xs
xsm
sm
md
lg

ทัวร์จีนเดินเครื่องนำเที่ยวคุน-มั่ง กงลู่คว้าใบอนุญาตวิ่งรถ R3a-ดึงไทยร่วม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นักธุรกิจจีน มีการลงทุนอย่างหนัก หลังเส้นทาง R3a เสร็จสมบูรณ์ ซึ่งธุรกิจนำเที่ยวเป็นอีกหนึ่งกิจการที่เปิดให้บริการและได้รับการตอบรับดีมาก
เชียงราย – บริษัททัวร์จีนเริ่มเดินเครื่องธุรกิจนำเที่ยวผ่านเส้นทางคุน-มั่ง กงลู่ ล่าสุดคว้าใบอนุญาตวิ่งรถผ่าน R3a ชิมลางเดือนต่อเดือนนำร่อง พร้อมจับมือกลุ่มทุนในท้องถิ่นเชียงรายเปิดศูนย์ประสานงานรับนักท่องเที่ยวแล้ว วางเป้าเปิดบริการยาวถึงมาเลย์-สิงคโปร์ รอรับคนจีนเที่ยวไทยในอนาคต

นายพงษ์ทร ชยาตุลชาต กรรมการผู้จัดการบริษัทหย่าไทร้เอเชี่ยนทัวร์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเปิดกิจการอยู่ที่เลขที่ 247 หมู่ 21 ซอยสันติราษฎร ต.รอบเวียง อ.เมือง จ.เชียงราย มาได้นาน 2 ปีแล้วเพื่อทำธุรกิจนำเที่ยวเขตอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงไทย สปป.ลาว พม่า จีนตอนใต้ ล่าสุดได้ร่วมทุนกับบริษัททัวร์ GMS สิบสองปันนา จำกัด และบริษัทเทียนเฉิน จำกัด จากจีน ตั้งศูนย์กระจายสินค้าและการท่องเที่ยวสิบสองปันนา-เชียงราย ณ ที่ทำการของบริษัทหย่าไทร้ฯ ซึ่งนายเหยียน กวงฮั่น รองอธิบดีกรมการท่องเที่ยว มณฑลหยุนหนัน เพิ่งมาเป็นประธานเปิดเมื่อเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา ทำให้ศูนย์นี้กลายเป็นฝ่ายประสานงาน และฐานข้อมูลสำหรับธุรกิจต่างๆ เกี่ยวกับการเดินทางไปมาระหว่างเชียงราย-จีนตอนใต้ โดยมีทางการจีนให้การรับรองเพียงรายเดียวของไทย

นอกจากนี้บริษัททัวร์ GMS สิบสองปันนาฯ ซึ่งเป็นวิสาหกิจจีน ยังได้รับอนุญาตจากทางการลาว นำรถบัสนำเที่ยวขนาด 32 ที่นั่งและ 57 ที่นั่ง เปิดให้บริการบนถนน R3a เชื่อมเชียงราย-สปป.ลาว ผ่านแขวงบ่อแก้ว-แขวงหลวงน้ำทา-เขตปกครองตนเองสิบสองปันนา มณฑลหยุนหนัน ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2552 โดยสามารถเปิดบริการนำเที่ยวตั้งแต่คุนหมิง หรือเมืองท่องเที่ยวอื่น ๆ ทั้งลี่เจียง แชงกรี-ลา ฯลฯ-เชียงราย และในอนาคตจะเปิดให้บริการไปยังกรุงเทพฯ เพื่อให้สุดทางถนนคุนหมิง-กรุงเทพฯ หรือคุน-มั่ง กงลู่ รวมทั้งจะขยายต่อไปยังประเทศมาเลเซีย-สิงคโปร์ด้วย

ทั้งนี้ คิดค่าบริการแบบเช่าเหมาสายเชียงราย-บ่อเต็น แขวงหลวงน้ำทา สปป.ลาว ชายแดนติดกับประเทศจีน รถบัสขนาด 40 ที่นั่งขึ้นไป ราคา 43,000 บาท และรถบัสตั้งแต่ 30-40 ที่นั่ง ราคา 41,500 บาท สำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นเดินทางจาก อ.เชียงของ ชายแดนไทย-สปป.ลาว ติดกับเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว ไปยังเมืองบ่อเต็นหรือเส้นทางเชียงของ-บ่อเต็น คิดราคาจากรถบัส 40 ที่นั่งขึ้นไป ราคา 35,000 บาท และรถบัส 30-40 ที่นั่ง ราคา 32,000 บาท และเส้นทางห้วยทราย-บ่อเต็น สำหรับรถบัส 40 ที่นั่งขึ้นไปราคา 28,000 บาท และรถบัส 30-40 ที่นั่ง ราคา 26,000 บาท

“ตลาดท่องเที่ยวบนถนนR3a ยังโตได้อีกมาก เพราะนอกจากคนไทยจะเข้าไปเที่ยวแล้ว ในอนาคตก็จะมีการส่งเสริมคนจีนเข้ามาเที่ยวผ่านเส้นทางสายนี้ด้วย ซึ่งจีนมีประชากรเกือบ 1,400 ล้านคนแล้ว และส่วนใหญ่มีฐานะการเงินดีจึงต้องการมาเยือนประเทศไทยแต่ยังติดปัญหาเรื่องการขอหนังสือเดินทางระหว่างประเทศหรือพาสปอร์ตได้ยากเท่านั้น หากมีการเปิดให้คนจีนเข้ามาโดยไม่ต้องใช้พาสปอร์ต แต่ใช้เอกสารอื่นเชื่อว่าจะมีคนจีนเข้ามาเยือนเชียงราย ไม่ต่ำกว่าวันละ 20,000 คน”

นายพงษ์ทร ย้ำว่า คนจีนนิยมมาเที่ยวเชียงราย เชียงใหม่ พัทยา ภูเก็ต และกรุงเทพฯ ที่ผ่านมาผู้ที่เดินทางผ่านถนน R3a เข้ามาผ่าน จ.เชียงราย มักจะมุ่งลงไปเที่ยวทะเล จากนั้นขึ้นเครื่องบินกลับสายกรุงเทพฯ-คุนหมิง แต่ถ้ามาแค่เชียงราย-เชียงใหม่ บริษัทก็จะส่งเสริมให้เดินทางกลับทางรถบัสนำเที่ยวดังกล่าวเพราะใช้เวลาเพียงแค่ 1 วันเท่านั้น

ด้านนางสาวผกายมาศ เวียร์ร่า กรรมการผู้จัดการบริษัทแม่โขง เดลต้า ทราเวล เอเจนซี่ จำกัด กล่าวว่าปัจจุบันการนำเที่ยวผ่านถนน R3 a มี 3 ลักษณะคือการนำรถยนต์ไปเอง ซึ่งเดิมเคยมีความนิยมกันเพราะเพียงทำใบขับขี่ระหว่างประเทศก็สามารถไปได้ไกลถึงประเทศจีน แต่ปัจจุบันถนนในเขตแขวงบ่อแก้วเกิดความเสียหายอย่างหนัก และการนำรถขึ้นลงแพขนานยนต์ในแม่น้ำโขงระหว่าง อ.เชียงของ-เมืองห้วยทราย ทำให้รถชำรุดเสียหาย จึงทำให้บริษัทไม่ค่อยนำรถไปเองมากนัก

การนำเที่ยวอีกลักษณะ คือ การใช้บริการรถตู้นำเที่ยวใน สปป.ลาว ซึ่งปัจจุบันสปป.ลาว มีการพัฒนารถตู้นำเที่ยวโดยเพิ่มจำนวนและคุณภาพเป็นรถตู้หลังคาสูงมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อรองรับความต้องการของนักท่องเที่ยวที่มีจำนวนมากขึ้น

ลักษณะสุดท้ายคือการทำสัญญานำรถนำเที่ยวผ่านไปบนถนนดังกล่าว ซึ่งทราบว่า ปัจจุบันมีเอกชนจีนเพียงรายเดียวคือบริษัททัวร์GMSสิบสองปันนาฯดำเนินการอยู่ ในลักษณะทำสัญญาเป็นรายเดือนกับ สปป.ลาว ผ่านทางพื้นที่ 3 เขต คือแขวงบ่อแก้ว แขวงหลวงน้ำทา และเขตปกครองพิเศษที่ 4 บ่อเต็นซึ่งจะบริหารพื้นที่ตั้งแต่แยกนาเตยขึ้นไปถึงชายแดนบ่อเต็น-โมฮาน จีนตอนใต้ และเมื่อหมดสัญญาก็ต้องต่อกันเป็นครั้งๆ ไป ซึ่งเอกชนรายอื่นๆ ก็สามารถทำได้เหมือนกันแต่ก็ขึ้นอยู่กับความพร้อมและการประเมินความคุ้มทุนของแต่ละราย
กำลังโหลดความคิดเห็น