ASTVผู้จัดการรายวัน - “อำพน” เลิกอุ้ม "วัลลภ" สั่งสาวไส้กระบวนการขนกระเป๋าฉาว ขีดเส้นรวบรวมหลักฐาน 16 ธ.ค. ก่อนชงบอร์ด 18 ธ.ค. พิจารณาลงโทษ ด้าน “ปิยสวัสดิ์” ปัดให้ความเห็น
นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงกรณีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของ นายวัลลภ พุกกะณะสุต ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัทการบินไทย ซึ่งใช้สิทธิตั๋วพิเศษชั้น First Class เดินทางพร้อมภรรยา และใช้อภิสิทธิ์การเป็นกรรมการบริษัทขนกระเป๋าที่มีน้ำหนักเกินกว่ากำหนดและถูกคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า ได้ให้หน่วยงานต่างๆ รวมทั้งสายการบิน ANA ส่งข้อมูลการขนสินค้าเกินกำหนดเพื่อนำมาพิจารณา เนื่องจากหน่วยงานดังกล่าวมีมาตรฐานในการบริหารงานคงไม่มีใครแทรกแซงได้ ซึ่งกำหนดวันที่ 16 ธ.ค. และจะเรื่องเสนอที่ประชุมคณะกรรมการการบินไทยวันที่ 18 ธ.ค. เพื่อพิจารณาโทษเกี่ยวกับการขนสินค้าเกินกำหนด
“เท่าที่ทราบ สินค้าที่นำเข้ามาเกินกำหนดเพียง 200 กิโลกรัม และมีบุคคลอื่นเข้ามาร่วมเช็กอินกับนายวัลลภด้วย ดังนั้น การกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่การบินไทย เบื้องต้นอาจจะถูกโทษปรับตามระเบียบที่กำหนดไว้ ที่สำคัญนายวัลลภได้โทรมาแจ้งในการขอลากิจ จากการปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการบริหาร เพื่อเปิดโอกาสในการสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้น”นายอำพนกล่าว
นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า คงต้องสอบถามรายละเอียดต่างๆ จากประธานบอร์ดการบินไทย ซึ่งเท่าที่ทราบข้อมูลประธานบอร์ด ได้สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงานข้อเท็จจริงให้ทราบแล้
“คงต้องไปถามประธานบอร์ดเอาเอง หรือไม่ก็ถามนายปานฑิต ชนะภัย ผู้อำนวยการใหญ่ สายทรัพยากรบุคคลและบริการทั่วไป ที่เป็นคณะกรรมการกิจการสัมพันธ์ ที่ได้เข้าไปดูเรื่องนี้ ในส่วนของกระบวนการทำงานว่า กรณีดังกล่าวสามารถเกิดขึ้นได้หรือไม่ ไม่ใช่สอบสวนทางด้านวินัย”นายปิยะสวัสดิ์ กล่าว
ส่วนกรณีที่นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ออกมาระบุ ว่า บอร์ดการบินไทยควรเร่งสรุปเรื่องดังกล่าว เนื่องจากเป็นกรณีที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ และผู้ถือหุ้นของการบินไทยนั้น นายปิยสวัสดิ์ ตอบสั้นๆ ว่า ให้ไปถามรมว.คลังเอาเอง ไม่เกี่ยวกับตนเอง ตนจะไม่ตอบเรื่องนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะต้องดำเนินการอย่างไรกับเรื่องนี้และจะมีการตรวจสอบคุณวัลลภหรือไม่ นายปิยสวัสดิ์กล่าวว่า ให้ไปถามคุณวัลลภเอง วันนี้จะไม่พูดเรื่องนี้
นายปิยสวัสดิ์ได้กล่าวถึงแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/2552 (ต.ค.-ธ.ค.) ว่า คาดว่า อัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) อยู่ในระดับดี แต่จะต้องติดตามปัจจัยหลายด้านอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอัตราแลกเปลี่ยน และราคาน้ำมัน ซึ่งราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงในขณะนี้จะส่งผลดีต่อผลประกอบการในเดือนม.ค.2553 เพราะ THAI จำหน่ายบัตรโดยสารล่วงหน้าเดือนธันวาคมไปแล้ว
ส่วนการประชุมคณะกรรมการบริษัทในวันที่ 18 ธ.ค.นี้ ฝ่ายบริหารจะเสนอแผนปรับโครงสร้างทางการเงิน, แผนกลยุทธ์ 5 ปี (2553-2557) และผลประกอบการเดือนพ.ย. 2552 ซึ่งแผนกลยุทธ์ได้ตั้งเป้าผลการดำเนินงานปี 2553 ว่าจะมีรายได้ที่ 193,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.7% จากปี 2552 มีกำไรก่อนหักภาษีและค่าเสื่อม (EBITDA) 32,000 ล้านบาท โดยมี (Cabin Factor g เฉลี่ย 74% รวมทั้งมีแผนเพิ่มทุนด้วย
นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงกรณีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของ นายวัลลภ พุกกะณะสุต ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัทการบินไทย ซึ่งใช้สิทธิตั๋วพิเศษชั้น First Class เดินทางพร้อมภรรยา และใช้อภิสิทธิ์การเป็นกรรมการบริษัทขนกระเป๋าที่มีน้ำหนักเกินกว่ากำหนดและถูกคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า ได้ให้หน่วยงานต่างๆ รวมทั้งสายการบิน ANA ส่งข้อมูลการขนสินค้าเกินกำหนดเพื่อนำมาพิจารณา เนื่องจากหน่วยงานดังกล่าวมีมาตรฐานในการบริหารงานคงไม่มีใครแทรกแซงได้ ซึ่งกำหนดวันที่ 16 ธ.ค. และจะเรื่องเสนอที่ประชุมคณะกรรมการการบินไทยวันที่ 18 ธ.ค. เพื่อพิจารณาโทษเกี่ยวกับการขนสินค้าเกินกำหนด
“เท่าที่ทราบ สินค้าที่นำเข้ามาเกินกำหนดเพียง 200 กิโลกรัม และมีบุคคลอื่นเข้ามาร่วมเช็กอินกับนายวัลลภด้วย ดังนั้น การกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่การบินไทย เบื้องต้นอาจจะถูกโทษปรับตามระเบียบที่กำหนดไว้ ที่สำคัญนายวัลลภได้โทรมาแจ้งในการขอลากิจ จากการปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการบริหาร เพื่อเปิดโอกาสในการสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้น”นายอำพนกล่าว
นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า คงต้องสอบถามรายละเอียดต่างๆ จากประธานบอร์ดการบินไทย ซึ่งเท่าที่ทราบข้อมูลประธานบอร์ด ได้สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงานข้อเท็จจริงให้ทราบแล้
“คงต้องไปถามประธานบอร์ดเอาเอง หรือไม่ก็ถามนายปานฑิต ชนะภัย ผู้อำนวยการใหญ่ สายทรัพยากรบุคคลและบริการทั่วไป ที่เป็นคณะกรรมการกิจการสัมพันธ์ ที่ได้เข้าไปดูเรื่องนี้ ในส่วนของกระบวนการทำงานว่า กรณีดังกล่าวสามารถเกิดขึ้นได้หรือไม่ ไม่ใช่สอบสวนทางด้านวินัย”นายปิยะสวัสดิ์ กล่าว
ส่วนกรณีที่นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ออกมาระบุ ว่า บอร์ดการบินไทยควรเร่งสรุปเรื่องดังกล่าว เนื่องจากเป็นกรณีที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ และผู้ถือหุ้นของการบินไทยนั้น นายปิยสวัสดิ์ ตอบสั้นๆ ว่า ให้ไปถามรมว.คลังเอาเอง ไม่เกี่ยวกับตนเอง ตนจะไม่ตอบเรื่องนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะต้องดำเนินการอย่างไรกับเรื่องนี้และจะมีการตรวจสอบคุณวัลลภหรือไม่ นายปิยสวัสดิ์กล่าวว่า ให้ไปถามคุณวัลลภเอง วันนี้จะไม่พูดเรื่องนี้
นายปิยสวัสดิ์ได้กล่าวถึงแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/2552 (ต.ค.-ธ.ค.) ว่า คาดว่า อัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) อยู่ในระดับดี แต่จะต้องติดตามปัจจัยหลายด้านอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอัตราแลกเปลี่ยน และราคาน้ำมัน ซึ่งราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงในขณะนี้จะส่งผลดีต่อผลประกอบการในเดือนม.ค.2553 เพราะ THAI จำหน่ายบัตรโดยสารล่วงหน้าเดือนธันวาคมไปแล้ว
ส่วนการประชุมคณะกรรมการบริษัทในวันที่ 18 ธ.ค.นี้ ฝ่ายบริหารจะเสนอแผนปรับโครงสร้างทางการเงิน, แผนกลยุทธ์ 5 ปี (2553-2557) และผลประกอบการเดือนพ.ย. 2552 ซึ่งแผนกลยุทธ์ได้ตั้งเป้าผลการดำเนินงานปี 2553 ว่าจะมีรายได้ที่ 193,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.7% จากปี 2552 มีกำไรก่อนหักภาษีและค่าเสื่อม (EBITDA) 32,000 ล้านบาท โดยมี (Cabin Factor g เฉลี่ย 74% รวมทั้งมีแผนเพิ่มทุนด้วย