พันโทจูงมือลูกสาวเข้าแจ้งความจับโชเฟอร์แท็กซี่จอมหื่น ล่อลวงไปข่มขืนชิงทรัพย์ แถมถ่ายคลิปข่มขู่ หลังเรียกใช้บริการขณะนั่งรถกลับบ้านแถวย่านพัฒนาการ แต่มาถูกแท็กซี่ในคราบโจรกระทำ เจ้าตัวเผยคนร้ายรายนี้ก่อเหตุกับผู้โดยสารมาแล้วหลายราย
วันนี้ (8 ก.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น. น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 25 ปี อดีตนักศึกษาคณะการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยราชภัฏชื่อดังแห่งหนึ่งย่านสามเสน ปัจจุบันประกอบอาชีพเป็นไกด์ทัวร์ ของบริษัทรับจัดโปรแกรมการท่องเที่ยวให้กับกรุ๊ปทัวร์จากประเทศรัสเซีย พร้อมด้วยมารดาและบิดา ซึ่งเป็นนายทหารบกยศพันโท สังกัดหน่วยรบพิเศษใน จ.สระบุรี พากันเดินทางเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.วีระ งามเลิศ สารวัตรเวร สน.พหลโยธิน ว่าเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมาถูกคนร้ายเป็นโชเฟอร์แท็กซี่ล่อลวงจากปากซอยลาดพร้าว 1 ไปข่มขืนและชิงทรัพย์ในพื้นที่ จ.นนทบุรี แถมถูกถ่ายคลิปวิดีโอเก็บเอาไว้ใช้ข่มขู่ไม่ให้แจ้งความอีกด้วย
โดย น.ส.บี ให้การว่า เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นช่วงวันหยุดยาวเนื่องในเทศกาลเข้าพรรษา ตนจึงได้เดินทางจากกรุงเทพฯ ไปทำบุญกับพ่อและแม่ ซึ่งพักอยู่ใกล้ค่ายทหารที่ จ.สระบุรี จนกระทั่งเมื่อช่วงหัวค่ำวานนี้ (6 ก.ค.) ตนได้ขอติดรถเก๋งเพื่อนสนิทซึ่งเป็นกะเทยกลับจาก จ.สระบุรี เข้ามากรุงเทพฯ เพื่อเตรียมตัวทำงานต่อในช่วงเช้า แต่บ้านของเพื่อนตนอยู่แถบย่านลาดพร้าว ตนจึงขอแวะลงกลางทางบริเวณปากซอยลาดพร้าว 1 เพื่อจะโบกรถแท็กซี่กลับบ้านพักย่านซอยพัฒนาการ 38
น.ส.บี กล่าวอีกว่า ตนลงจากรถเพื่อนที่ปากซอยลาดพร้าว 1 เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. จากนั้นได้โบกรถแท็กซี่สีชมพูคาดน้ำเงิน ไม่ทราบยี่ห้อและรุ่นจากบริเวณดังกล่าว ให้ไปส่งที่บ้านพักในซอยพัฒนาการ 38 โดย คนร้ายในคราบโชเฟอร์เป็นชายอายุประมาณ 30 ปี ใบหน้ารูปไข่ ไว้ผมยาว ผิวคล้ำ รูปร่างท้วม ได้กดปุ่มเซ็นทรัลล็อกประตูไว้ทั้ง 4 ด้านก่อนขับรถพาตนออกนอกเส้นทางไปตามถนนบางบัวทอง-สุพรรณบุรี เมื่อตนสอบถามว่าทำไมมาทางนี้ โชเฟอร์ ก็บอกตนว่าเป็นเส้นทางลัด จากนั้นก็พาตนขับไปในทางเปลี่ยว ซึ่งตนคาดว่าน่าจะอยู่ในพื้นที่ สภ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ก่อนจะจอดรถแล้วลงมาเปิดประตูเข้ามานั่งกับตนที่เบาะด้านหลัง
น.ส.บี กล่าวต่อว่า เมื่อรู้ว่าถูกหลอกมาข่มขืนแน่แล้ว ตนจึงได้พยายามถ่วงเวลาด้วยการพูดคุยโดยทำทีแกล้งสอบถามไปว่าพกมีดมาด้วยหรือเปล่า คนร้ายกลับตอบมาว่ มีดไม่เคยพกพกมาแต่ปืน จากนั้นคนร้ายก็ใช้กำลังปลุกปล้ำและลงมือข่มขืนตนจนสำเร็จความใคร่ไป 2 ครั้ง ซึ่งในระหว่างที่ก่อเหตุ คนร้ายได้พูดกับตนว่าทำแบบนี้กับผู้โดยสารสาวๆ มาหลายรายแล้ว หนำซ้ำยังล้วงเอาโทรศัพท์มือถือของตนไป 1 เครื่อง แล้วกดถ่ายคลิปวิดีโอขณะข่มขืนตนเอาไว้ เมื่อเสร็จกิจคนร้ายก็ยึดโทรศัพท์ไป แถมบังคับให้ตนบอกรหัสบัตรเอทีเอ็ม ก่อนที่จะขับรถพาตนออกจากจุดเกิดเหตุไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มหน้าร้าน 7-11 แห่งหนึ่งย่านบางบัวทอง
“ระหว่างที่คนร้ายลงไปกดเงินนั้นยังบังคับไม่ให้ฉันลงจากรถ โดยคนร้ายได้กดเงินออกมา จำนวน 700 บาท แล้วยื่นคืนให้ 100 บาท ก่อนจะขับรถจากบางบัวทอง พาฉันมาส่งที่จุดเดิมบริเวณปากซอยลาดพร้าว 1 ในช่วงเช้าวันนี้แล้วขับหลบหนีไป ซึ่งก่อนที่ฉันจะลงจากรถยังถูกข่มขู่ด้วยว่าหากไปแจ้งความจะนำคลิปวิดีโอที่ถ่ายภาพขณะข่มขืนเอาไว้ออกมาเผยแพร่ประจานให้อับอาย จากนั้นฉันจึงใช้โทรศัพท์มือถืออีกเครื่องหนึ่งโทร.หาพ่อกับแม่ที่ จ.สระบุรี เพื่อให้เดินทางมารับไปดูสถานที่เกิดเหตุ ก่อนตัดสินใจมาแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พหลโยธิน” น.ส.บี กล่าว
ด้าน พ.ต.ท.วีระ เปิดเผยว่า จากคำให้การของผู้เสียหายพอระบุได้ว่า คนร้ายกระทำความผิดในหลายกรณี ทั้งกระทำอนาจาร, ข่มขืนกระทำชำเรา, ชิงทรัพย์ และกักขังหน่วงเหนี่ยว โดยแต่ละข้อหาก็เกิดขึ้นในพื้นที่คนละจุดกัน ซึ่งก็จะต้องประสานข้อมูลกับพนักงานสอบสวนของแต่ละพื้นที่ด้วย แต่ในเบื้องต้นตนได้รับแจ้งความเอาไว้แล้ว ซึ่งหลังจากนี้จะส่งตัวผู้เสียหายไปตรวจร่างกายที่ รพ.ตำรวจ ก่อนแล้วจึงแจ้งให้ฝ่ายสืบสวนออกติดตามหาตัวโชเฟอร์หื่นกามรายนี้มาดำเนินคดีต่อไป