วานนี้ บริษัท ธนาสิริ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)หรือ THANA เข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) เป็นวันแรก โดยเปิดตลาดที่ราคา 1.82 บาท เพิ่มขึ้น 0.07 บาท หรือ 4%% จากราคาจองที่ 1.75 บาทต่อหุ้น ระหว่างวันราคาปรับตัวสูงสุดที่ระดับ 1.86 บาท ปรับตัวต่ำสุดระดับ1.75 บาท และกลับมาปิดตลาดที่ระดับ1.75 บาท ซึ่งเท่ากับราคาจอง มูลค่าการซื้อขาย 68.28 ล้านบาท
นายสุทธิรักษ์ เสถียรภาพอยุทธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนาสิริ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)หรือ THANA เปิดเผยว่า พอใจกับราคาหุ้นของบริษัทที่สามารถสูงกว่าราคาจองได้ และเชื่อว่าราคาหุ้นของบริษัทจะสามารถยืนเหนือราคาจองได้ตลอดทั้งวัน เนื่องจากเห็นสัญญาณในช่วงที่บริษัทมีการเปิดให้มีการจองซื้อหุ้นนั้น นักลงทุนให้ความสนใจลงทุนจำนวนมาก ทำให้สามารถขายได้หมดอย่างรวดเร็ว แต่จากการที่หุ้นของบริษัทเป็นหุ้นใหม่ที่เข้าซื้อขายราคาผันผวนบ้างขึ้นอยู่กับภาวะตลาด
ทั้งนี้ การที่ราคาหุ้นของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นไม่มากนักจากราคาจองนั้นไม่รู้สึกกังวล เนื่องจาก ปริมาณหุ้นที่ซื้อขายหมุนเวียน (ฟรีโฟลท) มีจำนวนไม่มาก แต่หากพิจารณในปัจจัยพื้นฐานของบริษัทนั้นถือว่ามีความแข็งแกร่ง จากที่บริษัทมีการเติบโตของรายได้ต่อเนื่อง ซึ่งในอดีตมีการเติบโตที่สูง โดยในปีหน้าบริษัทมีแผนที่จะมีการซื้อที่ดินเพิ่มอีก 500 ล้านบาท จากปีนี้ที่ซื้อไปแล้วจำนวน 300 ล้านบาท
" หุ้นของบริษัทนั้นถือว่าเป็นหุ้นโกรทสต๊อก จากที่ผ่านมาบริษัทีการโตอัตรา 80-90% ปีนี้โต 40% และปีหน้าโต 20-30% ที่โตอัตราน้อยลงเพราะฐานมันใหญ่แล้ว ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีการทำโครงการบ้านจัดสรรเฉพาะในจังหวัดภูเก็ตและนนทบุรี เท่านั้น ซึ่งหากบริษัทมีการขยายไปจังหวัดอื่นเพิ่มเติมทำให้บริษัทมีรายได้ที่เติบโตมากขึ้น " นายสุทธิรักษ์ กล่าว
นายนิธิกรณ์ ศรีคิรินทร์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ที่ปรึกษาเอเซีย พลัส จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินบริษัท ธนาสิริ กรุ๊ป กล่าวว่า การที่ราคาหุ้นสามารถปรับตัวสูงกว่าราคาจองได้ถือว่าน่าพอใจ และนักลงทุนก็ได้รับผลตอบแทนการลงทุนพอสมควร ซึ่งการที่ราคาหุ้นของธนาสิริ ปรับตัวเพิ่มขึ้นไม่มาก เป็นเพราะ นักลงทุนถือลงทุนระยะยาว ซึ่งเห็นได้จากมูลค่าการซื้อขายที่มีไม่มาก โดยปีหน้าบริษัทมีแผนที่จะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯและตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอจำนวน 3-4 บริษัท
นายสุทธิรักษ์ เสถียรภาพอยุทธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนาสิริ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)หรือ THANA เปิดเผยว่า พอใจกับราคาหุ้นของบริษัทที่สามารถสูงกว่าราคาจองได้ และเชื่อว่าราคาหุ้นของบริษัทจะสามารถยืนเหนือราคาจองได้ตลอดทั้งวัน เนื่องจากเห็นสัญญาณในช่วงที่บริษัทมีการเปิดให้มีการจองซื้อหุ้นนั้น นักลงทุนให้ความสนใจลงทุนจำนวนมาก ทำให้สามารถขายได้หมดอย่างรวดเร็ว แต่จากการที่หุ้นของบริษัทเป็นหุ้นใหม่ที่เข้าซื้อขายราคาผันผวนบ้างขึ้นอยู่กับภาวะตลาด
ทั้งนี้ การที่ราคาหุ้นของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นไม่มากนักจากราคาจองนั้นไม่รู้สึกกังวล เนื่องจาก ปริมาณหุ้นที่ซื้อขายหมุนเวียน (ฟรีโฟลท) มีจำนวนไม่มาก แต่หากพิจารณในปัจจัยพื้นฐานของบริษัทนั้นถือว่ามีความแข็งแกร่ง จากที่บริษัทมีการเติบโตของรายได้ต่อเนื่อง ซึ่งในอดีตมีการเติบโตที่สูง โดยในปีหน้าบริษัทมีแผนที่จะมีการซื้อที่ดินเพิ่มอีก 500 ล้านบาท จากปีนี้ที่ซื้อไปแล้วจำนวน 300 ล้านบาท
" หุ้นของบริษัทนั้นถือว่าเป็นหุ้นโกรทสต๊อก จากที่ผ่านมาบริษัทีการโตอัตรา 80-90% ปีนี้โต 40% และปีหน้าโต 20-30% ที่โตอัตราน้อยลงเพราะฐานมันใหญ่แล้ว ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีการทำโครงการบ้านจัดสรรเฉพาะในจังหวัดภูเก็ตและนนทบุรี เท่านั้น ซึ่งหากบริษัทมีการขยายไปจังหวัดอื่นเพิ่มเติมทำให้บริษัทมีรายได้ที่เติบโตมากขึ้น " นายสุทธิรักษ์ กล่าว
นายนิธิกรณ์ ศรีคิรินทร์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ที่ปรึกษาเอเซีย พลัส จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินบริษัท ธนาสิริ กรุ๊ป กล่าวว่า การที่ราคาหุ้นสามารถปรับตัวสูงกว่าราคาจองได้ถือว่าน่าพอใจ และนักลงทุนก็ได้รับผลตอบแทนการลงทุนพอสมควร ซึ่งการที่ราคาหุ้นของธนาสิริ ปรับตัวเพิ่มขึ้นไม่มาก เป็นเพราะ นักลงทุนถือลงทุนระยะยาว ซึ่งเห็นได้จากมูลค่าการซื้อขายที่มีไม่มาก โดยปีหน้าบริษัทมีแผนที่จะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯและตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอจำนวน 3-4 บริษัท