิชชั่นตามที่สมาชิกมีมติร่วมกัน ซึ่งจะไม่มีการตัดราคาโดยการคิดค่าคอมมิชชั่นเหลือ0% แม้ข้อตกลงดังกล่าวนั้นไม่ได้มีการออกมาเป็นกฎเกณฑ์ของทางการที่ทุกคนต้องทำตาม แต่จากการที่บล.มีมติร่วมกันนั้นเป็นสิ่งที่โบรกเกอร์ทุกรายจะต้องมีการทำตามข้อตกลงที่บล.สมาชิกมีมติร่วมกัน