xs
xsm
sm
md
lg

CNS ชี้ ตลาดหุ้นซบอีก 6 เดือน แนะทำกำไรยืมหุ้นขายชอร์ต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บล.พัฒนสิน เผย ตลาดหุ้นไทยขาลงอีก 3-6 เดือน เหตุปัจจัยเสี่ยงยังคงกดดัน การเมือง น้ำมัน เงินเฟ้อ ปัญหาสถาบันเงินอเมริกา เตรียมปิดเพียบหลังเลือกตั้งจบ เป็นจังหวะนักลงทุนหันทำธุรกรรมเอสบีแอลทำกำไรหุ้นขาลง ด้านบล.ภัทร แจงขณะนี้มูลค่าทำธุรกรรมยังไม่มากจากเป็นเรื่องใหม่ เผย ฝั่งให้ยืมหุ้นขณะนี้สูงกว่า ผู้ยืมหุ้น 5-6 เท่า เชื่ออนาคตมีผู้ยืมมากขึ้น - ก.ล.ต.ปรับเกณฑ์ใหม่หนุน พ.ย.นี้

วานนี้ บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้จัดสัมมนาเรื่อง “สร้างรายได้หุ้นขาลงด้วยธุรกรรม SBL:การยืมและขายขายชอร์ต” ณ หอประชุมศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้บังคับบัญชาสายงานนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) หรือ CNS เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกรรมธุรกรรมการยืมและให้ยืม (SBL)ในประเทศไทยเชื่อว่าจะมีเติบโตมากขึ้นในอนาคต จากที่โบรกเกอร์ต่างๆจะมีการพัฒนาระบบการยืมและให้ยืมหุ้นให้ทำได้สะดวกมากขึ้น และนักลงทุนก็จะมีความรู้ความเข้าใจมากขึ้น

รวมถึงการที่แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในอีก 3-6 เดือนข้างหน้า ดัชนีมีโอกาสที่จะปรับตัวลดลงไปอยู่ที่จุดต่ำสุดเดิมที่ 660 จุด จากหลายปัจจัย เช่น การเมือง ราคาน้ำมัน เงินเฟ้อ และปัจจัยเรื่องสถาบันการเงินอเมริกาที่จะมีการปิดกิจการหลายแห่ง แต่ขณะนี้ไม่เกิดเพราะ อยู่ในช่วงมีการเลือกตั้ง แต่หลังจากที่มีการเลือกตั้งเสร็จเชื่อว่าจะมีสถาบันการเงินในอเมริกาปิด

ทั้งนี้ จากการที่ทิศทางตลาดหุ้นไทยเป็นขาลง ซึ่งโอกาสที่เหมาะสมในการที่นักลงทุนจะเข้าไปซื้อลงทุนนั้นจะเป็นช่วงไตรมาส 1/52 โดยในช่วงนี้ถึงปลายปีจึงเป็นโอกาสที่นักลงทุนจะสร้างผลตอบแทนได้จากการทำธุรกรรมการยืมหุ้นเพื่อที่จะไปขายชอร์ต โดยหุ้นที่น่าสนใจที่จะเข้าไปยืมหุ้นมาชอร์ตในช่วงปลายปีนี้ เช่น หุ้นพลังงาน จากที่ราคาน้ำมันอยู่ในช่วงขาลงซึ่งมีโอกาสที่ราคาน้ำมันดิบจะลดลงอยู่ที่ระดับ 100 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล

นายถนอมศักดิ์ กล่าวว่า มูลค่าการขายชอร์ตเฉลี่ยอยู่ที่ 1,200 ล้านบาทต่อเดือนถือว่าปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยบริษัทมีหุ้นที่รองรับให้ลูกค้าเข้ามายืมมูลค่า 7,000 ล้านบาท เพราะนักลงทุนสนใจที่จะนำหุ้นมาให้บริษัทยืม เนื่องจากสร้างผลตอบแทนเพิ่มขึ้น โดยปีที่ผ่านมาบริษัทมีมูลค่าการทำธุรกรรมการยืมและให้ยืมมูลค่า 1,700 ล้านบาท และหวังว่าปีนี้จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น

นายอิทธิพล พุ่มซ้อน ผู้อำนวยการบริหาร ฝ่ายยืมและให้ยืมหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ PHATRA กล่าวว่า บริษัทคาดว่า ธุรกรรมการยืมและให้ยืม (SBL)ในประเทศไทยเชื่อว่าจะมีเติบโตมากขึ้น จากนักลงทุนมีความรู้ความเข้าใจมากขึ้น และจากการที่ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้มีการลงทุนระบบเพื่อให้บริษัทหลักทรัพย์เช่าระบบ และจากการที่ในเดือนพฤศจิกายน สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จะมีเกณฑ์ใหม่ออกมาที่ผู้ยืมสามารถยืมหุ้นไปทำธุรกรรมต่างๆได้ไม่จำกัด จากเดิมที่จะต้องยืมไปขาย และยืมหุ้นเข้ามากำไรชดเชยกับหุ้นที่ผู้ยืมได้มีการขายไปแล้ว และจะเปิดให้ผู้ยืมหุ้นวางหลักประกันการยืมในบัญชีเงินสดได้ จากเดิมที่ให้ในบัญชีเครดิตบาลานซ์

ทั้งนี้ จากการที่เริ่มมีการทำธุรกรรม SBL ในประเทศไทยเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมาแต่ยังไม่ผู้ที่จะเข้ามารวบรวมว่าธุรกรรมนี้ใหญ่ขนาดใหญ่ แต่จากที่ทราบพบว่าตลาดต่างประเทศนั้น มีฝั่งที่ผู้ยืมห้นสูงกว่าคนที่เข้ามายืมหุ้นถึง 5-6 เท่า เพราะ จากเป็นธุรกรรมใหม่ของนักลงทุนซึ่งจะต้องมีการให้ความรู้ ซึ่งจากการทีมีผู้ยืมหุ้นน้อยนั้นก็ทำให้ค่าธรรมเนียมที่สูง ส่วนโบรกเกอร์ที่ให้บริการธุรกรรมดังกล่าวนั้นได้รับค่าธรรมเนียมไม่ถึง 1% แต่ที่โบรกเกอร์ทำเพื่อที่จะต้องการเพิ่มทางเลือกในการลงทุนแก่นักลงทุน

สำหรับตั้งแต่ต้นปีนี้ถึงปัจจุบันบริษัทมีมูลค่าการการให้ยืมหุ้นมูลค่า 600 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น จากปี2550 ที่มีประมาณ 300-400 ล้านบาท ซึ่งลูกค้าที่เข้ามายืมหุ้นจากบริษัทส่วนใหญ่จะเป็นนักลงทุนสถาบันในประเทศเป็นหลัก ส่วนผู้ที่เข้ามาเป็นผู้ให้ยืมหุ้นนั้นก็เป็นลูกค้าของบริษัทที่มีการถือหุ้นในระยะยาวและต้องการที่จะได้รับผลตอบแทนจากดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น โดยส่วนลูกค้าต่างประเทศที่จะเข้ามายืมหุ้นนั้นขณะนี้ยังไม่สามารถทำได้ เพราะต้องขออนุญาตจากทางธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจา
กำลังโหลดความคิดเห็น