“สุเทพ” สั่ง ตร.ลงพื้นที่คุยนายจ้างดูแลแรงงานต่างด้าวให้ดี ห้ามมาชุมนุมร่วมเสื้อแดง ขู่ผิด กม.ทั้งนายจ้าง-ลูกจ้าง เตือนแดงอีก ชุมนุมช่วงนี้ไม่เหมาะ เล็งขยายพื้นที่ประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง หลังเสื้อแดงประกาศดาวกระจาย เผยอาจต่อเนื่องเลย 5 ธ.ค. รอสรุปในวงหารือฝ่ายความมั่นคงวันนี้
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (23 พ.ย.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ให้สัมภาษณ์กรณีที่จะมีการขนแรงงานต่างด้าวมาร่วมชุมนุมกับกลุ่มคนเสื้อแดงช่วงปลายเดือนนี้ว่า ตนได้รับรายงานที่น่ากังวลใจเรื่องการชุมนุมที่จะมีการเกณฑ์คนมามากๆ โดยจะมีการนำแรงงานต่างด้าวผสมโรงมาร่วมชุมนุมด้วย จึงให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบให้ชัดเจนอีกครั้งว่าจะมาจากพื้นที่ไหน อย่างไร
“ในทางปฏิบัติ ผมจะสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกพื้นที่เข้าไปเจรจา อธิบายให้ผู้ประกอบการทั้งหลายที่มีคนงานที่เป็นชาวต่างด้าวทำงานอยู่ได้เข้าใจว่า สิทธิในการแสดงความเห็นเรื่องบ้านเมืองนั้นมันเป็นสิทธิเฉพาะคนไทยเท่านั้น คนต่างด้าวไม่มีสิทธิมาพลอยผสมโรงด้วย ก็ต้องเตือนและจะขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการทั้งหลายได้คอยกำกับดูแล อธิบายให้คนต่างด้าวได้เข้าใจว่า ไม่ใช่มีคนมาชักชวนให้เงินให้ทองแล้วจะไปพลอยผสมโรงกับเขาได้ ก็ต้องเตือนกันไว้ก่อน และถ้าฝ่าฝืนก็จะดำเนินการตามกฎหมายของคนต่างด้าว และขอฝากไปถึงผู้จัดการชุมนุมว่ากรุณาควบคุมให้ดี อย่าให้มีคนต่างด้าวมาผสมโรง เพราะเวลามาชุมนุมกันมากๆ เวลามีอะไรกันคนที่ไม่ใช่คนไทยจะพูดจาไม่รู้เรื่อง คนมาเป็นหมื่นๆ ถ้าไปเหยียบเท้ากันแล้วพูดกันไม่รู้เรื่อง และถ้ายิ่งมีฝนตก หรือหิวข้าวก็จะหงุดหงิด ก็จะลำบาก จึงขอว่าอย่าเอามาร่วมกระบวนการ ต้องพยายามควบคุมให้ดีว่าคนที่มาชุมนุมเป็นใครมาจากไหน ซึ่งทั้งหมดก็เพื่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง” นายสุเทพกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการประเมินหรือไม่ว่าจุดประสงค์ที่นำแรงงานต่างด้าวมาร่วมชุมนุมมีวัตถุประสงค์อะไร รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่ทราบ กำลังตรวจสอบอยู่ ซึ่งหน้าที่ของตนก็คือระงับและสกัดกั้นไม่ให้เกิดการกระทำที่ผิดกฎหมาย และคิดว่าวิธีการที่ตนกำลังดำเนินการอยู่นี้น่าจะนุ่มนวลที่สุด โดยเฉพาะการแจ้งให้ผู้ประกอบการที่มีแรงงานต่างด้าวเป็นลูกจ้างอยู่ต้องทำความเข้าใจกับแรงงานให้ดีว่าจะมาไม่ได้
เมื่อถามถึงการประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงในราชอาณาจักร นายสุเทพกล่าวว่า วันนี้ตนจะมีการประชุมเพื่อติดตามวิเคราะห์ว่ารายงานต่างๆ เป็นอย่างไร และวิธีการที่จะป้องกันแก้ไขเหตุการณ์นี้ควรจะทำอย่างไร ใจจริงตนอยากให้การชุมนุมต่างๆ เป็นไปอย่างเรียบร้อย ไม่อยากต้องการที่จะใช้มาตรการอะไรเป็นพิเศษ และการชุมนุมครั้งนี้ผู้จัดการชุมนุมควรจะหลีกเลี่ยงเพราะเป็นช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสมจริงๆ เพราะขณะนี้ก็มีบรรดาทหารรักษาพระองค์มาซ้อมสวนสนามทุกวัน และวันที่ 2 ธ.ค.กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งคนไทยพร้อมใจกันทำถวายพระองค์ท่านก็จะเริ่มแล้ว โดยเฉพาะโครงการปฏิบัติธรรมของทุกศาสนา ซึ่งเขาก็ต้องการบรรยากาศที่สงบ ไม่เป็นปัญหา ดังนั้น ผู้จัดชุมนุมน่าจะทบทวนถ้าสามารถที่จะหลีกเลี่ยงได้ก็น่าจะดี ให้เวลาคนไทยได้มีความสุขกันบ้างในช่วงระยะเวลานี้ของปี เวลาที่จะชุมนุมยังมีอีกเยอะ ตอนไหนก็ได้ หลังปีใหม่ก็ได้ ไม่ควรจะจัดตอนนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า กลุ่มเสื้อแดงบอกว่ามีกำหนดการเลิกชัดเจน คือเช้ามืดวันที่ 2 ธ.ค. และอาจมาต่ออีกครั้งหลังวันที่ 5 ธ.ค. นายสุเทพกล่าวว่า มันล่อแหลม คนที่มาก็อยากมาทำกิจกรรมอื่น ก็คงไปกันยากกับคนที่มาชุมนุม ซึ่งตรงนี้ก็พยายามจะสื่อไปถึงผู้จัดงาน แต่ขณะเดียวกันก็ต้องมีมาตรการในการป้องกันเหตุไว้ด้วย
ผู้สื่อข่าวถามถึงข้อเสนอของโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ที่เสนอให้รัฐบาลประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงครอบคลุมพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ช่วงที่นายกฯ ลงพื้นที่ในวันที่ 29 ธ.ค.นี้ว่า ตนไม่ทราบ โฆษกพรรคไม่ได้เป็นโฆษกตน แต่ท่านก็พูดไปตามหน้าที่ของท่าน ซึ่งในส่วนของตนก็ต้องมีการประชุมด้านความมั่นคงก่อน ความจริงก็มีเหตุผลทั้ง 2 แห่ง อย่างที่เชียงใหม่ตนก็หนักใจเพราะโรงแรมที่เป็นสถานที่ประชุมก็เห็นมีทางเข้าออกได้หลายทางเหลือเกิน และยิ่งนายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล จะทำร้ายนายกฯ ก็ยิ่งทำให้คนสับสนวุ่นวายมาก ตนก็ต้องชั่งใจว่าจะทำอย่างไร
เมื่อถามว่าหมายจับนายเพชรวรรตจะทำให้สถานการณ์ช่วงที่นายกฯ ลงไปดีขึ้นหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ยังไม่รู้ ตนไม่รู้กฎหมายเขาว่าอย่างไร เมื่อถามว่าการพูดออกอากาศอย่างนี้ถือว่าผิดหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ก็ต้องดูหลักฐานว่าเขาบันทึกเทปไว้หรือไม่ หรือมีหลักฐานอื่นหรือไม่
เมื่อถามว่าเป็นเพียงการขู่กันหรือไม่ เพราะนายกฯ ก็ไปเปิดไม่นาน นายสุเทพกล่าวว่า ก็นั่นดิ แต่ที่เชียงใหม่ตนก็เสียดายว่าคนเสื้อแดงเคยไปสร้างความเหตุร้ายเกิดขึ้นแล้วที่เชียงใหม่ ถ้ายังจำกันได้ คนเสื้อแดงเคยไปฆ่าคนตามถนนมาแล้ว เป็นพ่อของเจ้าของสถานีวิทยุท้องถิ่นของอีกฝ่ายหนึ่ง ตรงนี้จึงทำให้กังวลใจ ซึ่งคนเชียงใหม่จริงๆ เป็นคนจิตใจดี รักสงบ แต่พวกกลุ่มการเมือง กวนเมืองไปทำให้ยุ่งยาก วุ่นวายเสียหายกับเชียงใหม่มาก ตอนนี้คนไปเที่ยวเชียงใหม่น้อยลง นักธุรกิจ ผู้ประกอบการทั้งหลายก็ร้องโอดครวญกันเป็นแถว ดังนั้นคนเหล่านี้ถ้าคิดรักบ้านเมือง ต้องไม่สร้างอะไรที่วุ่นวายเสียหายต่อส่วนรวม
เมื่อถามว่าการตัดสินใจว่าจะประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ หรือไม่ ขึ้นอยู่กับอะไร รองนายกฯ กล่าวว่า อยู่ที่การประเมินสถานการณ์ และอยู่ที่เราจะสามารถรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองเอาไว้ด้วยวิธีการอะไร เมื่อถามว่าการที่เสื้อแดงบอกว่าจะป่วนเมืองให้เหมือนกับช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา คิดว่าการประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ จะรับมือไหวหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า เหตุการณ์ที่เสื้อแดงเผาบ้าน เผาเมืองเมื่อเดือนเมษายน ยังติดตา ติดใจประชาชนอยู่ ก็เป็นเรื่องหนึ่งที่เรากังวลและเราต้องหาทางป้องกันไม่ให้เกิดขึ้น ตนคิดว่าดีที่สุดคือการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงไม่ควรเคลื่อนขบวน เพราะแค่ถนนเส้นเดียวก็อัมพาตไปทั้งเมืองแล้วก็ลำบาก คิดว่าไม่เหมาะที่จะทำตอนนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะประกาศครอบคลุมพื้นที่ทั่ว กทม.หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า กำลังคิดอยู่ ต้องพิจารณาร่วมกันเพราะเวลาประกาศก็อยากพื้นที่ให้น้อยที่สุด แต่เมื่อเขาเคลื่อนไหวจะกระจายไปที่อื่นด้วยซึ่งที่ผ่านมาก็มีตัวอย่างมาแล้วที่ไปสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนทั้งราชเทวี และฆ่าคนตายที่นางเลิ้ง ซึ่งถ้าจำเป็นก็อาจจะต้องขยายพื้นที่ให้ครอบคลุม แต่ก็ต้องแล้วแต่ที่ประชุม เมื่อถามว่ากฎหมายปกติใช้ไม่ได้หรือ รองนายกฯ กล่าวว่า กฎหมายปกติเอาไม่อยู่เพราะเราไม่สามารถบูรณาการกำลังมาใช้ได้ และขั้นตอนการรับมือกับผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมายก็มีจำกัด แต่กฎหมายความมั่นคงฯเขาจะให้อำนาจพิเศษเอาไว้ซึ่งสามารถระดมกำลังทั้งตำรวจ ทหารและพลเรือนได้และคุ้มครองผู้ปฏิบัติงานด้วย อย่างเหตุการณ์ 7 ต.ค.51 ที่ผ่านมา ไม่มีกฎหมายคุ้มครองทำให้เจ้าหน้าที่ต้องออกจากราชการไปหลายคน
ผู้สื่อข่าวถามว่า การประกาศจะต้องใช้เวลานานแค่ไหนเพราะกลุ่มเสื้อแดงบอกว่าจะชุมนุมโดยเว้นช่วงวันที่ 2-5 ธ.ค.จากนั้นจะมาชุมนุมใหม่ นายสุเทพกล่าวว่า ตรงนี้แหล่ะเป็นปัญหาที่หนัก ตนก็ต้องไปช่างใจว่าอาการจะเป็นอย่างไร ก็จะดูตามอาการ