ททท.เล็งขยายฐานนักท่องเที่ยวกลุ่มเอ็กซ์แพก บูมตลาดท่องเที่ยวในประเทศ ระบุมีจำนวนเกือบ 1 ล้านคน เชื่อกระตุ้นการเดินทางได้ 2 ล้านคนครั้ง ใช้จ่ายสูงกว่าตลาดคนไทยเท่าตัว ชื่นชอบท่องเที่ยวผจญภัย กีฬา กอล์ฟ และแรลลี่
นายวันเสด็จ ถาวรสุข รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่า แผนการตลาดสำหรับตลาดในประเทศ ในปี 2553 จะขยายฐานนักท่องเที่ยวไปยังกลุ่มชาวต่างชาติที่ทำงานอยู่ในประเทศไทย(เอ็กซ์แพ็ท) ซึ่งมีจำนวนเกือบ 1 ล้านคน กระจายอยู่ในกรุงเทพฯและนิคมอุตสาหกรรมต่างๆทั่วประเทศ อาทิ ชาวญี่ปุ่น ไต้หวัน เกาหลี สวีเดน เป็นต้น ให้เดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศไทยให้มากขึ้นอย่างน้อยเฉลี่ย เดือนละ 1 ครั้ง
จากปัจจุบัน คนกลุ่มนี้จะเดินทางเที่ยวราวปีละ 3 -4 ครั้ง
รูปแบบการนำเสนอ จะผ่านสื่อสิ่งพิมพ์และสื่อออนไลน์ ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายด้วยภาษาถิ่น อาทิ ภาษาอังกฤษ และ ภาษาญี่ปุ่น โดย ททท.จะนำเสนอสินค้าและบริการท่องเที่ยวของประเทศไทย ที่เหมาะกับความต้องการของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ เช่น กอล์ฟ สปา ร้านอาหาร ที่พัก รวมถึงกิจกรรมท่องเที่ยวในจังหวัดต่างๆ พร้อมกับข้อมูลช่วงเดินทางที่ดีที่สุดในแต่ละเดสติเนชั่น นอกจากนั้น จะร่วมมือกับพันธมิตร จัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวให้แก่นักท่องเที่ยวเอ็กซ์แพ็ท เช่น จัดแข่งขันกอล์ฟ และ จัดกิจกรรมแรลลี่ เป็นต้น
“กลุ่มเอ็กแพก ส่วนใหญ่มีรายได้ระดับ กลางถึงบน โดยหากเป็นพนักงานบริษัท เงินเดือนราว 7-8 หมื่นบาทถึงไป ถ้าเป็นระดับผู้บริหาร จะมีรายได้ต่อเดือนมากกว่า 1 แสนบาทขึ้นไป ซึ่งมีกำลังที่จะจับจ่ายท่องเที่ยวอยู่แล้ว โดยการเที่ยวแต่ละครั้งใช้จ่ายมากกว่าคนไทยถึงเท่าตัว หรือราว 3-4 พันบาทต่อคนต่อวัน”
อย่างไรก็ตาม ตั้งเป้าหมายว่า ในปีหน้า กลุ่มเอ็กซ์แพ็ท จะเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยไม่น้อยกว่า 2 ล้านคนครั้ง หรือเฉลี่ยต่อคนเดินทางมากกว่า 2 ครั้ง ขณะที่ภาพรวมยังคงตั้งเป้าในปี 2553 ตลาดนักท่องเที่ยวภายในประเทศจะอยู่ที่ 90 ล้านคนครั้ง ก่อนเกิดรายได้หมุนเวียน กว่า 4.3 แสนล้านบาท ซึ่งพฤติกรรมการท่องเที่ยวภายในประเทศปัจจุบันแปรเปลี่ยนไปเนื่องจากระบบการคมนาคมที่สะดวกขึ้น ส่งผลให้นักท่องเที่ยวเดินทางด้วยตัวเองมากกว่าที่จะใช้บริการผ่านบริษัทนำเที่ยว ซึ่ง ททท.จะจัดกิจกรรม ส่งเสริมทั้งรูปแบบเดินทางเอง และผ่านบริษัทนำเที่ยว โดยเน้นการหาพันธมิตรที่จะเข้ามาส่งเสริมกิจกรรมท่องเที่ยวร่วมกัน เช่น ธนาคาร และ บัตรเครดิต โดยจะมีต่อยอดโครงการที่ตอบรับดี อาทิ เทศกาลเที่ยวไทย 5 ภาค และเปิดตัวเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ๆ กิจกรรมใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้ มั่นใจตัวเลขนักท่องเที่ยวได้ตามเป้าหมาย คือ 87 ล้านคนครั้ง
นายวันเสด็จ ถาวรสุข รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่า แผนการตลาดสำหรับตลาดในประเทศ ในปี 2553 จะขยายฐานนักท่องเที่ยวไปยังกลุ่มชาวต่างชาติที่ทำงานอยู่ในประเทศไทย(เอ็กซ์แพ็ท) ซึ่งมีจำนวนเกือบ 1 ล้านคน กระจายอยู่ในกรุงเทพฯและนิคมอุตสาหกรรมต่างๆทั่วประเทศ อาทิ ชาวญี่ปุ่น ไต้หวัน เกาหลี สวีเดน เป็นต้น ให้เดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศไทยให้มากขึ้นอย่างน้อยเฉลี่ย เดือนละ 1 ครั้ง
จากปัจจุบัน คนกลุ่มนี้จะเดินทางเที่ยวราวปีละ 3 -4 ครั้ง
รูปแบบการนำเสนอ จะผ่านสื่อสิ่งพิมพ์และสื่อออนไลน์ ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายด้วยภาษาถิ่น อาทิ ภาษาอังกฤษ และ ภาษาญี่ปุ่น โดย ททท.จะนำเสนอสินค้าและบริการท่องเที่ยวของประเทศไทย ที่เหมาะกับความต้องการของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ เช่น กอล์ฟ สปา ร้านอาหาร ที่พัก รวมถึงกิจกรรมท่องเที่ยวในจังหวัดต่างๆ พร้อมกับข้อมูลช่วงเดินทางที่ดีที่สุดในแต่ละเดสติเนชั่น นอกจากนั้น จะร่วมมือกับพันธมิตร จัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวให้แก่นักท่องเที่ยวเอ็กซ์แพ็ท เช่น จัดแข่งขันกอล์ฟ และ จัดกิจกรรมแรลลี่ เป็นต้น
“กลุ่มเอ็กแพก ส่วนใหญ่มีรายได้ระดับ กลางถึงบน โดยหากเป็นพนักงานบริษัท เงินเดือนราว 7-8 หมื่นบาทถึงไป ถ้าเป็นระดับผู้บริหาร จะมีรายได้ต่อเดือนมากกว่า 1 แสนบาทขึ้นไป ซึ่งมีกำลังที่จะจับจ่ายท่องเที่ยวอยู่แล้ว โดยการเที่ยวแต่ละครั้งใช้จ่ายมากกว่าคนไทยถึงเท่าตัว หรือราว 3-4 พันบาทต่อคนต่อวัน”
อย่างไรก็ตาม ตั้งเป้าหมายว่า ในปีหน้า กลุ่มเอ็กซ์แพ็ท จะเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยไม่น้อยกว่า 2 ล้านคนครั้ง หรือเฉลี่ยต่อคนเดินทางมากกว่า 2 ครั้ง ขณะที่ภาพรวมยังคงตั้งเป้าในปี 2553 ตลาดนักท่องเที่ยวภายในประเทศจะอยู่ที่ 90 ล้านคนครั้ง ก่อนเกิดรายได้หมุนเวียน กว่า 4.3 แสนล้านบาท ซึ่งพฤติกรรมการท่องเที่ยวภายในประเทศปัจจุบันแปรเปลี่ยนไปเนื่องจากระบบการคมนาคมที่สะดวกขึ้น ส่งผลให้นักท่องเที่ยวเดินทางด้วยตัวเองมากกว่าที่จะใช้บริการผ่านบริษัทนำเที่ยว ซึ่ง ททท.จะจัดกิจกรรม ส่งเสริมทั้งรูปแบบเดินทางเอง และผ่านบริษัทนำเที่ยว โดยเน้นการหาพันธมิตรที่จะเข้ามาส่งเสริมกิจกรรมท่องเที่ยวร่วมกัน เช่น ธนาคาร และ บัตรเครดิต โดยจะมีต่อยอดโครงการที่ตอบรับดี อาทิ เทศกาลเที่ยวไทย 5 ภาค และเปิดตัวเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ๆ กิจกรรมใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้ มั่นใจตัวเลขนักท่องเที่ยวได้ตามเป้าหมาย คือ 87 ล้านคนครั้ง