ผู้สื่อข่าวรายงานการเข้าจดทะเบียนของ บริษัท ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน)หรือ JUBILE โดยเปิดตลาดที่ระดับ 3.16 บาท เพิ่มขึ้น 0.36 บาท หรือเพิ่มขึ้น 12.85% จากราคาจอง 2.80 บาทต่อหุ้น ระหว่างวันปรับตัวสูงสุดที่ 3.32 บาท ปรับตัวต่ำสุดระดับ 3.14 บาท และกลับมาปิดตลาดระดับเดียวกับราคาเปิดซื้อขายที่ 3.16 บาท มูลค่าการซื้อขาย 209.09 ล้านบาท
นางสาวอัญรัตน์ พรประกฤต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน)หรือ JUBILE เปิดเผยว่า ส่วนตัวพอใจกับราคาหุ้นของบริษัทที่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ หรือ mai เป็นวันแรกที่สามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงกว่าราคาจองได้ ซึ่งเกิดจากนักลงทุนมีความมั่นใจจะเข้ามาลงทุนเพราะบริษัทมีรายได้เติบโตต่อเนื่อง โดยนักลงทุนที่เข้ามาลงทุนในหุ้นของบริษัทนั้นจะได้รับผลตอบแทนน่าพอใจเพราะมีแผนขยายงานที่จะทำให้บริษัทมีผลประกอบการเติบโต
โดยเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้จะนำไปขยายสาขา ทำให้ปี 53 มีสาขาเพิ่มเป็น 75 สาขา และเงินที่ได้จะลงทุนระบบไอที และในการเพิ่มกำลังผลิตโดยเน้นสินค้าที่มีมูลค่าสูงมากขึ้น โดยบริษัทมีแผนปี 2555 จะทำตลาดในต่างประเทศ จากปัจจุบันที่จำหน่ายในประเทศเท่านั้น โดยประเทศที่บริษัทสนใจไปทำธุรกิจตอนนี้กำลังศึกษาอยู่ ในจีน และสิงคโปร์
สำหรับนักลงทุนที่เข้าลงทุนในบริษัทนั้นจะได้รับการจ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการปี 2551 ในอัตรา 0.29 บาทต่อหุ้น ซึ่งจะจ่ายวันที่ 4 ธันวาคมนี้เพราะปีที่ผ่านมาบริษัทงดจ่ายปันผลจึงเลื่อนมาจ่ายปีนี้แทน และจะจ่ายปันผลในปี 2552 ต้นปีหน้า
นางสาวอัญรัตน์กล่าวว่าบริษัทคาดรายได้ปี 53 จะโตเพิ่มขึ้น 20 % จากปีนี้ที่คาดว่าจะมีรายได้ 600-650 ล้านบาท และคาดว่าจะมีกำไรสุทธิโต 10% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 50 ล้านบาท เนื่องจาก 3 ไตรมาสที่ผ่านมามีการเติบโตในระดับดังกล่าว และไตรมาส4/52นั้นเป็นช่วงที่มียอดขายสูงเพราะมีช่วงเทศกาลที่จะให้ของขวัญและคู่รักนิยมแต่งงานสูง
นางสาวอัญรัตน์ พรประกฤต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน)หรือ JUBILE เปิดเผยว่า ส่วนตัวพอใจกับราคาหุ้นของบริษัทที่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ หรือ mai เป็นวันแรกที่สามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงกว่าราคาจองได้ ซึ่งเกิดจากนักลงทุนมีความมั่นใจจะเข้ามาลงทุนเพราะบริษัทมีรายได้เติบโตต่อเนื่อง โดยนักลงทุนที่เข้ามาลงทุนในหุ้นของบริษัทนั้นจะได้รับผลตอบแทนน่าพอใจเพราะมีแผนขยายงานที่จะทำให้บริษัทมีผลประกอบการเติบโต
โดยเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้จะนำไปขยายสาขา ทำให้ปี 53 มีสาขาเพิ่มเป็น 75 สาขา และเงินที่ได้จะลงทุนระบบไอที และในการเพิ่มกำลังผลิตโดยเน้นสินค้าที่มีมูลค่าสูงมากขึ้น โดยบริษัทมีแผนปี 2555 จะทำตลาดในต่างประเทศ จากปัจจุบันที่จำหน่ายในประเทศเท่านั้น โดยประเทศที่บริษัทสนใจไปทำธุรกิจตอนนี้กำลังศึกษาอยู่ ในจีน และสิงคโปร์
สำหรับนักลงทุนที่เข้าลงทุนในบริษัทนั้นจะได้รับการจ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการปี 2551 ในอัตรา 0.29 บาทต่อหุ้น ซึ่งจะจ่ายวันที่ 4 ธันวาคมนี้เพราะปีที่ผ่านมาบริษัทงดจ่ายปันผลจึงเลื่อนมาจ่ายปีนี้แทน และจะจ่ายปันผลในปี 2552 ต้นปีหน้า
นางสาวอัญรัตน์กล่าวว่าบริษัทคาดรายได้ปี 53 จะโตเพิ่มขึ้น 20 % จากปีนี้ที่คาดว่าจะมีรายได้ 600-650 ล้านบาท และคาดว่าจะมีกำไรสุทธิโต 10% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 50 ล้านบาท เนื่องจาก 3 ไตรมาสที่ผ่านมามีการเติบโตในระดับดังกล่าว และไตรมาส4/52นั้นเป็นช่วงที่มียอดขายสูงเพราะมีช่วงเทศกาลที่จะให้ของขวัญและคู่รักนิยมแต่งงานสูง
