ASTVผู้จัดการรายวัน - “นักวิชาการ” เปิดโปงกลยุทธ์ลีโอสุดแสบ! เพนท์หน้าอก 6 นางแบบ จงใจเย้ยกฎหมาย หวังปั่นกระแส NGO อัดสิงห์ยับ 75 ปีแห่งการเอาเปรียบสังคม จี้ “สธ.” จัดการเด็ดขาด ละเมิดกฎหมายซ้ำซาก เผยข้อมูลปัญหาเด็ก ต้นตอจากสื่อลามกอนาจาร “Google” ทะลัก “นักท่องเน็ต” ตาโต แห่ดูภาพ แค่ครึ่งวันยอดพุ่ง 4 แสนรายการค้นหา
วานนี้ (14 ธ.ค.) ดร.นิษฐา หรุ่นเกษม อาจารย์สาขาวิชานิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎพระนคร กล่าวถึงการเปิดตัวปฎิทินชุด "Body Paint” “ลีโอเบียร์” ของบริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น ว่า สิงห์เป็นบริษัทใหญ่มีนักตลาด นักโฆษณาชั้นหัวกะทิอยู่หลายคน จึงน่าสังเกตว่าการเปิดตัวปฎิทินชุดนี้ย่อมรู้ดีว่าอาจผิดกฎหมาย เพราะกฎหมายไม่อนุญาตให้ทำการตลาด แต่เป็นกลยุทธ์ที่ถูกวางแผนไว้แล้วโดยจงใจจะท้าทายเพื่อล่อเป้า จับคู่ชนกับภาครัฐและองค์กรภาคประชาชน เพราะรู้อยู่แล้วว่าเมื่อทำออกมาจะต้องถูกต่อต้าน ถูกวิจารณ์อย่างกว้างขวาง แล้วเรื่องจะกลายเป็นทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ ผลักให้กระแสของลีโอเบียร์พุ่งสูงขึ้น ซึ่งจุดกระแสติดแล้วปฎิทินชุดนี้แทนที่จะแจกตามร้านค้า หรือลานเบียร์ ก็ไม่ต้องทำเพราะกระแสจะดึงให้คนจะเข้าไปดูตามเว็บไซต์ ส่งฟอร์เวิดเมลล์ต่อๆกันไป
การใช้ภาพลักษณ์ความเซ็กซี่ของผู้หญิงมาเป็นจุดขายให้กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นับเป็นการทำการตลาดที่ไม่รับผิดชอบต่อสังคม เป็นการกระตุ้นการบริโภคให้เกิดกับคนทุกวัย ซึ่งที่น่าเป็นห่วงคือกลุ่มเยาวชน เพราะมีผลสำรวจของร.ศ.พ.ญ.ดร.สาวิตรี อัษณางค์กรชัย อาจารย์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ที่เคยสำรวจทัศนคติทางบวกของการดื่มสุราในนักเรียนพบว่าร้อยละ 50 มองว่าการดื่มเหล้าช่วยเพิ่มโอกาสในการมีเพศสัมพันธ์ ขณะที่อีกจำนวนไม่น้อยเห็นว่าการดื่มเหล้าเบียร์จะช่วยสร้างความเซ็กซี่มากขึ้น ซึ่งความคิดเหล่านี้มาจากภาพลักษณ์ที่บริษัทเหล้าเบียร์สร้างขึ้น โดยเฉพาะเบียร์ลีโอ ก่อนหน้านี้เคยทำโฆษณาโดยใช้ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ เป็นตัวแทนของนักดื่ม แต่ปรากฎว่าไม่ได้ผล ภายหลังใช้ภาพความเซ็กซี่ของหญิงสาว จ้างพริตตี้มาส่งเสริมการขายทำให้ยอดขายเบียร์ลีโอถล่มทลาย
“ธุรกิจเหล้าเบียร์ ไม่ควรทำการตลาดหรือส่งเสริมการขาย เพราะปัญหาสังคมมากมายเกิดจากการดื่มเหล้าเบียร์ ดังนั้นการตลาดแบบนี้จึงเป็นการตลาดที่ไม่รับผิดชอบต่อสังคม แม้แต่การหาปลายังต้องมีกติกาว่าบางแหล่งห้ามจับปลาตัวเล็ก ต้องใช้อวนตาห่าง แต่สิงห์ไม่เคยสนใจสังคมที่กำลังกังวลกับการเพิ่มขึ้นของนักดื่มหน้าใหม่ กลับใช้อวนตาถี่ที่สุดหว่านคนทุกระดับ ดังนั้นสิ่งที่สิงห์อ้างมาตลอดว่าบริษัทที่เป็นผู้ให้อย่างไม่สิ้นสุด จึงเป็นเรื่องโกหกเพราะความจริงแล้วสิงห์คือองค์กรที่ฝ่าฝืนกฎหมายไม่สิ้นสุดต่างหาก”นักวิชาการมรภ.พระนคร กล่าว
นายจะเด็จ เชาว์วิไล ผู้จัดการมูลนิธิเพื่อนหญิง กล่าวว่า การออกปฎิทินโดยใช้ผู้หญิงในภาพลักษณ์ที่วาบหวิวเป็นเครื่องมือกระตุ้นยอดขายนั้น ตนมองว่าไม่ใช่ศิลปะแต่ส่อไปในทางอนาจาร เป็นการยั่วยุทางเพศ ที่มีแนวโน้มจะนำไปสู่ความรุนแรง ซึ่งจากสถิติกรณีปัญหาความรุนแรงทางเพศที่มูลนิธิดูแลอยู่นั้นส่วนหนึ่งมีต้นตอมาจากสื่อลามกที่ยั่วยุ นอกจากนี้การส่งเสริมการขายเหล้าเบียร์ยังขัดต่อพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ออกมาบังคับใช้ เมื่อปี 2551 ซึ่งเมื่อปีที่แล้วลีโอเบียร์ทำผิดมาแล้วครั้งหนึ่งโดยการพยายามออกปฎิทินวาบหวิว ครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่สอง เป็นการทำผิดซ้ำสอง ถ้าผู้มีอำนาจไม่จัดการอย่างเด็ดขาดเท่ากับว่ากลุ่มทุนยักษ์ใหญ่สามารถอยู่เหนือกฎหมายได้
“ที่ผ่านมามีเพียงเจ้าหน้าที่ตัวเล็กๆอย่างน.พ.สมาน ฟูตระกูล ผ.อ.สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เท่านั้นที่พยายามสู้ แต่เมื่อสิงห์ ทำผิดกฎหมายสองครั้งโดยไม่สะทกสะท้าน ภาครัฐจะปล่อยให้ข้าราชการตัวเล็กๆต่อสู้เพียงลำพังไม่ได้แล้ว ขอเรียกร้องให้นายมานิต นพอมรบดี รมช.สาธารณสุข ที่รับผิดชอบ ต้องเอาผิดให้ได้เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างกับกลุ่มอื่น นอกจากนี้สังคมก็ต้องออกมาประนามบริษัทสุรา ที่ไม่เคารพกฎหมาย โดยเฉพาะสิงห์ อ้างว่าทำดีเพื่อสังคมมาตลอด 75 ปี แต่สิ่งที่ปฎิบัติกลับเป็น 75 ปีที่ละเมิดกติกาของสังคมมากกว่า”นายจะเด็จ กล่าว
ด้าน ภก.สงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า กล่าวถึงกรณีที่บริษัทสิงห์ คอปอเรชั่น แถลงข่าวการจัดทำปฏิทินวาบหวิวเพื่อแจกให้กับประชาชนซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเทศกาลปีใหม่ว่า บริษัทสิงห์ คงต้องออกมาอธิบายให้ได้ว่าการทำปฏิทินวาบหวิวแจกครั้งนี้ เป็นการโฆษณาเชิงสร้างสรรค์สังคมอย่างไร เพราะตามพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อนุญาตให้โฆษณาเชิงสร้างสรรค์สังคมได้เท่านั้น รวมทั้งเรียกร้องให้บริษัท สิงห์ฯ ตรวจสอบว่าการทำธุรกิจของบริษัทว่ามีการทำผิดกฎหมายไปแล้วกี่ครั้ง และมีการแก้ไขให้ถูกต้องหรือไม่ โดยเฉพาะการโฆษณาให้เห็นขวด ผลิตภัณฑ์เบียร์ และลานเบียร์ที่อยู่ในสถานที่ห้ามดื่ม ห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่หลายจังหวัด เช่น ในสวนสาธารณะ สถานที่ราชการ เป็นต้น ซึ่งภาคีเครือข่ายฯ ได้ถ่ายรูปเก็บเป็นหลักฐาน และแจ้งความดำเนินคดีในหลายจังหวัดแล้ว
“ไม่มีวิธีขายสุรา เบียร์วิธีอื่นแล้วหรืออย่างไร ถึงต้องทำปฏิทินวาบหวิวแจกอีก คุณจะสร้างปัญหาซ้ำเติมให้กับเยาวชนไปอีกนานแค่ไหน ทุกวันนี้ปัญหาเยาวชนที่สำคัญคือเรื่องเพศสัมพันธ์ที่ไม่ถูกต้อง ก่อให้เกิดปัญหาท้องก่อนวัยอันควร ทำแท้งผิดกฎหมาย ติดโรคเอดส์ การข่มขืน ยิ่งมีปฏิทินวายหวิวแจกอีก ก็ยิ่งเพิ่มปัญหามากขึ้น”ภก.สงกรานต์ กล่าว
ขณะที่ นพ.สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวว่า ขณะนี้ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายของ สธ. ได้ให้ความเห็นแล้วว่าเป็นการกระทำผิดกฎหมายอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม จะต้องรอฟังความเห็นของที่ปรึกษาด้านนิเทศศาสตร์ เรื่องการตีความเรื่องการโฆษณาสร้างสรรค์สังคมหรือไม่ ซึ่งหากที่ปรึกษาทั้ง 2 ชุด ให้ความเห็นเป็นทิศทางเดียวกัน สธ.สามารถดำเนินการตามกระบวนการกฎหมายเพื่อเอาผิดลงโทษได้ทันที คือมีความผิดตามมาตรา 32 ว่าด้วยเรื่องการโฆษณา ตามพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ที่มีการแสดงชื่อ เครื่องหมายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เห็นชัดเจนทั้งทางตรงและอ้อม โดยที่ไม่มีการให้ข้อมูล ข่าวสาร ความรู้เชิงสร้างสรรค์สังคม มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมีโทษปรับอีกวันละ 50,000 บาท
“ขอเตือนสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ ขอให้ระมัดระวังการนำภาพตัวอย่างปฏิทินวาบหวิวดังกล่าวไปตีพิมพ์ลงตามหนังสือพิมพ์ นิตยสาร รวมถึงเว็บไซต์ต่างๆ เพราะเป็นการการทำผิดกฎหมายตามมาตรา 32 เรื่องการโฆษณาเช่นกัน โดยมีความผิดฐานเดียวกับผู้จัดทำ ผู้ว่าจ้างทำปฏิทินด้วย ในปีนี้ สธ.จะไม่มีการเตือนซ้ำอีก เพราะถือว่ได้เตือนไปแล้ว” นพ.สมาน กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในวันเดียวกันจากกระแสข่าวว่าบริษัทสิงห์คอร์เปอเรชั่น จะจัดงานแถลงข่าวเปิดตัวปฎิทินลีโอ ปี 2010 ชุด “Body Paint" ปรากฎว่ากระแสความสนใจที่จะชมปฎิทินชุดดังกล่าวล้นทะลักในโลกไซเบอร์ ที่เห็นได้ชัดคือเว็ปไซต์ www.google.com เว็บไซต์หาข้อมูลอันดับหนึ่ง มียอดการค้นหา โดยใช้คำว่า “ลีโอ ปฎิทิน 2010” แค่ครึ่งวันเช้าของวันที่ 14 ธ.ค.มีจำนวน 402,000 รายการ ขณะที่ภาพ 6 นางแบบที่ถูกสีสันแต่งแต้มช่วงบนแทนเสื้อผ้า ถูกฟอร์เวิดเมล์ ส่งต่อกันอย่างแพร่หลาย
**ลีโอโต้ไม่ผิดกฎหมาย
นายฉัตรชัย วิรัตน์โยสินทร์ ผู้อำนวยการสายการตลาด บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเบียร์ลีโอ กล่าวว่า การจัดทำปฏิทินเบียร์ลีโอ 2010 หากพิจารณาในแง่ของกฎหมายบริษัทมองว่าไม่ผิดอะไร เพราะบริษัทเมทีเน่ คอมพานี ซึ่งเป็นบริษัทของนางแบบชื่อดัง เมทนี กิ่งโพยม เป็นบริษัทที่ผลิตปฏิทินลีโอ ขึ้นมาเอง ส่วนเงื่อนไขการแจกปฏิทินก็ขึ้นอยู่กับบริษัทดังกล่าว ไม่ได้เกี่ยวข้องกับบริษัทสิงห์ คอร์เปอเรชั่นแต่อย่างใด และบริษัทก็ไม่ได้เป็นผู้ผลิตปฏิทิน เพื่อจำหน่ายจ่ายแจกหรือว่าสมนาคุณสำหรับลูกค้าหรือตัวแทนจำหน่ายแต่อย่างใด
สำหรับปฏิทินเบียร์ลีโอ ปีนี้จัดทำขึ้นเป็นปีที่ 6 แต่ละปีมีปัญหากับภาครัฐมาอย่างต่อเนื่อง เช่น ในช่วง 3-4 ปีแรก มีปัญหากับนางระเบียบรัตน์ พงษ์พาณิช จากนั้น 2 ปีถัดมากับ นพ.สมาน ฟูตระกูล.
วานนี้ (14 ธ.ค.) ดร.นิษฐา หรุ่นเกษม อาจารย์สาขาวิชานิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎพระนคร กล่าวถึงการเปิดตัวปฎิทินชุด "Body Paint” “ลีโอเบียร์” ของบริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น ว่า สิงห์เป็นบริษัทใหญ่มีนักตลาด นักโฆษณาชั้นหัวกะทิอยู่หลายคน จึงน่าสังเกตว่าการเปิดตัวปฎิทินชุดนี้ย่อมรู้ดีว่าอาจผิดกฎหมาย เพราะกฎหมายไม่อนุญาตให้ทำการตลาด แต่เป็นกลยุทธ์ที่ถูกวางแผนไว้แล้วโดยจงใจจะท้าทายเพื่อล่อเป้า จับคู่ชนกับภาครัฐและองค์กรภาคประชาชน เพราะรู้อยู่แล้วว่าเมื่อทำออกมาจะต้องถูกต่อต้าน ถูกวิจารณ์อย่างกว้างขวาง แล้วเรื่องจะกลายเป็นทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ ผลักให้กระแสของลีโอเบียร์พุ่งสูงขึ้น ซึ่งจุดกระแสติดแล้วปฎิทินชุดนี้แทนที่จะแจกตามร้านค้า หรือลานเบียร์ ก็ไม่ต้องทำเพราะกระแสจะดึงให้คนจะเข้าไปดูตามเว็บไซต์ ส่งฟอร์เวิดเมลล์ต่อๆกันไป
การใช้ภาพลักษณ์ความเซ็กซี่ของผู้หญิงมาเป็นจุดขายให้กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นับเป็นการทำการตลาดที่ไม่รับผิดชอบต่อสังคม เป็นการกระตุ้นการบริโภคให้เกิดกับคนทุกวัย ซึ่งที่น่าเป็นห่วงคือกลุ่มเยาวชน เพราะมีผลสำรวจของร.ศ.พ.ญ.ดร.สาวิตรี อัษณางค์กรชัย อาจารย์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ที่เคยสำรวจทัศนคติทางบวกของการดื่มสุราในนักเรียนพบว่าร้อยละ 50 มองว่าการดื่มเหล้าช่วยเพิ่มโอกาสในการมีเพศสัมพันธ์ ขณะที่อีกจำนวนไม่น้อยเห็นว่าการดื่มเหล้าเบียร์จะช่วยสร้างความเซ็กซี่มากขึ้น ซึ่งความคิดเหล่านี้มาจากภาพลักษณ์ที่บริษัทเหล้าเบียร์สร้างขึ้น โดยเฉพาะเบียร์ลีโอ ก่อนหน้านี้เคยทำโฆษณาโดยใช้ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ เป็นตัวแทนของนักดื่ม แต่ปรากฎว่าไม่ได้ผล ภายหลังใช้ภาพความเซ็กซี่ของหญิงสาว จ้างพริตตี้มาส่งเสริมการขายทำให้ยอดขายเบียร์ลีโอถล่มทลาย
“ธุรกิจเหล้าเบียร์ ไม่ควรทำการตลาดหรือส่งเสริมการขาย เพราะปัญหาสังคมมากมายเกิดจากการดื่มเหล้าเบียร์ ดังนั้นการตลาดแบบนี้จึงเป็นการตลาดที่ไม่รับผิดชอบต่อสังคม แม้แต่การหาปลายังต้องมีกติกาว่าบางแหล่งห้ามจับปลาตัวเล็ก ต้องใช้อวนตาห่าง แต่สิงห์ไม่เคยสนใจสังคมที่กำลังกังวลกับการเพิ่มขึ้นของนักดื่มหน้าใหม่ กลับใช้อวนตาถี่ที่สุดหว่านคนทุกระดับ ดังนั้นสิ่งที่สิงห์อ้างมาตลอดว่าบริษัทที่เป็นผู้ให้อย่างไม่สิ้นสุด จึงเป็นเรื่องโกหกเพราะความจริงแล้วสิงห์คือองค์กรที่ฝ่าฝืนกฎหมายไม่สิ้นสุดต่างหาก”นักวิชาการมรภ.พระนคร กล่าว
นายจะเด็จ เชาว์วิไล ผู้จัดการมูลนิธิเพื่อนหญิง กล่าวว่า การออกปฎิทินโดยใช้ผู้หญิงในภาพลักษณ์ที่วาบหวิวเป็นเครื่องมือกระตุ้นยอดขายนั้น ตนมองว่าไม่ใช่ศิลปะแต่ส่อไปในทางอนาจาร เป็นการยั่วยุทางเพศ ที่มีแนวโน้มจะนำไปสู่ความรุนแรง ซึ่งจากสถิติกรณีปัญหาความรุนแรงทางเพศที่มูลนิธิดูแลอยู่นั้นส่วนหนึ่งมีต้นตอมาจากสื่อลามกที่ยั่วยุ นอกจากนี้การส่งเสริมการขายเหล้าเบียร์ยังขัดต่อพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ออกมาบังคับใช้ เมื่อปี 2551 ซึ่งเมื่อปีที่แล้วลีโอเบียร์ทำผิดมาแล้วครั้งหนึ่งโดยการพยายามออกปฎิทินวาบหวิว ครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่สอง เป็นการทำผิดซ้ำสอง ถ้าผู้มีอำนาจไม่จัดการอย่างเด็ดขาดเท่ากับว่ากลุ่มทุนยักษ์ใหญ่สามารถอยู่เหนือกฎหมายได้
“ที่ผ่านมามีเพียงเจ้าหน้าที่ตัวเล็กๆอย่างน.พ.สมาน ฟูตระกูล ผ.อ.สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เท่านั้นที่พยายามสู้ แต่เมื่อสิงห์ ทำผิดกฎหมายสองครั้งโดยไม่สะทกสะท้าน ภาครัฐจะปล่อยให้ข้าราชการตัวเล็กๆต่อสู้เพียงลำพังไม่ได้แล้ว ขอเรียกร้องให้นายมานิต นพอมรบดี รมช.สาธารณสุข ที่รับผิดชอบ ต้องเอาผิดให้ได้เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างกับกลุ่มอื่น นอกจากนี้สังคมก็ต้องออกมาประนามบริษัทสุรา ที่ไม่เคารพกฎหมาย โดยเฉพาะสิงห์ อ้างว่าทำดีเพื่อสังคมมาตลอด 75 ปี แต่สิ่งที่ปฎิบัติกลับเป็น 75 ปีที่ละเมิดกติกาของสังคมมากกว่า”นายจะเด็จ กล่าว
ด้าน ภก.สงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า กล่าวถึงกรณีที่บริษัทสิงห์ คอปอเรชั่น แถลงข่าวการจัดทำปฏิทินวาบหวิวเพื่อแจกให้กับประชาชนซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเทศกาลปีใหม่ว่า บริษัทสิงห์ คงต้องออกมาอธิบายให้ได้ว่าการทำปฏิทินวาบหวิวแจกครั้งนี้ เป็นการโฆษณาเชิงสร้างสรรค์สังคมอย่างไร เพราะตามพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อนุญาตให้โฆษณาเชิงสร้างสรรค์สังคมได้เท่านั้น รวมทั้งเรียกร้องให้บริษัท สิงห์ฯ ตรวจสอบว่าการทำธุรกิจของบริษัทว่ามีการทำผิดกฎหมายไปแล้วกี่ครั้ง และมีการแก้ไขให้ถูกต้องหรือไม่ โดยเฉพาะการโฆษณาให้เห็นขวด ผลิตภัณฑ์เบียร์ และลานเบียร์ที่อยู่ในสถานที่ห้ามดื่ม ห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่หลายจังหวัด เช่น ในสวนสาธารณะ สถานที่ราชการ เป็นต้น ซึ่งภาคีเครือข่ายฯ ได้ถ่ายรูปเก็บเป็นหลักฐาน และแจ้งความดำเนินคดีในหลายจังหวัดแล้ว
“ไม่มีวิธีขายสุรา เบียร์วิธีอื่นแล้วหรืออย่างไร ถึงต้องทำปฏิทินวาบหวิวแจกอีก คุณจะสร้างปัญหาซ้ำเติมให้กับเยาวชนไปอีกนานแค่ไหน ทุกวันนี้ปัญหาเยาวชนที่สำคัญคือเรื่องเพศสัมพันธ์ที่ไม่ถูกต้อง ก่อให้เกิดปัญหาท้องก่อนวัยอันควร ทำแท้งผิดกฎหมาย ติดโรคเอดส์ การข่มขืน ยิ่งมีปฏิทินวายหวิวแจกอีก ก็ยิ่งเพิ่มปัญหามากขึ้น”ภก.สงกรานต์ กล่าว
ขณะที่ นพ.สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวว่า ขณะนี้ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายของ สธ. ได้ให้ความเห็นแล้วว่าเป็นการกระทำผิดกฎหมายอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม จะต้องรอฟังความเห็นของที่ปรึกษาด้านนิเทศศาสตร์ เรื่องการตีความเรื่องการโฆษณาสร้างสรรค์สังคมหรือไม่ ซึ่งหากที่ปรึกษาทั้ง 2 ชุด ให้ความเห็นเป็นทิศทางเดียวกัน สธ.สามารถดำเนินการตามกระบวนการกฎหมายเพื่อเอาผิดลงโทษได้ทันที คือมีความผิดตามมาตรา 32 ว่าด้วยเรื่องการโฆษณา ตามพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ที่มีการแสดงชื่อ เครื่องหมายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เห็นชัดเจนทั้งทางตรงและอ้อม โดยที่ไม่มีการให้ข้อมูล ข่าวสาร ความรู้เชิงสร้างสรรค์สังคม มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมีโทษปรับอีกวันละ 50,000 บาท
“ขอเตือนสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ ขอให้ระมัดระวังการนำภาพตัวอย่างปฏิทินวาบหวิวดังกล่าวไปตีพิมพ์ลงตามหนังสือพิมพ์ นิตยสาร รวมถึงเว็บไซต์ต่างๆ เพราะเป็นการการทำผิดกฎหมายตามมาตรา 32 เรื่องการโฆษณาเช่นกัน โดยมีความผิดฐานเดียวกับผู้จัดทำ ผู้ว่าจ้างทำปฏิทินด้วย ในปีนี้ สธ.จะไม่มีการเตือนซ้ำอีก เพราะถือว่ได้เตือนไปแล้ว” นพ.สมาน กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในวันเดียวกันจากกระแสข่าวว่าบริษัทสิงห์คอร์เปอเรชั่น จะจัดงานแถลงข่าวเปิดตัวปฎิทินลีโอ ปี 2010 ชุด “Body Paint" ปรากฎว่ากระแสความสนใจที่จะชมปฎิทินชุดดังกล่าวล้นทะลักในโลกไซเบอร์ ที่เห็นได้ชัดคือเว็ปไซต์ www.google.com เว็บไซต์หาข้อมูลอันดับหนึ่ง มียอดการค้นหา โดยใช้คำว่า “ลีโอ ปฎิทิน 2010” แค่ครึ่งวันเช้าของวันที่ 14 ธ.ค.มีจำนวน 402,000 รายการ ขณะที่ภาพ 6 นางแบบที่ถูกสีสันแต่งแต้มช่วงบนแทนเสื้อผ้า ถูกฟอร์เวิดเมล์ ส่งต่อกันอย่างแพร่หลาย
**ลีโอโต้ไม่ผิดกฎหมาย
นายฉัตรชัย วิรัตน์โยสินทร์ ผู้อำนวยการสายการตลาด บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเบียร์ลีโอ กล่าวว่า การจัดทำปฏิทินเบียร์ลีโอ 2010 หากพิจารณาในแง่ของกฎหมายบริษัทมองว่าไม่ผิดอะไร เพราะบริษัทเมทีเน่ คอมพานี ซึ่งเป็นบริษัทของนางแบบชื่อดัง เมทนี กิ่งโพยม เป็นบริษัทที่ผลิตปฏิทินลีโอ ขึ้นมาเอง ส่วนเงื่อนไขการแจกปฏิทินก็ขึ้นอยู่กับบริษัทดังกล่าว ไม่ได้เกี่ยวข้องกับบริษัทสิงห์ คอร์เปอเรชั่นแต่อย่างใด และบริษัทก็ไม่ได้เป็นผู้ผลิตปฏิทิน เพื่อจำหน่ายจ่ายแจกหรือว่าสมนาคุณสำหรับลูกค้าหรือตัวแทนจำหน่ายแต่อย่างใด
สำหรับปฏิทินเบียร์ลีโอ ปีนี้จัดทำขึ้นเป็นปีที่ 6 แต่ละปีมีปัญหากับภาครัฐมาอย่างต่อเนื่อง เช่น ในช่วง 3-4 ปีแรก มีปัญหากับนางระเบียบรัตน์ พงษ์พาณิช จากนั้น 2 ปีถัดมากับ นพ.สมาน ฟูตระกูล.