xs
xsm
sm
md
lg

พล.อ.อนุพงษ์ กับภารกิจจัดระเบียบ “เสธ.แดง”

เผยแพร่:   โดย: สำราญ รอดเพชร

ท่าน “บิ๊กบัง” พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีต ผบ.ทบ.เคยให้สัมภาษณ์ผมเมื่อ ก.พ. 2551 ว่าตอนที่ท่านทำรัฐประหาร 19 ก.ย. 2549 แม่ทัพนายกองที่ท่านบอกให้ทราบและเข้าร่วมแผนปฏิบัติการเป็นคนแรกคือ พล.ท.อนุพงษ์ เผ่าจินดา แม่ทัพภาคที่ 1 (ยศและตำแหน่งขณะนั้น)

หลังการรัฐประหาร พล.ท.อนุพงษ์ได้ขึ้นเป็น ผช.ผบ.ทบ.ติดยศพล.อ.เช่นเดียวกับพล.ท.สพรั่ง กัลยาณมิตร แม่ทัพฝ่ายเหนือ (ภาคที่3)..

ก่อนที่ต่อมาพล.อ.อนุพงษ์จะได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็น ผบ.ทบ.ซึ่งเล่าลือกันว่าพล.อ.อนุพงษ์ไม่ค่อยปลื้มหรือรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณกับ “พี่บัง” สักเท่าใดนัก เพราะ “พี่บัง” ท่านไม่ได้ตั้งธงหรือสนับสนุนให้พล.อ.อนุพงษ์ “น้องป๊อก” เป็นผบ.ทบ.มาแต่แรก เพราะเป็นที่รู้ๆ กันว่า คนที่ “บิ๊กบัง” พยายามดันสุดตัวคือ พล.อ.มนตรี สังขทรัพย์ ซึ่งตอนนั้นเป็นเสธ.ทบ.

แต่สุดท้าย พล.อ.มนตรีข้ามห้วยไปเป็นรองผบ.สูงสุด พล.อ.สพรั่งต้องกลืนเลือดไปเป็นรองปลัดกลาโหม

คนคำนวณมิสู่ฟ้าลิขิต พล.อ.อนุพงษ์ขึ้นเป็นผบ.ทบ.จนกระทั่งวันนี้ และจะเกษียณ 30 ก.ย.2553

2 ปีเศษบนเก้าอี้ ผบ.ทบ.ได้พิสูจน์แล้วว่า พล.อ.อนุพงษ์เป็นนายทหารประเภทไหน ซึ่งผมต้องพูดอย่างให้ความเป็นธรรมกับท่านว่า จะด้วยเหตุผลกลใดก็ตามแต่เป็นที่ชัดเจนที่สุดว่าท่านเป็นนายทหารที่น่าจะแหยงสุดๆ กับการปฏิวัติรัฐประหาร ทั้งๆ ที่ท่านเพิ่งผ่านความเป็นกำลังสำคัญในการรัฐประหารเมื่อ 19 ก.ย. 2549

แต่นั่นท่านอาจอ้างได้ว่าเพราะเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา ต้องปฏิบัติตามคำสั่ง หรือจริงๆ ท่านอาจจะมีแรงจูงใจอย่างอื่นผมก็ไม่ทราบได้

ถามว่าทำไมท่านน่าจะแหยงกับการปฏิวัติรัฐประหาร ผมก็แต่คาดเดาว่า อาจจะเป็นเพราะแนวคิดแนวทางของท่านที่ไม่เห็นด้วยกับหนทางการปฏิวัติรัฐประหาร กับอีกส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะบทเรียนจาก 19 ก.ย. 2549 ที่แทบจะเป็นการรัฐประหารที่สูญเปล่า และอีกส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะจิตใจส่วนลึกที่อยากเกษียณในตำแหน่งแม่ทัพบกแบบสบายๆ ไม่อยากไปสุ่มเสี่ยงใดๆ อีกแล้ว ซึ่งเป็นวิธีคิดส่วนใหญ่ของนายทหารในยุคสมัยนี้

ปี 2551 ขณะที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเรียกร้องให้รัฐบาลสมัคร สุนทรเวช-สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ลาออก เราจึงได้เห็นแค่พล.อ.อนุพงษ์พร้อมผู้นำเหล่าทัพออกทีวีช่อง 3 เสนอแนะเบาๆ ให้รัฐบาลพิจารณาตนเอง ชี้ทางให้รัฐบาลเลือกหนทางยุบสภา

แต่รัฐบาลสมชายรัฐบาลนอมินีในขณะนั้นก็ไม่ให้ราคา..มิได้นำพา..

ดังนั้นต่อเหตุการณ์ 7 ตุลาเลือด 2551 ผมจึงมิได้แปลกใจที่กองทัพบกภายใต้การนำของพล.อ.อนุพงษ์ก็ปล่อยให้ตำรวจยิงถล่มประชาชนได้ตลอดวัน...!!

กระทั่งหลังวันที่ 2 ธ.ค. 2551 วันที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคพลังประชาชน, ชาติไทยและมัชฌิมาฯ เราๆ ท่านๆ ก็ยิ่งไปถึงบางอ้อว่า จุดยืน-วิธีคิดของพล.อ.อนุพงษ์ก็คือการมุ่งรักษารูปแบบการเมืองตามปกติมากกว่าที่จะแสวงหาทางเลือกหรือทางออกให้กับบ้านเมืองที่ตกอยู่ในสภาวะยิ่งกว่าวิกฤต...

“เปลี่ยนขั้วรัฐบาล” โดยดึง 32 ส.ส. กลุ่มเนวิน ชิดชอบ แหกด่านระบอบทักษิณมาสังกัดพรรคภูมิใจไทย คือหนทางที่พล.อ.อนุพงษ์สนับสนุน โดยมีนายทหารรุ่นพี่อย่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ “บิ๊กป้อม” ร่วมด้วยช่วยกันอย่างใกล้ชิด...

กลุ่มเนวินและนายทหารที่ช่วยกันเปลี่ยนขั้วทางการเมือง ถูกเรียกว่าเป็น“กลุ่มอำนาจใหม่” และเป็นดุลอำนาจที่กำหนดชะตากรรมรัฐบาลอภิสิทธิ์อย่างมิอาจปฏิเสธได้...

ดูเหมือนว่าในรอบปีที่ผ่านมาพล.อ.อนุพงษ์พยายามวางระยะห่างจากการเมืองอยู่พอสมควร ไม่ค่อยปรากฏว่านายทหารท่านนี้จะออกมาแสดงความเห็นทางการเมือง และปัญหาภัยความมั่นคงมากนัก แม้กระทั่งภัยการจาบจ้วงและมุ่งล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์...

แม้กระทั่งกับระบอบทักษิณสังคมก็ไม่เคยได้ยินความคิด ความรู้สึกจริงๆ ของพล.อ.อนุพงษ์ว่าคิดอ่านประการใด

และแม้กระทั่งกรณี “เสธ.แดง” พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ที่ด่าทอกองทัพ-ผบ.ทบ.ในต่างกรรมต่างวาระด้วยการให้สัมภาษณ์และใช้เว็บไซต์ sae-dang.com รวมทั้งแสดงตัวแสดงตนเป็นคนเสื้อแดงเคียงบ่าเคียงไหล่กับนักโทษชายทักษิณอย่างโจ่งแจ้งและทายท้า โดยล่าสุดกล่าวอ้างว่ากองกำลังทหารพรานจะเข้าร่วมชุมนุมในวันที่ 10 ธ.ค.กับนปช.ขอให้ทหารหลักอย่าไปยุ่งเพราะจะเกิดเรื่อง....ฯลฯ....พล.อ.อนุพงษ์ก็ปล่อยให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและยาวนาน เป็นที่เอือมระอาของคนในกองทัพและคนทั่วไปเป็นอย่างยิ่ง จนหลายฝ่ายรวมทั้งผมด้วยคนหนึ่งต้องออกมาเรียกร้องให้กองทัพ

“จัดระเบียบเสธ.แดง”

ซึ่งพล.อ.อนุพงษ์ก็เพิ่งจะแสดงท่าทีขานรับเมื่อ 3-4 วันที่ผ่านมานี่เอง แต่ดูเหมือนว่าเสธ.แดงก็ไม่ได้กลัวเกรงแต่ประการใด มิหนำซ้ำยังกล้าชูธงโต้กระแสทวนถึงขั้นทวงบุญคุณพูดจาขึ้นมึง-กูว่าได้ช่วยปกป้องพล.อ.อนุพงษ์มาโดยตลอด โดยเฉพาะเรื่องรถหุ้มเกราะล้อยางหรือรถถังยูเครนอันอื้อฉาว...

ถึงขณะนี้ผมว่า ใครที่เคยประเมินว่าเสธ.แดงเป็นนายทหารติ๊งต๊องธรรมดาคนหนึ่ง อย่าไปให้ราคาค่างวดอะไรมาก ผมว่าน่าจะเป็นความคิดที่ผิดอย่างมหันต์ พล.อ.อนุพงษ์เองก็น่าจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่คำถามก็คือทำไมถึงปล่อยให้ลามปามลูบหัวของกองทัพเล่นอยู่ได้ตั้งนานสองนาน หรือว่าที่ผ่านๆ มาเสธ.แดงเป็นอาวุธหนึ่งที่สามารถถล่มทำลายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้จึงปิดตาเสียข้างหนึ่ง แต่วันนี้อาวุธดังกล่าวเริ่มหันมาทิ่มแทงตัวเองจึงต้องออกอาวุธปกป้องสวนกลับบ้าง...

ก็เอาเถอะครับ ยังไงๆ ผมก็เชื่อว่าโดยส่วนลึกท่านก็ยังยึดมั่นรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ รักเกียรติศักดิ์ของทหารรักษาพระองค์ ทหารเสือพระราชินีมากกว่าความรักหน้าตา ความสุขสบายส่วนตัวของตัวเอง ซึ่งท่านได้พิสูจน์มาบ้างแล้วในหลายช่วงชีวิตราชการ และยังต้องพิสูจน์ต่อ....

เพียงแต่วันนี้มีไฟต์บังคับ “จัดระเบียบเสธ.แดง” ให้ท่านวอร์มอัพนิดหน่อย ก่อนที่จะพิสูจน์ต่อในงานใหญ่อื่นๆ บนอนาคตที่ยังยาวไกล...!!??

อย่าทำให้พี่น้องคนไทย มิตรรักแฟนเพลงผิดหวังก็แล้วกันครับ....


                                     samr_rod@hotmail.com
กำลังโหลดความคิดเห็น