ท่องเที่ยวหัวหินผุดงานเคาท์ดาวน์ 2010 ฝันเทียบชั้น เคาท์ดาวน์ไทม์สแคว์ อเมริกา นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวฯเผย ไทย-เทศ แห่เที่ยวหัวหินคึก เพราะอัดกิจกรรมต่อเนื่องตลอดปี โกยรายได้กว่าปีละ 1 หมื่นล้านบาท ปีหน้าเตรียมโกยเพิ่มอีก 10%
นายชัยสงค์ ชูฤทธิ์ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่าได้ร่วมกับสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน-ชะอำ จัดงาน หัวหิน เคาท์ดาวน์ 2010 ภายใต้แนวคิด “หัวมันส์ดิ้น หินมันส์โยก” โดยงานดังกล่าวจัดขึ้นที่ศูนย์การค้าหัวหิน มาร์เก็ต วิลเลจ ระหว่างวันที่ 25 ธ.ค.52- 1 ม.ค.53ซึ่งถือเป็นงานเคาท์ดาวน์ครั้งแรกที่จัดขึ้นที่หัวหิน และจะมีต่อเนื่องไปอีกทุกๆปี ตั้งเป้ามีผู้เข้าชมงานทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ ระหว่างการจัดงานประมาณ 1 แสนคน
ทางด้านนาย มนู ธารพิพิธชัย นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน-ชะอำ กล่าวว่า งานดังกล่าวใช้งบประมาณจัดงานรวม 7 ล้านบาท โดยได้รับการสนับสนุนจากหลายภาคส่วน อาทิ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งภาคเอกชน เมืองหัวหิน และ จ.ประจวบฯ เราคาดหวังว่า จะสร้างให้เมืองหัวหินเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ในฐานะเป็นสถานที่จัดงานเคาท์ดาวน์ที่เป็นแลนด์มาร์คของประเทศไทย เทียบเท่ากับ ไทม์สแควน์ กรุงนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา
ปัจจุบัน จากการที่ ภาครัฐบาลและเอกชนร่วมกับจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวตลอดปี ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ทำให้เมืองหัวหินเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยในปี 2551 มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเที่ยวหัวหิน 2.9 ล้านคน เป็นคนไทย 2.5 ล้านคน เป็นชาวต่างชาตคิ 4 แสนคน สร้างรายได้ให้แก่ธุรกิจท่องเที่ยวในหัวหินรวม 10,736 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2550 ที่ทำได้ กว่า 9 พันล้านบาท ส่วนปีนี้ ตัวเลขอาจไม่เติบโตจากปีก่อน เพราะช่วงโลว์ซีซั่นอัตราเข้าพักลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 30% ส่วนปี 2553 ตั้งเป้ารายได้เติบโตจากปีนี้อีก 10% แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยด้านการเมืองภายในประเทศ
“ชาวต่างชาาติที่นิยมเดิมทางมาพักที่หัวหินในจำนวน 4 แสนคน ส่วนใหญ่เป็นชาวสแกน และ สเปน สัดส่วนรวมมากว่า 30% ส่วนตลาดเอชีย เช่น ญี่ปุ่น ไต้หวัน สิงคโปร์ และเกาหลี เพียง 10% ที่เหลือมาจากตลาดอื่นๆ ซึ่งเราจะเน้นจัดกิจกรรมสร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยวเพื่อให้กลับไปบอกต่อและเชิญชวนเพื่อนฝูงเข้ามาเที่ยวในปีต่อๆไป “
สำหรับเป้าหมายปีหน้า จะเน้นเจาะตลาดเอเชีย ชูเป็นกอล์ฟเดสติเนชั่น ที่มีสนามกอล์ฟ ให้เลือกกว่า 10 สนาม สามารถมาได้บ่อยครั้ง โดยเฉพาะช่วงโลว์ซีซั่น นอกจากกลยุทธ์สปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง แล้ว ยังจะโปรโมทให้หัวหินเป็นแฟมิลี่เดสติเนชั่น ที่สงบและปลอดภัย พร้อมกิจกรรมการท่องเที่ยวที่หลากหลายสร้างความแตกต่าง จากแหล่งท่องเที่ยวในเดสติเนชั่นอื่นๆ
นายชัยสงค์ ชูฤทธิ์ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่าได้ร่วมกับสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน-ชะอำ จัดงาน หัวหิน เคาท์ดาวน์ 2010 ภายใต้แนวคิด “หัวมันส์ดิ้น หินมันส์โยก” โดยงานดังกล่าวจัดขึ้นที่ศูนย์การค้าหัวหิน มาร์เก็ต วิลเลจ ระหว่างวันที่ 25 ธ.ค.52- 1 ม.ค.53ซึ่งถือเป็นงานเคาท์ดาวน์ครั้งแรกที่จัดขึ้นที่หัวหิน และจะมีต่อเนื่องไปอีกทุกๆปี ตั้งเป้ามีผู้เข้าชมงานทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ ระหว่างการจัดงานประมาณ 1 แสนคน
ทางด้านนาย มนู ธารพิพิธชัย นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน-ชะอำ กล่าวว่า งานดังกล่าวใช้งบประมาณจัดงานรวม 7 ล้านบาท โดยได้รับการสนับสนุนจากหลายภาคส่วน อาทิ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งภาคเอกชน เมืองหัวหิน และ จ.ประจวบฯ เราคาดหวังว่า จะสร้างให้เมืองหัวหินเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ในฐานะเป็นสถานที่จัดงานเคาท์ดาวน์ที่เป็นแลนด์มาร์คของประเทศไทย เทียบเท่ากับ ไทม์สแควน์ กรุงนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา
ปัจจุบัน จากการที่ ภาครัฐบาลและเอกชนร่วมกับจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวตลอดปี ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ทำให้เมืองหัวหินเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยในปี 2551 มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเที่ยวหัวหิน 2.9 ล้านคน เป็นคนไทย 2.5 ล้านคน เป็นชาวต่างชาตคิ 4 แสนคน สร้างรายได้ให้แก่ธุรกิจท่องเที่ยวในหัวหินรวม 10,736 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2550 ที่ทำได้ กว่า 9 พันล้านบาท ส่วนปีนี้ ตัวเลขอาจไม่เติบโตจากปีก่อน เพราะช่วงโลว์ซีซั่นอัตราเข้าพักลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 30% ส่วนปี 2553 ตั้งเป้ารายได้เติบโตจากปีนี้อีก 10% แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยด้านการเมืองภายในประเทศ
“ชาวต่างชาาติที่นิยมเดิมทางมาพักที่หัวหินในจำนวน 4 แสนคน ส่วนใหญ่เป็นชาวสแกน และ สเปน สัดส่วนรวมมากว่า 30% ส่วนตลาดเอชีย เช่น ญี่ปุ่น ไต้หวัน สิงคโปร์ และเกาหลี เพียง 10% ที่เหลือมาจากตลาดอื่นๆ ซึ่งเราจะเน้นจัดกิจกรรมสร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยวเพื่อให้กลับไปบอกต่อและเชิญชวนเพื่อนฝูงเข้ามาเที่ยวในปีต่อๆไป “
สำหรับเป้าหมายปีหน้า จะเน้นเจาะตลาดเอเชีย ชูเป็นกอล์ฟเดสติเนชั่น ที่มีสนามกอล์ฟ ให้เลือกกว่า 10 สนาม สามารถมาได้บ่อยครั้ง โดยเฉพาะช่วงโลว์ซีซั่น นอกจากกลยุทธ์สปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง แล้ว ยังจะโปรโมทให้หัวหินเป็นแฟมิลี่เดสติเนชั่น ที่สงบและปลอดภัย พร้อมกิจกรรมการท่องเที่ยวที่หลากหลายสร้างความแตกต่าง จากแหล่งท่องเที่ยวในเดสติเนชั่นอื่นๆ
