ASTVผู้จัดการรายวัน - บอร์ดการบินไทยเตะถ่วง ยื้อเวลาฟัน”วัลลภ” ตั้งกรรมการสอบขนสัมภาระน้ำหนักเกินอีก 3 สัปดาห์ “อำพน”ยอมรับข้อมูลยันน้ำหนักเกินจริงถึง 228 กก. ทำสูญรายได้ ระบุโทษทางจริยธรรมเหตุเป็นบอร์ด ด้านสหภาพฯ เดินหน้าจี้ปลดพ้นบอร์ด “ดีดี”เจรจาคลังขอเพิ่มทุนรองรับแผนลงทุนระยะยาว ซื้อเครื่องบิน 12 ลำ
นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกืจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยภายหลังการประชุมบอร์ด วานนี้ (18 ธ.ค.) ว่า ที่ประชุมได้พิจารณากรณีที่นายวัลลภ พุกกะณะสุต กรรมการและประธานกรรมการบริหารบริษัท เดินทางในชั้น First Class เที่ยวบิน TG 677 จากญี่ปุ่นมาประเทศไทยและมีการขนสัมภาระเกินพิกัดกำหนดตามสิทธิ์ของผู้โดยสาร โดยที่ประชุมมีมติตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง มี นายคณิศ แสงสุพรรณ ผอ.มูลนิธิสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลังและกรรมการบริษัทเป็นประธาน นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม และนายชัยศักดิ์ อังค์สุวรรณ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นกรรมการ และให้สรุปผลใน 3 สัปดาห์เพื่อรายงานต่อที่ประชุมบอร์ดในเดือน ม.ค.2553
ทั้งนี้ คณะกรรมการสอบสวนฯ จะต้องเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบข้อเท็จจริง ใน 2 ประเด็นคือ ขั้นตอนการอนุญาตว่าได้ดำเนินการตามระเบียบบริษัทหรือไม่ และบริษัทได้รับความเสียหายจากการขาดรายได้จากการทำให้เสียโอกาสจากการขนส่งสินค้าทางคาร์โก้ จำนวนเท่าไรผู้รับผิดชอบเป็นใคร ซึ่งสรุปว่านายวัลลภผิดในตำแหน่งบอร์ดจะถือว่าผิดทางจริยธรรม ซึ่งจะต้องส่งเรื่องให้คณะกรรมการจริยธรรมของบริษัทดำเนินการต่อไปส่วนกรณีผู้บริหารเป็นหน้าที่ดีดีจะต้องดำเนินการตามระเบียบบริษัท
นายอำพนกล่าวว่า หลังจากที่ได้รับรายงานจากนายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ การบินไทยเมื่อวันที่ 11 ธ.ค.52 ตนได้สั่งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดทำรายงานถึงโดยยตรงทั้ง นายวัลลภ พุกกะณะสุต, ผู้จัดการสนามบินที่โตเกียว , นายเล็ก กลิ่นวิบูลย์ กรรมการผู้จัดการฝ่ายบริการลูกค้าภาคพื้น ซึ่งเป็นผู้รับรอง, นายพฤทธิ์ บุปผาคำ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายการพาณิชย์ รวมถึง ข้อมูลจาก ผู้จัดการฝ่ายบริการสายการบิน ANA ซึ่งเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่การขนถ่ายสัมภาระที่ท่าอากาศยานโตเกียว ยอมรับว่ามีการโหลดสัมภาระของผู้โดยสาร 3 คนในชื่อวัลลภรวม30 ชิ้น น้ำหนัก 398 กิโลกรัมจริง ซึ่งเกินสิทธิ์ตามระเบียบ สิทธิพิเศษในชั้น First Class 2 คนได้ 120 กิโลกรัมซึ่งมีชั้น Business อีก 1 คน ได้ 50 กิโลกรัมรวมกันไม่เกิน 170 กิโลกรัม โดยน้ำหนักที่เกินคิดเป็นรายได้สูญเสียประมาณ 200,000 บาท
นอกจากนี้สายการบิน ANA ยืนยันว่า น้ำหนักที่แจ้ง 398 กิโลกรัมไม่มีการปรับตัวเลข มีการแจ้งน้ำหนักจริงให้นักบินรับทราบ จึงไม่กระทบต่อความปลอดภัยในการบิน และการคำนวนน้ำหนักของนักบิน ซึ่งเป็นการยืนยันความปลอดภัยด้านการบินของบริษัท
นายอำพนกล่าวว่า นายวัลลภได้แจ้งขอหยุดปฏิบัติหน้าที่ในระหว่างการสอบสวนยังไม่แล้วเสร็จ ซึ่งถือเป็นการแสดงถึงธรรมาภิบาลระดับหนึ่ง โดยบอร์ดมีมติแต่งตั้งนายคณิต ทำหน้าที่แทนนายวัลลภ ทั้งประธานกรรมการบริหารและกรรมการประเมินผลดีดี
**สหภาพฯ ยื่นหนังสือบอร์ดปลด”วัลลภ”
โดยเวลา 08.30 น.ที่สำนักงานใหญ่ บริษัทการบินไทย ก่อนการประชุมบอร์ด กลุ่มสหภาพแรงงานรัฐวิสากิจการบินไทย นำโดยนางแจ่มศรี สุกโชติรัตน์ ประธานสหภาพฯ ยื่นหนังสือให้บอร์ดการบินไทยทุกคน เพื่อเรียกร้องให้นายวัลลภ พุกกะณะสุต ประธานกรรมการบริหาร บริษัทการบินไทยลาออก เพื่อแสดงความรับผิดชอบกรณีใช้อำนาจในการเป็นบอร์ดขนกระเป๋าน้ำหนักเกิน ซึ่งถือเป็นการขาดจริยธรรมในการบริหารงาน
**หารือคลังเพิ่มทุนรับแผนระยะยาวซื้อเครื่องบิน 12 ลำ
นายอำพนกล่าวว่า บอร์ดเห็นชอบแผนเห็นชอบแผนกลยุทธ์ (แผน 5 ปี 2553-2557) รวมทั้งงบประมาณ ประจำปี 2553-54 ของฝ่ายบริหาร ซึ่งจะมีการจัดหาเครื่องบินใหม่ 12 ลำ เป็นแบบพิสัยไกล5 ลำ พิสัยกลาง 7 ลำ เนื่องจากบริษัทจะต้องปรับฝูงบินภายใน 2-3 ปี เพื่อให้มีอายุใช้งานเฉลี่ย 11 ปี เพื่อให้สามารถแข่งขันได้จากปัจจุบันที่อายุเครื่องบินเฉลี่ย 16.5 ปี โดยจะมีการปลดระวางเครื่องเก่า 25 ลำ ซึ่งให้ฝ่ายบริหารทำรายละเอียดการลงทุนเสนอบอร์ดอีกครั้งในเดือนม.ค.-ก.พ.53 นอกจากนี้ตามแผนระยะยาวบริษัทจะต้องปรับโครงสร้างทางการเงิน ซึ่งได้เจรจากับกระทรวงการคลังเพื่อขอเพิ่มทุนเพื่อรองรับการลงทุนด้วย แต่ยังบอกจำนวนที่จะเพิ่มทุนไม่ได้ในขณะนี้
“ก่อนหน้านี้บอร์ดอนุมัติงบลงทุน 4,500 ล้านบาท ในการปรับปรุงเครื่องบินทุกลำให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งจะแล้วเสณ้จใน 2 ปี ส่วนเครื่องใหม่จะเป็นเครื่องบินแบบที่ Low Carbon เช่น B 787 หรือ A 350”นายอำพนกล่าว
**เตรียมเพิ่มทุนในนกแอร์ทยอยโอนบินในประเทศ
ส่วนกรณีที่การบินไทยยกเลิกบินเส้นทางเส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ – พิษณุโลก วันละ 2 เที่ยวบิน เส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ – อุบลราชธานี วันละ 3 เที่ยวบิน เส้นทางไป-กลับ เชียงใหม่ – แม่ฮ่องสอน วันละ 2 เที่ยวบินและให้นกแอร์ทำการบินแทนโดยเริ่มวันที่ 1 มี.ค. 53 นั้น นายอำพนกล่าวว่า เนื่องจากประสบผลขาดทุน และหากให้บริการต่อไป จะต้องมีการปรับขึ้นค่าโดยสารอีก20% ซึ่งจะทำให้ประชาชนเดือดร้อน
"การดำเนินการดังกล่าว การบินไทยจะไม่ขาดทุนแล้วยังจะมีรายได้จากค่าซ่อมบำรุง ค่าเช่าเครื่องจากนกแอร์ด้วย ซึ่งบริษัทจะมีการเจรจากับนกแอร์ในฐานะบริษัทลูกพื่อเพิ่มทุนโดยกำหนดให้นกแอร์เป็นสายการบิน Low Fair แข่งขันในตลาด"
อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการ 11 เดือนปี2552 ดีกว่าเป้าหมาย และดีกว่าในแผนฟื้นฟู100% โดยในเดือนพ.ย. 52 อัตราการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) เฉลี่ย ร้อยละ74.2 ต่ำกว่างบประมาณซึ่งเฉลี่ย ร้อยละ 76.7 yield มากกว่า 2.1 บาทต่อกิโลเมตร
นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ดีดีการบินไทยกล่าวว่า ผลการดำนินงานในรอบ 5 ปีที่ผ่านมาบริษัท ขาดทุนเส้นทางพิษณุโลกเฉลี่ย 86.3 ล้านบาทต่อปี อุบลราชธานีขาดทุนเฉลี่ย 74.9 ล้านบาทต่ปี และแม่ฮ่องสอนขาดทุนเฉลี่ย 499 ล้านบาทต่อปี โดยคาดว่าจะเพิ่มทุนในนกแอร์ไม่เกิน 49% เพื่อไม่ให้เป็นรัฐวิสาหกิจ
**"ปู่จิ้น"แนะ‘วัลลภ’ควรจะลาออก
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีบอร์ดการบินไทย จะมีการพิจารณา กรณีนายวัลลภ พุกกะณะสุต ประธานกรรมการบริหารการบินไทย บรรทุกสัมภาระทางการบินเกินกว่า 500 กิโลกรัม ว่า ทางภูมิใจไทย ไม่มีความคิดเห็นอะไร เพียงแต่นายวัลลภ ควรจะลาออกด้วยตัวเอง
ต่อข้อถามว่าการพูดคุยกับนายวัลลภ แล้วหรือยัง นายชวรัตน์กล่าวว่า ตนไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว ส่วนกระแสข่าวพรรคภูมิใจไทย จะลอยแพนายวัลลภ ตนไม่ทราบ เพราะไม่ใช่เรื่องของตน และไม่มีความเห็นในเรื่องนี้
นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกืจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยภายหลังการประชุมบอร์ด วานนี้ (18 ธ.ค.) ว่า ที่ประชุมได้พิจารณากรณีที่นายวัลลภ พุกกะณะสุต กรรมการและประธานกรรมการบริหารบริษัท เดินทางในชั้น First Class เที่ยวบิน TG 677 จากญี่ปุ่นมาประเทศไทยและมีการขนสัมภาระเกินพิกัดกำหนดตามสิทธิ์ของผู้โดยสาร โดยที่ประชุมมีมติตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง มี นายคณิศ แสงสุพรรณ ผอ.มูลนิธิสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลังและกรรมการบริษัทเป็นประธาน นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม และนายชัยศักดิ์ อังค์สุวรรณ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นกรรมการ และให้สรุปผลใน 3 สัปดาห์เพื่อรายงานต่อที่ประชุมบอร์ดในเดือน ม.ค.2553
ทั้งนี้ คณะกรรมการสอบสวนฯ จะต้องเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบข้อเท็จจริง ใน 2 ประเด็นคือ ขั้นตอนการอนุญาตว่าได้ดำเนินการตามระเบียบบริษัทหรือไม่ และบริษัทได้รับความเสียหายจากการขาดรายได้จากการทำให้เสียโอกาสจากการขนส่งสินค้าทางคาร์โก้ จำนวนเท่าไรผู้รับผิดชอบเป็นใคร ซึ่งสรุปว่านายวัลลภผิดในตำแหน่งบอร์ดจะถือว่าผิดทางจริยธรรม ซึ่งจะต้องส่งเรื่องให้คณะกรรมการจริยธรรมของบริษัทดำเนินการต่อไปส่วนกรณีผู้บริหารเป็นหน้าที่ดีดีจะต้องดำเนินการตามระเบียบบริษัท
นายอำพนกล่าวว่า หลังจากที่ได้รับรายงานจากนายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ การบินไทยเมื่อวันที่ 11 ธ.ค.52 ตนได้สั่งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดทำรายงานถึงโดยยตรงทั้ง นายวัลลภ พุกกะณะสุต, ผู้จัดการสนามบินที่โตเกียว , นายเล็ก กลิ่นวิบูลย์ กรรมการผู้จัดการฝ่ายบริการลูกค้าภาคพื้น ซึ่งเป็นผู้รับรอง, นายพฤทธิ์ บุปผาคำ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายการพาณิชย์ รวมถึง ข้อมูลจาก ผู้จัดการฝ่ายบริการสายการบิน ANA ซึ่งเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่การขนถ่ายสัมภาระที่ท่าอากาศยานโตเกียว ยอมรับว่ามีการโหลดสัมภาระของผู้โดยสาร 3 คนในชื่อวัลลภรวม30 ชิ้น น้ำหนัก 398 กิโลกรัมจริง ซึ่งเกินสิทธิ์ตามระเบียบ สิทธิพิเศษในชั้น First Class 2 คนได้ 120 กิโลกรัมซึ่งมีชั้น Business อีก 1 คน ได้ 50 กิโลกรัมรวมกันไม่เกิน 170 กิโลกรัม โดยน้ำหนักที่เกินคิดเป็นรายได้สูญเสียประมาณ 200,000 บาท
นอกจากนี้สายการบิน ANA ยืนยันว่า น้ำหนักที่แจ้ง 398 กิโลกรัมไม่มีการปรับตัวเลข มีการแจ้งน้ำหนักจริงให้นักบินรับทราบ จึงไม่กระทบต่อความปลอดภัยในการบิน และการคำนวนน้ำหนักของนักบิน ซึ่งเป็นการยืนยันความปลอดภัยด้านการบินของบริษัท
นายอำพนกล่าวว่า นายวัลลภได้แจ้งขอหยุดปฏิบัติหน้าที่ในระหว่างการสอบสวนยังไม่แล้วเสร็จ ซึ่งถือเป็นการแสดงถึงธรรมาภิบาลระดับหนึ่ง โดยบอร์ดมีมติแต่งตั้งนายคณิต ทำหน้าที่แทนนายวัลลภ ทั้งประธานกรรมการบริหารและกรรมการประเมินผลดีดี
**สหภาพฯ ยื่นหนังสือบอร์ดปลด”วัลลภ”
โดยเวลา 08.30 น.ที่สำนักงานใหญ่ บริษัทการบินไทย ก่อนการประชุมบอร์ด กลุ่มสหภาพแรงงานรัฐวิสากิจการบินไทย นำโดยนางแจ่มศรี สุกโชติรัตน์ ประธานสหภาพฯ ยื่นหนังสือให้บอร์ดการบินไทยทุกคน เพื่อเรียกร้องให้นายวัลลภ พุกกะณะสุต ประธานกรรมการบริหาร บริษัทการบินไทยลาออก เพื่อแสดงความรับผิดชอบกรณีใช้อำนาจในการเป็นบอร์ดขนกระเป๋าน้ำหนักเกิน ซึ่งถือเป็นการขาดจริยธรรมในการบริหารงาน
**หารือคลังเพิ่มทุนรับแผนระยะยาวซื้อเครื่องบิน 12 ลำ
นายอำพนกล่าวว่า บอร์ดเห็นชอบแผนเห็นชอบแผนกลยุทธ์ (แผน 5 ปี 2553-2557) รวมทั้งงบประมาณ ประจำปี 2553-54 ของฝ่ายบริหาร ซึ่งจะมีการจัดหาเครื่องบินใหม่ 12 ลำ เป็นแบบพิสัยไกล5 ลำ พิสัยกลาง 7 ลำ เนื่องจากบริษัทจะต้องปรับฝูงบินภายใน 2-3 ปี เพื่อให้มีอายุใช้งานเฉลี่ย 11 ปี เพื่อให้สามารถแข่งขันได้จากปัจจุบันที่อายุเครื่องบินเฉลี่ย 16.5 ปี โดยจะมีการปลดระวางเครื่องเก่า 25 ลำ ซึ่งให้ฝ่ายบริหารทำรายละเอียดการลงทุนเสนอบอร์ดอีกครั้งในเดือนม.ค.-ก.พ.53 นอกจากนี้ตามแผนระยะยาวบริษัทจะต้องปรับโครงสร้างทางการเงิน ซึ่งได้เจรจากับกระทรวงการคลังเพื่อขอเพิ่มทุนเพื่อรองรับการลงทุนด้วย แต่ยังบอกจำนวนที่จะเพิ่มทุนไม่ได้ในขณะนี้
“ก่อนหน้านี้บอร์ดอนุมัติงบลงทุน 4,500 ล้านบาท ในการปรับปรุงเครื่องบินทุกลำให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งจะแล้วเสณ้จใน 2 ปี ส่วนเครื่องใหม่จะเป็นเครื่องบินแบบที่ Low Carbon เช่น B 787 หรือ A 350”นายอำพนกล่าว
**เตรียมเพิ่มทุนในนกแอร์ทยอยโอนบินในประเทศ
ส่วนกรณีที่การบินไทยยกเลิกบินเส้นทางเส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ – พิษณุโลก วันละ 2 เที่ยวบิน เส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ – อุบลราชธานี วันละ 3 เที่ยวบิน เส้นทางไป-กลับ เชียงใหม่ – แม่ฮ่องสอน วันละ 2 เที่ยวบินและให้นกแอร์ทำการบินแทนโดยเริ่มวันที่ 1 มี.ค. 53 นั้น นายอำพนกล่าวว่า เนื่องจากประสบผลขาดทุน และหากให้บริการต่อไป จะต้องมีการปรับขึ้นค่าโดยสารอีก20% ซึ่งจะทำให้ประชาชนเดือดร้อน
"การดำเนินการดังกล่าว การบินไทยจะไม่ขาดทุนแล้วยังจะมีรายได้จากค่าซ่อมบำรุง ค่าเช่าเครื่องจากนกแอร์ด้วย ซึ่งบริษัทจะมีการเจรจากับนกแอร์ในฐานะบริษัทลูกพื่อเพิ่มทุนโดยกำหนดให้นกแอร์เป็นสายการบิน Low Fair แข่งขันในตลาด"
อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการ 11 เดือนปี2552 ดีกว่าเป้าหมาย และดีกว่าในแผนฟื้นฟู100% โดยในเดือนพ.ย. 52 อัตราการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) เฉลี่ย ร้อยละ74.2 ต่ำกว่างบประมาณซึ่งเฉลี่ย ร้อยละ 76.7 yield มากกว่า 2.1 บาทต่อกิโลเมตร
นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ดีดีการบินไทยกล่าวว่า ผลการดำนินงานในรอบ 5 ปีที่ผ่านมาบริษัท ขาดทุนเส้นทางพิษณุโลกเฉลี่ย 86.3 ล้านบาทต่อปี อุบลราชธานีขาดทุนเฉลี่ย 74.9 ล้านบาทต่ปี และแม่ฮ่องสอนขาดทุนเฉลี่ย 499 ล้านบาทต่อปี โดยคาดว่าจะเพิ่มทุนในนกแอร์ไม่เกิน 49% เพื่อไม่ให้เป็นรัฐวิสาหกิจ
**"ปู่จิ้น"แนะ‘วัลลภ’ควรจะลาออก
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีบอร์ดการบินไทย จะมีการพิจารณา กรณีนายวัลลภ พุกกะณะสุต ประธานกรรมการบริหารการบินไทย บรรทุกสัมภาระทางการบินเกินกว่า 500 กิโลกรัม ว่า ทางภูมิใจไทย ไม่มีความคิดเห็นอะไร เพียงแต่นายวัลลภ ควรจะลาออกด้วยตัวเอง
ต่อข้อถามว่าการพูดคุยกับนายวัลลภ แล้วหรือยัง นายชวรัตน์กล่าวว่า ตนไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว ส่วนกระแสข่าวพรรคภูมิใจไทย จะลอยแพนายวัลลภ ตนไม่ทราบ เพราะไม่ใช่เรื่องของตน และไม่มีความเห็นในเรื่องนี้