xs
xsm
sm
md
lg

ถ่วงได้อีก!ลากยาวกม.ค้าปลีก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-รัฐบาลเล่นเกมถ่วงกฎหมายค้าปลีก ครม.ทำได้แค่เห็นชอบหลักการ และส่งกฤษฎีกาปรับถ้อยคำ คาดใช้เวลาอีกไม่ต่ำกว่า 6 เดือน ถึงจะกลับมาเข้าครม.อีกครั้ง
นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (22 ธ.ค.) ได้มีมติเห็นชอบหลักการร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง และมอบหมายให้คณะกรรมการกฤษฎีกานำไปจัดทำรายละเอียดถ้อยคำต่างๆ โดยให้ใช้ร่างของกระทรวงพาณิชย์เป็นหลัก โดยคาดว่าขั้นตอนของกฤษฎีกาจะใช้เวลาไม่เกิน 6 เดือน ก่อนเสนอกลับมายังครม.เพื่อพิจารณาอีกครั้ง
สำหรับประเด็นที่ให้คณะกรรมการกฤษฎีกาไปตรวจสอบ คือ การกำหนดขนาดของห้างค้าปลีกค้าส่ง รวมถึงการกำหนดยอดขายของห้างค้าปลีกค้าส่ง ที่จะต้องอยู่ในข่ายที่จะต้องขออนุญาตตั้งหรือขยายสาขา ส่วนการตั้งคณะกรรมการ จะจัดตั้งในรูปแบบของคณะกรรมการกลาง แต่จะไม่มีการจัดตั้งคณะกรรมการระดับจังหวัด เพียงแต่จะให้เป็นคณะอนุกรรมการของส่วนกลางเท่านั้น
ส่วนการจัดตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านค้าปลีกรายย่อย (โชว์ห่วย) เห็นว่ารัฐบาลจะออกมาตรการช่วยเหลือและสนับสนุน โดยดำเนินการภายใต้คณะกรรมการส่งเสริมการค้าปลีก ซึ่งรัฐบาลจะมีงบประมาณมาช่วยสนับสนุนในจุดนี้
“กระทรวงพาณิชย์ยังคงยืนยันว่าควรจะมีการเร่งรัดบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวโดยเร็ว เนื่องจากปัจจุบันการขยายสาขาของธุรกิจค้าปลีกค้าส่งขนาดใหญ่ต่างเพิ่มปริมาณขึ้นอย่างรวดเร็วทั่วประเทศ โดยจะเห็นได้จากปีนี้ร้านค้าปลีกค้าส่งขนาดใหญ่ เช่น บิ๊กซี คาร์ฟูร์ เทสโก้ โลตัส และแม็คโคร เป็นต้น มีสาขารวมกันทั่วประเทศแล้วถึง 9,900 สาขา จากปีก่อนที่มี 8,900 สาขา ส่วนร้านโชว์ห่วยมีอยู่ 290,000 ร้าน และร้านค้าปลีกรายย่อยอีกราว 100,000 ร้าน”นายยรรยงกล่าว
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า ในที่ประชุมครม. ไม่ได้มีการตัดสินใจใดๆ เกี่ยวกับกฎหมายค้าปลีก โดยเฉพาะเรื่องที่เสนอให้พิจารณา คือ การให้ระบุหรือไม่ระบุหลักเกณฑ์เกี่ยวกับขนาดของค้าปลีกค้าส่ง และยอดขายของธุรกิจ ที่จะอยู่ในข่ายต้องขออนุญาตไว้ในกฎหมาย รวมไปถึงเรื่องการตั้งหรือไม่ตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือโชว์ห่วย โดยครม. ทำได้แค่เพียงการรับหลักการของกฎหมายฉบับนี้เท่านั้น และขอให้ส่งกฎหมายให้คณะกรรมการกฤษฎีกาไปดูถ้อยคำอีก ทำให้กฎหมายฉบับนี้ต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะแล้วเสร็จ แต่หากครม.ให้ความเห็นชอบ แล้วส่งเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร แล้วให้ไปว่ากันในรัฐสภา จะทำให้กฎหมายมีผลบังคับใช้ได้เร็วกว่า
ทั้งนี้ ร่างกฎหมายค้าปลีกฉบับนี้ เป็นร่างที่ได้รวมกฎหมาย 2 ฉบับเข้าด้วยกัน คือ ร่างของกระทรวงพาณิชย์ และร่างของผู้แทนการค้าไทย (ทีทีอาร์) โดยเห็นตรงกันที่จะให้มีคณะกรรมการกลางเพียงชุดเดียวดูแลและกำหนดนโยบาย มีปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน เพื่อกันการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ส่วนหลักเกณฑ์ขนาดธุรกิจ และยอดขาย กระทรวงพาณิชย์อยากให้ระบุไว้ในกฎหมาย เพื่อให้ง่ายต่อการกำกับดูแลในการขออนุญาตตั้งหรือขยายสาขา แต่ทีทีอาร์อยากให้ออกกฎกระทรวงในภายหลัง สำหรับกองทุนช่วยเหลือโชว์ห่วย เห็นตรงกันว่าต้องมี
นางเดือนเด่น นิคมบริรักษ์ นักวิชาการสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวว่า ก่อนที่รัฐบาลจะเสนอร่างกฎหมายค้าปลีกเข้าสภาฯ ควรจะพิจารณาเนื้อหาอย่างรอบคอบ เนื่องจากที่ผ่านมา การยกร่างกฎหมายมุ่งประเด็นไปที่การควบคุมการขยายสาขาของค้าปลีกสมัยใหม่เพียงอย่างเดียว ทั้งที่ในระบบธุรกิจค้าปลีกยังมีกลุ่มยี่ปั๊ว ซาปั๊ว ซัปพลายเออร์ รวมถึงร้านสะดวกซื้อ ที่มีส่วนสร้างผลกระทบต่อโชว์ห่วย จึงต้องการให้รัฐบาลมองปัญหาให้รอบด้าน
กำลังโหลดความคิดเห็น