ASTVผู้จัดการรายวัน - ทีเอส ไลฟ์สไตล์ จัดงาน ‘Hasbro Fun Fair 2009’ พร้อมเปิดตัว ‘NERF’ เผย “กลยุทธ์ทางการตลาดของเล่น และทิศทางของเล่นภายใต้ความโด่งดังจากภาพยนตร์ฮอลลีวูดระดับโลกในปี 2010” ภายใต้งบประมาณการทำตลาด 5 ล้านบาท
นายวีระพงษ์ กิจเลิศไพโรจน์ ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ บริษัท ทีเอส ไลฟ์สไตล์ จำกัด (Weeraphong Kijlertphairoj - Brand and Marketing Manager) ผู้นำด้านนวัตกรรมของเล่นแบบอินเตอร์แอคทีฟชั้นนำ และครองลิขสิทธิ์ในการจัดจำหน่ายของเล่นเด็กแบรนด์ “แฮสโบร” แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย กล่าวว่า งาน ‘Hasbro Fun Fair 2009’ ถือเป็นงานยักษ์ที่รวมเอาของเล่นรูปแบบต่างๆ มาร่วมแสดง และจำหน่ายแก่ผู้เข้าชมงานสินค้าโดยเฉพาะของเล่นลิขสิทธิ์ภายใต้แบรนด์แฮสโบร ไม่ว่าจะเป็น Transformer, Star War, Mr. Potato Head, My Little Pony, Monopoly, Play Doh และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งนับว่ามีความน่าสนใจ สร้างความสนุกสนาน ท้าทาย และเสริมพัฒนาการเรียนรู้อย่างถูกวิธี โดยเฉพาะของเล่นจากมหากาพย์ภาพยนตร์แอ็คชั่นไซไฟสุดยิ่งใหญ่ “ทรานสฟอร์เมอร์” (Transformers) ที่ประสบความสำเร็จ และได้รับการตอบรับอย่างถล่มทลายจากผู้ชมทั่วโลกโดยเฉพาะตัวเด่นอย่างหุ่นยนต์ตัวสีเหลือง บับเบิ้ล บี (Bubblebee) และเจ้าออพติมัส (Optimus)
ทั้งนี้ในช่วงปลายปี 2009 บริษัท ทีเอส ไลฟ์สไตล์ จำกัด ได้ร่วมสร้างปรากฏการณ์ความตื่นเต้นสำหรับผู้ที่รักการผจญภัยในโลกแห่งสายลับ กับสุดยอดนวัตกรรมของเล่นที่มีชื่อว่า “เนิร์ฟ” (NERF) ภายใต้แนวคิด “ Play Your Game” ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในกลุ่มเยาวชนต่างชาติโดยเฉพาะในอเมริกา, ฮ่องกง และสิงคโปร์ ที่มีช่วงอายุระหว่าง 5 - 12 ปี และกลุ่มผู้รักการผจญภัยแบบสายลับ เปรียบเสมือนจินตนาการในการเล่นเครื่องยิงลูกดอกที่สนุกเพลิดเพลิน มีลักษณะเหมือนเพนท์บอล หรือเกมส์เลเซอร์แทก แต่มีความปลอดภัยสูง ให้อารมณ์ท้าทาย เล่นสนุกได้แม้อยู่ภายในบ้าน หรืออาคาร เล่นได้แบบกลุ่มหรือเล่นเดี่ยว สามารถใส่ลูกดอกได้พร้อมๆ กัน และยิงอย่างต่อเนื่องได้ไกลในระยะ 5 - 8 เมตร คุณสมบัติที่สำคัญ และโดดเด่นของ “เนิร์ฟ” (NERF) คือ ตัวลูกดอกที่ทำมาจากโฟม ซึ่งไม่เป็นอันตราย หรือทำให้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งปืนลูกดอกมี 2 ประเภท คือ Nerf N – Strike ที่ได้รับการพัฒนา และผลิตให้มีความแตกต่างสำหรับการเล่นเป็นทีม ได้รับความนิยมกันอย่างแพร่หลาย โดยมีการออกแบบ และผลิตของเล่นที่ทำให้เหมือนจริงมากขึ้น แสดงถึงเครื่องปล่อยกระสุนขนาดเล็กแบบทันสมัย ส่วน Dart Tag เด็กๆ สามารถเล่นแบบแข่งขันกันเป็นทีมได้อย่างสนุกสนานและเพลิดเพลิน เป็นการฝึกทักษะให้เด็กเกิดการเรียนรู้ การวางแผน และการทำงานกันเป็นทีมมากขึ้น นำไปสู่กระบวนการพัฒนาการเรียนรู้ทั้งสมรรถภาพทางร่างกาย และการพัฒนาจิตใจเด็กให้เตรียมพร้อมที่จะยอมรับความชนะ ความพ่ายแพ้ สร้างความสามัคคี และเป็นการฝึกสมาธิที่ดีอีกด้วย ของเล่น “เนิร์ฟ” (NERF) มีราคาเริ่มต้นเพียง 299 บาท ซึ่งนับว่าคุ้มค่ามากเมื่อเทียบกับคุณประโยชน์มากมายที่เด็กๆ จะได้รับ โดยบริษัทฯ จะมีแผนทำกิจกรรมการตลาดเกี่ยวกับ Nerf Roadshow ไปตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป และตามร้านค้าชั้นนำในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งคาดว่าจะได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี
ในปีนี้ทางบริษัทฯ ใช้งบประมาณในทำการตลาดกว่า 3 ล้านบาท ผ่านโฆษณาตามสื่อต่างๆ อาทิ รายการโทรทัศน์ สื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ และการประชาสัมพันธ์สินค้าเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น เพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิมผ่านการอัพเดตผลิตภัณฑ์ของเล่นที่ทยอยเข้ามาทำตลาด หรือกิจกรรมใหม่ๆ กับลูกค้าประจำอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันก็ยังเน้นในเรื่องของคุณภาพ และคุณประโยชน์ของผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้าจะได้รับเป็นหลัก และในปี 2553 จะยังคงมีสินค้าทยอยเข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยจะเน้นไปที่ Transformer, Ironman II, Story story 3 , Monopoly
ซึ่งคาดว่าตลาดของเล่นเด็กจะยังไม่มีผลกระทบมากนัก เนื่องลูกค้าส่วนใหญ่จะมีฐานะทางเศรษฐกิจปานกลางถึงดีมาก
ด้านช่องทางการจัดจำหน่าย มีการกระจายสินค้าไปตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำ อาทิ สยามพารากอน, เซ็นทรัล, เดอะมอลล์, ดิ เอ็มโพเรียม, โรบินสัน และร้านค้าชั้นนำทั่วไป ซึ่งในสิ้นปีนี้ทางบริษัทตั้งเป้ายอดรายได้รวม 150 ล้าน บาท หรือเพิ่มขึ้น 30 เปอร์เซ็นต์จากปีที่แล้ว
นายวีระพงษ์ กิจเลิศไพโรจน์ ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ บริษัท ทีเอส ไลฟ์สไตล์ จำกัด (Weeraphong Kijlertphairoj - Brand and Marketing Manager) ผู้นำด้านนวัตกรรมของเล่นแบบอินเตอร์แอคทีฟชั้นนำ และครองลิขสิทธิ์ในการจัดจำหน่ายของเล่นเด็กแบรนด์ “แฮสโบร” แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย กล่าวว่า งาน ‘Hasbro Fun Fair 2009’ ถือเป็นงานยักษ์ที่รวมเอาของเล่นรูปแบบต่างๆ มาร่วมแสดง และจำหน่ายแก่ผู้เข้าชมงานสินค้าโดยเฉพาะของเล่นลิขสิทธิ์ภายใต้แบรนด์แฮสโบร ไม่ว่าจะเป็น Transformer, Star War, Mr. Potato Head, My Little Pony, Monopoly, Play Doh และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งนับว่ามีความน่าสนใจ สร้างความสนุกสนาน ท้าทาย และเสริมพัฒนาการเรียนรู้อย่างถูกวิธี โดยเฉพาะของเล่นจากมหากาพย์ภาพยนตร์แอ็คชั่นไซไฟสุดยิ่งใหญ่ “ทรานสฟอร์เมอร์” (Transformers) ที่ประสบความสำเร็จ และได้รับการตอบรับอย่างถล่มทลายจากผู้ชมทั่วโลกโดยเฉพาะตัวเด่นอย่างหุ่นยนต์ตัวสีเหลือง บับเบิ้ล บี (Bubblebee) และเจ้าออพติมัส (Optimus)
ทั้งนี้ในช่วงปลายปี 2009 บริษัท ทีเอส ไลฟ์สไตล์ จำกัด ได้ร่วมสร้างปรากฏการณ์ความตื่นเต้นสำหรับผู้ที่รักการผจญภัยในโลกแห่งสายลับ กับสุดยอดนวัตกรรมของเล่นที่มีชื่อว่า “เนิร์ฟ” (NERF) ภายใต้แนวคิด “ Play Your Game” ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในกลุ่มเยาวชนต่างชาติโดยเฉพาะในอเมริกา, ฮ่องกง และสิงคโปร์ ที่มีช่วงอายุระหว่าง 5 - 12 ปี และกลุ่มผู้รักการผจญภัยแบบสายลับ เปรียบเสมือนจินตนาการในการเล่นเครื่องยิงลูกดอกที่สนุกเพลิดเพลิน มีลักษณะเหมือนเพนท์บอล หรือเกมส์เลเซอร์แทก แต่มีความปลอดภัยสูง ให้อารมณ์ท้าทาย เล่นสนุกได้แม้อยู่ภายในบ้าน หรืออาคาร เล่นได้แบบกลุ่มหรือเล่นเดี่ยว สามารถใส่ลูกดอกได้พร้อมๆ กัน และยิงอย่างต่อเนื่องได้ไกลในระยะ 5 - 8 เมตร คุณสมบัติที่สำคัญ และโดดเด่นของ “เนิร์ฟ” (NERF) คือ ตัวลูกดอกที่ทำมาจากโฟม ซึ่งไม่เป็นอันตราย หรือทำให้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งปืนลูกดอกมี 2 ประเภท คือ Nerf N – Strike ที่ได้รับการพัฒนา และผลิตให้มีความแตกต่างสำหรับการเล่นเป็นทีม ได้รับความนิยมกันอย่างแพร่หลาย โดยมีการออกแบบ และผลิตของเล่นที่ทำให้เหมือนจริงมากขึ้น แสดงถึงเครื่องปล่อยกระสุนขนาดเล็กแบบทันสมัย ส่วน Dart Tag เด็กๆ สามารถเล่นแบบแข่งขันกันเป็นทีมได้อย่างสนุกสนานและเพลิดเพลิน เป็นการฝึกทักษะให้เด็กเกิดการเรียนรู้ การวางแผน และการทำงานกันเป็นทีมมากขึ้น นำไปสู่กระบวนการพัฒนาการเรียนรู้ทั้งสมรรถภาพทางร่างกาย และการพัฒนาจิตใจเด็กให้เตรียมพร้อมที่จะยอมรับความชนะ ความพ่ายแพ้ สร้างความสามัคคี และเป็นการฝึกสมาธิที่ดีอีกด้วย ของเล่น “เนิร์ฟ” (NERF) มีราคาเริ่มต้นเพียง 299 บาท ซึ่งนับว่าคุ้มค่ามากเมื่อเทียบกับคุณประโยชน์มากมายที่เด็กๆ จะได้รับ โดยบริษัทฯ จะมีแผนทำกิจกรรมการตลาดเกี่ยวกับ Nerf Roadshow ไปตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป และตามร้านค้าชั้นนำในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งคาดว่าจะได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี
ในปีนี้ทางบริษัทฯ ใช้งบประมาณในทำการตลาดกว่า 3 ล้านบาท ผ่านโฆษณาตามสื่อต่างๆ อาทิ รายการโทรทัศน์ สื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ และการประชาสัมพันธ์สินค้าเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น เพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิมผ่านการอัพเดตผลิตภัณฑ์ของเล่นที่ทยอยเข้ามาทำตลาด หรือกิจกรรมใหม่ๆ กับลูกค้าประจำอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันก็ยังเน้นในเรื่องของคุณภาพ และคุณประโยชน์ของผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้าจะได้รับเป็นหลัก และในปี 2553 จะยังคงมีสินค้าทยอยเข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยจะเน้นไปที่ Transformer, Ironman II, Story story 3 , Monopoly
ซึ่งคาดว่าตลาดของเล่นเด็กจะยังไม่มีผลกระทบมากนัก เนื่องลูกค้าส่วนใหญ่จะมีฐานะทางเศรษฐกิจปานกลางถึงดีมาก
ด้านช่องทางการจัดจำหน่าย มีการกระจายสินค้าไปตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำ อาทิ สยามพารากอน, เซ็นทรัล, เดอะมอลล์, ดิ เอ็มโพเรียม, โรบินสัน และร้านค้าชั้นนำทั่วไป ซึ่งในสิ้นปีนี้ทางบริษัทตั้งเป้ายอดรายได้รวม 150 ล้าน บาท หรือเพิ่มขึ้น 30 เปอร์เซ็นต์จากปีที่แล้ว
