ตำรวจปทุมวันตรวจภาพจากกล้องวงจรปิด พบวัยรุ่นขี่ จยย.วนเวียนหน้าอุเทนถวาย สงสัยเป็นคนร้ายมาดักซุ่มก่อนลงมือยิง นศ. เผยหลังเกิดเหตุได้รับแจ้งรถ จยย.ชนหน้าห้างมาบุญครอง ผู้บาดเจ็บขาหักรักษาตัว รพ.จุฬาฯ เจ้าหน้าที่คาดเป็นกลุ่มคนร้ายจึงอายัดตัวไว้สอบปากคำ เบื้องต้นทราบแล้วว่าเป็นคนร้าย แต่ยังไม่ชัดเป็นคนยิงหรือพาหลบหนี ขณะพ่อแม่และเพื่อนเศร้า แห่รับศพที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ
ความคืบหน้ากรณีที่นายณัตถพันธุ์ คลองรอด นศ.ชั้นปีที่ 1 คณะวิศวกรรมศาสตร์และสถาปัตยกรรมศาสตร์ สาขาเทคโนจิสติกส์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ถูกคนร้ายยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 11 มม.เสียชีวิตภายในสถาบัน เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา
ล่าสุด วันนี้ (10 ธ.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.ท.พงศพัศ พงศ์เจริญ ผู้ช่วยผบ.ตร. ได้เดินทางมาที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ พร้อมด้วยนายศิริพงษ์ คลองรอด อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 119/68 หมู่ 6 ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี บิดาของผู้ตาย และนางกมลวรรณ คลองรอด อายุ 48 ปี มารดาผู้ตาย เพื่อรับศพนายนัตกพันธ์ ท่ามกลางความศกเศร้า โดยมีเพื่อนของผู้ตายประมาณ 10 คนเดินทางมาร่วมรับศพนายณัตถพันธุ์ด้วย
นายศิริพงษ์ กล่าวว่า ตนมีลูก 2 คน คนเล็กเป็นผู้หญิง ส่วนผู้ตายเป็นคนโต ผู้ตายเป็นเด็กดี ธรรมะธัมโม สวดมนต์ไหว้พระอยู่ตลลอด เวลาว่างก็จะหารายได้มาช่วยครอบครัว โดยได้ไปซื้อแผ่นซีดีมาขายที่ตลาดนัดชลประทาน ขณะนี้ผู้ตายกำลังเก็บเงินเพื่อซื้อรถจักรยานยนต์ไว้ใช้ทำงานส่งพิซซ่า แต่ก็มาเกิดเหตุเสียก่อน เมื่อเช้าที่ผ่านมาญาติของตนได้ดูข่าวทางโทรทัศน์ แล้วโทรศัพท์มาบอกตนว่ามีเด็กอาชีวะถูกยิงเสียชีวิต ซึ่งมีนามสกุลเดียวกับตน ตนจึงรีบเปิดโทรทัศน์ดูแต่ก็ไม่ทัน จากนั้นตนจึงโทรศัพท์มาที่ สน.ปทุมวัน ก็พบว่าเด็กอาชีวะที่ถูกยิงเสียชีวิตคือลูกชาย
นายศิริพงษ์กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 27 พ.ย.ที่ผ่านมา ลูกชายเพิ่งเข้าโครงการบรรพชาสามเณรอุเทนถวาย เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลให้ในหลวง ที่วัดสระเกศ และไปจำพรรษาอยู่ที่แคมป์สน จ.เพชรบูรณ์ โดยเมื่อวันที่ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมา ตนกับภรรยาเพิ่งจะไปเยี่ยมที่แคมป์สนมา จากนั้นลูกชายได้สึกออกมาเมื่อวันอังคารที่ 8 ธ.ค.52 ซึ่งตนยังไม่ได้เจอหน้าเลย เนื่องจากลูกชายต้องไปเรียนและอยู่ทำกิจกรรมจัดซุ้มรับปริญญาให้กับรุ่นพี่ โดยได้คุยกันครั้งสุดท้ายเมื่อวานนี้ (9 ธ.ค.) ขณะที่ลูกกำลังทำกิจกรรมอยู่
“หลังจากนั้นตอนเย็นผมก็ไม่ได้โทรศัพท์ติดต่อลูกชายอีกเลย เพราะคิดว่ากลับบ้านแล้ว ก่อนหน้านี้ลูกชายเรียนอยู่ที่ ร.ร.โปลีเทคนิค จ.นนทบุรี ซึ่งผมก็เคยขอร้องไม่ให้เรียนเพราะกลัวว่าจะเกิดอันตราย แต่ลูกก็ให้เหตุผลว่าอยากเรียนสายอาชีพ เพราะจบมามีโอกาสที่จะมีงานทำสูง กระทั่งอาจารย์ที่โรงเรียนเก่าแนะนำให้มาเรียนที่อุเทนถวายในสาขาดังกล่าว เพราะเพิ่งจะเปิดได้ไม่นาน และมีผู้เรียนน้อย และโอกาสที่จบมาแล้วได้งานทำมีสูง ผมจึงให้ลูกชายเรียนอย่างที่อยากเรียนเพราะเขาโตแล้ว ผมก็ดูข่าวทางโทรทัศน์อยู่ตลอด เห็นข่าวนักเรียนตีกัน หรือถูกฆ่าตายก็คิดตลอดว่าเป็นลูกของผมหรือเปล่า ไม่คิดว่าวันนี้คนในข่าวจะเป็นลูกผมจริงๆ หลังจากนี้ผมจะนำศพลูกไปตั้งไว้ที่ศาลา 1 วัดภัคคินีนารถ ย่านบางพลัด เพื่อบำเพ็ญกุศลตามพิธีทางศาสนาต่อไป” นายศิริพงษ์กล่าว
ด้าน พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนกำลังสอบปากคำพยานทั้งหมด รวมทั้งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดแล้ว ซึ่งจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุเบื้องต้นพบปลอกกระสุน ขนาด 11 มม.จำนวน 5 ปลอก ส่วนการติดตามคนร้ายคาดว่าน่าจะได้ตัวเร็วๆ นี้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจพอจะได้เบาะแสบ้างแล้ว สำหรับเหตุการณ์นี้อาจารย์ก็มีส่วนสำคัญเพราะทุกคนต่างก็รักสถาบัน อยากให้ทุกหน่วยงานร่วมกันแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ และฝากไปถึงผู้บริหาร อาจารย์ และนักศึกษา เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลเสียหลายอย่าง
พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องที่มีการเสนอให้ปิดสถาบันทั้ง 2 สถาบันนั้น เบื้องต้นตนเคยทำเรื่องเสนอไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และประสานไปยัง พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น.แล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างการประชุมปรึกษากันอยู่เพราะอยากให้เหตุการณ์นี้เป็นกรณีสุดท้าย อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้จะต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายฝ่าย ซึ่งตนจะพยายามหามาตรการที่ดีที่สุดเพื่อแก้ปัญหา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปทุมวัน เบื้องต้นพบปลอกกระสุนจำนวน 5 ปลอก ตกอยู่บริเวณหน้าสถาบัน ส่วนการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าห้างมาบุญครองก็พบว่ากล้องสามารถจับภาพชายต้องสงสัยขี่รถจักรยานยนต์วนไปมา บริเวณหน้าสถาบันอยู่หลายรอบ แต่ยังไม่ชัดเจน ก่อนที่คนร้ายจะขี่รถจักรยานยนต์มาจอดที่หน้าสถาบันแล้วใช้อาวุธปืนยิงถูกผู้ตายแล้วขับรถหลบหนี ซึ่งหลังเกิดเหตุพบว่าได้มีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิก สีดำ หมายเลขทะเบียน ลรค 75 กรุงเทพมหานคร ชนบริเวณหน้าห้างมาบุญครอง ส่วนผู้บาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลจุฬาฯ ได้รับบาดเจ็บขาหัก โดยเจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะเป็นหนึ่งในกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุ เพราะพบเสื้อยืดสีแดงถูกทอดทิ้งไว้ในโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ได้อายัดตัวเป็นผู้ต้องสงสัยไว้สอบปากคำแล้ว เบื้องต้นทราบว่าเป็นหนึ่งในกลุ่มคนร้าย แต่ยังไม่ชัดเจนว่าเป็นคนยิงผู้ตายเองหรือขี่จักรยานยนต์พาคนยิงหลบหนี
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า จากการสอบปากคำพยานทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายกำลังทำกิจกรรมอยู่ภายในสถาบัน โดยผู้ตายกำลังนำดอกดาวเรืองสีเหลืองมาไหว้ศาลพระภูมิที่อยู่ด้านหน้าโดยเมื่อเวลาประมาณ 02.00 น.วันนี้ (10 ธ.ค.) ผู้ตายได้โทรศัพท์มาบอกเพื่อนที่อยู่ด้านในสถาบันว่าสถานการณ์ไม่ค่อยดี มีวัยรุ่นขี่จักรยานยนต์มาวนเวียนอยู่หน้าสถาบัน จนกระทั่งถูกคนร้ายดักซุ่มยิงเสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดว่าคนร้ายน่าจะดักซุ่มดูลาดเลาอยู่บริเวณปากซอยจุฬาฯ 12 ติดกับห้างมาบุญครอง
แทงดับ! นศ.อุเทนฯ คามหา'ลัย ตร.เรียกเพื่อนเค้นสอบ