อาซาฮี จ่อแผนรับกฎเหล็กภาครัฐห้ามโฆษณาชื่อเบียร์ ปั้นโลโก้คอนเซปต์”เลข 9” เร่งสร้างแบรนด์รับตลาดปีหน้าแข่งเดือด เบียร์ต่างประเทศทะลักรับอาฟต้า อัดกิจกรรมสไตล์ญี่ปุ่นหวังเป็นช่องทางสื่อสารทะลวงคอเบียร์อายุ 25 ปี งัดโซเชียลมาร์เก็ต ลุยการตลาดผ่านออนไลน์ หวังขยายฐานคนรุ่นใหม่ ตั้งเป้า 3 ปี ยอดขายโต 3-4 เท่าตัว จากสิ้นปีโกย 2 ล้านลิตรแชร์ 0.1%
นายตราชู กาญจนสถิตย์ ผู้อำนวยการสื่อสารการตลาด บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด ผู้ผลิตและผู้แทนจำหน่ายเบียร์อาซาฮี ของประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า แนวทางการตลาดขณะนี้บริษัทได้สร้างโลโก้หรือสัญลักษณ์ขึ้นใหม่ เพื่อแทนเครื่องหมายการค้าหรือยี่ห้อเบียร์อาซาฮี ภายใต้คอนเซปต์”เลข 9” เพื่อสื่อสารถึงเบียร์อาซาฮีแก่กลุ่มลูกค้า และสร้างการรับรู้ในวงกว้างรองรับกับกฎหมายของภาครัฐห้ามโฆษณาชื่อที่สื่อถึงผลิตภัณฑ์ หรือห้ามใช้แบรนด์สินค้าโฆษณา เช่นเดียวกับผู้ประกอบการเบียร์รายอื่นๆ อาทิ ไฮเนเก้น ใช้เครื่องหมายดาวแดง และวางคอนเซปต์กรีนสเปซ เป็นต้น
และขณะเดียวกันการเร่งสื่อสารโลโก้เลข 9 เพื่อสื่อถึงเบียร์อาซาฮี ยังเป็นการรองรับกับการแข่งขันในปีหน้านี้ที่คาดว่าจะมีความรุนแรงมากขึ้น จากการมีเบียร์ต่างประเทศเข้ามาทำตลาดเพิ่มขึ้น หลังจากเปิดเขตเสรีการค้าอาเซียน หรือ อาฟต้า ส่งผลให้ภาษีนำเข้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เหลือ 0% ดังนั้นจึงต้องสื่อสารแบรนด์ให้แข็งแกร่งเพราะกฎหมายของภาครัฐนับว่าเป็นอุปสรรคสำหรับเบียร์แบรนด์ใหม่ๆ ที่จะเข้ามาทำตลาด เนื่องจากการสื่อสารแบรนด์เป็นไปได้ยาก
สำหรับการทำตลาดบริษัทดำเนินการภายใต้กลยุทธ์เอ็กซ์พีเรียล มาร์เก็ตติง ในคอนเซปต์เบียร์ที่มีดีเอ็นเอจากประเทศญี่ปุ่น หรือการสร้างประสบการณ์แก่กลุ่มเป้าหมายอายุ 25 ปีขึ้นไป ให้สัมผัสกับการเป็นเบียร์ญี่ปุ่น ผ่านทางวัฒนธรรม โดยมาเป็นกิจกรรมการตลาดต่างๆ ล่าสุดได้จัดเทศกาลเบียร์การ์เด้นท์ขึ้นเป็นครั้งแรก ที่ สยามดิสคัฟเวอรี่บรรยากาศภายในงานเบียร์การ์เด้นท์เน้นสไตล์ญี่ปุ่น อาทิ นำรถมอเตอร์ไซค์ญี่ปุ่นมาให้ชม ศิลปะการต่อสู้ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่เข้าถึงไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค
“เราต้องการสื่อสารดีเอ็นเอของเบียร์อาซาฮี คือ ความเป็นญี่ปุ่น เพื่อให้เกิดทิศทางการสร้างแบรนด์ สำหรับการจัดเทศกาลเบียร์การ์เด้นท์ เราคาดหวังในแง่การสร้างการรับรู้แก่กลุ่มลูกค้า และจากการสำรวจพบว่า มีลูกค้าที่รับรู้จักเบียร์อาซาฮี 81% นอกจากนี้ยังมองว่าการจัดกิจกรรมต่างๆ ก็ถือว่าเป็นช่องทางการโฆษณาแบรนด์ได้อีกทางหนึ่ง และช่วยสื่อสารโลโก้เลข 9ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง”
นายตราชู กล่าวว่า ปีหน้าบริษัทใช้งบการตลาดกว่า 10 ล้านบาท เน้นการทำบีโลว์เดอะไลน์ ส่วนอะโบฟเดอะไลน์ บริษัทยังวางแผนใช้กลยุทธ์โชเชียล มาร์เก็ตติ้ง ผ่านการสื่อสารบนสื่อดิจิตอล เพื่อเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่และขยายฐานลูกค้าได้มากขึ้น โดยได้เริ่มดำเนินการผ่านทางเว็บไซต์ ปัจจุบันมีฐานสมาชิก 1,700 ราย และตั้งเป้า 6 เดือน มีสมาชิก 1 หมื่นราย
นอกจากนี้ยังรุกช่องทางจำหน่ายสถานบันเทิง ผับ บาร์ ในสัดส่วน 80-90% เนื่องจากพฤติกรรมของผู้ดื่มเบียร์พรีเมียมจะดื่มในสถานบันเทิงเป็นหลัก ส่วนร้านค้าปลีกรายย่อย 10-20% อีกทั้งบริษัทได้ตั้งทีมขายเบียร์อาซาฮีแยกออกจากทีมขายเบียร์สิงห์ ลีโอ อย่างชัดเจน และจากการดำเนินการตลาดเชิงรุกตั้งเป้าภายใน 3 ปี ยอดขายเบียร์อาซาฮีเติบโต 3-4 เท่าตัว จากสิ้นปีนี้มียอดขาย 2ล้านลิตร และมีส่วนแบ่ง 0.1% จากตลาดเบียร์ในเชิงปริมาณ 2,000 ล้านลิตร
สำหรับภาพรวมตลาดเบียร์ปีนี้ติดลบ 14% แต่คาดว่าปีหน้านี้ตลาดจะหดตัวเป็นตัวเลขหลักเดียว เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวมากนัก ขณะที่เบียร์เซกเมนต์พรีเมียม 70 ล้านลิตร หรือราว 3.5% ของตลาดรวม ปีนี้หดตัวลงเพราะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย ส่งผลให้พฤติกรรมของผู้บริโภคระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย โดยปัจจุบันในเซกเมนต์เบียร์พรีเมียม อาซาฮีมีส่วนแบ่ง 3% และไฮเนเก้นเป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่งกว่า 90%
นายตราชู กาญจนสถิตย์ ผู้อำนวยการสื่อสารการตลาด บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด ผู้ผลิตและผู้แทนจำหน่ายเบียร์อาซาฮี ของประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า แนวทางการตลาดขณะนี้บริษัทได้สร้างโลโก้หรือสัญลักษณ์ขึ้นใหม่ เพื่อแทนเครื่องหมายการค้าหรือยี่ห้อเบียร์อาซาฮี ภายใต้คอนเซปต์”เลข 9” เพื่อสื่อสารถึงเบียร์อาซาฮีแก่กลุ่มลูกค้า และสร้างการรับรู้ในวงกว้างรองรับกับกฎหมายของภาครัฐห้ามโฆษณาชื่อที่สื่อถึงผลิตภัณฑ์ หรือห้ามใช้แบรนด์สินค้าโฆษณา เช่นเดียวกับผู้ประกอบการเบียร์รายอื่นๆ อาทิ ไฮเนเก้น ใช้เครื่องหมายดาวแดง และวางคอนเซปต์กรีนสเปซ เป็นต้น
และขณะเดียวกันการเร่งสื่อสารโลโก้เลข 9 เพื่อสื่อถึงเบียร์อาซาฮี ยังเป็นการรองรับกับการแข่งขันในปีหน้านี้ที่คาดว่าจะมีความรุนแรงมากขึ้น จากการมีเบียร์ต่างประเทศเข้ามาทำตลาดเพิ่มขึ้น หลังจากเปิดเขตเสรีการค้าอาเซียน หรือ อาฟต้า ส่งผลให้ภาษีนำเข้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เหลือ 0% ดังนั้นจึงต้องสื่อสารแบรนด์ให้แข็งแกร่งเพราะกฎหมายของภาครัฐนับว่าเป็นอุปสรรคสำหรับเบียร์แบรนด์ใหม่ๆ ที่จะเข้ามาทำตลาด เนื่องจากการสื่อสารแบรนด์เป็นไปได้ยาก
สำหรับการทำตลาดบริษัทดำเนินการภายใต้กลยุทธ์เอ็กซ์พีเรียล มาร์เก็ตติง ในคอนเซปต์เบียร์ที่มีดีเอ็นเอจากประเทศญี่ปุ่น หรือการสร้างประสบการณ์แก่กลุ่มเป้าหมายอายุ 25 ปีขึ้นไป ให้สัมผัสกับการเป็นเบียร์ญี่ปุ่น ผ่านทางวัฒนธรรม โดยมาเป็นกิจกรรมการตลาดต่างๆ ล่าสุดได้จัดเทศกาลเบียร์การ์เด้นท์ขึ้นเป็นครั้งแรก ที่ สยามดิสคัฟเวอรี่บรรยากาศภายในงานเบียร์การ์เด้นท์เน้นสไตล์ญี่ปุ่น อาทิ นำรถมอเตอร์ไซค์ญี่ปุ่นมาให้ชม ศิลปะการต่อสู้ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่เข้าถึงไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค
“เราต้องการสื่อสารดีเอ็นเอของเบียร์อาซาฮี คือ ความเป็นญี่ปุ่น เพื่อให้เกิดทิศทางการสร้างแบรนด์ สำหรับการจัดเทศกาลเบียร์การ์เด้นท์ เราคาดหวังในแง่การสร้างการรับรู้แก่กลุ่มลูกค้า และจากการสำรวจพบว่า มีลูกค้าที่รับรู้จักเบียร์อาซาฮี 81% นอกจากนี้ยังมองว่าการจัดกิจกรรมต่างๆ ก็ถือว่าเป็นช่องทางการโฆษณาแบรนด์ได้อีกทางหนึ่ง และช่วยสื่อสารโลโก้เลข 9ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง”
นายตราชู กล่าวว่า ปีหน้าบริษัทใช้งบการตลาดกว่า 10 ล้านบาท เน้นการทำบีโลว์เดอะไลน์ ส่วนอะโบฟเดอะไลน์ บริษัทยังวางแผนใช้กลยุทธ์โชเชียล มาร์เก็ตติ้ง ผ่านการสื่อสารบนสื่อดิจิตอล เพื่อเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่และขยายฐานลูกค้าได้มากขึ้น โดยได้เริ่มดำเนินการผ่านทางเว็บไซต์ ปัจจุบันมีฐานสมาชิก 1,700 ราย และตั้งเป้า 6 เดือน มีสมาชิก 1 หมื่นราย
นอกจากนี้ยังรุกช่องทางจำหน่ายสถานบันเทิง ผับ บาร์ ในสัดส่วน 80-90% เนื่องจากพฤติกรรมของผู้ดื่มเบียร์พรีเมียมจะดื่มในสถานบันเทิงเป็นหลัก ส่วนร้านค้าปลีกรายย่อย 10-20% อีกทั้งบริษัทได้ตั้งทีมขายเบียร์อาซาฮีแยกออกจากทีมขายเบียร์สิงห์ ลีโอ อย่างชัดเจน และจากการดำเนินการตลาดเชิงรุกตั้งเป้าภายใน 3 ปี ยอดขายเบียร์อาซาฮีเติบโต 3-4 เท่าตัว จากสิ้นปีนี้มียอดขาย 2ล้านลิตร และมีส่วนแบ่ง 0.1% จากตลาดเบียร์ในเชิงปริมาณ 2,000 ล้านลิตร
สำหรับภาพรวมตลาดเบียร์ปีนี้ติดลบ 14% แต่คาดว่าปีหน้านี้ตลาดจะหดตัวเป็นตัวเลขหลักเดียว เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวมากนัก ขณะที่เบียร์เซกเมนต์พรีเมียม 70 ล้านลิตร หรือราว 3.5% ของตลาดรวม ปีนี้หดตัวลงเพราะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย ส่งผลให้พฤติกรรมของผู้บริโภคระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย โดยปัจจุบันในเซกเมนต์เบียร์พรีเมียม อาซาฮีมีส่วนแบ่ง 3% และไฮเนเก้นเป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่งกว่า 90%