xs
xsm
sm
md
lg

“เสธ.แดง” คลั่งรุนแรง สติแตกพล่ามฉากรบ นำทหารพรานเป็นการ์ดเสื้อแดง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล
“เสธ.แดง” คลั่งรุนแรง สติแตกพล่ามไม่เลิก นำทหารพรานติดอาวุธพร้อมรบ ร่วมชุมนุมเสื้อแดง ปากดีเตือนกองทัพอย่านำกำลังเผชิญหน้าไม่เช่นนั้นอาจเกิดสงครามกลางเมือง อ้างทหารพรานเหล่านี้ต้องการออกมาสู้เพื่อตอบแทนบุญคุณ “จิ๋ว-นช.แม้ว” ขณะที่ โฆษก กอ.รมน.เหน็บ “เสธ.แดง” นำทหารพรานเพ่นพ่านกลางเมือง สมควรหรือไม่อยู่ที่จิตสำนึก ด้าน “ป๊อก” ปิดปาก ไม่กำชับอะไรพิเศษ

วันนี้ (2 ธ.ค.) พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ระบุว่า เตรียมกองกำลังทหารพรานค่ายปักธงชัย สปก.315 ที่เคยเป็นของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย รวมตัวปกป้องกลุ่มคนเสื้อแดงว่า เมื่อวันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี สมาชิกพรรคเพื่อไทย เรียกตนไปพบ เพราะขณะนี้ทหารพรานค่ายปักธงชัยที่ถูกยุบกำลังรวมตัวออกมาเป็น 1,000 คน และขณะนี้มีการเตรียมอาวุธหนักพร้อมรบ เพราะเห็นว่ารัฐบาลไม่มีความเป็นธรรมเกิดสองมาตรฐาน ซึ่งตอนที่พันธมิตรฯ ออกไปชุมนุมกันที่ทำเนียบรัฐบาล รวมทั้งปิดล้อมท่าอากาศสุวรรณภูมิและดอนเมือง แต่เห็นมีทหารออกไปปราบปราม แต่พอกลุ่มคนเสื้อแดงประกาศจะออกมาล้อมทำเนียบรัฐบาล อย่างเหตุการณ์ช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทางทหารกลับออกมาปราบปรามใช้อาวุธปืนยิงใส่ ทั้งที่ทหารพรานเหล่านี้ต้องการแค่ออกมาแฝงเป็นการ์ดคนเสื้อแดงเท่านั้น โดยเวลามีการชุมนุมคนเสื้อแดง ทหารพรานเหล่านี้ก็จะเข้าไปแฝงตัว ดังนั้นจึงขอเตือนว่า ทหารอย่าออกมาช่วงนี้ เพราะจะถูกทหารพรานที่มีอาวุธพร้อมรบติดมือมาด้วย อาจทำให้เกิดสงครามกลางเมืองได้ ที่สำคัญ ทหารพรานเหล่านี้ใช้อาร์พีจีเก่งกว่าทหารหลัก

พล.ต.ขัตติยะ กล่าวอีกว่า การที่ พล.อ.พัลลภ เรียกตนไปพบ เพราะต้องการไปเคลียร์ว่าอย่าเพิ่งให้ทหารพรานเข้ามา ปล่อยให้เป็นการต่อสู้กันเองของรัฐบาลและฝ่ายค้าน ทั้งนี้ การที่ทหารพรานนี้ออกมาเป็นเพราะ พล.อ.ชวลิต เป็นคนตั้งค่ายนี้ขึ้นมา เมื่อ พล.อ.ชวลิต ลงเล่นการเมืองเขาจึงอยากจะออกมา และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็มีบุญคุณขึ้นเงินเดือนและเบี้ยเลี้ยงให้

“ผมพยายามบอกทหารว่าอย่าออกมา แต่กลับมีคนมาด่าว่าผม และหาเรื่องปลด ถอดยศ ทั้งที่ไม่มีความผิดด้านวินัย ตกลงกองทัพบกอยู่ใต้คำสั่งของนายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ หรือของใคร เพราะแค่เขาบอกให้สั่งสอบก็จะทำการสอบผมทันที หากปลดผมก็เป็นเรื่องส่วนตัว เพราะไม่มีความผิดอะไร จะมาถอดยศผมได้อย่างไร คนที่ถอดยศผมได้มีเพียงพระองค์เดียว ผมมาปกป้องกองทัพ หากปลดผมระวังออกจากกองทัพไม่ได้” พล.ต.ขัตติยะ กล่าว

พล.ต.ขัตติยะ กล่าวว่า กองทัพเวลานี้เกรงทำนิ่งเฉยไม่สนใจปัญหาชายแดน ทั้งที่กองทัพทำให้เสียชายแดนเขาพระวิหาร 4.6 ตารางกิโลเมตร ซึ่งทหารกองกำลังภูมิภาคที่ 4 ของกัมพูชา เขานำทหารกลับไปฉลองชัยชนะที่สามารถยึดดินแดนไทยได้ และทำถนนลาดปูนอย่างดี โดยมีสมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เป็นประธานที่ อ.เสียมราฐ กัมพูชา ซึ่งบริเวณนั้นไทยไม่สามารถเดินทางข้ามเข้าไปได้แล้ว ขณะนี้ขอท้าว่าทหารไปลาดตระเวนถนนนั้นได้หรือไม่ เวลานี้ตนอายแทนกองทัพ ที่ผ่านมา พล.อ.ชวลิต และ พล.อ.พัลลภ ถูกหาว่าขายชาติ แต่เวลานี้กองทัพภายใต้อำมาตยาธิปไตย กำลังทำให้คนไทยสิ้นชาติ ความจริงสมเด็จฯ ฮุนเซน ไม่ต้องการทะเลาะกับคนไทย แต่เขาไม่พอใจนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ไปดูถูกเขาว่าเป็นคนต่ำต้อย

ด้าน พล.ต.ดิฏฐพร ศศะสมิต โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กล่าวถึงกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ระบุว่าศูนย์อำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) วิเคราะห์อาจมีการก่อวินาศกรรมในช่วงเทศกาลปีใหม่ว่า เป็นการพูดกันไว้ก่อน ซึ่งเมื่อวันขึ้นปีใหม่ 2550 ก็เคยเกิดเหตุการณ์ ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นการกระทำของกลุ่มใด รวมถึงหลังปีใหม่กลุ่มคนเสื้อแดงก็จะชุมนุมอีกครั้ง ดังนั้น รองนายกฯอาจจะพูดในลักษณะป้องปรามไว้ก่อน ซึ่งเป็นการยกตัวอย่างไม่ให้เจ้าหน้าที่ประมาท ทั้งนี้ ในทุกเทศกาลตำรวจตรวจเข้มข้นกว่าปกติ เพราะประชาชนจำนวนมากออกเที่ยวสถานที่ต่างๆ ก็ต้องระวัง

เมื่อถามว่า สถานการณ์ช่วงปีใหม่น่าเป็นห่วงหรือไม่ พล.ต.ดิฏฐพร กล่าวว่า ใช่ เพราะเราไม่รู้ใครเป็นใคร ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ต้องระมัดระวังมากขึ้น แต่หน่วยงานด้านการข่าวยังไม่พบว่าจะมีเหตุอะไรรุนแรง เมื่อถามว่า เกรงว่ามือที่สามจะก่อเหตุวุ่นวายหรือไม่ พล.ต.ดิฏฐพร กล่าวว่า เหมือนกับสองคนทะเลาะกันอยู่ แล้วมีอีกคนมาจากไหนไม่รู้ เข้ามาเขกหัวคนที่ทะเลาะกันแล้วหนีไป ทำให้สองคนยิ่งระแวงทะเลาะกันหนักขึ้น เราเป็นห่วงคนที่มาเขกหัวแล้วหนีไปมากกว่า เพราะไม่สามารถจับมือใครดมได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องเข้มงวด ตั้งจุดตรวจ ทำงานหนักขึ้นกว่าปกติ ทั้งนี้ หลังยกเลิก พ.ร.บ.ความมั่นคง เจ้าหน้าที่ก็ติดตามและเฝ้าระวังข่าวสารอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง ทั้งนี้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ไม่ได้กำชับอะไรพิเศษ

เมื่อถามถึงกรณีที่ พล.ต.ขัตติยะ ระบุว่ามีกำลังทหารพรานกว่า 1,000 คน เป็นแนวร่วมกับกลุ่มคนเสื้อแดง พล.ต.ดิฏฐพร กล่าวว่า คงไม่มีอะไรเป็นการเปิดแนวร่วมฝ่ายเขา แต่กองกำลังทหารพรานปัจจุบันอยู่ในระเบียบวินัย มีผู้บังคับบัญชาทำความเข้าใจตลอดเวลาถึงผลตอบแทนที่ได้รับทุกคนเหมือนกัน ผู้บังคับบัญชาทำความเข้าใจอยู่แล้ว อย่าตกเป็นเครื่องมือของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด หรือกลุ่มคนปลุกกระแสสร้างความเข้าใจผิด จนเกิดความแตกแยกในกองทัพ ทั้งนี้ สิ่งที่ พล.ต.ขัตติยะ ทำเป็นเรื่องของจิตสำนึกแต่ละคน เราเข้าใจกันอยู่ว่าอะไรเป็นอะไร
กำลังโหลดความคิดเห็น