ASTVผู้จัดการรายวัน - คนร้ายอุกอาจใส่เสื้อแดงขี่จยย.บุกยิงนศ.อุเทนฯ ดับอนาถคามหาวิทยาลัย ขณะเข้าเวรเปลี่ยนดอกไม้องค์พระวิษณุ พยานระบุ เห็นคนร้ายขี่ จยย.ดูลาดเลาอยู่หลายรอบ พ่อแม่เศร้ารับศพลูก เปรย ลูกชายเป็นเด็กดี ธรรมะธรรมโม และยังเพิ่งสึกจากบวชสามเณรเมื่อวันที่ 8 ที่ผ่านมา ด้าน ตร.เชื่อ น่าได้ตัวคนร้ายในเร็วนี้ๆ หลังอายัดผู้ต้องสงสัยประสบเหตุรถ จยย.คว่ำขาหักใกล้กับที่เกิดเหตุ
วานนี้ (10 ธ.ค.) เมื่อเวลา 05.00 น. ร.ต.ท.วันเฉลิม สีอ่อน ร้อยเวร สน.ปทุมวัน รับแจ้งเหตุนักศึกษาอุเทนถวายถูกทำร้ายเสียชีวิตภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ถนนพญาไท แขวงและเขตปทุมวัน กทม. จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นอาคาร 2 บริเวณใต้บันไดหน้าห้องเก็บพัสดุ เจ้าหน้าที่พบศพ นายณัตถพันธุ์ คลองรอด อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะวิศวกรรมและสถาปัตยกรรมศาสตร์ นอนจมกองเลือด ตรวจสอบบริเวณราวนมขวามีบาดแผลคล้ายถูกแทงด้วยของมีคมจำนวน 1 แผล ห่างออกไปประมาณ 50 เมตร บริเวณหน้าศูนย์วิจัยเพื่อความปลอดภัยจากอัคคีภัย พบกองเลือดที่พื้น 2 กอง มีรอยเลือดไหลยาวเป็นทาง ใกล้กันพบมีดปลายแหลมตกที่พื้น 1 เล่ม นอกจากนี้ยังมีขวดเบียร์เปล่าอีก 5 ขวด
นายประเทือง เกตุสุวรรณ อายุ 53 ปี รปภ.ของมหาวิทยาลัย ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุเห็นผู้ตายและเพื่อนรวม 4 คนถือดอกดาวเรืองมาสักการะองค์พ่อพระวิษณุในมหาวิทยาลัย ซึ่งตนได้เข้าไปเตือนว่าให้ระวังตัว ก่อนเดินเข้าห้องน้ำ ระหว่างนั้นได้ยินเสียงเหมือนคนทะเลาะกัน จึงเดินออกมาดูพบนายณัตถพันธุ์เสียชีวิตแล้วจึงรีบโทรแจ้งตำรวจทันที
จากการสอบสวนเพื่อนของผู้ตายให้การว่า ตอนเช้ามืดตนและผู้ตายเข้าเวรเปลี่ยนดอกไม้สักการะองค์พ่อพระวิษณุ ระหว่างที่กำลังจะกราบเห็นรถจักรยานยนต์ขี่ผ่านมานอกรั้วของมหาวิทยาลัย และเห็นคนร้ายเป็นชายใส่เสื้อสีแดงเดินตามมาด้วยอีก 1 คน จากนั้นคนร้ายที่ใส่เสื้อแดงได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่พวกตน จึงพากันหลบหนีไปคนละทิศคนละทาง เมื่อยิงเสร็จคนร้ายได้ขี่รถหนีไป หลังสิ้นเสียงปืนพบนายณัตถพันธุ์ถูกยิงจึงช่วยกันอุ้มร่างเพื่อนมาไว้ที่บริเวณดังกล่าวเพื่อความปลอดภัยแต่เจ้าตัวทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ขณะที่ ร.ต.ท.วันเฉลิม กล่าวว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อคำให้การของเพื่อนผู้ตาย เนื่องจากขัดแย้งกันหลายประเด็น โดยเฉพาะจากบาดแผลที่พบในตัวผู้ตาย ซึ่งบาดแผลมีลักษณะถูกแทง แต่เพื่อนผู้ตายระบุว่าถูกยิง อีกทั้งหลังเกิดเหตุหลังจากที่ลากศพนายนัตกพันธ์ เพื่อนผู้ตายก็พากันไปล้างคราบเลือดออกทันที นอกจากนี้ยังพบมีดที่คาดว่าใช้ก่อเหตุตกอยู่ที่พื้นในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวายอีกด้วย อย่างไรก็ตามจะนำเพื่อนผู้ตายทั้ง 3 คนไปสอบสวนที่โรงพักอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนสาเหตุนั้นเป็นไปได้ทั้งทะเลาะกันเองหรือถูกคู่อริบุกเข้ามาทำร้าย
ต่อมาเวลา 15.00 น.พล.ต.ท.พงศพัศ พงศ์เจริญ ผู้ช่วยผบ.ตร.ได้เดินทางมาที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ พร้อมด้วยนายศิริพงษ์ คลองรอด อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 119/68 หมู่ 6 ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี บิดาของผู้ตาย และนางกมลวรรณ คลองรอด อายุ 48 ปี มารดาผู้ตาย เพื่อรับศพนายณัตถพันธุ์ ท่ามกลางความศกเศร้า โดยมีเพื่อนของผู้ตายประมาณ 10 คน เดินทางมาร่วมรับศพนายณัตถพันธุ์ด้วย นายศิริพงษ์ กล่าวว่า ตนมีลูก 2 คน คนเล็กเป็นผู้หญิง ส่วนผู้ตายเป็นคนโต ผู้ตายเป็นเด็กดี ธรรมมะธรรมโม สวดมนต์ไหว้พระอยู่ตลลอด เวลาว่างก็จะหารายได้มาช่วยครอบครัว โดยได้ไปซื้อแผ่นซีดีมาขายที่ตลาดนัดชลประทาน ขณะนี้ผู้ตายกำลังเก็บเงินเพื่อซื้อ รถ จยย.ไว้ใช้ทำงานส่งพิซซ่า แต่ก็มาเกิดเหตุเสียก่อน เมื่อเช้าที่ผ่านมาญาติของตนได้ดูข่าวทางโทรทัศน์ แล้วโทรศัพท์มาบอกตนว่า มีเด็กอาชีวะถูกยิงเสียชีวิต ซึ่งมีนามสกุลเดียวกับตน ตนจึงรีบเปิดโทรทัศน์ดูแต่ก็ไม่ทัน จากนั้นตนจึงโทรศัพท์มาที่ สน.ปทุมวัน ก็พบว่าเด็กอาชีวะที่ถูกยิงเสียชีวิต คือลูกชายตนเอง
นายศิริพงษ์ กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 27 พ.ย.ที่ผ่านมา ผู้ตายเพิ่งเข้าโครงการบรรพชาสามเณรอุเทนถวาย เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลให้ในหลวง ที่วัดสระเกศ และไปจำพรรษาอยู่ที่แคมป์สน จ.เพชรบูรณ์ โดยเมื่อวันที่ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมา ตนกับภรรยาเพิ่งจะไปเยี่ยมผู้ตายที่แคมป์สนมา จากนั้นผู้ตายได้สึกออกมาเมื่อวันที่ 8 ธ.ค.52 แต่ตนก็ไม่ได้เจอหน้าผู้ตายเลย เนื่องจากผู้ตายต้องข้าไปเรียนวันอังคาร และอยู่ทำกิจกรรมจัดซุ้มรับปริญญาให้กับรุ่นพี่ ครั้งสุดท้ายได้คุยกับผู้ตายเมื่อวานนี้ (9 ธ.ค.) ขณะที่ลูกกำลังทำกิจกรรมอยู่
“หลังจากนั้นตอนเย็นผมก็ไม่ได้โทรศัพท์ติดต่อลูกชายอีกเลย เพราะคิดว่ากลับบ้านแล้ว ก่อนหน้านี้ลูกชายเรียนอยู่ที่ รร.โปลีเทคนิค จ.นนทบุรี ซึ่งผมก็เคยขอร้องไม่ให้เรียนเพราะกลัวว่าจะเกิดอันตราย แต่ลูกก็ให้เหตุผลว่าอยากเรียนสายอาชีพ เพราะจบมามีโอกาสที่จะมีงานทำสูง กระทั่งอาจารย์ที่โรงเรียนเก่าแนะนำให้มาเรียนที่ อุเทนถวาย ในสาขาดังกล่าว เพราะเพิ่งจะเปิดได้ไม่นาน และมีผู้เรียนน้อย และโอกาสที่จบมาแล้วได้งานทำมีสูง ผมจึงให้ลูกชายเรียนอย่างที่อยากเรียนเพราะเขาโตแล้ว ผมก็ดูข่าวทางโทรทัศน์อยู่ตลอด เห็นข่าวนักเรียนตีกัน หรือถูกฆ่าตายก็คิดตลอดว่าเป็นลูกของผมหรือเปล่า ไม่คิดว่าวันนี้คนในข่าวจะเป็นลูกผมจริงๆ หลังจากนี้ผมจะนำศพลูกไปตั้งไว้ที่ศาลา 1 วัดภัคคินีนารถ ย่านบางพลัด เพื่อบำเพ็ญกุศลตามพิธีทางศาสนาต่อไป” นายศิริพงษ์ กล่าว
ด้านพล.ต.ท.พงศพัศ กล่าว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนกำลังสอบปากคำพยานทั้งหมด รวมทั้งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดแล้ว ซึ่งจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุเบื้องต้นพบปลอกกระสุน ขนาด 11 มม.จำนวน 5 ปลอก ส่วนการติดตามคนร้ายคาดว่าน่าจะได้ตัวเร็วๆ นี้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจพอจะได้เบาะแสบ้างแล้ว สำหรับเหตุการณ์นี้อาจารย์ก็มีส่วนสำคัญเพราะทุกคนต่างก็รักสถาบัน อยากให้ทุกหน่วยงานร่วมกันแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ และฝากไปถึงผู้บริหาร อาจารย์ และนักศึกษา เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลเสียหลายอย่าง
พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องที่มีการเสนอให้ปิดสถาบันทั้ง 2 สถาบันนั้น เบื้องต้นตนเคยทำเรื่องเสนอไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และประสานไปยังพล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น.แล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างการประชุมปรึกษากันอยู่เพราะอยากให้เหตุการณ์นี้เป็นกรณีสุดท้าย อย่างไรก็ตามเรื่องนี้จะต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายฝ่าย ซึ่งตนจะพยายามหามาตรการที่ดีที่สุดเพื่อแก้ปัญหา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตวรจสอบที่เกิดเหตุของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปทุมวัน เบื้องต้นพบปลอกกระสุน จำนวน 5 ปลอก ตกอยู่บริเวณหน้าที่เข้าโรงรียน ส่วนการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าห้างมาบุญครองก็พบว่ากล้องสามารถจับภาพชายต้องสงสัยขับ รถ จยย. แต่ยังไม่ชัดเจนวนไปมาบริเวณหน้าโรงเรียนอยู่หลายรอบ ก่อนที่คนร้ายจะขับ รถ จยย.มาจอดที่หน้าโรงเรียนแล้วใช้อาวุธปืนยิงถูกผู้ตาย ก่อนขับรถหลบหนี ซึ่งหลังเกิดเหตุพบว่าได้มีอุบัติเหตุ รถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิก สีดำ หมายเลขทะเบียน ลรค 75 กรุงเทพมหานคร ชนบริเวณหน้าห้างมาบุญครอง ส่วนผู้บาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลจุฬา ได้รับบาดเจ็บขาหัก โดยเจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะเป็นหนึ่งในกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุ เพราะพบเสื้อยืดสีแดงถูกทอดทิ้งไว้ในโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ได้อายัดตัวเป็นผู้ต้องสงสัยไว้สอบปากคำแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อไปว่า จากการสอบปากคำพยานทราบว่าก่อนเกิดเหตุผู้ตายกำลังทำกิจกรรมอยู่ภายในโรงเรียน โดยผู้ตายกำลังนำดอกดาวเรืองสีเหลืองมาไหว้ศาลพระภูมิที่หน้าโรงเรียน โดยเมื่อเวลาประมาณ 02.00 น.วันนี้ (10 ธ.ค.) ผู้ตายได้โทรศัพท์มาบอกเพื่อน ที่อยู่ด้านในโรงเรียนว่าสถานการณ์ไม่ค่อยดี มีวัยรุ่นขี่ จยย.มาวนเวียนบริเวรหน้าโรงเรียน จนกระทั่งถูกคนร้ายดักซุ่มยิงเสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดว่าคนร้ายน่าจะดักซุ่มดุลาดเลาอยู่บริเวณปากซอยจุฬาฯ 12 ติดกับห้างมาบุญครอง
วานนี้ (10 ธ.ค.) เมื่อเวลา 05.00 น. ร.ต.ท.วันเฉลิม สีอ่อน ร้อยเวร สน.ปทุมวัน รับแจ้งเหตุนักศึกษาอุเทนถวายถูกทำร้ายเสียชีวิตภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ถนนพญาไท แขวงและเขตปทุมวัน กทม. จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นอาคาร 2 บริเวณใต้บันไดหน้าห้องเก็บพัสดุ เจ้าหน้าที่พบศพ นายณัตถพันธุ์ คลองรอด อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะวิศวกรรมและสถาปัตยกรรมศาสตร์ นอนจมกองเลือด ตรวจสอบบริเวณราวนมขวามีบาดแผลคล้ายถูกแทงด้วยของมีคมจำนวน 1 แผล ห่างออกไปประมาณ 50 เมตร บริเวณหน้าศูนย์วิจัยเพื่อความปลอดภัยจากอัคคีภัย พบกองเลือดที่พื้น 2 กอง มีรอยเลือดไหลยาวเป็นทาง ใกล้กันพบมีดปลายแหลมตกที่พื้น 1 เล่ม นอกจากนี้ยังมีขวดเบียร์เปล่าอีก 5 ขวด
นายประเทือง เกตุสุวรรณ อายุ 53 ปี รปภ.ของมหาวิทยาลัย ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุเห็นผู้ตายและเพื่อนรวม 4 คนถือดอกดาวเรืองมาสักการะองค์พ่อพระวิษณุในมหาวิทยาลัย ซึ่งตนได้เข้าไปเตือนว่าให้ระวังตัว ก่อนเดินเข้าห้องน้ำ ระหว่างนั้นได้ยินเสียงเหมือนคนทะเลาะกัน จึงเดินออกมาดูพบนายณัตถพันธุ์เสียชีวิตแล้วจึงรีบโทรแจ้งตำรวจทันที
จากการสอบสวนเพื่อนของผู้ตายให้การว่า ตอนเช้ามืดตนและผู้ตายเข้าเวรเปลี่ยนดอกไม้สักการะองค์พ่อพระวิษณุ ระหว่างที่กำลังจะกราบเห็นรถจักรยานยนต์ขี่ผ่านมานอกรั้วของมหาวิทยาลัย และเห็นคนร้ายเป็นชายใส่เสื้อสีแดงเดินตามมาด้วยอีก 1 คน จากนั้นคนร้ายที่ใส่เสื้อแดงได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่พวกตน จึงพากันหลบหนีไปคนละทิศคนละทาง เมื่อยิงเสร็จคนร้ายได้ขี่รถหนีไป หลังสิ้นเสียงปืนพบนายณัตถพันธุ์ถูกยิงจึงช่วยกันอุ้มร่างเพื่อนมาไว้ที่บริเวณดังกล่าวเพื่อความปลอดภัยแต่เจ้าตัวทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ขณะที่ ร.ต.ท.วันเฉลิม กล่าวว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อคำให้การของเพื่อนผู้ตาย เนื่องจากขัดแย้งกันหลายประเด็น โดยเฉพาะจากบาดแผลที่พบในตัวผู้ตาย ซึ่งบาดแผลมีลักษณะถูกแทง แต่เพื่อนผู้ตายระบุว่าถูกยิง อีกทั้งหลังเกิดเหตุหลังจากที่ลากศพนายนัตกพันธ์ เพื่อนผู้ตายก็พากันไปล้างคราบเลือดออกทันที นอกจากนี้ยังพบมีดที่คาดว่าใช้ก่อเหตุตกอยู่ที่พื้นในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวายอีกด้วย อย่างไรก็ตามจะนำเพื่อนผู้ตายทั้ง 3 คนไปสอบสวนที่โรงพักอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนสาเหตุนั้นเป็นไปได้ทั้งทะเลาะกันเองหรือถูกคู่อริบุกเข้ามาทำร้าย
ต่อมาเวลา 15.00 น.พล.ต.ท.พงศพัศ พงศ์เจริญ ผู้ช่วยผบ.ตร.ได้เดินทางมาที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ พร้อมด้วยนายศิริพงษ์ คลองรอด อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 119/68 หมู่ 6 ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี บิดาของผู้ตาย และนางกมลวรรณ คลองรอด อายุ 48 ปี มารดาผู้ตาย เพื่อรับศพนายณัตถพันธุ์ ท่ามกลางความศกเศร้า โดยมีเพื่อนของผู้ตายประมาณ 10 คน เดินทางมาร่วมรับศพนายณัตถพันธุ์ด้วย นายศิริพงษ์ กล่าวว่า ตนมีลูก 2 คน คนเล็กเป็นผู้หญิง ส่วนผู้ตายเป็นคนโต ผู้ตายเป็นเด็กดี ธรรมมะธรรมโม สวดมนต์ไหว้พระอยู่ตลลอด เวลาว่างก็จะหารายได้มาช่วยครอบครัว โดยได้ไปซื้อแผ่นซีดีมาขายที่ตลาดนัดชลประทาน ขณะนี้ผู้ตายกำลังเก็บเงินเพื่อซื้อ รถ จยย.ไว้ใช้ทำงานส่งพิซซ่า แต่ก็มาเกิดเหตุเสียก่อน เมื่อเช้าที่ผ่านมาญาติของตนได้ดูข่าวทางโทรทัศน์ แล้วโทรศัพท์มาบอกตนว่า มีเด็กอาชีวะถูกยิงเสียชีวิต ซึ่งมีนามสกุลเดียวกับตน ตนจึงรีบเปิดโทรทัศน์ดูแต่ก็ไม่ทัน จากนั้นตนจึงโทรศัพท์มาที่ สน.ปทุมวัน ก็พบว่าเด็กอาชีวะที่ถูกยิงเสียชีวิต คือลูกชายตนเอง
นายศิริพงษ์ กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 27 พ.ย.ที่ผ่านมา ผู้ตายเพิ่งเข้าโครงการบรรพชาสามเณรอุเทนถวาย เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลให้ในหลวง ที่วัดสระเกศ และไปจำพรรษาอยู่ที่แคมป์สน จ.เพชรบูรณ์ โดยเมื่อวันที่ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมา ตนกับภรรยาเพิ่งจะไปเยี่ยมผู้ตายที่แคมป์สนมา จากนั้นผู้ตายได้สึกออกมาเมื่อวันที่ 8 ธ.ค.52 แต่ตนก็ไม่ได้เจอหน้าผู้ตายเลย เนื่องจากผู้ตายต้องข้าไปเรียนวันอังคาร และอยู่ทำกิจกรรมจัดซุ้มรับปริญญาให้กับรุ่นพี่ ครั้งสุดท้ายได้คุยกับผู้ตายเมื่อวานนี้ (9 ธ.ค.) ขณะที่ลูกกำลังทำกิจกรรมอยู่
“หลังจากนั้นตอนเย็นผมก็ไม่ได้โทรศัพท์ติดต่อลูกชายอีกเลย เพราะคิดว่ากลับบ้านแล้ว ก่อนหน้านี้ลูกชายเรียนอยู่ที่ รร.โปลีเทคนิค จ.นนทบุรี ซึ่งผมก็เคยขอร้องไม่ให้เรียนเพราะกลัวว่าจะเกิดอันตราย แต่ลูกก็ให้เหตุผลว่าอยากเรียนสายอาชีพ เพราะจบมามีโอกาสที่จะมีงานทำสูง กระทั่งอาจารย์ที่โรงเรียนเก่าแนะนำให้มาเรียนที่ อุเทนถวาย ในสาขาดังกล่าว เพราะเพิ่งจะเปิดได้ไม่นาน และมีผู้เรียนน้อย และโอกาสที่จบมาแล้วได้งานทำมีสูง ผมจึงให้ลูกชายเรียนอย่างที่อยากเรียนเพราะเขาโตแล้ว ผมก็ดูข่าวทางโทรทัศน์อยู่ตลอด เห็นข่าวนักเรียนตีกัน หรือถูกฆ่าตายก็คิดตลอดว่าเป็นลูกของผมหรือเปล่า ไม่คิดว่าวันนี้คนในข่าวจะเป็นลูกผมจริงๆ หลังจากนี้ผมจะนำศพลูกไปตั้งไว้ที่ศาลา 1 วัดภัคคินีนารถ ย่านบางพลัด เพื่อบำเพ็ญกุศลตามพิธีทางศาสนาต่อไป” นายศิริพงษ์ กล่าว
ด้านพล.ต.ท.พงศพัศ กล่าว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนกำลังสอบปากคำพยานทั้งหมด รวมทั้งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดแล้ว ซึ่งจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุเบื้องต้นพบปลอกกระสุน ขนาด 11 มม.จำนวน 5 ปลอก ส่วนการติดตามคนร้ายคาดว่าน่าจะได้ตัวเร็วๆ นี้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจพอจะได้เบาะแสบ้างแล้ว สำหรับเหตุการณ์นี้อาจารย์ก็มีส่วนสำคัญเพราะทุกคนต่างก็รักสถาบัน อยากให้ทุกหน่วยงานร่วมกันแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ และฝากไปถึงผู้บริหาร อาจารย์ และนักศึกษา เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลเสียหลายอย่าง
พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องที่มีการเสนอให้ปิดสถาบันทั้ง 2 สถาบันนั้น เบื้องต้นตนเคยทำเรื่องเสนอไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และประสานไปยังพล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น.แล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างการประชุมปรึกษากันอยู่เพราะอยากให้เหตุการณ์นี้เป็นกรณีสุดท้าย อย่างไรก็ตามเรื่องนี้จะต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายฝ่าย ซึ่งตนจะพยายามหามาตรการที่ดีที่สุดเพื่อแก้ปัญหา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตวรจสอบที่เกิดเหตุของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปทุมวัน เบื้องต้นพบปลอกกระสุน จำนวน 5 ปลอก ตกอยู่บริเวณหน้าที่เข้าโรงรียน ส่วนการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าห้างมาบุญครองก็พบว่ากล้องสามารถจับภาพชายต้องสงสัยขับ รถ จยย. แต่ยังไม่ชัดเจนวนไปมาบริเวณหน้าโรงเรียนอยู่หลายรอบ ก่อนที่คนร้ายจะขับ รถ จยย.มาจอดที่หน้าโรงเรียนแล้วใช้อาวุธปืนยิงถูกผู้ตาย ก่อนขับรถหลบหนี ซึ่งหลังเกิดเหตุพบว่าได้มีอุบัติเหตุ รถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิก สีดำ หมายเลขทะเบียน ลรค 75 กรุงเทพมหานคร ชนบริเวณหน้าห้างมาบุญครอง ส่วนผู้บาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลจุฬา ได้รับบาดเจ็บขาหัก โดยเจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะเป็นหนึ่งในกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุ เพราะพบเสื้อยืดสีแดงถูกทอดทิ้งไว้ในโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ได้อายัดตัวเป็นผู้ต้องสงสัยไว้สอบปากคำแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อไปว่า จากการสอบปากคำพยานทราบว่าก่อนเกิดเหตุผู้ตายกำลังทำกิจกรรมอยู่ภายในโรงเรียน โดยผู้ตายกำลังนำดอกดาวเรืองสีเหลืองมาไหว้ศาลพระภูมิที่หน้าโรงเรียน โดยเมื่อเวลาประมาณ 02.00 น.วันนี้ (10 ธ.ค.) ผู้ตายได้โทรศัพท์มาบอกเพื่อน ที่อยู่ด้านในโรงเรียนว่าสถานการณ์ไม่ค่อยดี มีวัยรุ่นขี่ จยย.มาวนเวียนบริเวรหน้าโรงเรียน จนกระทั่งถูกคนร้ายดักซุ่มยิงเสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดว่าคนร้ายน่าจะดักซุ่มดุลาดเลาอยู่บริเวณปากซอยจุฬาฯ 12 ติดกับห้างมาบุญครอง
