เชียงราย – กลุ่มทุนไทย-เกาหลีโวยสะพานข้ามโขงแห่งที่ 4 เชื่อมเชียงของ-ห้วยทราย วางแนวถนนต่อ R3a ทับที่สัมปทานโครงการศูนย์ท่องเที่ยว-สินค้าปลอดภาษี พร้อมสนามกอล์ฟริมโขง ฯลฯ มูลค่าพันล้าน ล่าสุดทำเรื่องเสนอรัฐบาลลาวและทางหลวงไทย ปรับแนวถนน และ จุดสร้างอาคารด่านพรมแดน
ดร.สิชา สิงห์สมบุญ ประธานบริษัท เอเอซี กรีนซิตี้ ลาว จำกัด บริษัทร่วมทุนไทย-เกาหลี ที่ได้รับสัมปทานพื้นที่ 1,200 ไร่ บริเวณบ้านดอนขี้นก เมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว(สปป.ลาว) ติดกับจุดก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 เชื่อม อ.เชียงของ จ.เชียงราย เข้ากับถนน R3a ส่วนหนึ่งของคุน-มั่ง กงลู่ ได้ชี้แจงต่อนายวิฑูรย์ แนวพานิช และคณะที่ปรึกษา ผศ.ดร.วีระศักดิ์ จินารัตน์ ผู้ช่วย รมช.กระทรวงพาณิชย์ ที่เข้าตรวจเยี่ยมนักลงทุนไทยตามแนวชายแดนไทย-สปป.ลาว ด้าน อ.เชียงของ และเขตแขวงบ่อแก้ว เมื่อเร็ว ๆ นี้ ว่า แผนพัฒนาพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำโขงของบริษัท มูลค่า 1,320 ล้านบาท กำลังได้รับผลกระทบจากโครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาวข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 ที่กรมทางหลวง กระทรวงคมนาคมไทย ออกแบบ
ดร.สิชา บอกว่า ที่จริงแล้วครอบครัวเธอเข้าไปบุกเบิกธุรกิจในลาวมากว่า 30 ปีแล้ว โดยเข้าไปร่วมทุนก่อตั้งธนาคารร่วมพัฒนา ในเวียงจันทน์ อันเป็นธนาคารลาวรายแรกที่เปิดบริการบัตรเครดิตวีซ่า-มาสเตอร์การ์ด จากนั้นได้ขยายการลงทุน ก่อตั้งบริษัท เอเอซี กรีนซิตี้ฯ ร่วมกับกลุ่มทุนจากเกาหลีใต้ ในสัดส่วนไทย 80% เกาหลีใต้ 20% เข้ารับสัมปทานพื้นที่ 1,200 ไร่ ริมแม่น้ำโขง ระยะ 40 ปี ต่ออายุได้อีก 40 ปี (รวมเป็นไม่ต่ำกว่า 80 ปี) เพื่อพัฒนาเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว-สินค้าปลอดภาษีครบวงจร ภายใต้ชื่อโครงการ “นาคราชนคร” มูลค่า 1,320 ล้านบาท ตั้งแต่ปี 2550
เธอบอกอีกว่า พื้นที่ริมน้ำโขงดังกล่าว โดยระยะที่ผ่านมาบริษัทได้มีทัศนียภาพที่สวยงามและมีความเป็นธรรมชาติสูง รวมทั้งตั้งอยู่ห่างจากโครงการสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 เชื่อมระหว่างห้วยทราย-เชียงของ และเชื่อมถนน R3a ไทย-สปป.ลาว-จีนตอนใต้ เพียงประมาณ 300 เมตรและห่างจากสนามบินเมืองห้วยทรายประมาณ 6 กิโลเมตร(กม.) ทำให้กลายเป็นศูนย์กลางของ 5 เขตเศรษฐกิจคือไทย สปป.ลาว พม่า จีน เวียดนาม ในอนาคต
บริษัทได้วางแผนพัฒนาพื้นที่ โดยมุ่งเน้นอนุรักษ์ธรรมชาติ เพื่อให้เป็นแหล่งพักผ่อนสำหรับคนทั่วโลกรวมทั้งคนไทยโดยกลุ่มทุนไทย ซึ่งเราตั้งเป้าหมายว่าจะพัฒนาโดยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้มากที่สุด การก่อสร้างต่างๆ ก็เน้นใช้วัตถุโบราณ เช่น ก่ออิฐใช้เองในโครงการ ฯลฯ โดยตั้งเป้าว่าอาจจะเป็นเมืองมรดกโลกในอนาคตด้วย
ที่ผ่านมาบริษัทได้ทุ่มงบประมาณไปแล้วกว่า 200 ล้านบาท ปรับพื้นที่พัฒนาสาธารณูปโภคทั้งถนน ไฟฟ้า อ่างเก็บน้ำ และเริ่มปลูกพืชผล เช่น ข้าว มะละกอ ลิ้นจี่ มังคุด ทุเรียน องุ่น ฯลฯ แล้ว ต่อไปก็จะจะพัฒนาเป็นโรงแรม 5 ดาวขนาด 120 ห้อง พร้อมมีห้องเอนเตอร์เทนที่ไม่ใหญ่โตมากนัก พัฒนาระบบสาธารณูปโภค การเกษตร รีสอร์ต สปา ให้แล้วเสร็จใน 18 เดือนหลังจากปัจจุบันเริ่มดำเนินการมาได้ราว 4 เดือน จากนั้นจะพัฒนาเป็นสนามกอล์ฟขนาด 18 หลุม ศูนย์การค้าและอื่นๆ ต่อไป
ล่าสุดบริษัทต้องชะลอโครงการออกไปก่อน เพราะเพิ่งได้รับแจ้งจากกรมทางหลวง กระทรวงคมนาคมของไทย เมื่อ 3 พฤศจิกายน2552 ว่า จะมีการตัดถนนผ่านโครงการประมาณ 6.3 กม. รวมทั้งใช้พื้นที่ก่อสร้างด่านพรมแดนอีกกว่า 120 ไร่ด้วย ซึ่งจะทำให้แผนพัฒนาของบริษัทได้รับผลกระทบอย่างเลี่ยงไม่พ้น ยิ่งอนาคตอาจจะมีการก่อสร้างทางรถไฟ และคลังสินค้าต่าง ๆ อีก ย่อมส่งผลต่อการลงทุนของบริษัทแน่นอน
“ที่จริงบริษัทได้สัมปทานเข้าพัฒนาพื้นที่ตั้งแต่ปี 50 โดยมีสัญญาพ่วงท้ายว่า จะไม่ตัดถนนผ่านพื้นที่สัมปทานของโครงการ ขณะที่แบบก่อสร้างสะพาน และถนนของกรมทางหลวง เสร็จปี 51 และเอดีบีเข้าศึกษาพื้นที่สร้างถนน สะพาน ร่วมไทย ลาว จีน ปี 2547 ทำถึงไม่แจ้งบริษัทล่วงหน้า จะได้ร่วมกันหาทางแก้ไข ซึ่งบริษัทก็ไม่ได้กีดกันไม่ให้สร้าง แต่อยากหารือเพื่อหาทางออกร่วมกันมากกว่า”
ประธานบริษัทเอเอซี กรีน ซิตี้ ลาว จำกัด กล่าวอีกว่า ล่าสุดบริษัทได้แจ้งให้รัฐบาล สปป.ลาว รับทราบ รวมทั้งเข้าปรึกษากับอธิบดีกรมทางหลวงของประเทศไทยแล้ว และกำลังอยู่ระหว่างยื่นหนังสือไปยังกระทรวงคมนาคมและสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อให้พิจารณาในเรื่องนี้
เธอย้ำว่า สิ่งที่ต้องการคือ การหาทางออกร่วมกัน ซึ่งหากต้องเพิ่มเติมงบประมาณ ก็พร้อมจะมีส่วนร่วมด้วย หรืออาจจะใช้แนวถนนใหม่ บริษัทก็ได้ออกแบบเพื่อประกอบคำปรึกษาแล้ว โดยแนวถนนใหม่จะมีระยะทางเพียง 6.6 กม.ไกลกว่าเดิมไม่เกิน 500 เมตร รวมทั้งพื้นที่ก็ไม่ได้สูงชันเป็นภูเขาจนทำให้ก่อสร้างได้ยากแต่อย่างใด
“บริษัทในนามของเอกชนไทย จึงขอเรียกร้องให้กรมทางหลวง ชะลอการประกวดราคาเพื่อให้เอกชนเข้าไปก่อสร้างสะพาน-ถนนรวมทั้งด่านพรมแดนเชื่อมกับสะพานข้ามแม่น้ำโขงในวันที่ 7 มกราคมนี้ออกไป เพื่อแก้ปัญหาเรื่องนี้ก่อน”
ดร.สิชา ยืนยันว่า ไม่ทำให้โครงการล่าช้าออกไปมากนัก เพราะไม่ได้แก้แบบแปลนทั้งหมด เพียงแต่ปรับบางส่วนของถนน ส่วนโครงการสะพานก็สามารถก่อสร้างต่อไปได้ ขณะที่อาคารด่านพรมแดนก็สามารถใช้แบบเดิมเพียงแต่เปลี่ยนมุมเท่านั้น ส่วนงบประมาณก็คงไม่กระทบเพราะกรมทางหลวงใช้งบผูกพัน ดังนั้นหากชะลอการประกวดราคาออกไปเพื่อปรึกษาหารือกันช่วงสั้นๆ ก็จะทำให้ไม่กระทบกับโครงการของคนไทยที่มีการลงทุนระหว่างประเทศ และไม่กระทบกับความสัมพันธ์ระหว่างไทย-สปป.ลาว รวมทั้งไม่เสียงบประมาณชดเชยค่าที่ดินที่บริษัทได้สัมปทานในอัตรา 50% อีกด้วย
ด้านนายวิฑูลย์ แนวพานิช ที่ปรึกษาทรงคุณวุฒิผู้ช่วย รมช.กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า หลังได้รับการชี้แจงจากบริษัทเอเอซี กรีน ซิตี้ ลาว จำกัด ที่เข้าไปดำเนินโครงการนาคราชนครในเมืองห้วยทรายแล้ว จะให้ทีมงานรวบรวมข้อมูลทั้งหมด นำส่งกระทรวงพาณิชย์เพื่อจะได้ปรึกษาหารือและพิจารณาดำเนินการก่อนการประกวดราคาสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงเชื่อมเชียงของ-ห้วยทราย ในวันที่ 7 มกราคม2553 ต่อไป
สำหรับโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงเชื่อมเชียงของ-ห้วยทราย กรมทางหลวง กำหนดให้เปิดซองประมูล เพื่อจัดหาเอกชนในการรับเหมาก่อสร้างสะพานในวันที่ 7 มกราคม 2553 หลังจากเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ที่ผ่านมา ที่ประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนครั้งที่ 15 ที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ฝ่ายไทยและจีน ได้ลงนามความตกลงด้านการเงินเพื่อก่อสร้างโครงการสะพาน โดยไทยและจีนจะก่อสร้างฝ่ายละ 50% ไม่รวมเรื่องภาษีมูลค่าเพิ่มหรือแวต มูลค่าโครงการรวมประมาณ 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมทั้งการสร้างถนนเชื่อมสะพานและอาคารด่านพรมแดนทั้งฝั่งไทยและ สปป.ลาว กำหนดการก่อสร้างให้แล้วเสร็จในเวลา 30 เดือน ตั้งแต่ปี 2553-2555
