นายสรรพัชญ์ รัตคาม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ควอลลีเทค จำกัด (มหาชน) หรือ QLT เปิดเผยว่า ในขณะนี้บริษัทได้ลงนามข้อตกลงร่วมมือกับ Escon Technologies lnt’l Pte. Ltd., พันธมิตรในประเทศสิงคโปร์และ Gabas Al Bilad Holding Company Limited พันธมิตรในประเทศซาอุดิอาระเบีย เพื่อร่วมกันศึกษาและพัฒนาตลาดเพื่อหาโอกาสในการจัดตั้งบริษัทให้บริการทดสอบโดยไม่ทำลายและตรวจสอบและรับรองในประเทศซาอุดิอาระเบีย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาข้อมูลและรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับการเข้าไปลงทุนและศึกษากฏหมายและข้อกำหนดของประเทศดังกล่าว โดยคาดว่าจะสามารถสรุปความชัดเจนได้ในเร็ว ๆ นี้
" บริษัทได้พบกับพันธมิตรที่มีแนวคิดในการทำธุรกิจที่คล้ายกันในประเทศซาอุดิอาระเบีย เราพบว่าประเทศซาอุดิอาระเบียเป็นประเทศที่น่าจับตาและเหมาะอย่างยิ่งที่จะเข้าไปลงทุนและประมูลงานใหม่ เพราะประเทศซาอุดิอาระเบียมีน้ำมันมากที่สุด และเป็นแหล่งพลังงานของโลกและการที่บริษัททำธุรกิจเกี่ยวกับพลังงานทำให้พันธมิตรของเราเล็งเห็นศักยภาพของบริษัทในการร่วมทำธุรกิจด้านพลังงานในประเทศซาอุดิอาระเบีย " นายสรรพัชญ์กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทยังเห็นว่าประเทศซาอุดิอาระเบียมีโอกาสขยายและเติบโตอีกมาก แม้ในภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ที่ผ่านมาเมื่อไม่นานนี้ ก็ไม่ส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจในประเทศซาอุดิอาระเบีย เพราะเศรษฐกิจในประเทศซาอุดิอาระเบียเติบโตตามราคาน้ำมัน ซึ่งจากหลายปีที่ผ่านมาราคาน้ำมันโลกก็มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จึงคาดว่าการไปร่วมลงทุนในประเทศซาอุดิอาระเบียนี้จะขยายฐานรายได้ให้บริษัทได้ ซึ่งหากการศึกษาข้อมูลต่างๆ พบว่าไม่ติดปัญหาอะไร บริษัทก็มีโครงการที่จะจัดตั้งบริษัทร่วมกับพันธมิตรทั้ง 2 รายดังกล่าว และนำทีมงานของบริษัทเข้าไปทำงานในประเทศซาอุดิอาระเบียต่อไป
สำหรับผลงานไตรมาส 3 ปีนี้ สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2552 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิเท่ากับ 55.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 19.65 ล้านบาทหรือคิดเป็น 54.25% เนื่องจากรายได้จากการให้บริการเพิ่มขึ้น 38.69 ล้านบาทหรือ 22.46 % จากปริมาณงานที่เพิ่มขึ้น ส่วนค่าใช้จ่ายรวม (ต้นทุนการให้บริการและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร) ต่อยอดขายลดลง จากการที่บริษัทสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
" บริษัทได้พบกับพันธมิตรที่มีแนวคิดในการทำธุรกิจที่คล้ายกันในประเทศซาอุดิอาระเบีย เราพบว่าประเทศซาอุดิอาระเบียเป็นประเทศที่น่าจับตาและเหมาะอย่างยิ่งที่จะเข้าไปลงทุนและประมูลงานใหม่ เพราะประเทศซาอุดิอาระเบียมีน้ำมันมากที่สุด และเป็นแหล่งพลังงานของโลกและการที่บริษัททำธุรกิจเกี่ยวกับพลังงานทำให้พันธมิตรของเราเล็งเห็นศักยภาพของบริษัทในการร่วมทำธุรกิจด้านพลังงานในประเทศซาอุดิอาระเบีย " นายสรรพัชญ์กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทยังเห็นว่าประเทศซาอุดิอาระเบียมีโอกาสขยายและเติบโตอีกมาก แม้ในภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ที่ผ่านมาเมื่อไม่นานนี้ ก็ไม่ส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจในประเทศซาอุดิอาระเบีย เพราะเศรษฐกิจในประเทศซาอุดิอาระเบียเติบโตตามราคาน้ำมัน ซึ่งจากหลายปีที่ผ่านมาราคาน้ำมันโลกก็มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จึงคาดว่าการไปร่วมลงทุนในประเทศซาอุดิอาระเบียนี้จะขยายฐานรายได้ให้บริษัทได้ ซึ่งหากการศึกษาข้อมูลต่างๆ พบว่าไม่ติดปัญหาอะไร บริษัทก็มีโครงการที่จะจัดตั้งบริษัทร่วมกับพันธมิตรทั้ง 2 รายดังกล่าว และนำทีมงานของบริษัทเข้าไปทำงานในประเทศซาอุดิอาระเบียต่อไป
สำหรับผลงานไตรมาส 3 ปีนี้ สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2552 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิเท่ากับ 55.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 19.65 ล้านบาทหรือคิดเป็น 54.25% เนื่องจากรายได้จากการให้บริการเพิ่มขึ้น 38.69 ล้านบาทหรือ 22.46 % จากปริมาณงานที่เพิ่มขึ้น ส่วนค่าใช้จ่ายรวม (ต้นทุนการให้บริการและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร) ต่อยอดขายลดลง จากการที่บริษัทสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ