ก๊กแดงกลัวบ้านเมืองสงบ ประกาศก่อม็อบ 10 ธ.ค. ดึงอดีตผู้พิพากษาคดี "ภูมิธรรม" ฟ้อง "สนธิ" ขึ้นเวทีไฮปาร์ค "มาร์ค" โยนฝ่ายความมั่นคงตัดสินใจ "เทพไท" เหน็บ นช.แม้ว ก่อนพ้นบ่วงกรรมให้พ้นคุกก่อน จวกพอจนตรอกก็เรียกร้องสมานฉันท์ แฉเหตุก๊กแดง-พท.แตกคอเหตุแย้งท่อน้ำเลี้ยงนายใหญ่
นายวีระ มุสิกพงษ์ นายจตุพร พรหมพันธ์ และนายนัฐวุฒิ ใสเกื้อ แกนนำ กลุ่มคนเสื่อแดงร่วมกันแถลงว่า กลุ่มคนเสื้อแดงจะจัดการชุมนุมในวันที่ 10 ธ.ค.ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า เนื่องในวันรัฐธรรมนูญ เพื่อ เพื่อแสดงเจตนารมณ์ ในการเรียกร้องประชาธิปไตย โดยจะมีการเสวนาปัญหาการเมืองและปัญหาการบังคับใช้รัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2550 ซึ่งจะเชิญนักวิชาการ อาทิ นายอุดม มั่งมีดี อดีตผู้พิพากษาหัวคณะศาลฎีกา นายคณิน บุญสุวรรณ อดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ ร่วมเสวนาด้วย
นายวีะกล่าวว่า การชุมนุมครั้งนี้จะเป็นการชุมนุมที่สงบ ปราศจากอาวุธ และจะเริ่มกิจกรรมตั้งแต่เวลา 12.00-24.00 น.พร้อมกันนี้ ยืนยันว่า ไม่เคลื่อนการชุมนุม ไปสถานที่ใด ซึ่งหากรัฐบาลจะประกาศ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เพื่อควบคุมการชุมนุมนั้น เป็นเรื่องที่รัฐบาลจะพิจารณา แต่อย่างไรก็ตาม กลุ่มคนเสื้อแดงจะไม่รับผิดชอบหากมีการสร้างสถานการณ์ในช่วงเวลาดังกล่าว เพราะได้ประกาศไว้ชัดเจนแล้ว
นายณัฐวุฒิเปิดเผยด้วยว่า จะนัดแกนนำคนเสื้อแดงทั่วประเทศมาหารือในวันที่ 9 ธันวาคม เพื่อกำหนดวันชุมนุมใหญ่อีกครั้งด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเป็นที่น่าสังเกตว่า นายอุดม มั่งมีดี ที่จะร่วมเสวนากับคนเสื้อแดง ในวันที่ 10 ธ.ค.นั้น เคยเป็นผู้พิพากษาในคดีที่นายภูมิธรรม เวชชยชัย อดีต รมช.คมนาคมในรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ฟ้องนายสนธิ ลิ้มทองกุล ในข้อหาหมิ่นประมาท ซึ่งศาลได้สั่งจำคุกนายสนธิเป็นเวลา 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา
นายจตุพร กล่าวว่าการที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ การรายงาน ครม.เรื่องการ วางแผนที่จะวางระเบิดในช่วงวันปีใหม่ 2553 นั้น ในการสัมมนาของคนเสื้อแดงเมื่อวันที่ 27-28 พ.ย.ที่จ.อยุธยา ตนได้แจ้งกับที่ประชุมว่า มีนายทหารยศนายพลนายหนึ่ง เล่าให้ฟังว่าในการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ครั้งหนึ่ง มีการประชุมและวางแผนที่จะก่อวินาศกรรมด้วยการวางระเบิดแล้วโยนความผิดให้กับคนเสื้อแดง แต่ที่ผ่านมาแกนนำเสื้อแดงไม่คิดว่าเชื้อชั่วมันยังไม่ยอมตาย จึงไม่ได้สนใจเรื่องนี้ จนเมื่อนายสุเทพ นำเรื่องนี้รายงานต่อที่ประชุม ครม. พวกตนจึงต้องสนใจเรื่องนี้ขึ้นมา
***มาร์คโยนฝ่ายความมั่นคงตัดสิน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าจะประกาศพ.ร.บ.รักษาความมั่นคงหรือไม่อยู่ที่ฝ่ายความมั่นคงจะประเมินมา ส่วนที่ พล.ต.ขัตติยะ ระบุว่าทหารพรานเตรียมร่วมชุมนุมกับกลุ่มคนเสื้อแดงและอาจจะเกิดความรุนแรงนั้น ตนเห็นแต่ข่าวที่ยืนยันว่าจะชุมนุมโดยสงบ
ผู้สื่อข่าวถามว่าดูเหมือนคนเสื้อแดงจะเล่นสงครามประสาทกับรัฐบาล โดยเฉพาะเรื่องการออกพ.ร.บ.ความมั่นคงฯ จะต้องมีการพิจารณาให้รอบคอบหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีอะไร ที่ผ่านมาการตัดสินใจของรัฐบาลเป็นไปตามเป้าหมาย 2 ประการ 1.ไม่ละเมิดสิทธิใคร 2.ทำให้ทุกอย่างเรียบร้อย
เรื่องการชุมนุมเป็นสิทธิ แต่รัฐบาลมีหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อย เราไม่ได้คิดเรื่องเกม เรื่องหน้าตา หรือเรื่องอะไร เราทำหน้าที่ หากเราไม่สามารถ ควบคุมสถานการณ์ และเกิดอะไรขึ้นได้จะเป็นผลเสียกับส่วนรวม แลผมนยืนยันอีกครั้งว่า การประกาศใช้กฎหมายแต่ละครั้งที่ผ่านมา มีทั้งการชุมนุม และไม่ชุมนุม ทำให้เราสามารถ บริหารจัดการสถานการณ์เป็นไปได้ด้วยความเรียบร้อย ผมยังไม่ได้ยินว่า มีใครถูกละเมิดสิทธิที่สืบเนื่องมาจากการประกาศใช้ เพราะการใช้กฎหมายไม่ได้ห้ามชุมนุม เพียงแต่สามารถบริหารจัดการในเชิงเจ้าหน้าที่ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นเท่านั้นเอง
***เหน็บพ้นบ่วงคุกก่อนพ้นบ่วงกรรม
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ทวิตเตอร์อวยพรวันเกิดลูกชายและมีบางส่วนพาดพิงถึงรัฐบาล 4 ประเด็น โดยระบุว่า 1.ตัวเองอยากสร้างความสมานฉันท์ เพื่อให้เกิดความปรองดอง ในชาติและอีกไม่นานคงพ้นบ่วงกรรมต้องเริ่มต้นที่ตัวเองก่อนนั้น ตนเห็นว่าก่อนที่จะพ้นบ่วงกรรม พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องกลับมาใช้กรรมในคุกเสียก่อน เพราะก่อนพ้นบ่วงกรรมต้องพ้นบ่วงคุกให้ได้
2.ที่บอกว่ารัฐบาลบริหารประเทศไม่ได้ ทำให้เศรษฐกิจไม่ดี ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำนั้น ตนก็อยากให้กลับไปดูว่าสินค้าเกษตรตัวไหนบ้าง ที่ราคาไม่ดี ยุคนี้ไม่เห็นมีม็อบของเกษตรกรออกมาเรียกร้องชุมนุมเกี่ยวกับราคาพืชผลด้านเกษตรตกต่ำเลย ราคาผลิตผลอยู่ในเกณฑ์ดีทั้งสิ้น ไม่ว่ายางพารา ข้าวโพด มันสำปะหลัง และราคาข้าวที่รัฐบาลกำลังเปลี่ยนระบบจากการจำนำ มาเป็นการประกันราคาขั้นต่ำ ซึ่งจะเป็นผลดีจากเกษตรในระยะยาว ยุคของพ.ต.ท.ทักษิณเป็นรัฐบาลเคยมีแนวความคิดที่จะแก้ไขปัญหาในเชิงระบบเช่นนี้หรือไม่
3.ที่บอกว่านักการเมืองยังคงยึดการเมืองเป็นอาชีพ จะปกป้องอาชีพตัวเองและกลั่นแกล้งกันไปมานั้น ในฐานะที่ตนเป็นนักการเมืองคนหนึ่งขอเรียนให้ทราบว่าปัญหาการเมืองในขณะนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นจากนักการเมืองอาชีพที่ทำให้บ้านเมืองเสียหาย แต่เป็นฝีมือของนักธุรกิจการเมืองที่เข้ามาเล่นการเมืองแล้วก็เอาวิณญาณของนักธุรกิจ ที่คิดแต่เรื่องต้นทุน กำไรและกลัวขาดทุนมาใช้ในวงการเมืองจึงเกิดการทุจริต เชิงนโยบายและผลประโยชน์ทับซ้อน ที่ผ่านมาประเทศไทยไม่เคยมีความเสียหาย จากการบริหารประเทศของนักการเมืองอาชีพ มีแต่นักธุรกิจการเมืองต่างหาก ที่ทำให้เสียหาย
และ4.กรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณระบุว่า ถ้าเห็นแก่บ้านเมือง ก็มาพูดคุยกันทุกอย่างก็จบ โดยไม่ต้องกลัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะล้างแค้นนั้น ที่ผ่านมาหลายฝ่าย ได้พยายามที่จะพูดคุยมาแล้วเพื่อความสงบของบ้านเมือง แต่คนอย่างพ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อคิดว่าตัวเองได้เปรียบก็ไม่ยอมคุยกับใครแต่พอวันที่ตัวเองเสียเปรียบจนตรอก ดิ้นไปไม่ได้ จึงเรียกร้องให้คนอื่นมาตั้งโต๊ะเจรจา ยืนยันว่าไม่มีใครกลัว พ.ต.ท.ทักษิณ ส่วนการคิดล้างแค้นนั้น ยืนยันว่าคนอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณต่างหากที่มีนิสัยอาฆาตแค้น ผู้อื่น กัดไม่ปล่อย จะเห็นได้จากพฤติกรรมหลายครั้งที่ผ่านมา
***แดง-พท.แตกเหตุชิงท่อน้ำเลี้ยง
นายเทพไท กล่าวถึง ความขัดแย้งระหว่างแกนนำพรรคเพื่อไทยและแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงนั้น ส่วนตัวเข้าใจว่าเป็นเรื่องของการชิงดีชิงเด่น ช่วงชิงการนำ เพื่อต้องการให้นายใหญ่เห็นความสำคัญของกลุ่มตัวเอง คนเหล่านี้ต้องการ เชลียร์นายใหญ่ของตัวเองเพื่อผลประโยชน์ให้ท่อน้ำเลี้ยงไหลลงท่อของตัวเองมากกว่ากลุ่มอื่นๆ ขณะที่ความเป็นจริงการเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทย นปช. และคนเสื้อแดง แยกกันไม่ออก เนื่องจากเป็นขบวนการเดียวกัน ที่ทำเพื่อนายใหญ่ เพียงคนเดียว การเรียกร้องหาประชาธิปไตย หาความเป็นธรรมล้วนเป็นข้ออ้างที่ใช้บังหน้าให้เกิดความชอบธรรมในการเคลื่อนไหวทั้งสิ้น
ที่ผ่านมานายใหญ่สั่งให้เดินก็เดิน สั่งหยุดก็หยุด สั่งถอยก็ถอย ส่วนที่คุยว่า นายใหญ่สั่งไม่ได้ โดยยกเหตุการเคลื่อนไหวครั้งล่าสุด ที่ระบุว่านายใหญ่ไม่ได้สั่ง แค่พูดเปรยๆ มา คนเสื้อแดงก็หยุดและนายใหญ่ก็โทรศัพท์มาขอบคุณภายหลังนั้น ผมเห็นว่าเป็นการแสดงละครตบตาประชาชนของแกนนำคนเสื้อแดงกับนายใหญ่ อย่าคิดว่าประชาชนคนไทยเป็นคนโง่เพราะทุกคนกินข้าว แต่เขามีศักดิศรี ไม่ขายวิณญาณเพื่อแลกกับเศษเงินจากการโกงกินบ้านเมืองเหมือนพวกคุณ
***ถามทำสงครามกับใครถึงต้องพักรบ
นายเทพไท กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยประกาศพักรบชั่วคราวกับรัฐบาลว่า ขอถามว่าการเคลื่อนไหวทางการเมืองครั้งนี้ พรรคเพื่อไทยประกาศสงคราม ทางการเมืองอย่างนั้นหรือ การพักรบนี้พรรคเพื่อไทยจะไปรบกับใคร เพราะรัฐบาลเอง ไม่ได้มองกลุ่มคนเหล่านี้เป็นคู่กรณีสงคราม เพราะคิดว่าเราต่างเป็นคนไทยเช่นเดียวกัน ไม่ได้เป็นศัตรูกัน เพราะศัตรูของรัฐบาลคือ ความยากจนของประชาชน ขณะนี้หากรัฐบาลจะเปิดสงครามก็จะเป็นสงครามกับความยากจนเท่านั้น
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าที่ พรรคเพื่อไทยประกาศพักรบ แต่ยังมีความเคลื่อนไหวที่ตรงข้าม และมีแนวโน้ม นำไปสู่ความรุนแรงนั้นประชาชนจะมองเรื่องเกม การเมืองออก ขอให้พักรบอย่างแท้จริง รัฐบาลไม่ละเลย จะดูแลไม่ให้สถานการณ์ ซ้ำรอยสงกรานต์เลือด เชื่อมั่นจะควบคุมได้ เพราะคนส่วนใหญ่ต้องการเห็นความ สงบสุข และสามัคคี
นายสาทิตย์ ยังกล่าวถึงกรณี พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ออกมาระบุ ทหารพรานจำนวนหนึ่ง พร้อมออกมาร่วมรบกับคนเสื้อแดง ว่า ตนไม่ต้องการให้ประชาชนสับสน ในข้อมูลที่ไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริง ทุกฝ่ายควรเห็นแก่ประโยชน์บ้านเมืองด้วย
***นช.แม้วอวยพรวันเกิดโอ๊ค
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (2 ธ.ค.) พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้เขียนข้อความ ผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว ถึงนายพานทองแท้ ชินวัตร หรือ โอ๊ค บุตรชาย เพื่ออวยพรวันเกิด ว่า ลูกรัก ขอให้ลูกพ้นบ่วงกรรมที่เกิดจากที่พ่อ เข้าการเมืองเสียที ให้ลูกมีความสุขมากๆ ได้พบแต่คนดีๆ มีความรุ่งเรืองในชีวิต
พร้อมระบุว่า วันนี้เป็นอีกวันเกิดของคนในครอบครัวที่ผมไม่มีโอกาส ได้ไปร่วมทำบุญตักบาตรด้วยเหมือนที่เคยปฏิบัติเป็นประจำ อีกไม่นานครอบครัวเราคงจะปกติเสียที
นอกจากนี้ยังระบุว่า ตอนนี้ผมท่องอยู่แถวยุโรปอากาศประมาณ 3 องศา เย็นดีครับไม่เจออากาศเย็นๆ อย่างนี้นานแล้ว ได้ใส่เสื้อโค๊ทหนาๆ หลังจากไม่ได้ใช้เสียนานคิดถึงตอนดูบอลUK
ขณะที่นายพานทองแท้ โพสต์ผ่าน ทวิตเตอร์ส่วนตัวเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 1 ธ.ค.ว่า พรุ่งนี้ตั้งใจจะตื่นเช้า ทำบุญตักบาตรพระ ในโอกาสวันเกิด กับคุณแม่และน้องเอม
***จิ๋วตอก เสธ.แดงเลอะเทะ
พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบกอ้างว่าจะมีทหารพรานค่ายปักธงชัย ซึ่งมีความสนิทกับพล.อ.ชวลิต นำอาวุธมาร่วมชุมนุมกับกลุ่มคนเสื้อแดง โดย พล.อ.ชวลิต ถึงกับอุทานว่า ฮ่วย ก่อนจะตอบว่า นั่นมันนานแล้ว ตนเป็นคนก่อตั้งทหารพรานก็อาจจะจิตใจผูกพัน แต่ทำไมทหารพรานเหล่านี้ต้องออกมาล่ะ สนิทกับผมแล้วทำไมต้องออกมาด้วยล่ะ
ผู้สื่อข่าวจึงบอกว่า พล.ต.ขันติยะ อ้างว่า เป็นเพราะทหารพรานค่ายปักธงชัย ไม่พอใจรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ยุบค่ายนี้ทิ้ง พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า อ๋อ ยุบค่ายทิ้งเหรอ จริงหรือเปล่า พรรคประชาธิปัตย์ยุบค่ายทิ้งเหรอ จะได้นำหน้าเองเลย คงไม่ใช่อย่างนั้น การยุบค่ายทิ้งคงเป็นเพราะความต้องการของกองทัพ ท่านเป็นพรรคการเมืองจะไปยุ่งเรื่องทหารทำไม
***ยุ่งก๊กแดงเจอทหารพราน
พล.ต. ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ระบุว่าเตรียมกองกำลังทหารพรานค่ายปักธงชัย สปก.315 ที่เคยเป็นของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย ร่วมปกป้องกลุ่มคนเสื้อแดงว่า พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี สมาชิกพรรคเพื่อไทย เรียกตนไปพบเพราะขณะนี้ทหารพรานค่ายปักธงชัย ที่ถูกยุบกำลังรวมตัวออกมา 1,000 คน เตรียมอาวุธหนักพร้อมรบ เพราะเห็นว่ารัฐบาลไม่มีความเป็นธรรมมี 2 มาตรฐาน ตอนกลุ่มพันธมิตรฯ ปิดล้อมทำเนียบฯ ปิดสนามบิน ทหารไม่ออกมา แต่เมื่อกลุ่มคนเสื้อแดงปิดล้อมทำเนียบฯ เมื่อเดือน เม.ย. ทหารก็ออกมาปราบปรามใช้อาวุธปืนยิ่ง ซึ่งทหารพรานเหล่านี้ออกมาแฝง เป็นการ์ดคนเสื้อแดง จึงขอเตือนว่าทหารอย่าออกมาช่วงนี้ เพราะจะมีทหารรพราน ที่มีอาวุธพร้อมออกมาสู้ อาจทำให้เกิดสงครามกลางเมืองได้ ที่สำคัญ ทหารพราน เหล่านี้ใช้อาร์พีจีเก่งกว่าทหารหลัก
พล.ต.ขัตติยะ กล่าวว่า ที่ พล.อ. พัลลภ เรียกตนไปพบ เพราะต้องการ ไปเคลียร์ว่า อย่าเพิ่งให้ทหารพรานเข้ามา ปล่อยให้เป็นการต่อสู้กันเองของรัฐบาลและฝ่ายค้าน ทั้งนี้ การที่ทหารพรานนี้ออกมาเป็นเพราะ พล.อ.ชวลิต เป็นคนตั้งค่ายนี้ขึ้นมา เมื่อ พล.อ.ชวลิต ลงเล่นการเมืองเขาจึงอยากจะออกมา และ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ก็มีบุญคุณขึ้นเงินเดือนและเบี้ยเลี้ยงให้
ผมพยายามบอกทหารว่าอย่าออกมา แต่กลับมีคนมาด่าว่าผม และหาเรื่องปลด ถอดยศ ทั้งที่ไม่มีความผิดด้านวินัย ตกลงกองทัพบกอยู่ใต้คำสั่งของนาย สุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ หรือของใคร เพราะแค่เขาบอกให้สั่งสอบก็จะทำการสอบผมทันที หากปลดผมก็เป็นเรื่องส่วนตัว เพราะไม่มีความผิดอะไร จะมาถอดยศผมได้อย่างไร คนที่ถอดยศผมได้มีเพียงพระองค์เดียว ผมมาปกป้องกองทัพ หากปลดผมระวังออกจากกองทัพไม่ได้.
นายวีระ มุสิกพงษ์ นายจตุพร พรหมพันธ์ และนายนัฐวุฒิ ใสเกื้อ แกนนำ กลุ่มคนเสื่อแดงร่วมกันแถลงว่า กลุ่มคนเสื้อแดงจะจัดการชุมนุมในวันที่ 10 ธ.ค.ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า เนื่องในวันรัฐธรรมนูญ เพื่อ เพื่อแสดงเจตนารมณ์ ในการเรียกร้องประชาธิปไตย โดยจะมีการเสวนาปัญหาการเมืองและปัญหาการบังคับใช้รัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2550 ซึ่งจะเชิญนักวิชาการ อาทิ นายอุดม มั่งมีดี อดีตผู้พิพากษาหัวคณะศาลฎีกา นายคณิน บุญสุวรรณ อดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ ร่วมเสวนาด้วย
นายวีะกล่าวว่า การชุมนุมครั้งนี้จะเป็นการชุมนุมที่สงบ ปราศจากอาวุธ และจะเริ่มกิจกรรมตั้งแต่เวลา 12.00-24.00 น.พร้อมกันนี้ ยืนยันว่า ไม่เคลื่อนการชุมนุม ไปสถานที่ใด ซึ่งหากรัฐบาลจะประกาศ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เพื่อควบคุมการชุมนุมนั้น เป็นเรื่องที่รัฐบาลจะพิจารณา แต่อย่างไรก็ตาม กลุ่มคนเสื้อแดงจะไม่รับผิดชอบหากมีการสร้างสถานการณ์ในช่วงเวลาดังกล่าว เพราะได้ประกาศไว้ชัดเจนแล้ว
นายณัฐวุฒิเปิดเผยด้วยว่า จะนัดแกนนำคนเสื้อแดงทั่วประเทศมาหารือในวันที่ 9 ธันวาคม เพื่อกำหนดวันชุมนุมใหญ่อีกครั้งด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเป็นที่น่าสังเกตว่า นายอุดม มั่งมีดี ที่จะร่วมเสวนากับคนเสื้อแดง ในวันที่ 10 ธ.ค.นั้น เคยเป็นผู้พิพากษาในคดีที่นายภูมิธรรม เวชชยชัย อดีต รมช.คมนาคมในรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ฟ้องนายสนธิ ลิ้มทองกุล ในข้อหาหมิ่นประมาท ซึ่งศาลได้สั่งจำคุกนายสนธิเป็นเวลา 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา
นายจตุพร กล่าวว่าการที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ การรายงาน ครม.เรื่องการ วางแผนที่จะวางระเบิดในช่วงวันปีใหม่ 2553 นั้น ในการสัมมนาของคนเสื้อแดงเมื่อวันที่ 27-28 พ.ย.ที่จ.อยุธยา ตนได้แจ้งกับที่ประชุมว่า มีนายทหารยศนายพลนายหนึ่ง เล่าให้ฟังว่าในการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ครั้งหนึ่ง มีการประชุมและวางแผนที่จะก่อวินาศกรรมด้วยการวางระเบิดแล้วโยนความผิดให้กับคนเสื้อแดง แต่ที่ผ่านมาแกนนำเสื้อแดงไม่คิดว่าเชื้อชั่วมันยังไม่ยอมตาย จึงไม่ได้สนใจเรื่องนี้ จนเมื่อนายสุเทพ นำเรื่องนี้รายงานต่อที่ประชุม ครม. พวกตนจึงต้องสนใจเรื่องนี้ขึ้นมา
***มาร์คโยนฝ่ายความมั่นคงตัดสิน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าจะประกาศพ.ร.บ.รักษาความมั่นคงหรือไม่อยู่ที่ฝ่ายความมั่นคงจะประเมินมา ส่วนที่ พล.ต.ขัตติยะ ระบุว่าทหารพรานเตรียมร่วมชุมนุมกับกลุ่มคนเสื้อแดงและอาจจะเกิดความรุนแรงนั้น ตนเห็นแต่ข่าวที่ยืนยันว่าจะชุมนุมโดยสงบ
ผู้สื่อข่าวถามว่าดูเหมือนคนเสื้อแดงจะเล่นสงครามประสาทกับรัฐบาล โดยเฉพาะเรื่องการออกพ.ร.บ.ความมั่นคงฯ จะต้องมีการพิจารณาให้รอบคอบหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีอะไร ที่ผ่านมาการตัดสินใจของรัฐบาลเป็นไปตามเป้าหมาย 2 ประการ 1.ไม่ละเมิดสิทธิใคร 2.ทำให้ทุกอย่างเรียบร้อย
เรื่องการชุมนุมเป็นสิทธิ แต่รัฐบาลมีหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อย เราไม่ได้คิดเรื่องเกม เรื่องหน้าตา หรือเรื่องอะไร เราทำหน้าที่ หากเราไม่สามารถ ควบคุมสถานการณ์ และเกิดอะไรขึ้นได้จะเป็นผลเสียกับส่วนรวม แลผมนยืนยันอีกครั้งว่า การประกาศใช้กฎหมายแต่ละครั้งที่ผ่านมา มีทั้งการชุมนุม และไม่ชุมนุม ทำให้เราสามารถ บริหารจัดการสถานการณ์เป็นไปได้ด้วยความเรียบร้อย ผมยังไม่ได้ยินว่า มีใครถูกละเมิดสิทธิที่สืบเนื่องมาจากการประกาศใช้ เพราะการใช้กฎหมายไม่ได้ห้ามชุมนุม เพียงแต่สามารถบริหารจัดการในเชิงเจ้าหน้าที่ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นเท่านั้นเอง
***เหน็บพ้นบ่วงคุกก่อนพ้นบ่วงกรรม
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ทวิตเตอร์อวยพรวันเกิดลูกชายและมีบางส่วนพาดพิงถึงรัฐบาล 4 ประเด็น โดยระบุว่า 1.ตัวเองอยากสร้างความสมานฉันท์ เพื่อให้เกิดความปรองดอง ในชาติและอีกไม่นานคงพ้นบ่วงกรรมต้องเริ่มต้นที่ตัวเองก่อนนั้น ตนเห็นว่าก่อนที่จะพ้นบ่วงกรรม พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องกลับมาใช้กรรมในคุกเสียก่อน เพราะก่อนพ้นบ่วงกรรมต้องพ้นบ่วงคุกให้ได้
2.ที่บอกว่ารัฐบาลบริหารประเทศไม่ได้ ทำให้เศรษฐกิจไม่ดี ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำนั้น ตนก็อยากให้กลับไปดูว่าสินค้าเกษตรตัวไหนบ้าง ที่ราคาไม่ดี ยุคนี้ไม่เห็นมีม็อบของเกษตรกรออกมาเรียกร้องชุมนุมเกี่ยวกับราคาพืชผลด้านเกษตรตกต่ำเลย ราคาผลิตผลอยู่ในเกณฑ์ดีทั้งสิ้น ไม่ว่ายางพารา ข้าวโพด มันสำปะหลัง และราคาข้าวที่รัฐบาลกำลังเปลี่ยนระบบจากการจำนำ มาเป็นการประกันราคาขั้นต่ำ ซึ่งจะเป็นผลดีจากเกษตรในระยะยาว ยุคของพ.ต.ท.ทักษิณเป็นรัฐบาลเคยมีแนวความคิดที่จะแก้ไขปัญหาในเชิงระบบเช่นนี้หรือไม่
3.ที่บอกว่านักการเมืองยังคงยึดการเมืองเป็นอาชีพ จะปกป้องอาชีพตัวเองและกลั่นแกล้งกันไปมานั้น ในฐานะที่ตนเป็นนักการเมืองคนหนึ่งขอเรียนให้ทราบว่าปัญหาการเมืองในขณะนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นจากนักการเมืองอาชีพที่ทำให้บ้านเมืองเสียหาย แต่เป็นฝีมือของนักธุรกิจการเมืองที่เข้ามาเล่นการเมืองแล้วก็เอาวิณญาณของนักธุรกิจ ที่คิดแต่เรื่องต้นทุน กำไรและกลัวขาดทุนมาใช้ในวงการเมืองจึงเกิดการทุจริต เชิงนโยบายและผลประโยชน์ทับซ้อน ที่ผ่านมาประเทศไทยไม่เคยมีความเสียหาย จากการบริหารประเทศของนักการเมืองอาชีพ มีแต่นักธุรกิจการเมืองต่างหาก ที่ทำให้เสียหาย
และ4.กรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณระบุว่า ถ้าเห็นแก่บ้านเมือง ก็มาพูดคุยกันทุกอย่างก็จบ โดยไม่ต้องกลัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะล้างแค้นนั้น ที่ผ่านมาหลายฝ่าย ได้พยายามที่จะพูดคุยมาแล้วเพื่อความสงบของบ้านเมือง แต่คนอย่างพ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อคิดว่าตัวเองได้เปรียบก็ไม่ยอมคุยกับใครแต่พอวันที่ตัวเองเสียเปรียบจนตรอก ดิ้นไปไม่ได้ จึงเรียกร้องให้คนอื่นมาตั้งโต๊ะเจรจา ยืนยันว่าไม่มีใครกลัว พ.ต.ท.ทักษิณ ส่วนการคิดล้างแค้นนั้น ยืนยันว่าคนอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณต่างหากที่มีนิสัยอาฆาตแค้น ผู้อื่น กัดไม่ปล่อย จะเห็นได้จากพฤติกรรมหลายครั้งที่ผ่านมา
***แดง-พท.แตกเหตุชิงท่อน้ำเลี้ยง
นายเทพไท กล่าวถึง ความขัดแย้งระหว่างแกนนำพรรคเพื่อไทยและแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงนั้น ส่วนตัวเข้าใจว่าเป็นเรื่องของการชิงดีชิงเด่น ช่วงชิงการนำ เพื่อต้องการให้นายใหญ่เห็นความสำคัญของกลุ่มตัวเอง คนเหล่านี้ต้องการ เชลียร์นายใหญ่ของตัวเองเพื่อผลประโยชน์ให้ท่อน้ำเลี้ยงไหลลงท่อของตัวเองมากกว่ากลุ่มอื่นๆ ขณะที่ความเป็นจริงการเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทย นปช. และคนเสื้อแดง แยกกันไม่ออก เนื่องจากเป็นขบวนการเดียวกัน ที่ทำเพื่อนายใหญ่ เพียงคนเดียว การเรียกร้องหาประชาธิปไตย หาความเป็นธรรมล้วนเป็นข้ออ้างที่ใช้บังหน้าให้เกิดความชอบธรรมในการเคลื่อนไหวทั้งสิ้น
ที่ผ่านมานายใหญ่สั่งให้เดินก็เดิน สั่งหยุดก็หยุด สั่งถอยก็ถอย ส่วนที่คุยว่า นายใหญ่สั่งไม่ได้ โดยยกเหตุการเคลื่อนไหวครั้งล่าสุด ที่ระบุว่านายใหญ่ไม่ได้สั่ง แค่พูดเปรยๆ มา คนเสื้อแดงก็หยุดและนายใหญ่ก็โทรศัพท์มาขอบคุณภายหลังนั้น ผมเห็นว่าเป็นการแสดงละครตบตาประชาชนของแกนนำคนเสื้อแดงกับนายใหญ่ อย่าคิดว่าประชาชนคนไทยเป็นคนโง่เพราะทุกคนกินข้าว แต่เขามีศักดิศรี ไม่ขายวิณญาณเพื่อแลกกับเศษเงินจากการโกงกินบ้านเมืองเหมือนพวกคุณ
***ถามทำสงครามกับใครถึงต้องพักรบ
นายเทพไท กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยประกาศพักรบชั่วคราวกับรัฐบาลว่า ขอถามว่าการเคลื่อนไหวทางการเมืองครั้งนี้ พรรคเพื่อไทยประกาศสงคราม ทางการเมืองอย่างนั้นหรือ การพักรบนี้พรรคเพื่อไทยจะไปรบกับใคร เพราะรัฐบาลเอง ไม่ได้มองกลุ่มคนเหล่านี้เป็นคู่กรณีสงคราม เพราะคิดว่าเราต่างเป็นคนไทยเช่นเดียวกัน ไม่ได้เป็นศัตรูกัน เพราะศัตรูของรัฐบาลคือ ความยากจนของประชาชน ขณะนี้หากรัฐบาลจะเปิดสงครามก็จะเป็นสงครามกับความยากจนเท่านั้น
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าที่ พรรคเพื่อไทยประกาศพักรบ แต่ยังมีความเคลื่อนไหวที่ตรงข้าม และมีแนวโน้ม นำไปสู่ความรุนแรงนั้นประชาชนจะมองเรื่องเกม การเมืองออก ขอให้พักรบอย่างแท้จริง รัฐบาลไม่ละเลย จะดูแลไม่ให้สถานการณ์ ซ้ำรอยสงกรานต์เลือด เชื่อมั่นจะควบคุมได้ เพราะคนส่วนใหญ่ต้องการเห็นความ สงบสุข และสามัคคี
นายสาทิตย์ ยังกล่าวถึงกรณี พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ออกมาระบุ ทหารพรานจำนวนหนึ่ง พร้อมออกมาร่วมรบกับคนเสื้อแดง ว่า ตนไม่ต้องการให้ประชาชนสับสน ในข้อมูลที่ไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริง ทุกฝ่ายควรเห็นแก่ประโยชน์บ้านเมืองด้วย
***นช.แม้วอวยพรวันเกิดโอ๊ค
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (2 ธ.ค.) พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้เขียนข้อความ ผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว ถึงนายพานทองแท้ ชินวัตร หรือ โอ๊ค บุตรชาย เพื่ออวยพรวันเกิด ว่า ลูกรัก ขอให้ลูกพ้นบ่วงกรรมที่เกิดจากที่พ่อ เข้าการเมืองเสียที ให้ลูกมีความสุขมากๆ ได้พบแต่คนดีๆ มีความรุ่งเรืองในชีวิต
พร้อมระบุว่า วันนี้เป็นอีกวันเกิดของคนในครอบครัวที่ผมไม่มีโอกาส ได้ไปร่วมทำบุญตักบาตรด้วยเหมือนที่เคยปฏิบัติเป็นประจำ อีกไม่นานครอบครัวเราคงจะปกติเสียที
นอกจากนี้ยังระบุว่า ตอนนี้ผมท่องอยู่แถวยุโรปอากาศประมาณ 3 องศา เย็นดีครับไม่เจออากาศเย็นๆ อย่างนี้นานแล้ว ได้ใส่เสื้อโค๊ทหนาๆ หลังจากไม่ได้ใช้เสียนานคิดถึงตอนดูบอลUK
ขณะที่นายพานทองแท้ โพสต์ผ่าน ทวิตเตอร์ส่วนตัวเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 1 ธ.ค.ว่า พรุ่งนี้ตั้งใจจะตื่นเช้า ทำบุญตักบาตรพระ ในโอกาสวันเกิด กับคุณแม่และน้องเอม
***จิ๋วตอก เสธ.แดงเลอะเทะ
พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบกอ้างว่าจะมีทหารพรานค่ายปักธงชัย ซึ่งมีความสนิทกับพล.อ.ชวลิต นำอาวุธมาร่วมชุมนุมกับกลุ่มคนเสื้อแดง โดย พล.อ.ชวลิต ถึงกับอุทานว่า ฮ่วย ก่อนจะตอบว่า นั่นมันนานแล้ว ตนเป็นคนก่อตั้งทหารพรานก็อาจจะจิตใจผูกพัน แต่ทำไมทหารพรานเหล่านี้ต้องออกมาล่ะ สนิทกับผมแล้วทำไมต้องออกมาด้วยล่ะ
ผู้สื่อข่าวจึงบอกว่า พล.ต.ขันติยะ อ้างว่า เป็นเพราะทหารพรานค่ายปักธงชัย ไม่พอใจรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ยุบค่ายนี้ทิ้ง พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า อ๋อ ยุบค่ายทิ้งเหรอ จริงหรือเปล่า พรรคประชาธิปัตย์ยุบค่ายทิ้งเหรอ จะได้นำหน้าเองเลย คงไม่ใช่อย่างนั้น การยุบค่ายทิ้งคงเป็นเพราะความต้องการของกองทัพ ท่านเป็นพรรคการเมืองจะไปยุ่งเรื่องทหารทำไม
***ยุ่งก๊กแดงเจอทหารพราน
พล.ต. ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ระบุว่าเตรียมกองกำลังทหารพรานค่ายปักธงชัย สปก.315 ที่เคยเป็นของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย ร่วมปกป้องกลุ่มคนเสื้อแดงว่า พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี สมาชิกพรรคเพื่อไทย เรียกตนไปพบเพราะขณะนี้ทหารพรานค่ายปักธงชัย ที่ถูกยุบกำลังรวมตัวออกมา 1,000 คน เตรียมอาวุธหนักพร้อมรบ เพราะเห็นว่ารัฐบาลไม่มีความเป็นธรรมมี 2 มาตรฐาน ตอนกลุ่มพันธมิตรฯ ปิดล้อมทำเนียบฯ ปิดสนามบิน ทหารไม่ออกมา แต่เมื่อกลุ่มคนเสื้อแดงปิดล้อมทำเนียบฯ เมื่อเดือน เม.ย. ทหารก็ออกมาปราบปรามใช้อาวุธปืนยิ่ง ซึ่งทหารพรานเหล่านี้ออกมาแฝง เป็นการ์ดคนเสื้อแดง จึงขอเตือนว่าทหารอย่าออกมาช่วงนี้ เพราะจะมีทหารรพราน ที่มีอาวุธพร้อมออกมาสู้ อาจทำให้เกิดสงครามกลางเมืองได้ ที่สำคัญ ทหารพราน เหล่านี้ใช้อาร์พีจีเก่งกว่าทหารหลัก
พล.ต.ขัตติยะ กล่าวว่า ที่ พล.อ. พัลลภ เรียกตนไปพบ เพราะต้องการ ไปเคลียร์ว่า อย่าเพิ่งให้ทหารพรานเข้ามา ปล่อยให้เป็นการต่อสู้กันเองของรัฐบาลและฝ่ายค้าน ทั้งนี้ การที่ทหารพรานนี้ออกมาเป็นเพราะ พล.อ.ชวลิต เป็นคนตั้งค่ายนี้ขึ้นมา เมื่อ พล.อ.ชวลิต ลงเล่นการเมืองเขาจึงอยากจะออกมา และ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ก็มีบุญคุณขึ้นเงินเดือนและเบี้ยเลี้ยงให้
ผมพยายามบอกทหารว่าอย่าออกมา แต่กลับมีคนมาด่าว่าผม และหาเรื่องปลด ถอดยศ ทั้งที่ไม่มีความผิดด้านวินัย ตกลงกองทัพบกอยู่ใต้คำสั่งของนาย สุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ หรือของใคร เพราะแค่เขาบอกให้สั่งสอบก็จะทำการสอบผมทันที หากปลดผมก็เป็นเรื่องส่วนตัว เพราะไม่มีความผิดอะไร จะมาถอดยศผมได้อย่างไร คนที่ถอดยศผมได้มีเพียงพระองค์เดียว ผมมาปกป้องกองทัพ หากปลดผมระวังออกจากกองทัพไม่ได้.