เชียงราย – กรมการท่องเที่ยวหยุนหนัน สป.จีน ยกทีมทัวร์ “คุน – มั่ง กงลู่” ผ่านไทยทะลุสิงคโปร์ ตอกย้ำเส้นทาง “คุนหมิง-กรุงเทพฯ” ระยะทางกว่า 1,800 กม.เกิดขึ้นแล้วอย่างแท้จริง พร้อมยื่นข้อเสนอผู้ว่าฯเมืองเชียงราย เร่งทำโปรแกรมนำเที่ยวร่วมดึงดูดคนเข้าลุ่มน้ำโขงตอนบนเต็มที่ ด้านเชียงรายเร่งผลักดันแผนเปิดบิน ชร.-เชียงรุ่ง-คุนหมิง พร้อมดันผ่าน มท.ให้ใช้ “บอร์เดอร์พาสไทย-จีน”แทนพาสปอร์ต
วานนี้ (21 ส.ค.) คณะกรมการท่องเที่ยว มณฑลหยุนหนัน ประเทศจีน นำโดยนายเหยียน กวงฮั่น รองอธิบดีกรมการท่องเที่ยว มณฑลหยุนหนัน ได้นำคณะหัวหน้าฝ่ายการท่องเที่ยวจากเขตต่างๆ สังกัดกรมการท่องเที่ยว มณฑลหยุนหนัน อันเป็นมณฑลที่อยู่ใกล้กับประเทศไทยมากที่สุดเพียงประมาณ 250 กิโลเมตร เช่น นครคุนหมิง เขตอวี้ซี เขตผูเออร์หรือซือเหมา เขตสิบสองปันนา เขตฉวี้ซง เขตอวี้ลิน เขตเจาทง ฯลฯ รวมประมาณ 30 คน เข้าพักที่โพธิ์วดล รีสอร์ท แอนด์ สปา เชียงราย อ.เมือง จ.เชียงราย หลังจากค่ำวานนี้ได้ร่วมประชุมหารือกับคณะภาครัฐและเอกชนด้านการท่องเที่ยวของ จ.เชียงราย นำโดยนายสุเมธ แสงนิ่มนวล ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย และนายอุดม อ่อนนวล ผู้อำนวยการศูนย์การท่องเที่ยว กีฬาและนันทนาการ จ.เชียงราย ด้วย
นายเหยียน กวงฮั่น รองอธิบดีกรมการท่องเที่ยว มณฑลหยุนหนัน เปิดเผยถึงวัตถุประสงค์ในการเดินทางมาเยือน จ.เชียงราย ในครั้งนี้ว่า เป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางเพื่อสำรวจเส้นทางท่องเที่ยวจากเมืองคุนหมิงไปยังประเทศสิงคโปร์ โดยเดินทางทางรถยนต์จากเมืองคุนหมิง ผ่านถนน R3a ใน สปป.ลาว ข้ามมายัง อ.เชียงของ จ.เชียงราย ของประเทศไทย จากนั้นมีกำหนดเดินทางต่อไปยังจังหวัดอื่นๆ ของประเทศไทย เช่น เชียงใหม่ กรุงเทพฯ ฯลฯ ก่อนเดินทางไปยังสิงคโปร์ต่อไป เพื่อเป็นสิ่งยืนยันว่าปัจจุบันถนนสายนี้ใช้เพื่อการท่องเที่ยวได้จริง โดยคณะที่เดินทางมาต่างมีหน้าที่ในการขับเคลื่อนด้านการท่องเที่ยวในมณฑลหยุนหนันทั้งสิ้นด้วย
นายเหยียน กล่าวว่า ในอดีตที่ผ่านมาไม่เคยมีใครคาดคิดว่าถนนสายคุนหมิง-กรุงเทพฯ หรือ"คุน-มั่ง กงลู่" ระยะทางประมาณ 1,800 กิโลเมตร จะเกิดขึ้นได้ และเมื่อเกิดขึ้นแล้วก็มีความสะดวกมากขึ้น โดยภาคการท่องเที่ยวก็จะได้ประโยชน์สูงสุด เนื่องจากตามรายทางของถนนคุน-มั่ง กงลู่ มีทรัพยากรด้านการท่องเที่ยวอยู่ตลอดโดยผ่านตามจังหวัดและอำเภอต่างๆ ที่เป็นเมืองท่องเที่ยวมากมาย
ดังนั้นในครั้งนี้ตนจึงขอเสนอให้มีความร่วมมือระหว่างการท่องเที่ยวของมณฑลหยุนหนันกับเชียงราย จำนวน 3 เรื่องด้วยกันคือ
1. สร้างความร่วมมือในการออกแบบโปรแกรมการท่องเที่ยวตามเส้นทางใหม่ๆ จัดทำเป็นเอกสารประชาสัมพันธ์เพื่อเผยแพร่ไปยังตลาดของกันและกัน โดยควรจัดทำเอาไว้หลายๆ เส้นทาง เพราะลำพังในมณฑลหยุนหนันเองก็มีหลากหลายเส้นทางและหลายรูปแบบ เพราะผ่านหลายเขต เช่น เขตอวี้ซี ซึ่งเป็นเมืองชนเผ่า เขตสิบสองปันนา เมืองของชาวไทยเผ่าลื้อ เป็นต้น เช่นเดียวกับประเทศไทยที่อยู่ตามรายทาง เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้ไปเยือนทั้งภูมิภาค
2.ให้การท่องเที่ยวของแต่ละประเทศ แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้มาตรฐานแก่กันและกัน ผ่านภาคเอกชนไทย-จีน ซึ่งควรจะมีการหารือกันอย่างต่อเนื่อง
3.การท่องเที่ยวมณฑลหยุนหนัน มีแผนจะเชิญชวนภาครัฐ ภาคเอกชนและสื่อมวลจาก จ.เชียงราย ไปเยือนมณฑลหยุนหนันผ่านถนนคุน-มั่ง กงลู่ ในอนาคตเพื่อเชื่อมความร่วมมือระหว่างกันต่อไป
ด้านนายสุเมธ แสงนิ่มนวล ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย กล่าวว่า เขาประทับใจในมณฑลหยุนหนันอยู่แล้ว และที่ผ่านมาก็เคยประสานความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวเป็นเรื่องหลักระหว่างกัน และเมื่อคราวเดินทางไปหารือกับนางเตา หลินอิน ผู้ว่าการเขตปกครองตนเองสิบสองปันนาเมื่อเร็วๆ นี้ ก็ได้หารือกันถึงเรื่องการจัดทำโปรแกรมท่องเที่ยวใหม่ระหว่างกัน
นอกจากนี้ เพื่อให้เกิดเจ้าภาพที่จะรับผิดชอบในเรื่องนี้ ตนก็ได้มีคำสั่งแต่งตั้งเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม ที่ผ่านมา ให้มี "คณะกรรมการส่งเสริมและประสานงานการท่องเที่ยวในกลุ่มประเทศอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง" โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดฝ่ายเศรษฐกิจและสังคม เป็นประธาน พร้อมกับมีภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นกรรมการแล้ว ขณะเดียวกันได้มอบหมายให้หนึ่งในกรรมการคือศูนย์การท่องเที่ยว กีฬาและนันทนาการ ไปจัดทำโปรแกรมการท่องเที่ยวเฉพาะในส่วนของเชียงราย เพื่อนำเสนอต่อคณะกรรมการฝ่ายจีน นำโดยนางเตา หลินอิน ซึ่งจะเดินทางมาเยือน จ.เชียงราย ในวันที่ 23-24 สิงหาคม นี้แล้ว โดยเป็นโปรแกรม 3 วัน 2 คืน หลากหลายโปรแกรมด้วย
“จังหวัดสนับสนุนการท่องเที่ยวร่วมกับจีนตอนใต้อีกหลากหลาย โดยกำลังประสานกับสายการบินภายในประเทศไทย เพื่อให้เปิดเส้นทางการบินจากท่าอากาศยานเชียงรายไปยังเมืองเชียงรุ้งหรือจิ่งหง เมืองเอกของสิบสองปันนา และอาจจะต่อไปยังคุนหมิง หลังจากผู้ว่าการสิบสองปันนาแจ้งว่า จีนจะเปิดเส้นทางการบินจากเชียงรุ้งมาเยือนเชียงรายก่อนแล้ว รวมทั้งแจ้งไปยังรัฐบาลไทยเปิดให้คนจีนใช้หนังสือผ่านแดนชั่วคราวหรือบอร์เดอร์พาสแทนหนังสือเดินทางระหว่างประเทศหรือพาสปอร์ต ฯลฯ”
นายสัตวแพทย์ถนอมศักดิ์ เสรีวิชยสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการบริษัทแม่สลองทัวร์ จำกัด และเอกชนที่เปิดเส้นทางท่องเที่ยวเชียงราย-สิบสองปันนา มานาน กล่าวว่า การเดินทางทางรถยนต์ของคณะจากกรมการท่องเที่ยวมณฑลหยุนหนัน จากเมืองคุนหมิงไปยังประเทศสิงคโปร์ในครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกหรือเป็นปฐมฤกษ์ที่ทางการท่องเที่ยวจีน ได้ใช้ในการเดินทางในระยะทางไกลเช่นนี้เพราะปกติคณะต่างๆ จะเดินทางมาแค่เชียงราย เชียงใหม่ กรุงเทพฯ หรือคณะจากสิบสองปันนาซึ่งกำลังจะเดินทางมาเยือนก็ไปถึงแค่ จ.ภูเก็ต และใช้เครื่องบินในบางช่วงด้วย แต่ครั้งนี้เดินทางไปไกลถึงสิงคโปร์แสดงว่าประเทศจีนจะขยายการท่องเที่ยวไปสุดเส้นทางเหนือใต้ ระหว่างจีนและกลุ่มอาเซียนนั่นเอง
