หลังจากนั้นโรสแมรี่ก็กลับมาเป็นคนเดิม ดูจะใกล้ชิดกับเขามากด้วยซ้ำ
เขาเองก็ไม่เข้าใจ และคิดว่า เขาคงไม่เข้าใจอารมณ์ผู้หญิงไปตลอดชีวิต
โรสแมรี่ไม่เคยลืมจูบแรก และรักแรกของเธอในสมุดบันทึกเล่มจิ๋วของเธอ เธอเขียนว่า “ริชาร์ดเคยจูบฉัน และนั่นคือฉันรู้สึกว่า รักเขาเข้าแล้ว”
เมื่อโรงเรียนเปิด โรสแมรี่กับริชาร์ดกลายเป็นซี้จนเพื่อนรับรู้ทั่วโรงเรียนว่า เป็นแฟนกัน
ครูบอกพับปี้เลิฟเป็นอย่างนี้เอง หารู้ไม่ว่าริชาร์ดและโรสแมรี่เป็นแฟนกันตลอด 10 ปี ต่อมาคนทั้งโรงเรียน ไม่เชื่อว่าเป็นไปได้
ท่านลอร์ดก็ดีใจหากที่ทั้งสองคนจะแต่งงานกันถึงกับทำพินัยกรรมยกปราสาทโบราณให้กับริชาร์ดทีเดียว
แต่อนาคตไม่แน่นอน คบกันจนโรสแมรี่อายุได้ 24 ย่าง 25 เป็นสาวสวยที่หาตัวจับยาก และเธอจบมหาวิทยาลัยลอนดอนไปเรียนต่อด้านการแสดงที่เธอรัก ริชาร์ดไปศึกษาต่อด้านการดนตรี เขาเก่งในการเล่นเครื่องดนตรีโอโบ (Oboe) และได้เล่นโอโบประกอบไปภาพยนตร์หลายเรื่อง ก่อนจะเลิกรา เพราะความห่างเหินต่อกัน
เขาประพันธ์บทเพลง แต่งให้เล่นเต็มวงชื่อเพลงโรสแมรี่มีความไพเราะตรงท่อนเดี่ยวโอโบที่หวานซึ้งมาก เขาส่งเพลงนี้ไปในการประกอบยูโรเปียนซองคอนเทสต์ แต่เนื่องจากที่เขาใช่ว่ามืออาชีพ คือวง London Symphony ประกอบการบรรเลง กรรมการจึงตัดเพลงเขาไปด้วยเหตุนี้
กระนั้นก็ตาม มีภาพยนตร์หลายเรื่องขอลิขสิทธิ์ชั่วคราวไปเป็นเพลงเอกในภาพยนตร์ เขาอนุญาตเป็นเฉพาะเรื่องเท่านั้น
เมื่อมีอายุมากขึ้น ครั้งใดที่โรสแมรี่ได้ยินเพลงนี้ เธอก็จะน้ำตาไหลทุกครั้ง และคิดถึงรักในเยาว์วัย ไม่รู้ว่าริชาร์ดอยู่ไหน
เขาเสียชีวิตด้วยโรคประจำตัวที่หาสาเหตุไม่พบ แม้ท่านลอร์ดจะพาไปรักษากับแพทย์ดีที่สุดถึงสวิตเซอร์แลนด์
ท่านลอร์ดฝังร่างของบุตรชายคนเดียวไว้ในสนามสีเขียวขจีในปราสาทที่ริชาร์ดไม่เคยได้มีโอกาสมาพัก
โรสแมรี่ได้มาเห็นหลุมฝังศพของเพื่อนและคู่รักแต่เยาว์วัยเป็นครั้งสุดท้าย เธอให้คนปลูกทิวลิปไว้เต็มทั้งสนามเป็นอุทาหรณ์ที่เขาและเธอได้เคยเห็นมันที่บ้านของเขา
เมื่อธนาคารกรุงเทพณ พาณิชย์การล้มครืน โรสแมรี่มาในฐานะตัวแทนของครอบครัว คนที่เธอต้องการพบคือ เกริกเกียรติ ชาลีจันทร์ เธอไม่รู้จักเขา แต่ต้องการช่วยเท่าที่จะทำได้
“ตั้ว ดาราดังจากฮอลลีวูดขอพบแกน่ะ”
“ใครว่ะ”
“โรสแมรี่”
“อั๊วต้องไปขึ้นศาล ขอที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ไว้นะ ถ้าพักโรงแรม บอกเบอร์ห้องไว้ด้วย”
โรสแมรี่ไม่ได้พบเกริกเกียรติ หลังจากรู้ว่าเงินทองทุกสตางค์ถอนไม่ได้ เธอพบญาติบางคนเท่านั้น หลายคนตายไปหมดแล้ว
เธอเดินทางกลับไปอังกฤษเพื่อพบน้องชายคนเดียว และคิดว่าจะบอกเรื่องการมาประเทศไทยกับการสูญเสียเงินทั้งหมด
โรสแมรี่คลาดกันกับเกริกเกียรติเพียงไม่ถึงนาทีเดียว และคลาดกันที่สนามบิน
เกริกเกียรติกำลังไปดูแลแม่ที่สวิส
เธอกำลังไปลอนดอน เห็นหน้ากันเดี๋ยวเดียว
“ผมคิดว่าคงใช่นะ สวยเหลือเกิน ผมจำดาราคนนี้ได้”
ชีวิตของโรสแมรี่หลังจากจบการเรียนจากโรงเรียนเฉพาะทางแล้ว เธอไม่ได้แสดงภาพยนตร์หรอก แต่ไปเล่นละครอยู่ถึง 2 ปี เป็นตัวประกอบ เพราะเวลานั้นละครเวทีมีตัวชูโรงเป็นนางเอกที่ผู้ดูติดกันงอมแงม และเธออายุยังน้อย และละครมีบทต้องร้องเพลง ซึ่งเธอร้องเพลงไม่เพราะเท่านางเอกบางคนที่เสียงดี
กระทั่งมีคนอยากนำละครไปสร้างเป็นภาพยนตร์นั่นแหละ โอกาสจึงเป็นของเธอ
ผู้กำกับต้องการนางเอกอ่อนวัย อายุไม่เกิน 22-23 ปี ซึ่งเธอเลยวัยนั้นมาแล้ว เพียงแต่เธอหน้าเด็ก
กองถ่ายทำ Casting เกือบหนึ่งเดือนได้เด็กสาวหน้าตาสวยมาคนหนึ่ง จากที่คัดมานับสิบคน แต่คนนี้ดีไปหมดทุกอย่าง แต่กิริยามารยาทไม่เอาไหน แถมมีแฟนเป็นจิ๊กโก๋ชอบเข้ามาขลุกอยู่ในกองถ่ายตลอดเวลาจนผู้กำกับทนไม่ไหว ยื่นคำขาดให้เลือกระหว่างจะถ่ายทำต่อหรือจะไปอยู่กับแฟน
เธอเลือกถ่ายทำภาพยนตร์ต่อ
อีกเดือนต่อมา แฟนเก่าก็กลับมา คราวนี้ไม่เท่านั้น ยายแม่ตามมาทะเลาะตบตีกับแฟนเธอจนวงแตกหลายครั้ง
ผู้กำกับไม่ยื่นคำขาดแล้ว ไม่ยอมถ่ายภาพยนตร์ต่อไปอีก เลิกถ่าย และกำลังจะยกขบวนไปอเมริกา ขณะกำลังจัดของทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย และเตรียมที่จะเช็กออกจากโรงแรมในตอนบ่าย กองถ่ายรวมถึงผู้กำกับก็ไปรับประทานอาหารเย็นที่ห้องอาหารฝรั่งเศส เป็นการสั่งลามื้อสุดท้ายในประเทศอังกฤษ
โรสแมรี่นัดกับเพื่อนที่เล่นละครด้วยกัน มานั่งหาอะไรกินเล่น ผู้กำกับตาไวเหลือบไปเห็น ก็ให้ช่างกล้องไปถามว่า เธอชื่ออะไร ทำงานที่ไหน อยากชวนมาที่โต๊ะ
เธอไม่ตอบและไม่สนใจ เพียงแต่ยิ้มกลับมาให้ที่โต๊ะซึ่งมีคนนั่งอยู่เต็ม แล้วจึงรับเช็กบิล พร้อมกับไม่ได้เหลียวหลังดูกองถ่ายภาพยนตร์อีกเลย
จะเป็นเพราะโชคหรือพระเจ้าดลใจไม่ทราบ เพื่อนเธอลืมหยิบโบรชัวร์ละครที่มีรายการแสดงละครที่เธอกับเพื่อนต้องแสดงคืนนั้นอยู่บนโต๊ะ
ช่างกล้องเห็นวางอยู่ ก็รีบตะครุบแล้วก็วิ่งเพื่อไปตามเพื่อนว่า ลืมของวางไว้บนโต๊ะ แต่ช้าเกินไป ผู้กำกับจับมือและคว้าโบรชัวร์ไว้เสียก่อน
“ไปบอกเลื่อนที่พักโรงแรม ขอให้เราอยู่ต่ออีกสักวันสองวันนะจอห์น”
“ครับ”
คืนนั้นเมื่อเริ่มแสดงละคร โรสแมรี่ได้รับบทเป็นนางเอกเสียด้วย และเธอก็เล่นสมบทบาทกว่าทุกครั้ง (อ่านต่อวันพฤหัสฯ ที่ 7 มกรา)
เขาเองก็ไม่เข้าใจ และคิดว่า เขาคงไม่เข้าใจอารมณ์ผู้หญิงไปตลอดชีวิต
โรสแมรี่ไม่เคยลืมจูบแรก และรักแรกของเธอในสมุดบันทึกเล่มจิ๋วของเธอ เธอเขียนว่า “ริชาร์ดเคยจูบฉัน และนั่นคือฉันรู้สึกว่า รักเขาเข้าแล้ว”
เมื่อโรงเรียนเปิด โรสแมรี่กับริชาร์ดกลายเป็นซี้จนเพื่อนรับรู้ทั่วโรงเรียนว่า เป็นแฟนกัน
ครูบอกพับปี้เลิฟเป็นอย่างนี้เอง หารู้ไม่ว่าริชาร์ดและโรสแมรี่เป็นแฟนกันตลอด 10 ปี ต่อมาคนทั้งโรงเรียน ไม่เชื่อว่าเป็นไปได้
ท่านลอร์ดก็ดีใจหากที่ทั้งสองคนจะแต่งงานกันถึงกับทำพินัยกรรมยกปราสาทโบราณให้กับริชาร์ดทีเดียว
แต่อนาคตไม่แน่นอน คบกันจนโรสแมรี่อายุได้ 24 ย่าง 25 เป็นสาวสวยที่หาตัวจับยาก และเธอจบมหาวิทยาลัยลอนดอนไปเรียนต่อด้านการแสดงที่เธอรัก ริชาร์ดไปศึกษาต่อด้านการดนตรี เขาเก่งในการเล่นเครื่องดนตรีโอโบ (Oboe) และได้เล่นโอโบประกอบไปภาพยนตร์หลายเรื่อง ก่อนจะเลิกรา เพราะความห่างเหินต่อกัน
เขาประพันธ์บทเพลง แต่งให้เล่นเต็มวงชื่อเพลงโรสแมรี่มีความไพเราะตรงท่อนเดี่ยวโอโบที่หวานซึ้งมาก เขาส่งเพลงนี้ไปในการประกอบยูโรเปียนซองคอนเทสต์ แต่เนื่องจากที่เขาใช่ว่ามืออาชีพ คือวง London Symphony ประกอบการบรรเลง กรรมการจึงตัดเพลงเขาไปด้วยเหตุนี้
กระนั้นก็ตาม มีภาพยนตร์หลายเรื่องขอลิขสิทธิ์ชั่วคราวไปเป็นเพลงเอกในภาพยนตร์ เขาอนุญาตเป็นเฉพาะเรื่องเท่านั้น
เมื่อมีอายุมากขึ้น ครั้งใดที่โรสแมรี่ได้ยินเพลงนี้ เธอก็จะน้ำตาไหลทุกครั้ง และคิดถึงรักในเยาว์วัย ไม่รู้ว่าริชาร์ดอยู่ไหน
เขาเสียชีวิตด้วยโรคประจำตัวที่หาสาเหตุไม่พบ แม้ท่านลอร์ดจะพาไปรักษากับแพทย์ดีที่สุดถึงสวิตเซอร์แลนด์
ท่านลอร์ดฝังร่างของบุตรชายคนเดียวไว้ในสนามสีเขียวขจีในปราสาทที่ริชาร์ดไม่เคยได้มีโอกาสมาพัก
โรสแมรี่ได้มาเห็นหลุมฝังศพของเพื่อนและคู่รักแต่เยาว์วัยเป็นครั้งสุดท้าย เธอให้คนปลูกทิวลิปไว้เต็มทั้งสนามเป็นอุทาหรณ์ที่เขาและเธอได้เคยเห็นมันที่บ้านของเขา
เมื่อธนาคารกรุงเทพณ พาณิชย์การล้มครืน โรสแมรี่มาในฐานะตัวแทนของครอบครัว คนที่เธอต้องการพบคือ เกริกเกียรติ ชาลีจันทร์ เธอไม่รู้จักเขา แต่ต้องการช่วยเท่าที่จะทำได้
“ตั้ว ดาราดังจากฮอลลีวูดขอพบแกน่ะ”
“ใครว่ะ”
“โรสแมรี่”
“อั๊วต้องไปขึ้นศาล ขอที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ไว้นะ ถ้าพักโรงแรม บอกเบอร์ห้องไว้ด้วย”
โรสแมรี่ไม่ได้พบเกริกเกียรติ หลังจากรู้ว่าเงินทองทุกสตางค์ถอนไม่ได้ เธอพบญาติบางคนเท่านั้น หลายคนตายไปหมดแล้ว
เธอเดินทางกลับไปอังกฤษเพื่อพบน้องชายคนเดียว และคิดว่าจะบอกเรื่องการมาประเทศไทยกับการสูญเสียเงินทั้งหมด
โรสแมรี่คลาดกันกับเกริกเกียรติเพียงไม่ถึงนาทีเดียว และคลาดกันที่สนามบิน
เกริกเกียรติกำลังไปดูแลแม่ที่สวิส
เธอกำลังไปลอนดอน เห็นหน้ากันเดี๋ยวเดียว
“ผมคิดว่าคงใช่นะ สวยเหลือเกิน ผมจำดาราคนนี้ได้”
ชีวิตของโรสแมรี่หลังจากจบการเรียนจากโรงเรียนเฉพาะทางแล้ว เธอไม่ได้แสดงภาพยนตร์หรอก แต่ไปเล่นละครอยู่ถึง 2 ปี เป็นตัวประกอบ เพราะเวลานั้นละครเวทีมีตัวชูโรงเป็นนางเอกที่ผู้ดูติดกันงอมแงม และเธออายุยังน้อย และละครมีบทต้องร้องเพลง ซึ่งเธอร้องเพลงไม่เพราะเท่านางเอกบางคนที่เสียงดี
กระทั่งมีคนอยากนำละครไปสร้างเป็นภาพยนตร์นั่นแหละ โอกาสจึงเป็นของเธอ
ผู้กำกับต้องการนางเอกอ่อนวัย อายุไม่เกิน 22-23 ปี ซึ่งเธอเลยวัยนั้นมาแล้ว เพียงแต่เธอหน้าเด็ก
กองถ่ายทำ Casting เกือบหนึ่งเดือนได้เด็กสาวหน้าตาสวยมาคนหนึ่ง จากที่คัดมานับสิบคน แต่คนนี้ดีไปหมดทุกอย่าง แต่กิริยามารยาทไม่เอาไหน แถมมีแฟนเป็นจิ๊กโก๋ชอบเข้ามาขลุกอยู่ในกองถ่ายตลอดเวลาจนผู้กำกับทนไม่ไหว ยื่นคำขาดให้เลือกระหว่างจะถ่ายทำต่อหรือจะไปอยู่กับแฟน
เธอเลือกถ่ายทำภาพยนตร์ต่อ
อีกเดือนต่อมา แฟนเก่าก็กลับมา คราวนี้ไม่เท่านั้น ยายแม่ตามมาทะเลาะตบตีกับแฟนเธอจนวงแตกหลายครั้ง
ผู้กำกับไม่ยื่นคำขาดแล้ว ไม่ยอมถ่ายภาพยนตร์ต่อไปอีก เลิกถ่าย และกำลังจะยกขบวนไปอเมริกา ขณะกำลังจัดของทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย และเตรียมที่จะเช็กออกจากโรงแรมในตอนบ่าย กองถ่ายรวมถึงผู้กำกับก็ไปรับประทานอาหารเย็นที่ห้องอาหารฝรั่งเศส เป็นการสั่งลามื้อสุดท้ายในประเทศอังกฤษ
โรสแมรี่นัดกับเพื่อนที่เล่นละครด้วยกัน มานั่งหาอะไรกินเล่น ผู้กำกับตาไวเหลือบไปเห็น ก็ให้ช่างกล้องไปถามว่า เธอชื่ออะไร ทำงานที่ไหน อยากชวนมาที่โต๊ะ
เธอไม่ตอบและไม่สนใจ เพียงแต่ยิ้มกลับมาให้ที่โต๊ะซึ่งมีคนนั่งอยู่เต็ม แล้วจึงรับเช็กบิล พร้อมกับไม่ได้เหลียวหลังดูกองถ่ายภาพยนตร์อีกเลย
จะเป็นเพราะโชคหรือพระเจ้าดลใจไม่ทราบ เพื่อนเธอลืมหยิบโบรชัวร์ละครที่มีรายการแสดงละครที่เธอกับเพื่อนต้องแสดงคืนนั้นอยู่บนโต๊ะ
ช่างกล้องเห็นวางอยู่ ก็รีบตะครุบแล้วก็วิ่งเพื่อไปตามเพื่อนว่า ลืมของวางไว้บนโต๊ะ แต่ช้าเกินไป ผู้กำกับจับมือและคว้าโบรชัวร์ไว้เสียก่อน
“ไปบอกเลื่อนที่พักโรงแรม ขอให้เราอยู่ต่ออีกสักวันสองวันนะจอห์น”
“ครับ”
คืนนั้นเมื่อเริ่มแสดงละคร โรสแมรี่ได้รับบทเป็นนางเอกเสียด้วย และเธอก็เล่นสมบทบาทกว่าทุกครั้ง (อ่านต่อวันพฤหัสฯ ที่ 7 มกรา)